เรื่องเหล้า : เชียงใหม่

กระทู้สนทนา
รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 กำลังจะถึงเวลาเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาหมอชิต ป้ายหมายเลขประจำช่องชานชาลาแสดงสถานีปลายทางเป็นเชียงใหม่ แสงแดดอ่อนเพิ่งจะลาลับขอบฟ้าไปไม่นาน แต่อุณหภูมิที่ร้อนระอุในช่วงกลางเดือนเมษายนยังคงช่วยรีดเหงื่อไคลให้ไหลออกมาจากร่างกายใครหลายคนได้ดียิ่งนัก

          ร้านรวงที่บริการน้ำดื่มบรรจุขวดแช่เย็นต่างทำกำไรได้ดีในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างขาดน้ำและความเย็น น้ำอัดลมในขวดพลาสติกซ่าเย็นฉ่ำเชื้อเชิญให้บรรดาผู้ที่ผ่านไปผ่านมาควักเงินไปแลกมันมาดื่ม โดยที่พวกเขาไม่เกรงกลัวความรุนแรงของกรดที่ใส่ลงไปในน้ำสีสดใสนั่นจะกัดเนื้อกระเพราะนิ่ม ๆ ไม่ต่างจากโบ้และอัดที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังถือขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อยอดฮิตขนาด 500 มิลลิลิตรในมือ และทั้งสองซัดโฮกน้ำในขวดกันคนละอึกสองอึกก่อนจะเดินขึ้นรถทัวร์ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำรอไว้

          แม้จะเป็นรถ ป.2 แต่ในตัวรถก็ยังคงเปิดแอร์เย็นฉ่ำขับไล่ความอ่อนล้าของทั้งโบ้และอัด พวกเขาเข้าไปนั่งยังเบาะนั่งหน้าสุด โบ้สูดหายใจยาวพร้อมมองออกไปกว้าง ๆ ทะลุกระจกรถ เขาเห็นสีหน้าผู้คนมากมายที่กำลังต่อสู้กับความวุ่นวายและความร้อนจากอากาศภายนอก รวมถึงบางคนสีหน้ายังแสดงความว้าวุ่นในใจดูพะว้าพะวังที่จะกลับไปพบญาติที่บ้านเกิดในวันปีใหม่ไทย

          แต่การเดินทางของโบ้ในครั้งนี้ไม่ใช่การกลับไปพบญาติที่จังหวัดเชียงใหม่ เขาเพียงแต่ต้องการไปเที่ยวเชียงใหม่โดยการติดตามอัดที่บ้านเกิดอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ อัดจะกลับไปเยี่ยมพ่อละแม่ทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์

          “เชียงใหม่ ๆ จะได้ไปเชียงใหม่แล้วโว้ย” โบ้ทำเสียงตื่นเต้นจากการที่เขาจะได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรก

          “มืงเป็นบ้าอะไรวะ เชียงใหม่ก็แค่จังหวัด ๆ หนึ่งในประเทศไทยเท่านั้นเอง” อัดพยายามพูดตัดรำคาญจากความกะดี๊กะด๊าของเพื่อน

          “ก็เชียงใหม่เป็นเมืองสวยงามนี่ มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะ ธรรมชาติยังสดใหม่อยู่เลย น้ำตกก็ใสไหลเย็นเห็นตัวปลา กรูอยากไปนอนแช่ในน้ำตกทั้งวันเลย มืงพากรูไปด้วยนะ”

      โบ้คิดถึงภาพธรรมชาติสวยงามที่เขาเห็นผ่านภาพสื่อหลายสื่อ ความจริงแล้วภาพถ่ายสวยงามเหล่านั้นมักจะถูกเซ็ทภาพมาก่อนอยู่แล้ว ทั้งการตกแต่งสถานที่จริงก่อนกดชัตเตอร์บันทึกภาพ และการตกแต่งภาพถ่ายด้วยโปรแกรมอัจฉริยะ น้ำตกหลายแห่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจริง ๆ ของคนในพื้นที่ ต่างถูกทำลายทัศนียภาพจนห่างไกลจากคำว่าธรรมชาติบริสุทธิ์ไปหมดแล้ว

      อัดเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกผิดที่คิดว่าเขาอาจจะทำลายความคาดหวังเล็ก ๆ ของเพื่อนได้ บ้านของอัดอยู่ในตำบลเล็ก ๆ ในอำเภอจอมทอง ที่อำเภอแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติมากมายทั้งน้ำตก ถ้า น้ำพุร้อน แม่น้ำ ฯลฯ แต่ทว่าสำหรับอัดนั้นที่เป็นคนในพื้นที่ เขากลับไม่มีความรู้สึกที่จะไปเหยียบย่ำสถานที่เหล่านั้นเลยแม้แต่นิดเดียว บางทีเขาก็ตอบตัวเองว่าเพราะเขาอาจจะเบื่อสถานที่เหล่านั้นเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก และเคยไปหลายรอบแล้ว

      แต่ความทรงจำของอัดในช่วงหลัง ๆ มานี้ มันเป็นความรู้สึกเบื่อหน่ายกับความสกปรกของสภาพแวดล้อมมากกว่า

      “ได้สิ เดี๋ยวกรูจะพามืงไปน้ำตกวังควาย ขึ้นไปบนดอยอินทนนท์ไม่ไกล แต่มืงเตรียมซื้อถุงดำเก็บขยะไปด้วยนะ” อัดหันมาพูดกับโบ้พร้อมเบ้ปาก

      “เอาถุงดำไปทำไมวะ” โบ้ถามด้วยความสงสัยสุดขีด

      “เอาไปเก็บขยะจากที่พวกยิ้มมากินทิ้งกินขว้างยังไงล่ะ พวกยิ้มนี่ขนของขึ้นไปกินกัน พอกินเสร็จก็ทิ้งไว้ตรงนั้น คนเอาเตาถ่านขึ้นไปปิ้งไก่ปิ้งปลา พอปิ้งเสร็จก็เทขี้เถ้ากองไว้ตรงนั้นเลย เศษกระดูกไก่พอแทะเสร็จก็โยนเข้ากอไม้ข้าง ๆ บางคนก็โยนทิ้งน้ำ จานใส่อาหารที่เป็นกระดาษยังมีส้มตำ มีลาบที่ยังกินไม่หมดก็วางอยู่ตรงนั้นเลย ไอ่พวกนี้พอกินเสร็จก็วางทิ้งไว้ตรงนั้นเลย ขวดเหล้าที่กินหมดแล้ว แก้วพลาสติก ขวดน้ำขวดโซดา ก้นบุหรี่ ถุงขนมเต็มไปหมด” อัดระบายสิ่งที่เขาคิดออกมา “ถ้ามืงถือถุงดำขึ้นไปเก็บขยะนะ จะกลายเป็นนักท่องเที่ยวตัวอย่างเลย”

      “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แล้วแถวนั้นไม่มีถังขยะให้ไปทิ้งเหรอ” โบ้ถาม

      “มีสิ เจ้าหน้าที่ก็เอาถุงดำไปผูกไว้กับต้นไม้ให้คนเอาขยะไปทิ้งกัน แต่เรื่องแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึกน่ะ”

      “แบบนี้ก็ไม่ไหวว่ะ พวกนักท่องเที่ยวต่างถิ่นเข้าไปทำลายธรรมชาติ” โบ้บ่นบ้างพร้อมทำหน้าเซ็ง

      “ไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างถิ่นหรอก นักท่องเที่ยวต่างถิ่นมักจะให้ความเคารพกับสถานที่ที่พวกเขาไป เพราะคนพวกนี้ต้องคอยปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมในที่ต่าง ๆ จนเคยชิน คนที่ทิ้งขยะก็เป็นพวกคนในพื้นที่แหละ คนในอำเภอนี้เลยที่ขึ้นไปกินทิ้งกินขว้าง”

