แอบแฝงอยู่ในห้องเครื่องแป้งมาน้านแสนนาน วันนี้สาว 30+ ขออนุญาตแบ่งปันสิ่งที่ใช้เองแล้วชอบสำหรับคนผิวแห้งมาก หน้าสาก มีสิว เคยหน้าแพ้สเตียรอย แก่อีก โอ้ยชีวิต (ไม่สิ้นก้ดิ้นหาครีมกันไปสิคะ)
^^" ขอออกตัวก่อนคะ หากพิมพ์ผิด หรือใช้คำผิดก็ต้องขออภัยนะค่ะ ^^" และสิ่งที่แนะนำนี้ตามสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนะคร๊าฟ
... เวิ่นเว้ออออมานาน เข้าเรื่องเถิด ^^
สภาพผิว : ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งมาก ผิวขาดน้ำ มีสิวผดและสิวอุดตันขึ้น
ก่อนหน้านี้ เคยลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ใครว่าอะไรดีใช้หมด ตั้งแต่เค้าเตอร์แบรนด์ ยันรากหญ้า เป็นคนชอบอ่านกระทู้พันทิปมาก และชอบดูคลิปพวกบิ้วตี้บล็อคเกอร์มาก ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องเนาะ ว่าเค้าใช้จริงหรือไม่จริง เค้าว่าดีเราก็ซื้อตาม จนแพ้เละ (เมื่อก่อนผิวหน้าดีมากคะไม่เป็นไรเลยเป็นกระอย่างเดียว) ตอนนั้นยังไม่รู้คะว่าตัวเองแพ้อะไรในครีมหลายๆอย่างที่ใช้มา
พอหน้าพังเลยตัดสินใจหาหมอหน้า หมอบอกว่าผิวแห้งมาก แพ้สารสเตียรอย และให้ลองสังเกตของที่ใช้ดูว่ามีแอลกอฮอลล์หรือน้ำหอมมั้ยให้ค่อยๆหยุดทีละอย่าง ... จริงๆไม่ได้หยุดทีละอย่างคะ หยุดหมด ใช้แต่ครีมหมอ ใช้ครีมหมออยู่ 2 ปีได้คะ หน้ากลับมาดีขึ้นเยอะเลยใสกิ๊ก แต่ว่าเวลาอากาศเปลี่ยน เจอฝุ่น เจอแดด หน้าก็จะเปลี่ยนเลยคะ มีผดเม็ดเล็กๆๆๆๆๆเหมือนมีหนองด้วย ขึ้นรอบหน้ารอบปาก ตกใจมาก ไปหาหมอ หมอบอกว่ามันเป็นอาการเห่อของหน้า ให้ยามาทาเด่วก็หาย ... หายจริงๆ ยาอะไรจะวิเศษจัง (ตอนนั้นยังโง่อยู่คะ) พอผดขึ้นก็ใช้อีก ขึ้นอีกใช้อีก อยู่แบนี้มา 2 ปีแล้วก็ใช้ครีมหมอร้านนี้แหละคะ จนมีอยู่วันนึง ครีมหมอ อิตัวที่มันใช้ทาผดนี่แหละคะหมด ก็เลยไปซื้อแต่ยา พอดีวันนั้นมีพี่คนนึงเค้ามาซื้อนั่งข้างๆ เค้าก็ถามพนักงานว่าในยานี้มีสเตียรอยมั้ย ไอ้เราก็นึก เห้ย!! เราก็แพ้นะสเตียรอยหมอบอก เราเลยถามพนักงานบ้าง พนักงานก็บอกว่าตัวยานี้ผสมสเตียรอย อ้าวววววววววว แล้วมาให้ตรูใช้มั้ยอะ ตรูแพ้ หลังจากนั้นเลิกเลยคะ ไม่ใช้ทุกสิ่งอย่างจากที่นี้ เราขาดกัน
กลับมาบ้าน เปิดพันทิปด่วนๆ เค้าใช้อะไรกันบ้างแก้ยังไงกันบ้างกับผดผื่นแพ้สเตียรอย อ่านไปเรื่อย แล้วก็ลองไปเรื่อยๆด้วยคะ จนในที่สุด เราก็ค้นพบแล้วว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราพ้นจากหน้าไอ้ขี้แพ้สเตียรอยนี่ก็คือ เจลว่านหางจระเข้

