ความรัก ระหว่าง ความสมบูรณ์ กับ ความสมดุล มาเล่าประการณ์ให้อ่านกันค่ะ^^

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ของเราให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ เป็นเรื่องของความรักที่มีความต่างกันระหว่าง  ความสมบูรณ์ กับ ความสมดุล
    
     ครั้งหนึ่งในสมัยเราอยู่ ม.2 (ปัจจุบัน ม.4ค่ะ) เราเคยแอบปลื้มรุ่นพี่คนหนึ่งค่ะ ขอใช้ตัวย่อว่าพี่ B แล้วกันนะคะ  เขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนหมู่มากในโรงเรียนค่ะ ด้วยความที่เขามีหน้าตาที่หล่อเหลา ขาว ตี๋ สูง ดัดฟัน บ้านฐานะร่ำรวย ระดับการเรียนอยู่ห้อง1(ห้องพิเศษวิทยาศาสตร์) ด้านกีฬาเก่งเรื่องแบดมินตัน นิสัยเป็นมิตรกับทุกคน เพอร์เฟคมากค่ะ ดุจพี่เฟลมในเรื่องเมย์ไหนเชียวล่ะค่ะ ส่วนเรา…หน้าตาธรรมดาๆ ไม่เป็นที่รู้จักของใครเฟสไม่ค่อยเล่น บวกกับเราไม่ค่อยมีเพื่อนด้วยค่ะ เป็นโลกส่วนตัวสูงมาก เงียบๆค่ะ การเรียนพอใช้ มองกระจกในห้องน้ำทีไรอยากจะทุบกระจกทิ้งทุกที..(แต่พอดีว่าเป็นของโรงเรียน 555) ก็ชอบเขาไปแบบปลงๆค่ะ แอบมองห่างๆ เขาคงไม่มาสนใจเราหรอก จนกระทั่งวันหนึ่งไปเจอพี่ผู้หญิงคนหนึ่งในเฟสสวยมากกก คือขนาดผู้หญิงอย่างเรายังว่าสวยเลย ไม่ต้องพูดผู้ชายหรอกเนอะ ทำให้เกิดความอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมาค่ะ ใช้เวลาของปิดเทอมใหญ่ของ ม.2ในการเปลี่ยนตัวเอง จนขึ้น ม.3 เริ่มมีคนสนใจเรามากขึ้น สวยขึ้นไรงี้ รุ่นพี่รุ่นน้องเริ่มจำได้ พี่ๆเริ่มชวนเขาเต้นงานของโรงเรียนบ้างไรบ้าง ตัดไปตอนขึ้น ม.4เทอม1 เลยค่ะ ปัจจุบันเราสวยขึ้นมากค่ะจากเมื่อก่อน โรงเรียนของเรา(โรงเรียนชื่อดังในย่านตลาดมหาชัย^^) จะมีการเล่นพี่รหัสน้องรหัสเมื่อน้องๆขึ้น ม.4ค่ะ เราเลือกสายคณิต-อังกฤษค่ะ ข้ามไปจนถึงวันบูม ก็บูมน้องตามปกติ แต่วันนี้พี่รหัสเราเขาจะเหมือนรีบออกไปข้างนอกกับเพื่อน รีบมากจนไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย TT ให้ขนมเสร็จแล้วก็ไปเลยค่ะ เราก็ได้แต่ยืนมองเพื่อนๆคนอื่นถ่ายรูปพูดคุยกับพี่รหัส เรายืนอยู่ใต้ต้นไม้ริมสนามหน้าตึกเรียน อยู่ๆก็มีลูกฟุตบอลกลิ้งมาหยุดที่เรา พอเรามองไปก็เป็นกลุ่มพวกรุ่นพี่ ม.6 ค่อนข้างดังในโรงเรียนค่ะ(เนื่องจากเป็นคนในวงดนตรีในโรงเรียนค่ะ) เราก็ไม่ได้อะไร ก็เตะบอลส่งคืนพี่ๆไป แล้วพวกพี่ๆก็เหมือน หูยยยย!! เสียงดังๆอะค่ะ แต่เราก็เงียบๆไม่ได้ตอบโต้อะไร