ตอนแรกดิฉันก็ผ่านๆกับดราม่านี้นะคะ ไม่ใช่ไม่สนใจแต่คือ...เบื่อ
ดราม่าเรื่องเดิมๆ วนเวียนกันอยู่แค่นี้ล่ะค่ะประเทศไทย กับดราม่า MV เที่ยวไทยมีเฮ
จนเมื่อกี้เลื่อนนิวฟีดไปเจอการท้าพนันขันต่อที่ดูน่าสนุกเชียวค่ะ
แหม่ วงเงินเดิมพันสูงตั้ง 1 ล้านบาท ดิฉันก็สนใจเป็นธรรมดา
ต้นเหตุก็มาจาก MV เที่ยวไทยมีเฮ ของคุณเก่ง ธชย หรือ เก่ง The Voice
เผื่อใครยังไม่ดูก็ตามนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้กระแสดราม่าก็โหมกระพือ เมื่อขาประจำอย่าง ลัดดา ตั้งสุภาชัย
(หล่อนเคยมีวีกรรมอะไรไว้ก็ลองหาดูค่ะ ดิฉันจำขึ้นใจ)
ออกไปร้องเรียนกับวิทยาลัยนาฎศิลป์ ตามข่าวด้านล่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที หลังจากมีข่าวว่า น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร เข้าร้องเรียนต่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) เรื่องความไม่เหมาะสมของมิวสิควิดีโอเพลง ‘เที่ยวไทยมีเฮ’ ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยได้เก่ง เดอะวอยซ์ – ธชย ประทุมวรรณ ผู้เคยนำศิลปะการแสดงไทยไปคว้า 27 รางวัลจาก World Championship of Performing Art 2016 มาร้องร่วมกับ ฟิล์ม – บงกช เจริญธรรม
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ให้เหตุผลว่า ในเอ็มวีที่กำกับโดย อ๊อด – บัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยนั้น มีการนำตัวละคร ‘ทศกัณฑ์’ จากวรรณคดีเรื่อง ‘รามเกียรติ’ ไปเที่ยวทำกิจกรรมต่างๆ เช่น หยอดขนมครก, ขับโกคาร์ท, ถ่ายเซลฟี่, ขี่บั้งไฟ ฯลฯ ซึ่งดูแล้วไม่เหมาะสม เพราะทศกัณฑ์เป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งปวง เป็นตัวละครที่สง่างาม น่าเกรงขาม ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่มีคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นผู้ดูแลได้เชิญทั้ง 2 ฝ่าย คือ ผู้ผลิตมิวสิควีดีโอ ผู้กำกับ และผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มาหาทางออกร่วมกัน
จากนั้นในเฟซบุ๊กของ น.ส. ลัดดา ได้กล่าวถึงผลการประชุมว่า ทางผู้ผลิตยอมรับในความผิดพลาดเพราะขาดความรู้ในมิติวัฒนธรรม ยินดีปรับปรุง และหากปรับแก้แล้วยังทำให้เกิดความเสียหายกับวัฒนธรรมของชาติ ก็ยินดีให้ไม่ออกอากาศมิวสิควีดีโอดังกล่าว รวมถึงสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลปจะเร่งทำจรรยาบรรณวิชาชีพเพื่อปกป้องมรดกของชาติ อย่าง นาฏศิลป์ชั้นสูงอย่างยั่งยืน
ทางด้านอ๊อด บัณฑิต ผู้กำกับเอ็มวีได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก บัณฑิต ทองดี ว่า “ชีวิตวันนี้ช่างขัดแย้งในตัวเองสิ้นดี ช่วงเช้าเข้าประชุมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมรับข้อกล่าวหาทำลายวัฒนธรรมชาติที่พายักษ์เที่ยว ช่วงสายมาร่วมประชุมคัดเลือกหนังไทยไปออสการ์ กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งตราหน้าว่าเป็นพวกยึดมั่นถือมั่นและหลงไหลในวัฒนธรรมมากเกินไปที่เลือกหนังอาบัติไปออสการ์ ตกลงผมเป็นใครในสายตาคุณ #เลือกหนังไทยก็มีเฮ”
