ตามหัวข้อเลยค่ะ เราเป็นหนี้บัตร Ktc ประมาณ 85,000 บาท เคยไปขึ้นศาลนัด เคยไปขึ้นศาลนัดไกลเกลียแล้วเมื่อประมาณสามปีที่แล้วตอนที่ไปขึ้นศาลเราแจ้งกับเจ้าหน้าที่ไปว่าเรามีหนี้บัตรเครดิตหลายใบประมาณ 10 ใบได้มั้งแต่ละใบก็กำลังฟ้องเราเลยขอผ่อนผันว่า ขอจ่ายทีละใบได้ไหม ทางเคทีซีก็ไม่ยอม บอกให้เราเซ็นเอกสารปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สุดท้ายเราผ่อนไม่ไหว เพราะมีหลายบัตรมากจึงตัดสินใจหยุดผ่อน แล้วผ่อนบัครอื่นทีละบัตรจนหมด ใช้เวลา3ปี เหลือKtcใบสุดท้าย ที่เลือกเคลียร์เคทีซีใบสุดท้ายเพราะว่ามียอดหนี้น้อยสุดแค่ 85,000 เท่านั้นส่วนบัตรอื่น 100,000 -200,000กว่าทุกใบ  แต่อยู่ๆก็มีหมายยึดทรัพย์มาจากกรมบังคับคดีว่าทางธ.กรุงไทย หรือ เคทีซี จะยึดบ้านเรา ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเลยสักครั้งเดียว และที่เราสงสัยมากคือเป็นหนี้แค่85,000 บาททำไมต้องถึงกับยึดบ้านราคา 3.2ล้าน เลยหรอคะ ทำไมไม่ยึดหรืออายัดเงินเดือนเรา ๆ ก็มีเงินเดือนนะ และที่สำคัญทำไมไม่ติดต่อหาเราเลย ตอนนี้เราใช้หนี้บัตรอื่นหมดแล้ว พร้อมที่จะใช้หนี้บัตรเคทีซีแล้ว ถ้าติดต่อหาเราก่อนยังไงเราใช้หนี้แน่นอน เราไม่ได้มีเจตนาที่จะหนีหรือไม่จ่ายหนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ว่าขอผ่อนทีละบัตรเคลียร์ทีละบัตรถ้าไม่อย่างนั้นน่ะชาตินี้ก็ไม่มีวันใช้หนี้บัตรหมด เราเป็นหนี้บัตรเยอะมาก มีเกือบทุกแบงค์ แต่เราก็เคลียร์หมดทุกบัตร  จนมาถึงบัตรเคทีซีนี่แหละ นี่หรอธนาคารของคนไทย ไม่ยอมโทรมาเจรจากับเราอยู่ดีดีมายึดบ้านยอดนี้แค่ 85,000 ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอคะ ถ้าโทรมาแล้วเรามีเจตนาหนี เจตนาไม่ชำระ เจตนาไม่จ่ายก็ว่าไปอย่าง จะไปตามยึดบ้านยึดอะไรก็เอาเถอะ แต่นี่ไม่ยอมโทรมาเจรจาเลย แล้วทำไมยอดแค่ 85,000 ทำไมไม่อายัดเงินเดือนคะ งง ถ้าไม่มีเงินเดือนให้อายัดก็ค่อยไปตามยึดบ้านค่ะ แล้วบ้านติดผ่อนที่ไทยพานิชย์ด้วยค่ะ เหลือตั้งเกือบ4ล้าน ยึดได้หรอคะ อยากรู้จริงๆ  เราเป็นหนี้บัตรเพราะทำธุรกิจขาดทุน12ล้าน ตอนนั้นหมดตัวเลย แต่ก็ต่อสู้ดิ้นรนกัดฟันใช้หนี้ไปได้เยอะ ธนาคารอื่นไม่เห็นโหดร้ายเท่าเคทีซีเลย เจอเคทีซีนี่เครียดจริงไรจริง