แล้วนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆ สักพักลูกบอลมาอีกแล้วค่ะ รู้เลยว่าครั้งนี้จงใจ เลยเตะกลับคืนไปอย่างสุดแรง กวนตีนนักใช่มั้ยไรงี้ค่ะ 555 ไม่รอช้าค่ะ เอาคืนแล้วเราต้องรีบชิ่งหนีตามวิสัยผู้กล้า 55555 สักพักมีรุ่นพี่คนหนึ่งตัวอวบๆวิ่งมาดักหน้าเรา ในมือถือโทรศัพท์ “ น้องครับ!! ขอไอดีไลน์หน่อย ’’ คิดในใจ นั่นไงกูว่าแล้ว.. แล้วพูดกลับไปว่า แต่หนูไม่สวยนะคะ พี่เขาตอบกลับมาว่า..เพื่อนพี่มันขอมาครับ.. ใครวะ?? ด้วยความอยากรู้ก็เลยให้ไป กลับบ้านเปิดwifiบ้าน เข้าไลน์ก่อนเลย  แล้วสิ่งที่ทำให้เราถึงกับสตั้นไป30วิ คือ พี่ B เป็นคนแอดไลน์เรามาค่ะ!!! แทบจะกรี๊ดค่ะ เจ้าเล่นตลกอะไรกับชีวิตฉันเนี่ยยยยย!!! >/////< ตั้งแต่วันนั้นเราก็เริ่มคุยกันค่ะ เขาก็ชวนเราไปเลือกของขวัญให้น้องรหัสของเขาบ้าง ติวหนังสือให้เราตอนสอบกลางภาค ช่วงนั้นเราเป็นที่อิจฉาของหลายๆคนมากค่ะ เดินก็มีแต่คนอื่น บางทีก็แอบคิดว่าเราจะทำให้พี่เขาอายรึเปล่าเวลาเดินกับเรา แต่เขาก็สุภาพบุรุษกับเรามากๆค่ะ สะพายกระเป๋าให้เวลาเดินประมาณนี้ค่ะ แต่พี่เขาดูเหมือนไม่ค่อยมีเวลาให้ค่ะ บวกกับเขาเรียนหนักด้วย ในข้อนี้เราก็เข้าใจเขานะ แต่……..ในทุกๆเช้า เขาจะมาโรงเรียนตอนเพลงโรงเรียนเกือบขึ้นทุกครั้ง และในทุกๆวันเขาจะมาโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนสาวของเขาค่ะ พี่ผู้หญิงคนนั้นสวยมากค่ะ หน้าใสมาก หน้าตาน่ารัก แนวเกาหลีเลยจริงๆ แถมเรียนห้องเดียวกัน เพื่อนๆเขาก็เหมือนเชียร์ให้จิ้นกัน ทั้งๆที่เราก็คุยกับพี่Bอยู่ แต่เราก็แค่คนคุยค่ะ ไม่มีสิทธิ์อะไรมาก มีวันหนึ่งพี่Bซ้อมรำของวิชานาฏศิลป์อยู่ เขาก็ชวนเราไปรอเขาซ้อมด้วย วันนั้นเป็นวันที่แฟนเก่าเขามาโรงเรียนพอดีค่ะ(พี่Bอยู ม.6 แฟนเก่าปี1 เรา ม.4) แฟนเก่าพี่Bมีดีกรีเป็นถึงอดีตประธานนักเรียนเชียวล่ะค่ะ ยิ่งทำให้ท้อใจเข้าไปอีก เราก็นั่งเศร้าอยู่คนเดียว แต่มีเพื่อนพี่Bคนหนึ่งเป็นชายออกสาวอะค่ะ(เข้าใจกันนะ)เหมือนเขาจะดูเราออกอะค่ะ เดินเข้ามาหาเรา มาพูดคุยตลกขำขันกันไป แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า หน้าหนูดูไม่ดีเลย ไม่เศร้านะ พี่แนะนำว่าถ้าไม่สบายใจให้ไปอาบน้ำเอาน้ำราดหัว ให้เรื่องที่เครียดอยู่มันไปกับน้ำที่อาบนะ เราก็ขอบคุณเขาจนพี่Bเดินมาแล้วส่งเรากลับบ้านก่อน เพราะซ้อมนาน ส่วนเพื่อนสาวของพี่B