นอกจากนั้นยังได้โพสต์ว่า “คุณค่าทางวัฒนธรรมควรเก็บไว้แค่บนหิ้งหรือไร นำมาต่อยอดเพื่อประโยชน์ของชาติก็ไมไ่ด้ ถูกสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กับ สคบ.เรียกไปขู่ว่าจะฟ้องโทษฐานทำลายวัฒนธรรมชาติ #เที่ยวไทยมีเฮจริงๆ”
ก่อนที่ภายหลังผู้กำกับคนดังจะมาชี้แจงแก้ไขว่า “สืบเนื่องจากโพสต์เมื่อวานครับ ขอแก้ข่าวเล็กน้อยว่าหน่วยงานที่เรียกผมไปคาดโทษไม่ใช่สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมครับ มีการเข้าใจผิดเนื้องจากบุคลากรมี่มาพูดคุยเป็นคนที่เคยทำงานที่สำนักนี้ กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ”
อย่างไรก็ตามหลังจากมีกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นก็ได้มีผู้แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก โดยบางคนเห็นด้วยว่าการนำทศกัณฑ์ไปทำกิจกรรมต่างๆ อย่างในเอ็มวีนั้นไม่เหมาะสม ขณะที่อีกหลายคนกลับเห็นว่า การวางศิลปวัฒนธรรมไทยไว้แต่บนหิ้งจะทำให้ไม่มีใครแก้แตะ และในที่สุดศิลปวัฒนธรรมนั้นก็จะหายไปในที่สุด
http://www.matichon.co.th/news/293046
ดิฉันขอพูดอย่างแรกเกี่ยวกับตัว MV เที่ยวไทยมีเฮ
ชอบบบบบบบบบบค่ะ
เพลงเพราะ ภาพสวย นำเสนอมุมมองการท่องเที่ยวท้องถิ่นของไทยได้อย่างดี
มีกิจกรรมที่หลากหลาย ที่ไม่ได้มีแต่ วัด หรือสถานที่ประวัติศาสตร์
หรือเอาแต่ยัดเยียด "ความเป็นไทย" จนเอียน ซึ่งมักเป็นการนำเสนอมุมมองการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ
ดังนั้น MV นี้ถูกใจดิฉันมากค่ะ สมควรเป็นมากกว่าการโฆษณาในประเทศ ควรไประดับนานาชาติด้วย!
ดิฉันได้ไปคลุกคลีอยู่วงการท่องเที่ยวมาปีกว่าๆ เพื่อนฝูงนานาชาติก็เยอะ
เที่ยววัด ดูรำไทย อะไรนั่นสนใจกันไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ
เขาบอกลาว พม่า ก็มี (ส่วนใหญ่ฝรั่งจะพูดแบบนี้ เพราะพวกนี้มาเที่ยวทีไปหลายประเทศ)
หนักหน่อยก็พวกสนใจแต่พัทยา พัฒน์พงษ์นู่น
แต่ MV นี้มันยิงตรงจุด ทั้งคนไทยคนต่างชาติตรงที่มัน
นำเสนอ "ความโบราณของไทย" กับ "แหล่งท่องเที่ยวไทยสมัยใหม่" ได้อย่างลงตัว
นี่เป็นความร่วมสมัยที่ดึงดูดคนทุกเพศทุกวัยทุกเชื้อชาติ
ว่าเมืองไทยมันสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยว มีกิจกรรมมากมายที่เหมาะกับพวกเขา
เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว วัฒนธรรมไทยเก่าๆก็ได้โชว์
ขอร่วมสมัยก็ได้เห็นแต่น่าเสียดายที่คนอนัรุกษ์นิยมจำนวนมากมองไม่เห็น
จะขอติ MV นี้ก็ตรงเนื้อหา ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการบอกว่า คนไทยต้องเที่ยวไทยสิ
คนไทยต้องใช้ของไทยสิ คำพวกนี้สำหรับดิฉัน มันดูไร้เหตุผลและโง่เง่า
เพราะเกิดเป็นคนไทยหรอดิฉันต้องเที่ยวไทย?
ถ้าสถานที่มันสวยมันน่าเที่ยวมันมีคุณค่าดิฉันก็ไปเองค่ะ
คุณไปสร้างไปทำสาธารณูปโภคให้รองรับละกัน
ของไทยถ้ามันดีมันคุ้มค่า ดิฉันก็ซื้อเองค่ะ
ไม่ต้องมาบอกว่าคนไทยต้องใช้อะไรหรอก
อย่างที่สอง คือ การท้าพนันของคุณ Ming Maithoe
ดิฉันน่ะไม่เป็นมีปัญหาเลยกับการพนัน มันก็เหมือนการแข่งขัน
ให้ทุกคนเข้ามาแข่งขันกัน แต่ต้องดูด้วยว่าบริบทและพื้นฐานของการพนันคืออะไร?
