ระบบพินทุบอดในบาลีอักษรไทย มีจุดอ่อนกว่าระบบอักษรสยามปาฬิ เมื่อ พ.ศ. 2436 จริงหรือ?

การที่ระบบบาลีอักษรไทย  เปลี่ยนแปลงจากระบบอักษรสยามปาฬิ  โดย
1. การให้พินทุบอด  แทนทั้งไม้ยามักการ (เครื่องหมายเสียงกล้ำ) และ ไม้วัญฌการ (เครื่องหมายฆ่าเสียงสระหลังพยัญชนะ--บ่งบอกตัวสะกด)
2. การยกเลิกใช้  "ไม้อะ"  ไปเลย

ทำให้  "ผู้อ่าน"
1. ต้องวิเคราะห์อีกทีว่าพินทุบอดนั้น ๆ ทำหน้าที่อะไร  เป็นกล้ำ  หรือเป็นตัวสะกด
2. เมื่อเอาไม้อะ  ออกไป  ก็ไม่สามารถรู้ได้อย่างอัตโนมัติว่าเสียง อะ นั้นเป็น คะรุ  หรือ ละหุ

สพฺยญฺชนํ     จากของเดิม     สพ๎ยัญ์ชนํ     ทราบได้ทันทีว่า สะ เป็นลหุ
สกฺยปุตฺโต     จากของเดิม     สัก๎ยปุต์โต     ทราบได้ทันทีว่า สะ เป็นครุ

สะ ใน สพ๎ยัญ์ชนํ ทราบได้ทันทีว่าเป็นละหุ
สะ ใน สัก๎ยปุต์โต ทราบได้ทันทีว่าเป็นคะรุ

จึงมีแนวความคิดให้เขียนเสียงอ่านปาฬิ  ตามหลักอักษรสยามปาฬิ 2436
เพื่อนำจุดอ่อนตรงนี้ออกไป  เพื่อให้คนทั่วไปออกเสียงได้อย่างถูกต้องมากขึ้น

อักขรวิธี “ละหุ คะรุ สัททะอักขะระไทย-ปาฬิ”
https://www.scribd.com/document/318062469/2016-LahuGaru-Thai-Phonetic-Alphabet-Pa-l-i

ผมเลยสงสัยว่า  
ถ้าหน้าที่หลักของการถอดเสียงบาลีมาอยู่ในภาษาใดภาษาหนึ่ง  
คือความถูกต้องครบถ้วนไม่ผิดเพี้ยน (เพราะเสียงมีความสำคัญมากในบาลี)
แล้วเหตุใดจึงต้องเปลี่ยนมาใช้พินทุบอดตั้งแต่แรก
เพราะผู้ที่เปลี่ยนก็น่าจะทราบถึงจุดอ่อนตรงนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

แต่ก็เป็นไปได้ว่าในยุคที่เรายังไม่มีคอมพิวเตอร์
การแยกความแตกต่างระหว่างยามักการ และวัญฌการ  
เป็นเรื่องที่น่าจะปวดหัวทีเดียว

ดังนั้นในยุคคอมพิวเตอร์ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า
เครื่องหมายนั้นเป็นยามักการหรือวัญฌการ
การนำอักขรวิธีเดิมมาใช้ลบจุดอ่อนของอักขรวิธีปัจจุบัน
จึงน่าสนใจเป็นอย่างมากครับ

ที่มา:
https://www.facebook.com/153831678012818/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่