ในวันไหว้ครูเขาโดนจับคู่กันถือพานค่ะ ในวันไหว้ครู เราได้อยู่ใกล้แถวคนถือพาน แล้วความบังเอิญทำให้เราได้อยู่ใกล้พี่Bค่ะ แต่เหมือนพี่เขาจะทำเป็นไม่เห็นอะ เขาก็คุยเล่นกับเพื่อนเขาอยู่สองคน วันนั้นเราเสียใจมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ไม่อยากถูกมองว่าปัญหาที่เราเครียดมันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา ระหว่าง2เดือนที่คุยกัน เราได้คุยกันน้อยมาก ตอนเช้าถ้าไม่ทักไป เขาก็ไม่ทักมา ตกเย็นเห็นออนก็ไม่ทัก วันไหนทักถือว่าเป็นบุญของเรา เคยลองไม่ทักไปค่ะ ผลตอบรับคือเงียบค่ะ……..เสียใจมากนะ เขาตั้งใจเข้ามาในชีวิตเราเพื่ออะไร… แค่สนุก แค่เล่นๆงั้นหรอ  จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งแอดเรามาค่ะ อยู่ ม.6แล้วค่ะ หน้าตาธรรมดาๆ ไม่ใช่คนแถวระแวกนี้ด้วย ส่องเฟสมีแต่ศาลเจ้า มีแต่พระ แต่ลึกๆเราชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้วค่ะ เลยรับเป็นเพื่อน เขาก็ทักแชทเรามา เราก็ตอบคุยตามปกติ แต่ด้วยความที่เราคุยกับพี่Bเราก็คุยกับเขาตามมารยาท ไม่ค่อยตอบอะไร แต่เขาก็ทักมาบอกฝันดีเราทุกวันค่ะ ทักจนจำได้ จำสติ๊กเกอร์ตัวเดิมได้เลยล่ะ 5555วันเวลาล่วงเลยไปจน2เดือน พี่เขาก็ยังทักเราแบบนี้เหมือนเดิมทุกวัน เช้ามอนิ่ง กลางคืนฝันดี พี่เขาเป็นใครกันแน่นะ ทำไมถึงได้ตามตื้อได้ขนาดนี้นะ จนวันนึงจังหวัดเรามีงานประจำปีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครค่ะ เห็นเขาชอบไหว้พระไหว้เจ้าเลยพูดให้ฟังว่าที่งานมีอะไรๆบ้าง และที่สำคัญเราเป็นส่วนหนึ่งในขบวนแห่ของโรงเรียนด้วยค่ะ แต่งตัวสวยๆไรงี้ค่ะ แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะไปค่ะ จะไปหาเรา..!!  เขาคนนี้อยู่ กทม.ค่ะ จะมาเจอกันก็คงไม่ยาก โทรศัพท์ก็มีเนอะ แต่…….ก่อนวันงาน โทรศัพท์เราพังค่ะ… เบอร์ก็ไม่ได้ขอกันไว้ด้วย แถมงานนี้เป็นงานประจำจังหวัด มีขบวน 80 กว่าขบวน แล้วจะเจอกันยังไงวะเนี่ย!! ไหนจะคนมาท่องเที่ยวอีก คนคงจะเป็นพันเป็นหมื่น หน้าตาก็ไม่เคยพบ รูปในเฟสไม่ได้ช่วยประโยชน์อะไรเลยค่ะ มีแต่เพระแต่เจ้า รูปตัวจริงเห็นหน้าไม่ชัด พระเจ้าเล่นตลกกับฉันอีกแล้วโว้ยยยยยยย…!!! จนวันงานค่ะ.. คิดๆๆ จะเจอมั้ยเนี่ยย….