1. ฝ่ายหนึ่งถูกขู่ใช้อำนาจรัฐจัดการ
2. ฝ่ายหนึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าลบหลู่ดูหมิ่นวัฒนธรรมไทย
ซึ่งการวิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งสาธารณะทุกสิ่งแหล่ะค่ะ
แต่พวกอนุรักษ์นิยมพวกนี้ไม่ได้แค่วิจารณ์ธรรมดา นอกจากเหตุผลห่วยแตกแล้ว
พวกนี้ยังพร้อมใช้หรือสนับสนุนการใช้อำนาจรัฐเพื่อปิดปากอีกฝ่าย (ตามข้อ 1)
ดังนั้นการพนันครั้งนี้ มันจึงอยู่บนฐานที่ว่ามีขึ้น
เพื่ออาศัยเสียงส่วนใหญ่เบียดบังเสียงส่วนน้อย
หากผู้ท้าพนันชนะ ผลชนะครั้งนี้จะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยม
นำไปใช้เพื่อบอกว่านี่ไงสังคมไม่สนับสนุน
และนำมาต่อต้านหรืออาจตอกฝาโลงการประยุกต์วัฒนธรรมร่วมสมัย
คุณต้องมองลึกๆว่าผิวเผินมันเหมือนการใช้
หลักการประชาธิปไตย ใครนิยมกว่าก็ชนะ
แต่ประทานโทษประชาธิปไตยประกอบสร้างจากหลักการอีกหลักการมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ เสรีภาพที่จะแสดงออก และสิทธิที่จะแสดงออก
(โดยที่ไม่ได้ไปเบียดเบียนเสรีภาพใคร)
ดังนั้น ผู้ทำ MV เที่ยวไทยมีเฮ ไม่ว่าคุณจะรับค้าแล้วแพ้หรือไม่
แต่ขอให้ยืนหยัดต่อไปค่ะ ต่อให้ไม่มีใครสนับสนุนคุณ
แต่นี่คือ สิทธิและเสรีภาพคุณที่ไม่อาจถูกปฏิเสธได้
อย่างที่สาม เรื่องการแช่แข็งวัฒนธรรม
บ้านเรานะปากสวยหรู เอาแต่บอกสร้างจิตสำนึกให้เด็กไทยอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม
นั่นไทยแท้ นี่ก็ไทยแท้ ทำอาหารไทยไม่ตรงสูตรยังโดนด่าว่าไม่รักชาติ
เอาโขนมาทำหนังผีก็โดนด่า เอายักษ์มาทำ MV ก็โดนด่า
(อินเดียคงงง บ๊ะ นั่นมันวรรณคดีกรูมิใช่หรือ)
คือ บ้านเราเอาแต่สร้างวาทกรรม ยัดเยียดและกดดันให้คนในชาติต้องทำตาม
โดยปราศจากรับความเห็นที่แตกต่าง รวมถึงการหยิบวัฒนธรรมประเพณีเก่าๆมาทำให้ร่วมสมัย
ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ล้วนมีวัฒนธรรมเก่าแก่ทั้งนั้น เขาก็หยิบไปผสมดัดแปลงง จนกลายเป็นสินค้าส่งออกไปทั่วโลก
ขนาดไอ้กัน ประเทศเกิดใหม่สองร้อยปี(แหม่อายุก็เท่ากับรัตนโกสินทร์เลยเทอ) ก็ยังส่งออกวัฒนธรรมไปทั่วโลกได้
อาทิ วัฒนธรรมเพลง, อาหารเบอร์เกอร์ ไก่ทอด, ภาพยนตร์ซีรีย์การใช้ชีวิตแบบเมกัน ก็ล้วนเป็นวัฒนธรรมเมกันส่งออกหมด
แต่พวกหลายคนคงไม่รู้สินะ เพราะชินแต่ว่าวัฒนธรรม = เก่าแก่/ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งๆที่วัฒนธรรมไทยมากมายที่พยายามบังคับคนในชาติตลอดจนเผยแพร่ให้ต่างชาติดู
ล้วน เป็นของชนชั้นสูง ขาดการเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านจริงๆ
อย่างเช่น ชุดไทย รณรงค์กันเหลือเกินทั้งๆที่มันใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
มีแต่คนชนชั้นสูงใส่สมัยก่อนทั้งนั้น ชาวบ้านที่ไหนใส่
ต่างกับกิโมโนที่มันอยู่และกลายสภาพจนเป็น mass
หรืออย่างการรำโขน, รามเกียรติ์ เราก็ประยุกต์มาจากอินเดียบ้าง ขอมบ้าง
แล้วก็บอกว่านี่คือไทยแท้ เป็นของสูง แช่แข็งไว้อีก
เราไม่ยอมรับความจริงกันเลยค่ะว่า วัฒนธรรมที่ควรเป็นอยู่คือวัฒนธรรมที่ปรับเปลี่ยน ถ่ายทอดไปยังคนทุกชนชั้นได้
นักท่องเที่ยวมาไทยถามหาผัดไทยกันให้วุ่น นี่ก็พึ่งเกิดสมัยจอมพล ป.