      “แย่ ๆ” โบ้พูด “แล้วน้ำตกที่อื่นล่ะ เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดมั้ย”

      “ไม่หรอก มันขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่น่ะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสันดานของนักเที่ยวหรอก น้ำตกดี ๆ สวย ๆ ในเชียงใหม่ก็มีเยอะ แต่มันไกลบ้านกรูมาก ไม่มีเวลาพาไปว่ะ”

      “เออ ๆ งั้นกรูไม่ไปน้ำตกละ” โบ้ล้มเลิกแผนเที่ยวน้ำตก

      

      ผู้โดยสารทยอยเดินขึ้นรถ พนักงานตรวจนับจำนวนคนจนมั่นใจว่าครบถ้วน เด็กประจำรถจึงตะโกนบอกคนขับให้เคลื่อนรถออกจากชานชาลา รถเคลื่อนตัวออกไปได้ไม่นานก็ต้องไปจอดแช่อยู่ตรงทางออกจากสถานี เพราะความแออัดของรถทัวร์หลายคันที่ต่างก็ต้องการเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย เสียงผู้โดยสารยังคงจอแจทั่วรถ บางคนพูดคุยกับคนที่นั่งข้าง ในขณะที่บางคนกำลังสนทนากับคนที่อยู่ปลายทางผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ โบ้เห็นความวุ่นวายจอแจนี้จึงร่วมผสมโรงด้วย โดยการหันไปชวนอัดคุย

      “นี่ดูสิ กรูอยากไปเห็นบ้านไม้สักทองที่มีจั่วหลังคาประดับด้วยช่อระกา ที่ขอบหน้าต่างและประตูประดับด้วยไม้แกะสลัก ไม้ระแนงฉลุลายสวย ๆ”

      โบ้ยื่นวารสารท่องเที่ยวเกี่ยวกับเชียงใหม่ให้เพื่อนดู ก่อนหน้านี้หลายอาทิตย์เมื่อเขารู้ว่าจะได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ โบ้พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับเชียงใหม่ให้มากที่สุด ทั้งขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม แหล่งท่องท่องเที่ยวต่าง ๆ และสิ่งของโดดเด่นในจังหวัดเชียงใหม่ หากเขายังทำการศึกษาเชียงใหม่อย่างบ้าคลั่งแบบนี้ไปอีกสักปีสองปี บางทีเขาอาจจะรู้จักเชียงใหม่ได้ดีกว่าคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่นี่เสียอีกก็เป็นได้

      อัดที่กำลังจะปิดเปลือกตาลง เพราะเขาอยากจะงีบหลับสักหน่อย แต่เมื่อเจอความเซ้าซี้ของเพื่อนจึงต้องหันมามองภาพในกระดาษเล่มนั้น อัดเห็นโฆษณาโรงแรมบูติคสไตล์หรูหราที่แสดงตัวอย่างบ้านพักทรงล้านนาคลาสสิค อัดไม่กล้าบอกราคาสำหรับค่าเข้าพักหนึ่งคืนให้อาคันตุกะผู้มาเยือนบ้านเกิดของเขาให้รับรู้ เพราะเขาไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกเสียขวัญกับการที่จะรู้ว่าตัวเองเป็นประชากรชั้น 2 ในจังหวัดที่ดูเป็นมิตรเมื่อมองแค่เปลือกนอกนี้

      “อื้ม... บ้านทรงไทยสวย ๆ แบบนั้นในเชียงใหม่มีเยอะเลย แต่นั่นไม่ใช่สถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าแบนอย่างมืง” อัดจงใจทิ้งเสียงหนักในคำสุดท้ายของประโยค ก่อนจะเว้นวรรคและพูดต่อ “และของกรูด้วย”

      “อ้าว ทำไมล่ะ”

      “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่สถานที่สำหรับคนเงินน้อย เราไม่มีสิทธิ์เข้าไปนอนโรงแรมหรู ๆ แบบนั้นหรอกว่ะ ไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งไปยืนมอง”

