คุณผู้อ่านต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่า José Mujica (โฮเซ่ มูฮีก้า) ประธานาธิบดีของอุรุกวัย ถูกจัดอันดับรั้งท้ายประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก เพราะเขาเลือกที่จะบริจาคเงินประจำตำแหน่งกว่า 90% จากทั้งหมด 12,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 400,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ประกอบการรายย่อย ถ้าหากเรายังต้องการสิ่งใดๆ ไปมากกว่านี้แล้วหล่ะก็ คงต้องเป็นคนอย่างท่านผู้นี้นี่แหล่ะ!
คุณค่าของท่านผู้นี้หาใช่เสื้อผ้าหรือบุคลิกท่าทางของท่านไม่ แต่เป็นเพราะ ท่านสร้างคุณค่าของตัวเองจากการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่างหาก
ก่อนที่ท่านจะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ท่านเคยเป็นนักรบกองโจรกลุ่ม Tupamaros มาก่อน ซึ่งกลุ่มนี้จะปฏิบัติการคล้ายกับ “โรบินฮู้ด” พวกเขาจะทำการปล้นสิ่งของจากองค์กรที่ไม่ดี อาทิเช่น ธนาคารหน้าเลือด ชมรมปืน และธุรกิจที่ไม่ดีอื่นๆ เพื่อนำทรัพย์สินที่ได้มาแจกจ่ายให้กับคนยากคนจน
ท่านโฮเซ่เชื่อว่าคุณค่าของเขาไม่ได้มาจากการที่เขามีเงินมากขึ้น แต่มาจากการทำให้ประชาชนคนอุรุกวัยมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ท่านประธานาธิบดีผู้นี้เคยติดคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง รวมระยะเวลาการรับโทษทั้งสิ้น 14 ปี รวมไปถึงการถูกยิงถึง 6 ครั้ง จากการที่จะพยายามแหกคุก แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งได้รับตำแหน่งประมุขของประเทศ
ท่านสามารถย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักรับรองประธานาธิบดีที่ทางรัฐบาลเตรียมไว้ให้ แต่ท่านเลือกที่จะอยู่อาศัยในสถานที่สงบๆ นับว่าเป็นตัวอย่างที่ทรงเกียรติในแง่ที่ท่านสละความสะดวกสบายของท่าน เพื่อไปมอบให้ประชาขนได้มีความเป็นอยู่ที่ดี
…และนี่คือบ้านที่ท่านอาศัยอยู่ เป็นฟาร์มเล็กๆ กับภรรยาและสุนัขที่เลี้ยงไว้ ท่านยังได้สั่งปรับเปลี่ยนบ้านพักรับรองประธานาธิบดีที่หรูหรามาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเทิดเกียรติให้กับประธานาธิบดีคนก่อนๆ แทน ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะทำเพื่อเงิน เพื่อชื่อเสียง เหตุผลเดียวก็คือ การได้มีสถานที่ที่สงบเพื่อพักผ่อนและใช้ชีวิตก็เพียงพอแล้วสำหรับท่านผู้นี้
งานดูแลฟาร์มของท่าน ทำให้ท่านได้ตระหนักถึงความทุกข์ยากของประชาชนที่กำลังประสบอยู่เนืองๆ ท่านยังปลูกดอกไม้และส่งขายอีกด้วยนะ คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ท่านมักจะขับรถเต่า Volkswagen Beetle ปี 1987 ไปยังที่ต่างๆ เสมอ ท่านไม่ต้องการรถยนต์หรูหราอย่างแบรนด์ Bentley หรอก เพราะว่า ท่านไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราตั้งแต่ต้น
การอารักษาท่านประกอบไปด้วย องครักษ์แค่ 2 คน กับเจ้าตูบ 3 ขา ที่มีชื่อว่า Manuela อีกหนึ่งตัว เท่านั้น ภาพลักษณ์คุณลุงใจดีของท่าน ทำให้ประชาชนรักท่านมาก
ถึงแม้ว่า ท่านจะเป็นที่รู้จักในนามของประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก แต่ท่านก็ไม่เห็นด้วยเลยกับฉายาดังกล่าว
“ผมไม่ได้เป็นประธานาธิบดีที่จนที่สุดหรอกนะ คนที่จนที่สุด ก็คือคนที่มีความอยากได้อยากมีต่างหากหล่ะ คือคนที่จนที่สุด”
“…การดำเนินชีวิตของผมเป็นผลมาจากบาดแผลในอดีต ผมในตอนนี้ ก็คือ ลูกชายของตัวผมในอดีตนั่นเอง ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพียงแค่มีที่นอนให้ผมได้พักผ่อนแค่นี้ผมก็สุขมากพอแล้ว” ท่านโฮเซ่กล่าว
ภาพของ José Mujica ขณะเข้าคิวรอรับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลรัฐ
แบบอย่างของท่าน เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า เราควรจะมีดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้อย่างไร อันที่จริง คนที่ที่มีฐานะร่ำรวยส่วนใหญ่ในโลกนี้ เก็บความมั่งคั่งร่ำรวยของพวกเขาไว้ในกระแสของความไม่เห็นแก่ตัว ความเมตตา และรักที่แท้จริง
ปัจจุบันท่านได้ส่งต่อหน้าที่ผู้นำของประเทศไปให้กับ Tabaré Vázquez ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
โลกนี้ต้องการคนแบบท่านประธานาธิบดีโฮเซ่มากขึ้น คุณเห็นด้วยมั้ยหล่ะ?