ใครมาก็อยากนั่งตุ๊กต๊ก เนี่ยพวกเนี้ยคือวัฒนธรรมเหมือนกัน วัฒนธรรมก็คือวิถีชีวิตคนท้องถิ่น
แต่มันไม่สวยใช่ไหมล่ะ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมล่ะ?
สุดท้าย เชิญชวนทุกคนช่วยกันสนับสนุน MV นี้ ไม่ชอบก็ตำหนิได้ ด่าได้
แต่ได้โปรดอย่าไปสนับสนุนหรือทำให้ความแตกต่างต้องอยู่อย่างลำบากเลยค่ะ
วัฒนธรรมประเพณี เป็นวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ
ถ้าคนรุ่นใหม่เขาเห็นว่าดี ตอบสนองต่อชีวิตเขาได้ มันก็จะได้รับการสืบทอดต่อไป
หากไม่ใช่ ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตพวกเขา
แต่หากทำไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่จะสืบทอดมันได้ก็คือ หนังสือเรียนประวัติศาสตร์
ที่คุณรุ่นหลังทำได้แค่ อ่านและมองมัน เท่านั้นค่ะ
ตกลงแล้ววัฒนธรรมไทยมีไว้ให้กราบไหว้ใช่ไหมคะ?
ดราม่าเรื่องเดิมๆ วนเวียนกันอยู่แค่นี้ล่ะค่ะประเทศไทย กับดราม่า MV เที่ยวไทยมีเฮ
จนเมื่อกี้เลื่อนนิวฟีดไปเจอการท้าพนันขันต่อที่ดูน่าสนุกเชียวค่ะ
แหม่ วงเงินเดิมพันสูงตั้ง 1 ล้านบาท ดิฉันก็สนใจเป็นธรรมดา
ต้นเหตุก็มาจาก MV เที่ยวไทยมีเฮ ของคุณเก่ง ธชย หรือ เก่ง The Voice
เผื่อใครยังไม่ดูก็ตามนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้กระแสดราม่าก็โหมกระพือ เมื่อขาประจำอย่าง ลัดดา ตั้งสุภาชัย
(หล่อนเคยมีวีกรรมอะไรไว้ก็ลองหาดูค่ะ ดิฉันจำขึ้นใจ)
ออกไปร้องเรียนกับวิทยาลัยนาฎศิลป์ ตามข่าวด้านล่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดิฉันขอพูดอย่างแรกเกี่ยวกับตัว MV เที่ยวไทยมีเฮ
ชอบบบบบบบบบบค่ะ
เพลงเพราะ ภาพสวย นำเสนอมุมมองการท่องเที่ยวท้องถิ่นของไทยได้อย่างดี
มีกิจกรรมที่หลากหลาย ที่ไม่ได้มีแต่ วัด หรือสถานที่ประวัติศาสตร์
หรือเอาแต่ยัดเยียด "ความเป็นไทย" จนเอียน ซึ่งมักเป็นการนำเสนอมุมมองการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ
ดังนั้น MV นี้ถูกใจดิฉันมากค่ะ สมควรเป็นมากกว่าการโฆษณาในประเทศ ควรไประดับนานาชาติด้วย!