      “อ้าว ทำไมล่ะ” โบ้พูดประโยคซ้ำกับก่อนหน้านี้

      “เพราะโรงแรม รีสอร์ท สปาที่มีบ้านทรงไทยเหล่านั้นทุกที่เขาจะสร้างรั้วสูงล้อมรอบไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนที่มาเสียเงินให้เขา คนธรรมดา ๆ ไม่เห็นหรอก”

      “เหรอวะ แบบนี้ก็มีด้วย แล้วบ้านชาวบ้านไม่มีแบบนี้บ้างเหรอ”

      “เขาอยู่บ้านปูนกันหมดแล้ว บ้านไม้ไม่มีใครเขาสร้างหรอก แพงด้วย พังง่ายด้วย”

      โบ้แสดงท่าทางผิดหวังอีกครั้ง “งั้นพากรูไปวัดก็ได้ จะได้เห็นอะไร ๆ ที่เป็นของทางเหนือบ้างแหละ คงจะได้รู้สึกสงบจิตสงบใจกับเขาบ้าง”

      “ก็ได้ เดี๋ยวกรูจะพาหลาย ๆ วัดเลย แต่ก็เผื่อใจไว้ด้วยนะ ความสงบมืงอาจจะไม่เจอ อาจจะเจอแต่นักท่องเที่ยวจีน แล้วตอนนี้โบสถ์วิหารหลายวัดเก่าแก่ที่คงความขลังของศิลปะล้านนาก็ถูกแทนที่ด้วยอาคารสมัยใหม่ เพื่อเอาไว้สำหรับต้อนรับพวกคนที่จะมาทำบุญให้วัด” ดูเหมือนอัดจะใช้อารมณ์กับน้ำเสียงที่อธิบายความเป็นไปนี้ เขาจริงจังมากกับประเด็นนี้

      “การซ่อมแซมหรือบูรณะโบราญสถานให้มันกลับมาสู่สภาพเดิมเหมือนตอนที่มันถูกสร้างขึ้นมา  เป็นการแสดงถึงการไม่เคารพต่อประวัติศาสตร์ของมัน เรื่องความเสียหายนั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ กรูจะพามืงไปดูวัดเจดีย์หลวง เจดีย์ที่พังลงมาครึ่งนึงเพราะแผ่นดินไหว แต่คนก็ยังอุตส่าห์ไปก่ออิฐให้มันทำให้ครึ่งนึงของเจดีย์เป็นอิฐใหม่ ทำให้กลับดูอัปลักษณ์ไปเลยในสายตากรู การซ่อมแซมควรที่จะทำเท่าที่จำเป็นพอไม่ให้มันถล่มลงมาก็พอแล้ว และยิ่งการซ่อมแซมโดยการเททับอัตลักษณ์เดิมของสิ่งปลูกสร้าง นั่นก็เหมือนกับการทำลายรากเหง้าของบรรพบุรุษของเราด้วย”

      “เหรอ... อืม ๆ” โบ้รับคำ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจกับเรื่องที่อัดพูดซักเท่าไหร่นัก

      “อ้อ... แต่ถ้ามืงไปวัดจะต้องเจอแน่ ๆ สิ่งนึงนั่นก็คือตู้รับบริจาคเงิน” อัดพูดเชิงหยอกกับเพื่อน

      “งั้นกรูไม่ไปละ งั้นมืงพากรูไปนี่เลย ถ้ามืงไม่พากรูไปเลิกคบยิ้มเลย”

      “ไปไหนวะ” อัดเริ่มขำกับท่าทางจริงจังของเพื่อน

      “ไปถนนคนเดินวันอาทิตย์ กรูดูในเว็บมา สถานที่ที่ต้องไปเยือนหากได้มาเชียงใหม่” โบ้กล่าวอย่างตั้งใจมาก

      “ไอ่ควาย!” อัดใช้คำแรงด่าเพื่อน เพราะเขาคิดว่าการกระทำของโบ้สมควรโดนด่าด้วยคำแรงเช่นนี้ “มืงไปเชื่ออะไรกับบทความในเน็ท เขาก็เขียนอวยไปอย่างนั้นแหละ”