แล้วขบวนของโรงเรียนก็ย้ายไปตั้งกันที่จุดเริ่มขบวน คิดในใจ นี่ก็บ่ายโมงแล้ว งานจะเริ่มแห่แล้ว คงไม่เจอแล้วแหละ ยืนถอนหายใจพิงเสา มองอ่าวทะเลลมโชยเย็นสบาย (สถานที่เริ่มขบวนติดปากอ่าวทะเล) สายตาก็ชายมองไปเรื่อยจนไปสะดุดตากับพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ในมือถือกล้องถ่ายรูป เหมือนส่องหาอะไรสักอย่าง แล้วเราสองคนก็หันมาเจอกันพอดีค่ะ….ความคิดแรกที่แวบเข้ามาคือพี่คนนั้นค่ะ เซ้นส์บอก (อ่านแล้วเหมือนเว่อร์ไปหน่อยนะ) แต่เราก็50/50 ถ้าใช่เดี๋ยวเขาก็คงเดินมาหาเอง แต่เขาจะจำเราได้หรอวะ เราแต่งหน้านะเว่ย 5555 แล้วความสตั้นก็เกิดขึ้นค่ะ เขาเดินเข้ามาหาเราแล้วถามว่า ใช่น้อง…รึเปล่าครับ  ตอนนั้นแบบ…เฮ่ยยยย!! เจอได้ไงวะเนี่ยยย พี่นี่โคตรสามารถเลยอะ 55 แต่เจอตัวจริงหน้าตาก็ไม่เลวร้ายนะ ดีกว่าในรูปซะอีก หลังจากวันงานนั้น เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เริ่มสนิทมากขึ้น หลังจากวันงานเขาเคยขอเราคบอยู่ครั้งหนึ่งค่ะ แต่ด้วยความที่ยังไม่รู้จักดี เลยปฏิเสธไป  ไม่นานค่ะ เราแพ้เครื่องสำอางค่ะสิวเต็มหน้าเลย รับตัวเองไม่ได้ ใส่หน้ากากไปเรียนตลอดทั้งเดือนเลย ผู้ชายไม่ต้องพูดถึงค่ะ หายหมดค่ะ คิดในใจ คนเรานี่มันดูกันแค่หน้าตาจริงๆ เหลือพี่คนนี้คนเดียวค่ะที่ยังคุย จนวันสอบวันสุดท้าย เค้ามาหาเราอีกแล้วค่ะ แล้วเค้าก็ได้เห็นหน้าสิวของเราค่ะ อายมากกก!! แต่พี่เขาดูปกติมาก คุยกับเราปกติ ยังสุภาพเหมือนเดิม น่ารักมากค่ะ  เราคุยกันเป็นเวลาประมาณ5เดือนค่ะ แล้วเราก็คบกัน ส่วนพี่Bเราก็เลิกคุยไปเลยค่ะ ไม่แคร์ค่ะ ไม่ใช่ว่าเราสวยหรืออะไรนะ แต่ถ้าได้เราไปแต่ไม่รักษาก็ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยหรอกค่ะ จริงไหม?  หลังจากเราได้คบกันแล้ว ก็เลยถามว่ามาหาเราได้ไงอะไรยังไง  แฟนตอบว่า เขาปั่นจักรยานมา!! บ้าไปแล้ว เขาตอบว่า กลัวไม่ประทับใจ  ตอนแรกไม่เชื่อ สืบไปสืบมา นางปั่นมาจริงๆจ้า จากสุขสวัสดิ์มามหาชัย ไม่ใช่ใกล้ๆเลยค่ะ5555 รู้สึกตื้นตันซะจริงๆ  แถมระหว่างมาโดนรถชนอีกต่างหาก แต่ดวงแข็งมากค่ะ ไม่เป็นไรเลย เป็นก็แต่เจ็บขาแล้วก็แขน   ทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่ค่ะ รักกันดี มีความสุขมากค่ะ พากันไหว้พระไหว้เจ้า มีความสุขในแบบของเราสองคนค่ะ
ข้อคิดเรื่องนี้คือ คนเราจะคบกันไม่ได้อาศัยความสมบูรณ์แบบคบกัน แต่เราอยู่ด้วยกันได้เพราะความสมดุลค่ะ เป็นในแบบของเรา ไม่ต้องพยายามไปเปลี่ยนแปลงเพื่อใคร คนจะรับเราได้ต้องรับในสิ่งที่เราเป็น.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่