ขออนุญาตทุกท่านนะครับ สืบเนื่องจากกระทู้ของผม
[พระสูตร] เดรัจฉานวิชา คืออะไรบ้าง? ที่ตั้งขึ้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 13:08 น. เพื่อต้องการเผยแพร่พระสูตรเรื่อง เดรัจฉานวิชา
จากนั้น คุณ 1111318 ได้เข้ามาโพสเกี่ยวกับการขายสินค้าพุทธวจนภายในวัดนาป่าพง เมื่อ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 13:28 น.
และคุณ ทสกสิณ ก็เข้ามาโพสใน
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 19:40 น. ว่าพระคึกฤทธิ์ ใช้รถหรู ทะเบียนตรงกันคือ 3639 และกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "
รถยนต์ที่ใช้....เลข 3639 ทุกคัน เดรัจฉานวิชา ป่าว..น้อ..."
ซึ่งครั้งนั้น ผมพยายามสอบถามคุณ ทสกสิณ หลายข้อ แต่คุณทสกสิณกล่าวไว้ใน
ความคิดเห็นที่ 16-6 ว่า "
การที่ ระบุว่าต้องเลขทะเบียน นี้ รถทั้งหมด 4 คัน คงไม่ใช่ความบังเอิญเป็นแน่ ใช้ความสามารถเอาเองเถอะครับ หากใช้ความสามารถแล้ว ยังหาไม่พบก็ไม่เป็นไรครับ !!"
จากนั้น ผมจึงพยายามสอบถามกลับไปหา คุณทสกสิณ ใน
ความคิดเห็นที่ 20 ว่า
ขอบคุณครับ คุณทสกสิณ... ในกรณีนี้ ประเด็นในข้อมูลของคุณมี 4 อย่างคือ
1) พระคึกฤทธิ์ ได้ผลประโยชน์จากการขายหนังสือธรรมะภายในวัด
2) และจากนั้นนำเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อรถหรู อย่างน้อย 2 คัน (ตามภาพ คือ Benz และ BMW)
3) โดยสรุปแล้ว คุณตั้งข้อสงสัยทิ้งท้ายไว้ว่า รถทุกคันมีทะเบียนเลขเดียวกันคือ 3639
4) ซึ่งทิ้งคำถามไว้ว่า "เดรัจฉานวิชา ป่าวน้อ"
จากข้อมูลข้างต้น ในทางกฎหมายแล้ว เปรียบได้ว่า เป็นการกล่าวโทษโดยตรง ดังนั้น ถ้าประมวลด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง และอาญา จึงต้องสืบสาวหาหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ดังนี้
ก) หลักฐานข้อมูลทางการเงิน จากการขายหนังสือธรรมะดังกล่าว และเส้นทางการเงินนั้น ได้ไหลผ่านไปทางใดบ้าง
ข) พระคึกฤทธิ์ ได้รับเงิน หรือผลประโยชน์ในการขายหนังสือธรรมะ นั้นหรือไม่ มีหลักฐานอ้างอิงไหม?
ค) รถยนต์แต่ละคันนั้น ใครเป็นชื่อผู้ซื้อ และใครเป็นเจ้าของ ตามเอกสารของทางการ (คล้ายกับกรณีของสมเด็จช่วง)
ง) การที่เลขทะเบียนตรงกันนั้น จะตีความว่าเป็นเดรัจฉานวิชาหรือไม่?
