ผู้หญิงที่เลือกคู่ด้วยฐานะเป็นปัจจัยหลักมันผิดเหรอคะ?

กระทู้นี้อยากให้มาแชร์เรื่องราวกันมากกว่า มีหลายๆเรื่องรวมกันอาจจะออกทะเลไปบ้าง เราคุยกับเพื่อนค่ะ เรื่องผช.ในสเป็ค มันถามว่าให้เลือก หล่อ รวย เป็นคนดี เรียงตามความสำคัญจะเลือกอะไร เราเลือกรวยค่ะ เป็นคนดีรองลงมา หล่อท้ายสุด ซึ่งฟีดแบ็คที่ได้มาจากเพื่อนคนอื่นคือ โหยยย หน้าเงินว่ะ จนเราเริ่มมาคิดว่าทัศนะคติเราผิดปกติเหรอหรือเราคิดเห็นแก่ตัวไป พอมองไปที่เพื่อนเลยเห็นว่าต้นทุนเรากับเค้าต่างกัน รู้สึกว่าเราเห็นอะไรมากกว่าที่เพื่อนเคยเห็น เราอยากจะเล่าเรื่องของเราค่ะ มีหลายๆเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายจัง เราอายุ 18 เมื่อก่อนครอบครัวฐานะค่อนข้างดีค่ะ เปิดร้านทีวีมือสองใหญ่ในตจว.พอเริ่มสัก 10 ขวบ ของในร้านเริ่มขายยากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไร ป๊ากับแม่ก็ยื้อมาอีก 2 ปี จน 12 เจ๊งค่ะ ห้างมาเปิดใหม่ ยับเยินเลย ต่อมาตามมาด้วย ยาลดน้ำหนักค่ะ อันนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์คือแม่เนี่ย หุ่นดีมากแต่พอเริ่มแก่ตัวเริ่มรู้สึกอ้วนขึ้น ป๊าก็ไม่อะไรแต่ตัวแม่เองไม่มั่นใจ ขับรถจากบ้านเราซึ่งอยู่ภาคใต้ ไปสุราษเพื่อไปซื้อยาคลีนิค เป็นยากระปุกมีตัวหนังสือจีน ผลคือกดประสาทบวกกับความเครียดค่ะ แม่เราเลยป่วยคือไม่รู้สึกตัว ไม่นอน เดินไปเดินมา ลิ้นแข็ง พูดจาไม่รู้เรื่อง เปิดปิดหน้าต่างตลอดเวลาแล้วก็เอาแต่ปลุกเราให้ไปโรงเรียนตอนห้าทุ่ม วันนั้นเราหยุดโรงเรียนค่ะ ไปเป็นเพื่อนพ่อขับรถกันไปเลยค่ไปสราญรมภ์เพราะมันใกล้สุด ก็ประมาณม.1 เห็นคนเอาผ้ารัดมือแม่กับเตียง ใจหายมากกลัวแม่จะเป็นแบบนี้ไปตลอด รักษาสักสองสัปดาห์แม่ก็กลับมาเป็นปกติค่ะ โดยที่เราไปอยู่กับย่าส่วนพ่อเฝ้าแม่อยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับใครที่ทานนะคะ บอกไว้เลยว่าถ้ามันไม่มีปัญหาอะไรก็แค่โยโย่แต่ถ้าเมื่อไรที่มีอาการเพ้อ งานหนักแน่ค่ะ ถึงรักษาหายแต่มีสิทธิกลับมาเป็นอีกได้ตลอด แม่เราไม่สบายแบบนี้ราวๆสามครั้งค่ะ เป็น หาย เป็น หาย พอเครียด ขาดยา นอนไม่หลับ กลับมาเป็นได้ตลอดค่ะ เรามีพี่สาวต่างแม่ค่ะ อายุห่างกัน 5-6 ปี สนิทกันมาก นอนห้องเดียวกัน ตอนพี่ย้ายไปมหาลัย นอนร้องเกือบทุกคืนเลยค่ะ จนประมาณเทอม 2 หรือปี 2 เทอมแรกๆประมาณนั้นอ่ะค่ะ พี่สาวโทรมาหาพ่อ บอกให้มารับหน่อย เค้าคลอดลูก เหมือนฟ้าผ่ากลางหัวเลย ไม่รู้มาก่อนว่าท้อง มารู้อีกทีตอนคลอด พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เราแอบเห็นเค้าร้องไห้ ไม่ใช่แค่มีลูกแต่พ่อของเด็กมีภรรยาอยู่แล้วและไม่ยอมส่งเสียค่ะ พูดแค่ว่าใช่ลูกเค้ารึเปล่าก็ไม่รู้ จากที่มีภาระอยู่แล้วก็ต้องรับหลานมาอีก สุดท้ายเลยตกลงตรงที่ให้หลานไปอยู่บ้านย่าค่ะ โดยที่พ่อจะไปหาบ้างสัปดาห์ละสามสี่ครั้ง ส่งเงินให้ทุกเดือน ส่วนพี่สาวกลับไปเรียนต่อ สองปีต่อมาพี่สาวท้องอีกรอบค่ะแต่คราวนี้เราไม่ได้ช็อคแล้ว ตอนแรกคิดว่าพี่คงพลาดแต่ตอนหลังคือชัดเจนว่ามีลูกมัดผช.