คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาขึ้น อายุเฉลี่ยคนเพิ่มมากขึ้น
จุดเริ่มต้นการเพิ่มประชากรมันมาจากช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครับ
ก่อนหน้านั้นอายุเฉลี่ยมนุษย์ต่ำมาก อยู่ในช่วงราวๆ 40 ปี และคนมีลูกเยอะ ซึ่งก็ตายจากโรคและระหว่างวัยมากเหมือนกัน จากพ่อแม่ 2 คน เหลือรุ่นใหม่ที่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ประมาณ 2 อยู่ดี ประชากรจึงไม่ได้เพิ่มมากนัก
ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม คุณภาพชีวิตคนดีขึ้นมาก โภชนาการ อาหาร ยา การรักษา และเทคโนโลยีต่างๆทำให้คนมีชีวิตยืนยาวขึ้น ตายน้อยลง แต่พฤติกรรมการมีลูกมากยังคงอยู่ แทบทุกประเทศที่เข้าสู่ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมของตัวเองจะมีอัตราเพิ่มของประชากรสูงมาก เพราะคู่พ่อแม่ 2 คน แต่ได้ประชากรรุ่นใหม่พร้อมสืบพันธุ์ 4-6 คน
ผ่านยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมาซักระยะ สังคมเมือง ค่าครองชีพ ฯลฯ ทำให้การมีลูกมากไม่ใช่เรื่องดีนัก การมีลูกคนเดียวหรือสองคนเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้อัตราการเพิ่มกลับมาเหลือเป็น 2 คนต่อพ่อแม่เหมือนเดิม (แต่อันนี้คือเกิด 2 และรอด 2)
ประเทศเจริญแล้วส่วนใหญ่ตอนนี้อัตราการเพิ่มของประชากรต่ำมากๆ บางประเทศติดลบด้วย ดังนั้นสำหรับกลุ่มประเทศนี้ ประชากรเพิ่มมาเฉพาะรุ่นใหม่ที่เกิด แต่รุ่นเก่ายังไม่เสียชีวิต เมื่อผ่านไปได้ซักพักอัตราการเกิดและตายจะเริ่มคงที่ ประชากรรวมของประเทศนั้นๆจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก (หลายประเทศเข้าสู่จุดนี้แล้ว)
ประเทศที่ยังไม่เจริญอัตราการเกิดยังคงมากอยู่ ประชากรโลกส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นตอนนี้มาจากกลุ่มนี้ ในอนาคต เมื่อประเทศเหล่านี้เจริญขึ้น อัตราการเพิ่มประชากรจะลดลงเอง และเข้าสู่จุดคงที่
ท้ายที่สุดแล้วในช่วงราวๆซัก 2050 ประชากรโลกจะไปหยุดที่แถวๆ 9000-10000 ล้านคน และการเพิ่มขึ้นจะช้ามากแล้ว (เว้นแต่มีเหตุการณ์อื่นๆมาเกี่ยวข้อง)
เอาเข้าจริงตอนนี้อัตราการเพิ่มประชากรต่อปีก็ค่อยๆลดลงนะ ตอนนี้อยู่ที่ 1.1% ต่อปี คาดว่าจะลงไปเหลือ 0.2% ต่อปีที่ปี 2050 ส่วนช่วงพีคของการเพิ่มประชากรคือยุคเบบี้บูม ที่ประมาณ 2% เพราะเป็นช่วงที่ประเทศใหญ่ๆเจริญขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
จุดเริ่มต้นการเพิ่มประชากรมันมาจากช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครับ
ก่อนหน้านั้นอายุเฉลี่ยมนุษย์ต่ำมาก อยู่ในช่วงราวๆ 40 ปี และคนมีลูกเยอะ ซึ่งก็ตายจากโรคและระหว่างวัยมากเหมือนกัน จากพ่อแม่ 2 คน เหลือรุ่นใหม่ที่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ประมาณ 2 อยู่ดี ประชากรจึงไม่ได้เพิ่มมากนัก
ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม คุณภาพชีวิตคนดีขึ้นมาก โภชนาการ อาหาร ยา การรักษา และเทคโนโลยีต่างๆทำให้คนมีชีวิตยืนยาวขึ้น ตายน้อยลง แต่พฤติกรรมการมีลูกมากยังคงอยู่ แทบทุกประเทศที่เข้าสู่ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมของตัวเองจะมีอัตราเพิ่มของประชากรสูงมาก เพราะคู่พ่อแม่ 2 คน แต่ได้ประชากรรุ่นใหม่พร้อมสืบพันธุ์ 4-6 คน
ผ่านยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมาซักระยะ สังคมเมือง ค่าครองชีพ ฯลฯ ทำให้การมีลูกมากไม่ใช่เรื่องดีนัก การมีลูกคนเดียวหรือสองคนเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้อัตราการเพิ่มกลับมาเหลือเป็น 2 คนต่อพ่อแม่เหมือนเดิม (แต่อันนี้คือเกิด 2 และรอด 2)
ประเทศเจริญแล้วส่วนใหญ่ตอนนี้อัตราการเพิ่มของประชากรต่ำมากๆ บางประเทศติดลบด้วย ดังนั้นสำหรับกลุ่มประเทศนี้ ประชากรเพิ่มมาเฉพาะรุ่นใหม่ที่เกิด แต่รุ่นเก่ายังไม่เสียชีวิต เมื่อผ่านไปได้ซักพักอัตราการเกิดและตายจะเริ่มคงที่ ประชากรรวมของประเทศนั้นๆจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก (หลายประเทศเข้าสู่จุดนี้แล้ว)
ประเทศที่ยังไม่เจริญอัตราการเกิดยังคงมากอยู่ ประชากรโลกส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นตอนนี้มาจากกลุ่มนี้ ในอนาคต เมื่อประเทศเหล่านี้เจริญขึ้น อัตราการเพิ่มประชากรจะลดลงเอง และเข้าสู่จุดคงที่
ท้ายที่สุดแล้วในช่วงราวๆซัก 2050 ประชากรโลกจะไปหยุดที่แถวๆ 9000-10000 ล้านคน และการเพิ่มขึ้นจะช้ามากแล้ว (เว้นแต่มีเหตุการณ์อื่นๆมาเกี่ยวข้อง)
เอาเข้าจริงตอนนี้อัตราการเพิ่มประชากรต่อปีก็ค่อยๆลดลงนะ ตอนนี้อยู่ที่ 1.1% ต่อปี คาดว่าจะลงไปเหลือ 0.2% ต่อปีที่ปี 2050 ส่วนช่วงพีคของการเพิ่มประชากรคือยุคเบบี้บูม ที่ประมาณ 2% เพราะเป็นช่วงที่ประเทศใหญ่ๆเจริญขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
แสดงความคิดเห็น
ทำไมประชากรมนุษย์ถึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงจุดๆหนึ่งจะเป็นแบบในบทความนี้หรือเปล่า
http://www.indepencil.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3/
ปล.แมวไม่ได้พิมพ์นะ