ตระเวนเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเชียงใหม่ต่อเมืองลี้ ตอนที่ 2







                   บรรยากาศหนาวเย็นในช่วงนี้ชวนให้นึกถึงความหนาวเย็นบนยอดดอยอินทนนท์ที่เพิ่งไปสัมผัสมาเมื่อเดือนที่แล้ว  อากาศช่างหนาวเหน็บสุดใจ   โดยกระทู้ในตอนนี้จะมาเล่าประสบการณ์เดินทางในทริปล่าสุดกันต่อที่ผมไปเที่ยวเชียงใหม่และเมืองลี้มา  8  วัน  ซึ่งตอนนี้จะเป็นการไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์ ย่านแม่แจ่มและฮอดในวันที่  4 - 5  ของทริปนี้ครับ   ก่อนอื่นไปดูกำหนดการเที่ยวของผมในทริปนี้กันก่อนเลย
                    วันแรก   :  เดินทางไปเชียงใหม่  เที่ยวย่านตัวเมืองเชียงใหม่และสันกำแพง
                    วันที่  2  :  เที่ยวย่านอำเภอแม่แตง
                    วันที่  3  :  เที่ยวขุนแปะ และน้ำตกบริเวณทางขึ้นดอยอินทนนท์
                    วันที่  4  :  เที่ยวดอยอินทนนท์
                    วันที่  5  :  เที่ยวย่านแม่แจ่มและฮอด
                    วันที่  6  :  เที่ยวย่านเมืองลี้
                    วันที่  7  :  เที่ยวย่านแม่ริม และเก็บตกขากลับ
                    วันที่  8  :  เที่ยวห้วยตึงเฒ่า  และเดินทางกลับ

วันที่  4  :  เที่ยวดอยอินทนนท์
                    เช้านี้ตื่นตี  5  เพื่อขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากที่พักฝ่าความมืดและความหนาวเย็นไปบนยอดดอยอินทนนท์   เพื่อไปชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นตรงถนนหน้าทางเข้ากิ่วแม่ปาน   จุดชมวิวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนมาเยือนกันแน่นถนัดตา   

                    แม้วันที่ผมไปชมจะเป็นวันธรรมดา  ไม่ใช่วันหยุดหรือเทศกาลอะไร  แต่จุดชมวิวนี้ไม่เคยร้างราผู้คนเลย   นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ขึ้นมาเที่ยวบนดอยอินทนนท์ต่างจับจองพื้นที่ถ่ายรูปวิวพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นอยู่ริมไหล่ทาง   




                      บริเวณจุดชมวิวทางเข้ากิ่วแม่ปานนี้มีร้านค้าหลายร้านวางของขายมากมาย  พวกซาลาเปา  หมั่นโถว  ข้าวต้ม อาหารตามสั่ง และเครื่องดื่มมากมายเรียกว่ามาถึงจุดนี้เลยไม่ต้องกลัวอดอาหารเช้า   แต่ราคาก็จะสูงกว่าด้านล่างอยู่เป็นธรรมดานะครับ
                      ตอนแรกหลังชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเสร็จแล้วกะว่าจะเดินไปกิ่วแม่ปานสักหน่อย  แต่เห็นปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต่อแถวรอขึ้นแล้ว  ขี้เกียจรอ  กลับไปเติมพลังอาหารเช้าที่ที่พักของเราดีกว่า  อากาศเย็นอย่างงี้ไม่อยากทำอะไรเลยอยากนอนสลบสักแป๊บในฐานที่ตื่นเช้าไป  


                               หลังจากนอนกลิ้งจนเพลินบนเตียงแล้ว  คนพร้อมคอสซูมพร้อมก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปนั่นคือ  สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์    ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไรนัก





                       การเข้าชมสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์สามารถนำรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ขี่ลัดเลาะเข้าไปชมแปลงเกษตรที่ปลูกผักและไม้ดอกเมืองหนาวได้เลย  ซึ่งเราจะต้องเสียค่าเข้าชมคนละ  20  บาท    สวนไม้ดอกเมืองหนาวที่นี่ผมว่ายังไม่อลังการและเด่นเท่าที่ดอยอ่างขางนะครับ  ผมถ่ายรูปได้แป๊บ ๆ ก็ขี่รถออกมาแล้ว  ดูไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดใจให้น่าถ่ายรูปสักเท่าไหร่   