ผมแนะนำว่า ถ้าท่านมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคล และแน่ใจว่า เรื่องนี้ จะสามารถเอาผิดพระคึกฤทธิ์ ได้โดยตรง ผมสนับสนุนให้ท่าน แจ้งความกล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือร้องเรียนไปที่กรมการศาสนา หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องได้เลยนะครับ ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ยึดติดกับบุคคลใดๆ
และยืนยันอีกครั้งว่า กระทู้นี้ ต้องการจับประเด็นเพียงแค่ "เดรัจฉานวิชา" ซึ่งหากมีการกล่าวโทษ โดยไร้หลักฐาน และพาเบี่ยงประเด็นออกไป โดยการใช้คำพูดเชิง "Hate Speech" เช่นนี้ ผมคิดว่า คงไม่ยังประโยชน์ให้เกิดกับมหาชนทั้งหลายแน่ๆครับ
ย้อนกลับมาที่ประเด็นเรื่องของ "เดรัจฉานวิชา" จากการตรวจสอบในตัวพระสูตรเอง (มหาศีล) ผมพยายามตรวจสอบดูทั้งหมด และแจกแจงออกมาเป็นรายข้อ ได้ถึง 155 ข้อ ก็ไม่เห็นข้อใดที่เข้าข่ายกับการกระทำดังที่ คุณทสกสิณกล่าวโทษพระคึกฤทธิ์ ตามข้อมูลข้างต้นเลยนะครับ
ลองดูรายละเอียดของเดรัจฉานวิชา รายข้อทั้งหมด 155 ข้อ ใน คห.18
และผมก็พยายามถามซ้ำอีกครั้ง ใน
ความคิดเห็นที่ 26 ว่า
1) คุณทสกสิณ ทราบได้อย่างไรว่า รถยนต์ทั้ง 4 คันดังภาพนี้ เป็นของพระคึกฤทธิ์
2) และพระคึกฤทธิ์เป็นเจ้าของรถจริงหรือไม่
3) และพระคึกฤทธิ์ระบุกับใครว่าจะต้องเป็นเลขทะเบียน 3639 นี้
4) การที่คุณทสกสิณ พาดโยงมาว่า สิ่งเหล่านี้คือ "เดรัจฉานวิชา" ตามที่ผมได้ตั้งประเด็นในกระทู้นั้น คุณอ้างอิงจากข้อใดในพระสูตรข้างต้นครับ? หรือมีพระสูตรอื่นๆ ที่สามารถอ้างอิงได้ ขอความกรุณาจริงๆครับ ผมเองก็อยากทราบในประเด็นนี้เช่นกัน แต่ขอเป็นหลักฐานที่ยืนยันอ้างอิงได้นะครับ ถ้าเอาตามความรู้สึก หรือจารีตประเพณี ผมคิดว่าไม่เหมาะสมครับ เนื่องจาก หากมีคดีความในศาล ผู้พิพากษาท่านก็ต้องให้แต่ละฝ่ายยื่นเอกสารหลักฐานยืนยันความคิดเห็นของตนเอง ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองก็จะระส่ำระสาย เนื่องจากการใช้ความคิดเห็น และความรู้สึกมาตัดสินบุคคลใดๆ ก็ตาม ให้เป็นไปตามสิ่งที่ตนเองคิด
หมายเหตุ:
การหยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาถกกันอีกครั้ง เนื่องจากพบว่า คุณกฤษณ์ ปานพุ่ม (อดีตพระสุระ) ได้เคยกล่าวถึงกรณีนี้ด้วยเล็กน้อย
จึงทำให้นึกถึงคุณทสกสิณขึ้นมาได้ว่าเคยถกกันในประเด็นนี้ แต่ยังรอคำตอบอยู่
อนึ่ง กระทู้นี้ผมต้องการอภิปรายกันในเนื้อหาสาระจริงๆนะครับ ว่า
การใช้เลขทะเบียนรถเลขนั้น ถือเป็นเดรัจฉานวิชาอย่างไร
เพราะหากพิจารณาจาก "พรหมชาลสูตร ในส่วนของมหาศีล"
จาก พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค (๙/๘-๑๐/๑๙-๒๕)"
จะไม่พบว่า มีส่วนใดใกล้เคียงกับบริบทของข้อกล่าวหานี้
จึงใคร่ขอความกรุณาคุณทสกสิณอีกรอบนะครับ ในการช่วยไขข้อสงสัย และทำความกระจ่าง
ในข้อกล่าวหาของคุณทสกสิณต่อกรณีนี้อีกครั้งครับ
ผมมิได้มีเจตนาจะสร้างความขัดเคืองใดๆนะครับ เพียงแต่กำลังสงสัยว่า การตีความว่าใช้เลขทะเบียนตรงกัน เป็นเดรัจฉานวิชาอย่างไร
โดยอ้างอิงจากหลักฐานใด ซึ่งไม่พบในพระสูตรของพระพุทธองค์
หรืออาจจะตีความโดยอาศัยจารีต บรรทัดฐานทางสังคม และความคิดเห็นส่วนตัว
จึงต้องการรับฟังคำอธิบายเพิ่มเติมจากคุณทสกสิณอีกครั้ง ดังนี้ครับ
[กรณีพระคึกฤทธิ์] ข้อกล่าวหารถยนต์หรู เป็นเดรัจฉานวิชาอย่างไร?