ที่มา : astoundable
บทความจาก meekhao.com/news/president-jose-mujica
เขาคือผู้นำที่ประชาชนรัก กับตำแหน่ง “ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก”
คุณค่าของท่านผู้นี้หาใช่เสื้อผ้าหรือบุคลิกท่าทางของท่านไม่ แต่เป็นเพราะ ท่านสร้างคุณค่าของตัวเองจากการที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่างหาก
ก่อนที่ท่านจะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ท่านเคยเป็นนักรบกองโจรกลุ่ม Tupamaros มาก่อน ซึ่งกลุ่มนี้จะปฏิบัติการคล้ายกับ “โรบินฮู้ด” พวกเขาจะทำการปล้นสิ่งของจากองค์กรที่ไม่ดี อาทิเช่น ธนาคารหน้าเลือด ชมรมปืน และธุรกิจที่ไม่ดีอื่นๆ เพื่อนำทรัพย์สินที่ได้มาแจกจ่ายให้กับคนยากคนจน
ท่านโฮเซ่เชื่อว่าคุณค่าของเขาไม่ได้มาจากการที่เขามีเงินมากขึ้น แต่มาจากการทำให้ประชาชนคนอุรุกวัยมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ท่านประธานาธิบดีผู้นี้เคยติดคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง รวมระยะเวลาการรับโทษทั้งสิ้น 14 ปี รวมไปถึงการถูกยิงถึง 6 ครั้ง จากการที่จะพยายามแหกคุก แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งได้รับตำแหน่งประมุขของประเทศ
ท่านสามารถย้ายเข้าไปอยู่บ้านพักรับรองประธานาธิบดีที่ทางรัฐบาลเตรียมไว้ให้ แต่ท่านเลือกที่จะอยู่อาศัยในสถานที่สงบๆ นับว่าเป็นตัวอย่างที่ทรงเกียรติในแง่ที่ท่านสละความสะดวกสบายของท่าน เพื่อไปมอบให้ประชาขนได้มีความเป็นอยู่ที่ดี
…และนี่คือบ้านที่ท่านอาศัยอยู่ เป็นฟาร์มเล็กๆ กับภรรยาและสุนัขที่เลี้ยงไว้ ท่านยังได้สั่งปรับเปลี่ยนบ้านพักรับรองประธานาธิบดีที่หรูหรามาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเทิดเกียรติให้กับประธานาธิบดีคนก่อนๆ แทน ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะทำเพื่อเงิน เพื่อชื่อเสียง เหตุผลเดียวก็คือ การได้มีสถานที่ที่สงบเพื่อพักผ่อนและใช้ชีวิตก็เพียงพอแล้วสำหรับท่านผู้นี้
งานดูแลฟาร์มของท่าน ทำให้ท่านได้ตระหนักถึงความทุกข์ยากของประชาชนที่กำลังประสบอยู่เนืองๆ ท่านยังปลูกดอกไม้และส่งขายอีกด้วยนะ คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ท่านมักจะขับรถเต่า Volkswagen Beetle ปี 1987 ไปยังที่ต่างๆ เสมอ ท่านไม่ต้องการรถยนต์หรูหราอย่างแบรนด์ Bentley หรอก เพราะว่า ท่านไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราตั้งแต่ต้น
การอารักษาท่านประกอบไปด้วย องครักษ์แค่ 2 คน กับเจ้าตูบ 3 ขา ที่มีชื่อว่า Manuela อีกหนึ่งตัว เท่านั้น ภาพลักษณ์คุณลุงใจดีของท่าน ทำให้ประชาชนรักท่านมาก
ถึงแม้ว่า ท่านจะเป็นที่รู้จักในนามของประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก แต่ท่านก็ไม่เห็นด้วยเลยกับฉายาดังกล่าว
“ผมไม่ได้เป็นประธานาธิบดีที่จนที่สุดหรอกนะ คนที่จนที่สุด ก็คือคนที่มีความอยากได้อยากมีต่างหากหล่ะ คือคนที่จนที่สุด”
“…การดำเนินชีวิตของผมเป็นผลมาจากบาดแผลในอดีต ผมในตอนนี้ ก็คือ ลูกชายของตัวผมในอดีตนั่นเอง ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เพียงแค่มีที่นอนให้ผมได้พักผ่อนแค่นี้ผมก็สุขมากพอแล้ว” ท่านโฮเซ่กล่าว
ภาพของ José Mujica ขณะเข้าคิวรอรับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลรัฐ
แบบอย่างของท่าน เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า เราควรจะมีดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้อย่างไร อันที่จริง คนที่ที่มีฐานะร่ำรวยส่วนใหญ่ในโลกนี้ เก็บความมั่งคั่งร่ำรวยของพวกเขาไว้ในกระแสของความไม่เห็นแก่ตัว ความเมตตา และรักที่แท้จริง
ปัจจุบันท่านได้ส่งต่อหน้าที่ผู้นำของประเทศไปให้กับ Tabaré Vázquez ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทน
โลกนี้ต้องการคนแบบท่านประธานาธิบดีโฮเซ่มากขึ้น คุณเห็นด้วยมั้ยหล่ะ?
ที่มา : astoundable
บทความจาก meekhao.com/news/president-jose-mujica