                       จากสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์จะมีถนนไปยังน้ำตกสิริภูมิ   น้ำตกที่ตกมาจากบนดอยที่เราเห็นเป็นฉากหลังของสถานีเกษตรหลวงนั่นแหละ   แต่มุมที่ถ่ายน้ำตกนี้ได้สวยต้องเป็นมุมไกล   มุมสนามหญ้าหน้าบ้านพักใกล้ ๆ สถานีเกษตรหลวงนั่นเลยงานดี



                       ถ่ายรูปมุมไกลของน้ำตกสิริภูมิแล้ว   ผมก็ขี่รถไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว   ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านขุนกลาง



                       โดย  น้ำตกผาดอกเสี้ยว  หรือ  น้ำตกรักจัง   เราจะต้องเดินทางด้วยเท้าเดินป่าเข้าไปยังน้ำตกระยะทางประมาณไปกลับก็  3  กิโลเมตรได้    ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมเดินเป็นวงรอบเริ่มจากทางเข้าน้ำตกบริเวณใกล้บ้านขุนกลางไปชมน้ำตกแล้วเดินลงต่อไปออกที่บ้านแม่กลางหลวงกันต่อ   เพราะเส้นทางเดินลงเขาจากบ้านขุนกลางไปยังน้ำตกเป็นทางลงเขาตลอดและชัน   ผมเดินย้อนกลับทางเดิมยังเหนื่อยเลยต้องแวะพักกันหลายรอบ   


                       การเข้าชมน้ำตกแห่งนี้เราจำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นคือ  พวกชาวเขานำทางนะครับ  โดยบริเวณจุดทางเดินเข้าน้ำตกด้านหน้าใกล้กับบ้าน
ขุนกลางจะมีเต้นท์กางอยู่ชัดเจน  มีรถนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายกันอยู่มากมายเป็นจุดสังเกตได้ดี    จากจุดนี้เราต้องลงทะเบียนเข้าชมและเสียค่าไกด์นำทางรู้สึกว่าจะคณะละ  400  บาทนะ   พอดีผมลืมไปแล้วไม่แน่ใจใช่รึเปล่า
                     


                       น้ำตกผาดอกเสี้ยวมีทั้งหมด  7  ชั้น  จากจุดนี้เราจะไต่ความสูงจากชี้นบนสุดลงมาก่อน แล้วค่อย ๆ ลงมาทีละชั้น





                          น้ำตกตกลดหลั่นลงมาบนลานหิน  ชั้นบน ๆ จะไม่ได้สูงเท่าชั้นล่าง ๆ นะครับ   ทางเดินจะลัดเลาะริมน้ำตกลงไปทีละชั้น   เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยวของที่นี่เป็นเส้นทางเดินชมป่าระยะสั้นที่ขายดีอีกเส้นทางหนึ่งไปแพ้ทางเดินไปกิ่วแม่ปาน   ผมเห็นจะมีนักท่องเที่ยวฝรั่งและเกาหลีใต้ชอบมาเดินกันนะครับ   บางส่วนมาเองบางส่วนมากับกรุ๊ปทัวร์ที่มาจากเชียงใหม่   





                          ชั้นยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปน้ำตกจะเป็นชั้นล่างนะครับที่จะมีราวสะพานไม้ทอดพาดผ่านหน้าน้ำตกเลย   จุดนี้เป็นมุมมหาชนที่เคยเป็นฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องรักจังมาแล้ว   เป็นมุมที่สวยของน้ำตกเลยนะครับ   ผมเองก็ไม่พลาดเช่นกันให้ไกด์ส่วนตัวเราเล็งถ่ายภาพให้ไปหลายแชะ   รู้สึกไกด์ท้องถิ่นเราจะรู้มุมกล้องดีคงช่ำชองการถ่ายภาพจุดนี้แล้ว  จึงรู้ว่าตัวเองต้องยืนถ่ายจุดไหน  เราต้องยืนตรงไหนถ่ายจึงจะสวย
                          เสร็จจากการเที่ยวชมน้ำตกผาดอกเสี้ยวแล้ว  ผมก็ขี่รถลงดอยไปเที่ยวชมน้ำตกรายทางต่อ  น้ำตกต่อไปที่ขี่รถไปชมคือ  น้ำตกวชิรธาร



