คริสเตียโน โรนัลโด คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในยุคปัจจุบัน ซึ่งหลักฐานที่ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีก็คือถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
และนี่คือประวัติที่น่าสนใจของนักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสที่ได้กลายเป็นตำนานแห่งวงการลูกหนัง “คริสเตียโน โรนัลโด”
ประวัติโดยย่อ
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1985 ที่เมืองฟุงชาล หมู่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส
เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นดาวรุ่งในทีมเมืองหลวงอย่างสปอร์ติงลิสบอน เขาเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2003 ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร (564 ล้านบาท)
ในปี 2004 ในการแข่งขัน FA Cup รอบชิงชนะเลิศ เขายิงประตูให้แมนยู 3 ประตู จนทำให้ทีมได้รับชัยชนะ ในปี 2008 เขาทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูได้มากที่สุดในโลก จากนั้นในปี 2009 เขาก็ย้ายไปเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4,580 ล้านบาท)
ชีวิตในวัยเด็ก
คริสเตียโน โรนัลโด หรือ Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro เกิดในเมืองฟุงชาล หมู่เกาะมาเดรา เขตปกครองตนเองของประเทศโปรตุเกส เขาเป็นลูกคนเล็กในบรรดาลูกๆ 4 คน ของ Maria Dolores dos Santos และ Jose Dinis Aveiro ชื่อโรนัลโดมาจากชื่อของ “โรนัลด์ เรแกน” นักแสดงคนโปรดของคุณพ่อของเขา
โรนัลโดเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังคาสังกะสีเล็กๆ ติดทะเล ชีวิตในวัยเด็กของโรนัลโดนั้นเรียกได้ว่ายากลำบาก พ่อของเขาซึ่งทำงานเป็นคนสวนมักจะดื่มเหล้าจัดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคไตในปี 2005 ส่วนแม่ของโรนัลโดทำงานเป็นแม่ครัวและรับจ้างทำความสะอาดเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้องลูกๆ ทั้ง 4 คน
ก้าวเข้าสู่วงการลูกหนัง
เนื่องจากพ่อของเขาทำงานในคลับ โรนัลโดจึงรู้จักการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กและไม่เคยฝันอยากเป็นอะไรเลยนอกจากนักฟุตบอลมืออาชีพ Fernao Sousa บิดาอุปถัมภ์ของโรนัลโด เผยกับสำนักข่าวอังกฤษว่า “เขาชอบเล่นฟุตบอลมากจนลืมกินข้าว และมักจะแอบหนีออกไปทางหน้าต่างห้องนอนพร้อมลูกบอลเวลาที่ต้องทำการบ้าน”
โรนัลโดในช่วงวัยรุ่นมีฝีเท้าที่โดดเด่นกว่าเด็กทั่วไป โรนัลโดในวัย 16 ปี ได้เซ็นสัญญากับสปอร์ติงลิสบอน และในปีเดียวกันนั้นเองเขามีโอกาสได้แข่งขันกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจนนักเตะทีมแมนยูถึงกับออกปากแนะนำให้ผู้จัดการทีมชวนเขามาเซ็นสัญญา
หลังจากใช้เวลาพิจารณาเพียงไม่นาน โรนัลโดก็ได้เซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลระดับโลกด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร
ความสำเร็จในแมนเชสเตอร์
โรนัลโดไม่ทำให้ใครผิดหวัง เขาแสดงฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมในการแข่งขัน FA Cup ปี 2004 ด้วยการยิงประตู 3 ลูกจนทำให้ทีมคว้าแชมป์ ต่อมาในปี 2008 หลังจากเซ็นสัญญากับแมนยูมานาน 5 ปี เขาก็ทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูได้มากที่สุดในโลกของ FIFA
ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของโรนัลโดเริ่มมืดมนลงอีกครั้ง หลังจากแม่ของเขาป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมส่วนพ่อก็เสียชีวิตเนื่องจากการดื่มสุรามากเกินไป การจากไปของพ่อทำให้โรนัลโดสะเทือนใจมาก เพราะเขากับพ่อสนิทกันมาก และโรนัลโดก็ขอร้องให้พ่อหยุดดื่มสุรามาโดยตลอด
เรอัลมาดริดและรางวัลระดับโลก
จากความสำเร็จที่เริ่มอิ่มตัวและข้อกังขาที่เริ่มเกิดขึ้นเป็นระยะ จึงไม่มีใครแปลกใจเมื่อโรนัลโดตัดสินใจเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลสัญชาติสเปนอย่าง “เรอัล มาดริด” ที่จ่ายเงินให้กับแมนยูมากถึง 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นค่าตัวของโรนัลโด