ดิฉันได้ไปคลุกคลีอยู่วงการท่องเที่ยวมาปีกว่าๆ เพื่อนฝูงนานาชาติก็เยอะ
เที่ยววัด ดูรำไทย อะไรนั่นสนใจกันไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ
เขาบอกลาว พม่า ก็มี (ส่วนใหญ่ฝรั่งจะพูดแบบนี้ เพราะพวกนี้มาเที่ยวทีไปหลายประเทศ)
หนักหน่อยก็พวกสนใจแต่พัทยา พัฒน์พงษ์นู่น
แต่ MV นี้มันยิงตรงจุด ทั้งคนไทยคนต่างชาติตรงที่มัน
นำเสนอ "ความโบราณของไทย" กับ "แหล่งท่องเที่ยวไทยสมัยใหม่" ได้อย่างลงตัว
นี่เป็นความร่วมสมัยที่ดึงดูดคนทุกเพศทุกวัยทุกเชื้อชาติ
ว่าเมืองไทยมันสวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยว มีกิจกรรมมากมายที่เหมาะกับพวกเขา
เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว วัฒนธรรมไทยเก่าๆก็ได้โชว์
ขอร่วมสมัยก็ได้เห็นแต่น่าเสียดายที่คนอนัรุกษ์นิยมจำนวนมากมองไม่เห็น
จะขอติ MV นี้ก็ตรงเนื้อหา ดิฉันไม่เห็นด้วยกับการบอกว่า คนไทยต้องเที่ยวไทยสิ
คนไทยต้องใช้ของไทยสิ คำพวกนี้สำหรับดิฉัน มันดูไร้เหตุผลและโง่เง่า
เพราะเกิดเป็นคนไทยหรอดิฉันต้องเที่ยวไทย?
ถ้าสถานที่มันสวยมันน่าเที่ยวมันมีคุณค่าดิฉันก็ไปเองค่ะ
คุณไปสร้างไปทำสาธารณูปโภคให้รองรับละกัน
ของไทยถ้ามันดีมันคุ้มค่า ดิฉันก็ซื้อเองค่ะ
ไม่ต้องมาบอกว่าคนไทยต้องใช้อะไรหรอก
อย่างที่สอง คือ การท้าพนันของคุณ Ming Maithoe
ดิฉันน่ะไม่เป็นมีปัญหาเลยกับการพนัน มันก็เหมือนการแข่งขัน
ให้ทุกคนเข้ามาแข่งขันกัน แต่ต้องดูด้วยว่าบริบทและพื้นฐานของการพนันคืออะไร?
1. ฝ่ายหนึ่งถูกขู่ใช้อำนาจรัฐจัดการ
2. ฝ่ายหนึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าลบหลู่ดูหมิ่นวัฒนธรรมไทย
ซึ่งการวิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งสาธารณะทุกสิ่งแหล่ะค่ะ
แต่พวกอนุรักษ์นิยมพวกนี้ไม่ได้แค่วิจารณ์ธรรมดา นอกจากเหตุผลห่วยแตกแล้ว
พวกนี้ยังพร้อมใช้หรือสนับสนุนการใช้อำนาจรัฐเพื่อปิดปากอีกฝ่าย (ตามข้อ 1)
ดังนั้นการพนันครั้งนี้ มันจึงอยู่บนฐานที่ว่ามีขึ้น
เพื่ออาศัยเสียงส่วนใหญ่เบียดบังเสียงส่วนน้อย
หากผู้ท้าพนันชนะ ผลชนะครั้งนี้จะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยม
นำไปใช้เพื่อบอกว่านี่ไงสังคมไม่สนับสนุน
และนำมาต่อต้านหรืออาจตอกฝาโลงการประยุกต์วัฒนธรรมร่วมสมัย
คุณต้องมองลึกๆว่าผิวเผินมันเหมือนการใช้ หลักการประชาธิปไตย ใครนิยมกว่าก็ชนะ
แต่ประทานโทษประชาธิปไตยประกอบสร้างจากหลักการอีกหลักการมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ เสรีภาพที่จะแสดงออก และสิทธิที่จะแสดงออก
(โดยที่ไม่ได้ไปเบียดเบียนเสรีภาพใคร)
ดังนั้น ผู้ทำ MV เที่ยวไทยมีเฮ ไม่ว่าคุณจะรับค้าแล้วแพ้หรือไม่
แต่ขอให้ยืนหยัดต่อไปค่ะ ต่อให้ไม่มีใครสนับสนุนคุณ