                             น้ำตกวชิรธารเป็นอีกน้ำตกงามแห่งหนึ่งบนดอยอินทนนท์ที่ควรแวะมาชมนะครับ   ทางเข้าน้ำตกเข้ามาจากถนนหลักไม่ลึกใกล้มาก  โดยทางแยกเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือถ้าเราขี่รถลงมาจากบนยอดดอย



 
                              ยิ่งมาชมน้ำตกในช่วงต้นฤดูหนาวยามนี้น้ำใสไหลแรงถูกใจผมจริง ๆ  นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะฝรั่งก็มาชมน้ำตกแห่งนี้กันมาก   แสดงให้เห็นว่าน้ำตกแห่งนี้มีชื่อเสียงได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติกันมากแล้ว    น้ำตกแห่งนี้ครั้งก่อน ๆ ที่ผมเคยมาชม  2  ครั้งก็  15  ปี  และ 20 ปีที่แล้ว  ยังไม่เคยเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวกันเลย  เจอแต่คนไทยนะครับ   อย่างงี้ก็เป็นดัชนีชี้วัดว่า ดอยอินทนน์เป็นหนึ่งในแลนมาร์คที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มให้ความสนใจ  เพราะความสวยงามของธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์และการเดินทางที่สะดวกสบายไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเช้ากลับเย็นได้สบาย ๆ  จึงตอบโจทย์การท่องเที่ยวอีกหนึ่งวันของเมืองเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี



                 
                             ต่อมาผมขี่รถไปชม  น้ำตกสิริธาร   อีกหนึ่งน้ำตกงามที่อยู่ใกล้กับน้ำตกวชิรธาร  



                             จากจุดจอดรถริมถนนหลักเดินตามบันไดลงมาไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกสิริธาร  เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ตกจากหน้าผาสูง  แต่เราไม่สามารถเข้าไปน้ำตกใกล้ ๆ ได้นะครับ   ทางอุทยานเค้าทำเป็นระเบียงยื่นไปในการชมวิวน้ำตก   การชมน้ำตกได้มุมไกลเลยทำให้น้ำตกแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชมกันน้อยกว่าน้ำตกวชิรธารเมื่อกี้นี้




                              ต่อมาผมขี่รถไปชม  นาข้าวที่บ้านแม่กลางหลวง   ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกสิริธาร  



                              บ้านแม่กลางหลวงเป็นหมู่บ้านชุมชนชาวเขาอีกแห่งบนดอยอินทนนท์   ที่หมู่บ้านแห่งนี้นอกจากจะโด่งดังเรื่องนาข้าวแล้วยังมีที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย   




                                ผมมาชมนาข้าวที่บ้านแม่กลางหลวงในช่วงต้นพฤศจิกายน   ข้าวในท้องนากำลังเก็บเกี่ยวแล้ว   บางนาก็เกี่ยวข้าวไปแล้วเหลือแต่ตอข้าว  ทำให้วิวที่เห็นกลายเป็นท้องนาสีเหลืองไปหมด  ดูแล้วก็สวยไปอีกแบบแตกต่างจากนาข้าวสีเขียวชอุ่มช่วงฤดูฝนไปเลย
                                แม้นาข้าวจะได้รับการเก็บเกี่ยวจนเหลือเพียงตอข้าวสีเหลืองอร่ามทั่วท้องทุ่ง  แต่ก็ยังมีกรุ๊ปทัวร์พานักท่องเที่ยวต่างชาติมาถ่ายรูปแวะชมที่นี่กันอยู่   ตอนผมไปชมก็เห็นกลุ่มนักท่องเทื่ยวชาวจีนแวะมาชมนาข้าวที่นี่กันโดยมาเป็นกรุ๊ปทัวร์  แต่พวกเค้าชอบแค่ประเดี๋ยวประด๋าวก็ออกไป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่