แฟนคนนี้คือคนปัจจุบันค่ะ คบกันตอนเป็นทหาร ตอนนี้เค้าออกมาขับสิบล้อแล้ว ต่อมาพ่อล้มค่ะ เส้นเลือดในสมองตีบ แขนข้างนึงใช้งานไม่ได้ พ่อก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านย่าเพราะบ้านเราคงไม่ไหวจริงๆ หลังคารั่วเยอะ ตรงบันไดสี่ห้าคันก็รั่ว กลัวจะตกบรรไดหรือเดินลื่นอะไร ไฟชั้นบนหน้าห้องนอนก็ไม่ติด เคยมีที่อยู่ๆคัตเอาท์ก็ตัดทั้งบ้าน เราเดินขึ้นเดินลงพยายามสับคัดเอาท์ รอบสุดท้ายคือได้กลิ่นไหม้ ไฟลุกค่ะ รีบปิดคัตเอาท์นอนเหงื่อออกจนเช้าให้อามาทำให้ คือเราอายุ 18 พ่อเราดื่มเหล้าหนักมาก สูบบุหรี่หนักมากจนเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ เราเคยนั่งหน้าบ้านทุกวันให้ยุงกัดเพื่อรอพ่อกลับจากไปดื่มกับเพื่อน ประตูเหล็กที่บ้านค่อนข้างแข็งและพื้นกับประตูมันต่างระดับกัน กลัวพ่อจะล้มก็ต้องรองี้ตลอด พอเข้าบ้านก็เอาผ้าเย็นมาให้ เป็นงี้แทบทุกวัน บางวันถ้าพ่อหิวก็ลุกไปหุงข้าวทอดไข่ ในวันที่พ่อเราล้ม ญาติแม่ทุกคนเอาแต่ด่าพ่อเราว่าดื่มแต่เหล้า ถามว่าโกรธมั้ย โกรธมากค่ะ ไม่ได้โกรธพ่อแต่โกรธคนที่ด่าพ่อ ได้แต่คิดว่าพวกคุณเป็นใครมีสิทธิอะไรมาว่าพ่อเรา แน่นอนพ่อเราดื่มเหล้าหนักแต่พ่อเราขับรถไปรับไปส่งเราทุกวันตั้งแต่อนุบาลจนเกือบจบม.6  เรากับแม่ตื่นเช้ามาก็มีข้าวกล่องที่พ่อซื้อวางบนโต๊ะแล้ว ตอนบ่ายก็ซื้อขนมให้ ตอนเย็นก็ถามจะกินอะไรแล้วไปซื้อให้ ตอนแม่เราไม่สบายระหว่างขับรถจะไปโรงพยาบาล แม่ฉี่ พ่อก็เปลี่ยนกางเกง เอากางเกงเก่าไปซักให้ พ่อไปเฝ้าที่โรงพยาบาล เราอยากได้อะไรเราได้ตลอดโดยที่พ่อไม่เคยบอกว่าไม่ได้แต่บอกว่ารอก่อนนะ เก็บตังค์ก่อนแล้วก็ได้มาตลอด ในขณะที่คนที่ด่าว่าพ่อเราเป็นใครก็ไม่รู้ แม่ไม่สบาย ที่บ้านลำบาก ไม่เคยสนใจใยดี พอถึงตอนล้มกลับมาด่าพ่อเรา อาจจะเพราะเรื่องพวกนี้ เงินถึงเป็นปัจจัยหลักสำหรับเรา เราไม่เคยเห็นคนดีหรอกค่ะ เคยเห็นแต่คนดีแต่ปากที่ก่นด่าคนอื่นแต่ตัวเองไม่เคยทำอะไร แม้แต่ญาติเราคนนึงที่เรารักนักรักหนา ตอนพ่อเราล้ม เราโทรไปร้องไห้ เค้าก็ตัดสายทิ้ง พอเราไปทำงานเซเว่นก็เอาเงินมาให้พันนึงแต่ไม่พูดอะไร อะไรหลายๆอย่างมันพังและเงินสำคัญกับเราแต่มันก็มีบางช่วงที่รู้สึกว่าเราอยากได้ยินคำว่ากินข้าวยัง ไม่ต้องคิดมากนะ เรียนเป็นไงบ้างหรือเดี๋ยวก็ดีขึ้นจากคนบางคน เรารู้ว่าความจนมันเป็นยังไง เรารู้ว่าสายตาดูถูกเป็นยังไงและเราจะพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาจากจุดนี้ให้ได้ เราอ่านหนังสือวันละห้าชม. เราขายกางเกงยีนส์ในเน็ต เรามีอนาคตที่เราวางไว้ ว่าอีกห้าปีเป็นยังไง อีกสิบปีเป็นยังไง พ่อเรามีสิทธิพิการ 80% แม่เราทำงานหนักมาก ในอนาคตเราต้องดูแลทั้งพ่อและแม่ เพราะพี่สาวเราก็มีภาระค่อนข้างเยอะแล้ว เราอยากพาพ่อแม่กินข้าวโดยที่ไม่ต้องคิดว่าแพงจัง เราอยากพาพ่อแม่เที่ยวต่างประเทศ เรามีอีกเป็นร้อยเป็นพันที่อยากจะทำและเราต้องการคนที่ support เราได้ คือไม่ต้องให้เงินเราแต่อย่างน้อยอย่ามาเบียดเบียนเราก็โอเคแล้ว เราไม่มีความเชื่อเรื่องมาเริ่มกันจาก 0 นะ พ่อแม่เราเริ่มแก่ตัวแล้วและเราต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าการงานจะมั่นคง เราไม่มีเวลามารอสร้างเนื้อสร้างตัวกับคุณหรอก เราดูเห็นแก่ตัวมากไปป่ะคะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่