แต่นี่คือ สิทธิและเสรีภาพคุณที่ไม่อาจถูกปฏิเสธได้
อย่างที่สาม เรื่องการแช่แข็งวัฒนธรรม
บ้านเรานะปากสวยหรู เอาแต่บอกสร้างจิตสำนึกให้เด็กไทยอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม
นั่นไทยแท้ นี่ก็ไทยแท้ ทำอาหารไทยไม่ตรงสูตรยังโดนด่าว่าไม่รักชาติ
เอาโขนมาทำหนังผีก็โดนด่า เอายักษ์มาทำ MV ก็โดนด่า
(อินเดียคงงง บ๊ะ นั่นมันวรรณคดีกรูมิใช่หรือ)
คือ บ้านเราเอาแต่สร้างวาทกรรม ยัดเยียดและกดดันให้คนในชาติต้องทำตาม
โดยปราศจากรับความเห็นที่แตกต่าง รวมถึงการหยิบวัฒนธรรมประเพณีเก่าๆมาทำให้ร่วมสมัย
ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ล้วนมีวัฒนธรรมเก่าแก่ทั้งนั้น เขาก็หยิบไปผสมดัดแปลงง จนกลายเป็นสินค้าส่งออกไปทั่วโลก
ขนาดไอ้กัน ประเทศเกิดใหม่สองร้อยปี(แหม่อายุก็เท่ากับรัตนโกสินทร์เลยเทอ) ก็ยังส่งออกวัฒนธรรมไปทั่วโลกได้
อาทิ วัฒนธรรมเพลง, อาหารเบอร์เกอร์ ไก่ทอด, ภาพยนตร์ซีรีย์การใช้ชีวิตแบบเมกัน ก็ล้วนเป็นวัฒนธรรมเมกันส่งออกหมด
แต่พวกหลายคนคงไม่รู้สินะ เพราะชินแต่ว่าวัฒนธรรม = เก่าแก่/ศักดิ์สิทธิ์
ทั้งๆที่วัฒนธรรมไทยมากมายที่พยายามบังคับคนในชาติตลอดจนเผยแพร่ให้ต่างชาติดู
ล้วน เป็นของชนชั้นสูง ขาดการเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของชาวบ้านจริงๆ
อย่างเช่น ชุดไทย รณรงค์กันเหลือเกินทั้งๆที่มันใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
มีแต่คนชนชั้นสูงใส่สมัยก่อนทั้งนั้น ชาวบ้านที่ไหนใส่
ต่างกับกิโมโนที่มันอยู่และกลายสภาพจนเป็น mass
หรืออย่างการรำโขน, รามเกียรติ์ เราก็ประยุกต์มาจากอินเดียบ้าง ขอมบ้าง
แล้วก็บอกว่านี่คือไทยแท้ เป็นของสูง แช่แข็งไว้อีก
เราไม่ยอมรับความจริงกันเลยค่ะว่า วัฒนธรรมที่ควรเป็นอยู่คือวัฒนธรรมที่ปรับเปลี่ยน ถ่ายทอดไปยังคนทุกชนชั้นได้
นักท่องเที่ยวมาไทยถามหาผัดไทยกันให้วุ่น นี่ก็พึ่งเกิดสมัยจอมพล ป.
ใครมาก็อยากนั่งตุ๊กต๊ก เนี่ยพวกเนี้ยคือวัฒนธรรมเหมือนกัน วัฒนธรรมก็คือวิถีชีวิตคนท้องถิ่น
แต่มันไม่สวยใช่ไหมล่ะ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมล่ะ?
สุดท้าย เชิญชวนทุกคนช่วยกันสนับสนุน MV นี้ ไม่ชอบก็ตำหนิได้ ด่าได้
แต่ได้โปรดอย่าไปสนับสนุนหรือทำให้ความแตกต่างต้องอยู่อย่างลำบากเลยค่ะ
วัฒนธรรมประเพณี เป็นวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ
ถ้าคนรุ่นใหม่เขาเห็นว่าดี ตอบสนองต่อชีวิตเขาได้ มันก็จะได้รับการสืบทอดต่อไป
หากไม่ใช่ ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตพวกเขา
แต่หากทำไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่จะสืบทอดมันได้ก็คือ หนังสือเรียนประวัติศาสตร์
ที่คุณรุ่นหลังทำได้แค่ อ่านและมองมัน เท่านั้นค่ะ