จากนั้น คุณ 1111318 ได้เข้ามาโพสเกี่ยวกับการขายสินค้าพุทธวจนภายในวัดนาป่าพง เมื่อ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 13:28 น.
และคุณ ทสกสิณ ก็เข้ามาโพสใน ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 9 สิงหาคม 2559 เวลา 19:40 น. ว่าพระคึกฤทธิ์ ใช้รถหรู ทะเบียนตรงกันคือ 3639 และกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "รถยนต์ที่ใช้....เลข 3639 ทุกคัน เดรัจฉานวิชา ป่าว..น้อ..."
ซึ่งครั้งนั้น ผมพยายามสอบถามคุณ ทสกสิณ หลายข้อ แต่คุณทสกสิณกล่าวไว้ใน ความคิดเห็นที่ 16-6 ว่า "การที่ ระบุว่าต้องเลขทะเบียน นี้ รถทั้งหมด 4 คัน คงไม่ใช่ความบังเอิญเป็นแน่ ใช้ความสามารถเอาเองเถอะครับ หากใช้ความสามารถแล้ว ยังหาไม่พบก็ไม่เป็นไรครับ !!"
จากนั้น ผมจึงพยายามสอบถามกลับไปหา คุณทสกสิณ ใน ความคิดเห็นที่ 20 ว่า
ขอบคุณครับ คุณทสกสิณ... ในกรณีนี้ ประเด็นในข้อมูลของคุณมี 4 อย่างคือ
1) พระคึกฤทธิ์ ได้ผลประโยชน์จากการขายหนังสือธรรมะภายในวัด
2) และจากนั้นนำเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อรถหรู อย่างน้อย 2 คัน (ตามภาพ คือ Benz และ BMW)
3) โดยสรุปแล้ว คุณตั้งข้อสงสัยทิ้งท้ายไว้ว่า รถทุกคันมีทะเบียนเลขเดียวกันคือ 3639
4) ซึ่งทิ้งคำถามไว้ว่า "เดรัจฉานวิชา ป่าวน้อ"
จากข้อมูลข้างต้น ในทางกฎหมายแล้ว เปรียบได้ว่า เป็นการกล่าวโทษโดยตรง ดังนั้น ถ้าประมวลด้วยวิธีพิจารณาความแพ่ง และอาญา จึงต้องสืบสาวหาหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ ดังนี้
ก) หลักฐานข้อมูลทางการเงิน จากการขายหนังสือธรรมะดังกล่าว และเส้นทางการเงินนั้น ได้ไหลผ่านไปทางใดบ้าง
ข) พระคึกฤทธิ์ ได้รับเงิน หรือผลประโยชน์ในการขายหนังสือธรรมะ นั้นหรือไม่ มีหลักฐานอ้างอิงไหม?
ค) รถยนต์แต่ละคันนั้น ใครเป็นชื่อผู้ซื้อ และใครเป็นเจ้าของ ตามเอกสารของทางการ (คล้ายกับกรณีของสมเด็จช่วง)
ง) การที่เลขทะเบียนตรงกันนั้น จะตีความว่าเป็นเดรัจฉานวิชาหรือไม่?