“ผมรู้ว่าพวกเขาคาดหวังความสำเร็จจากผมเยอะมาก และผมเองก็จะได้รับแรงกดดันมากกว่าตอนอยู่กับแมนยู แต่มันเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้พัฒนาฝีมือเพื่อก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก”
หลังย้ายเข้ามาสู่เรอัลมาดริด นอกจากรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์(นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า) โรนัลโดยังได้รับรางวัล Golden Boot และได้เป็น UEFA Club Forward of the Year หรือนักเตะที่เก่งที่สุดของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
แชมป์ยุโรปในนามทีมชาติ
ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2016 ทีมชาติโปรตุเกสได้คว้าตำแหน่งแชมป์ของการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งในฐานะกัปตันทีม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโรนัลโดคือหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดสำหรับชัยชนะครั้งนี้ และเป็นแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกของทีมชาติโปรตุเกส
แม้ว่าในนัดชิงชนะเลิศนั้นโรนัลโดจะบาดเจ็บตั้งแต่ 25 นาทีแรกจนต้องออกจากการแข่งขัน แต่ลูกทีมทุกคนให้สัมภาษณ์ว่าเขาคือคนที่สร้างความมั่นใจและให้กำลังใจทุกคนให้ก้าวไปสู่ชัยชนะ ด้วยคำพูดที่ว่า
“ฟังนะทุกคน ผมเชื่อว่าเราจะชนะศึกยูโรได้ ขอเพียงแค่เราทุกคนสู้อย่างเต็มที่ไปด้วยกัน”
คริสเตียโน โรนัลโด ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ว่า
“นี่เป็นอีกหนึ่งวินาทีที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผม ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่าผมอยากคว้าชัยชนะและสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทีมชาติของผม และผมก็ทำได้ ขอบคุณพระเจ้าที่เราทำสำเร็จ”
และนี่คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยพรแสวงและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสนาม
ที่มา: Biography
บทความจาก
http://www.meekhao.com/news/cristiano-ronaldo
เผยชีวิต “คริสเตียโน โรนัลโด” จากเด็กในครอบครัวยากจนสู่แชมป์ยูโร 2016
และนี่คือประวัติที่น่าสนใจของนักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสที่ได้กลายเป็นตำนานแห่งวงการลูกหนัง “คริสเตียโน โรนัลโด”
ประวัติโดยย่อ
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1985 ที่เมืองฟุงชาล หมู่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส
เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นดาวรุ่งในทีมเมืองหลวงอย่างสปอร์ติงลิสบอน เขาเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2003 ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร (564 ล้านบาท)
ในปี 2004 ในการแข่งขัน FA Cup รอบชิงชนะเลิศ เขายิงประตูให้แมนยู 3 ประตู จนทำให้ทีมได้รับชัยชนะ ในปี 2008 เขาทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูได้มากที่สุดในโลก จากนั้นในปี 2009 เขาก็ย้ายไปเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4,580 ล้านบาท)
ชีวิตในวัยเด็ก
คริสเตียโน โรนัลโด หรือ Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro เกิดในเมืองฟุงชาล หมู่เกาะมาเดรา เขตปกครองตนเองของประเทศโปรตุเกส เขาเป็นลูกคนเล็กในบรรดาลูกๆ 4 คน ของ Maria Dolores dos Santos และ Jose Dinis Aveiro ชื่อโรนัลโดมาจากชื่อของ “โรนัลด์ เรแกน” นักแสดงคนโปรดของคุณพ่อของเขา
โรนัลโดเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังคาสังกะสีเล็กๆ ติดทะเล ชีวิตในวัยเด็กของโรนัลโดนั้นเรียกได้ว่ายากลำบาก พ่อของเขาซึ่งทำงานเป็นคนสวนมักจะดื่มเหล้าจัดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคไตในปี 2005 ส่วนแม่ของโรนัลโดทำงานเป็นแม่ครัวและรับจ้างทำความสะอาดเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้องลูกๆ ทั้ง 4 คน
ก้าวเข้าสู่วงการลูกหนัง