      “เอ้า... ก็ที่นั่นเป็นศูนย์รวมของขายที่แสดงถึงวัฒนธรรมเชียงใหม่ ไปที่เดียวครบ” โบ้พูดถึงสิ่งที่เขาเคยอ่านมา

      “ไม่ต้องไปเดินให้เสียเวลาหรอก ทุกอย่างที่ขายในนั้นมีขายที่ร้านของฝาก คนก็เบียดเสียดจะเหยียบกันตายอยู่แล้ว”

      “ไม่ไปก็ได้วะ” โบ้อารมณ์เสียอีกครั้ง “งั้นพากรูขึ้นดอยอินทนนท์”

      “อย่าเลย จะขึ้นดอยช่วงเทศกาล รถติดมากบนยอดดอย” อัดเบรก

      “งั้นไปดอยสุเทพ”

      “ที่นั่นติดทั้งดอยเลย”

      โบ้พยายามใช้ความคิด “งั้นพากรูไปเที่ยวเธคกลางคืนหน่อยสิ ที่เชียงใหม่สาวสวยเยอะแยะไม่ใช่เหรอ”

      “กรูไม่ใช่นักเที่ยว เสียใจด้วย” อัดพูดเสียงแข็ง

      “โอ๊ย... ถ้าอย่างนั้นกรูจะไปเชียงใหม่ทำมัยวะเนี่ย ที่นู่นมืงก็ไม่พาไป ที่นั่นมืงก็ไม่พา เดี๋ยวกรูยิ้มเปลี่ยนรถที่นครสวรรค์กลับกรุงเทพดีกว่า ไปเที่ยวกรุงเทพในสภาพที่ท้องถนนโล่ง ๆ” โบ้แกล้งตัดพ้อต่อเพื่อน

      อัดยิ้มเป็นเชิงปลอบใจเพื่อน “เอาน่า ๆ ลืมไปแล้วเหรอว่าเราจะมาไปทำอะไรกันที่เชียงใหม่”

      อัดยกกระเป๋าสะพายของเขาขึ้นมาวางไว้บนตัก ก่อนจะเปิดกระเป๋าและหยิบกล่องกระดาษให้โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋าครึ่งหนึ่ง กล่องนั้นคือกล่องเหล้าชีวาส รีกัลขนาดหนึ่งลิตร เหล้าราคาแพงนี้อัดและโบ้ได้มันมาจากเจ้าของบริษัทที่ใช้ขวดแก้วนี้มอบให้แทนโบนัสประจำปี เพราะหัวหน้ารู้อยู่แล้วว่าลูกน้องทั้งสองชอบดื่ม

      “อ้อ เราจะเปลี่ยนที่กินเหล้านั่นเอง” โบ้ยิ้มแหะ ๆ

      “ไม่ต้องห่วงว่ามืงจะไม่ได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมภาคเหนือ เดี๋ยวกรูจะให้แม่เตรียมกับแกล้มเมือง ๆ ไว้ให้ มีลาบปลา ไก่เมืองต้ม หมูย่างจิ้มแจ่ว ผักหวาน เห็ดถอบต้ม ยำไข่มดแดง เดี๋ยวให้ลองกินลาบควายด้วย เราไปปูเสื่อนั่งกินกันข้างแม่น้ำปิง ไม่ต้องจ่ายค่าเซอร์วิซชาร์จให้เสียความรู้สึก บริการตัวเอง ดีมั้ย”

      โบ้น้ำลายสอกับรายชื่ออาหารที่เพื่อนเพิ่งพูดออกมา แต่ก็ยังไม่วายที่เขาจะแกล้งย้อนเพื่อน “มันจะเข้ากันเหรอ กับแกล้มเมือง ๆ กับเหล้าฝรั่งที่หมักบ่มมานานถึง 12 ปี”

      อัดหันมาสบตากับเพื่อนพร้อมรอยยิ้มก่อนจะพูด

      “แล้วมืงจะติดใจ”
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่