ผมแนะนำว่า ถ้าท่านมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคล และแน่ใจว่า เรื่องนี้ จะสามารถเอาผิดพระคึกฤทธิ์ ได้โดยตรง ผมสนับสนุนให้ท่าน แจ้งความกล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือร้องเรียนไปที่กรมการศาสนา หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องได้เลยนะครับ ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้ยึดติดกับบุคคลใดๆ
และยืนยันอีกครั้งว่า กระทู้นี้ ต้องการจับประเด็นเพียงแค่ "เดรัจฉานวิชา" ซึ่งหากมีการกล่าวโทษ โดยไร้หลักฐาน และพาเบี่ยงประเด็นออกไป โดยการใช้คำพูดเชิง "Hate Speech" เช่นนี้ ผมคิดว่า คงไม่ยังประโยชน์ให้เกิดกับมหาชนทั้งหลายแน่ๆครับ
ย้อนกลับมาที่ประเด็นเรื่องของ "เดรัจฉานวิชา" จากการตรวจสอบในตัวพระสูตรเอง (มหาศีล) ผมพยายามตรวจสอบดูทั้งหมด และแจกแจงออกมาเป็นรายข้อ ได้ถึง 155 ข้อ ก็ไม่เห็นข้อใดที่เข้าข่ายกับการกระทำดังที่ คุณทสกสิณกล่าวโทษพระคึกฤทธิ์ ตามข้อมูลข้างต้นเลยนะครับ
ลองดูรายละเอียดของเดรัจฉานวิชา รายข้อทั้งหมด 155 ข้อ ใน คห.18
และผมก็พยายามถามซ้ำอีกครั้ง ใน ความคิดเห็นที่ 26 ว่า
1) คุณทสกสิณ ทราบได้อย่างไรว่า รถยนต์ทั้ง 4 คันดังภาพนี้ เป็นของพระคึกฤทธิ์
2) และพระคึกฤทธิ์เป็นเจ้าของรถจริงหรือไม่
3) และพระคึกฤทธิ์ระบุกับใครว่าจะต้องเป็นเลขทะเบียน 3639 นี้
4) การที่คุณทสกสิณ พาดโยงมาว่า สิ่งเหล่านี้คือ "เดรัจฉานวิชา" ตามที่ผมได้ตั้งประเด็นในกระทู้นั้น คุณอ้างอิงจากข้อใดในพระสูตรข้างต้นครับ? หรือมีพระสูตรอื่นๆ ที่สามารถอ้างอิงได้ ขอความกรุณาจริงๆครับ ผมเองก็อยากทราบในประเด็นนี้เช่นกัน แต่ขอเป็นหลักฐานที่ยืนยันอ้างอิงได้นะครับ ถ้าเอาตามความรู้สึก หรือจารีตประเพณี ผมคิดว่าไม่เหมาะสมครับ เนื่องจาก หากมีคดีความในศาล ผู้พิพากษาท่านก็ต้องให้แต่ละฝ่ายยื่นเอกสารหลักฐานยืนยันความคิดเห็นของตนเอง ไม่เช่นนั้น บ้านเมืองก็จะระส่ำระสาย เนื่องจากการใช้ความคิดเห็น และความรู้สึกมาตัดสินบุคคลใดๆ ก็ตาม ให้เป็นไปตามสิ่งที่ตนเองคิด
หมายเหตุ:
การหยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาถกกันอีกครั้ง เนื่องจากพบว่า คุณกฤษณ์ ปานพุ่ม (อดีตพระสุระ) ได้เคยกล่าวถึงกรณีนี้ด้วยเล็กน้อย
จึงทำให้นึกถึงคุณทสกสิณขึ้นมาได้ว่าเคยถกกันในประเด็นนี้ แต่ยังรอคำตอบอยู่
อนึ่ง กระทู้นี้ผมต้องการอภิปรายกันในเนื้อหาสาระจริงๆนะครับ ว่าการใช้เลขทะเบียนรถเลขนั้น ถือเป็นเดรัจฉานวิชาอย่างไร
เพราะหากพิจารณาจาก "พรหมชาลสูตร ในส่วนของมหาศีล"
จาก พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค (๙/๘-๑๐/๑๙-๒๕)"
จะไม่พบว่า มีส่วนใดใกล้เคียงกับบริบทของข้อกล่าวหานี้
จึงใคร่ขอความกรุณาคุณทสกสิณอีกรอบนะครับ ในการช่วยไขข้อสงสัย และทำความกระจ่าง
ในข้อกล่าวหาของคุณทสกสิณต่อกรณีนี้อีกครั้งครับ
ผมมิได้มีเจตนาจะสร้างความขัดเคืองใดๆนะครับ เพียงแต่กำลังสงสัยว่า การตีความว่าใช้เลขทะเบียนตรงกัน เป็นเดรัจฉานวิชาอย่างไร
โดยอ้างอิงจากหลักฐานใด ซึ่งไม่พบในพระสูตรของพระพุทธองค์
หรืออาจจะตีความโดยอาศัยจารีต บรรทัดฐานทางสังคม และความคิดเห็นส่วนตัว
จึงต้องการรับฟังคำอธิบายเพิ่มเติมจากคุณทสกสิณอีกครั้ง ดังนี้ครับ