เนื่องจากพ่อของเขาทำงานในคลับ โรนัลโดจึงรู้จักการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กและไม่เคยฝันอยากเป็นอะไรเลยนอกจากนักฟุตบอลมืออาชีพ Fernao Sousa บิดาอุปถัมภ์ของโรนัลโด เผยกับสำนักข่าวอังกฤษว่า “เขาชอบเล่นฟุตบอลมากจนลืมกินข้าว และมักจะแอบหนีออกไปทางหน้าต่างห้องนอนพร้อมลูกบอลเวลาที่ต้องทำการบ้าน”
โรนัลโดในช่วงวัยรุ่นมีฝีเท้าที่โดดเด่นกว่าเด็กทั่วไป โรนัลโดในวัย 16 ปี ได้เซ็นสัญญากับสปอร์ติงลิสบอน และในปีเดียวกันนั้นเองเขามีโอกาสได้แข่งขันกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจนนักเตะทีมแมนยูถึงกับออกปากแนะนำให้ผู้จัดการทีมชวนเขามาเซ็นสัญญา
หลังจากใช้เวลาพิจารณาเพียงไม่นาน โรนัลโดก็ได้เซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลระดับโลกด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร
ความสำเร็จในแมนเชสเตอร์
โรนัลโดไม่ทำให้ใครผิดหวัง เขาแสดงฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมในการแข่งขัน FA Cup ปี 2004 ด้วยการยิงประตู 3 ลูกจนทำให้ทีมคว้าแชมป์ ต่อมาในปี 2008 หลังจากเซ็นสัญญากับแมนยูมานาน 5 ปี เขาก็ทำสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ยิงประตูได้มากที่สุดในโลกของ FIFA
ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของโรนัลโดเริ่มมืดมนลงอีกครั้ง หลังจากแม่ของเขาป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมส่วนพ่อก็เสียชีวิตเนื่องจากการดื่มสุรามากเกินไป การจากไปของพ่อทำให้โรนัลโดสะเทือนใจมาก เพราะเขากับพ่อสนิทกันมาก และโรนัลโดก็ขอร้องให้พ่อหยุดดื่มสุรามาโดยตลอด
เรอัลมาดริดและรางวัลระดับโลก
จากความสำเร็จที่เริ่มอิ่มตัวและข้อกังขาที่เริ่มเกิดขึ้นเป็นระยะ จึงไม่มีใครแปลกใจเมื่อโรนัลโดตัดสินใจเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลสัญชาติสเปนอย่าง “เรอัล มาดริด” ที่จ่ายเงินให้กับแมนยูมากถึง 131 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นค่าตัวของโรนัลโด
“ผมรู้ว่าพวกเขาคาดหวังความสำเร็จจากผมเยอะมาก และผมเองก็จะได้รับแรงกดดันมากกว่าตอนอยู่กับแมนยู แต่มันเป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้พัฒนาฝีมือเพื่อก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก”
หลังย้ายเข้ามาสู่เรอัลมาดริด นอกจากรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์(นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า) โรนัลโดยังได้รับรางวัล Golden Boot และได้เป็น UEFA Club Forward of the Year หรือนักเตะที่เก่งที่สุดของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
แชมป์ยุโรปในนามทีมชาติ
ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2016 ทีมชาติโปรตุเกสได้คว้าตำแหน่งแชมป์ของการแข่งขันฟุตบอลยูโร ซึ่งในฐานะกัปตันทีม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโรนัลโดคือหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดสำหรับชัยชนะครั้งนี้ และเป็นแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกของทีมชาติโปรตุเกส
แม้ว่าในนัดชิงชนะเลิศนั้นโรนัลโดจะบาดเจ็บตั้งแต่ 25 นาทีแรกจนต้องออกจากการแข่งขัน แต่ลูกทีมทุกคนให้สัมภาษณ์ว่าเขาคือคนที่สร้างความมั่นใจและให้กำลังใจทุกคนให้ก้าวไปสู่ชัยชนะ ด้วยคำพูดที่ว่า
“ฟังนะทุกคน ผมเชื่อว่าเราจะชนะศึกยูโรได้ ขอเพียงแค่เราทุกคนสู้อย่างเต็มที่ไปด้วยกัน”
คริสเตียโน โรนัลโด ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ว่า
“นี่เป็นอีกหนึ่งวินาทีที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผม ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่าผมอยากคว้าชัยชนะและสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทีมชาติของผม และผมก็ทำได้ ขอบคุณพระเจ้าที่เราทำสำเร็จ”
และนี่คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยพรแสวงและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสนาม
ที่มา: Biography
บทความจาก http://www.meekhao.com/news/cristiano-ronaldo