วิธีใช้ : แช่ตู้เย็นไว้เลยนะคะ อาบน้ำ ล้างหน้าให้สะอาด เน้นว่าให้สะอาดนะคะ ล้างเสร็จใช้กระดาษทิชชูเช็ดหน้า ตามด้วยเจลตัวนี้เลยคะ ตอนที่เป็นผดผื่นสเตียรอย เราทาเยอะมากเลยคะ ทาแล้วนอนเลย ใช้แค่ตัวเดียวเลยนะคะ ตัวเดียวจริงๆ ผลคือ ประเสริฐ์มากคะ ของถูกและดี มันเหมาะกับหนังหน้าเรา 5555 ผดเริ่มหายคะ ผื่นเริ่มหาย แต่ต้องใช้เวลานะคะ อย่าเครียดนะคะ
พอหน้าสภาพหน้าเริ่มกลับมาโอเค ฟื้นจากผดผื่นสเตียรอย เราก็ทำการจัดการผิวหน้าที่แห้ง และสากกันเลยคะ ตามที่บอกไว้แต่แรกแล้วคือ เราแพ้แอลกอฮอล์ล เพราะทำให้หน้ายิ่งแห้งและผิวสากๆ (เราว่าคนผิวแห้งรอยละ 70 ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ลนะคะ) ซึ่งเราก็ค้นพบว่าตัวที่จะช่วยซ่อมผิวแห้งของเราได้ดี น่าจะเป็นพวกส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ (และราคาถูก ฮาาา) เราก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยเกี่ยวกับของใช้สำหรับสาวผิวแห้งจากห้องแป้งนี่แหละคะ ไปป่ะเจอทีเด็ดเข้า นั่นก็คือ "น้ำผึ้ง"
น้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ ฯลฯ (ก๊อปเค้ามาค่ะ แฮะๆ ประโยชน์เยอะมาก ลองไปหาในอากู๋กันนะค่ะ)
ต่อไปนี้จะเป็นของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับการบำรุงผิวแห้ง ผิวสาก ผิวขาดน้ำ
อันแรกเลย น้ำผึ้งสด น้ำผึ้งแท้ เอามามาส์กหน้า ช่วงไหนแห้งและโทรมก็จะมาส์กกับไข่แดง มาส์กอาทิตย์ละ 3-4 วัน ประมาณ 10-20 นาทีและล้างออก แนะนำให้เอาน้ำผึ้งเข้าตู้เย็นนะคะมันจะสบายยยยยมว๊ากกกตอนมาส์ก ความเย็นจะช่วยให้สดชื่นและปิดรูให้รูเล็กลงด้วยคะ (รูขุมขนนะคะ อย่าคิดถึงรูอื่น ^^") ผลคือ หน้าเริ่มนุ่มขึ้นคะ รู้สึกได้ว่าได้เติมน้ำให้ผิว แต่เรื่องสากนี่ยังไม่หายนะคะ (อันนี้ไม่มีรูปประกอบนะคะ ขวดใหญ่อะถ่ายไม่สวย แฮะๆ)
ตัวต่อมา sakino อันนี้เพื่อนเอามาให้ลองใช้ เค้าว่าผลิตที่ญี่ปุ่น นำเข้าไทย ทำมาจากยีสต์น้ำผึ้งและส่วนประกอบมาจากธรรมชาติล้วน ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอล ไร้ซึ่งสารเคมี คนท้องใช้ได้ มันน่าจะใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย เลยลองดู ผลคือเห้ยยยดีอะ หน้านุมเชียวดูมีน้ำมีนวล อย่างกับใช้กล้อง 360 เต็มกำลัง 555 ตัวนี้จะใช้แค่ตอนกลางคืนนะคะ เนื้อครีมข้นแต่ตอนทาลงที่หน้าแล้วมันจะเยิ้มๆหน่อย ถ้าใครไม่ชอบเหนอะๆก็ผ่านคะ แต่คนผิวแห้งและแพ้ง่ายอย่าอิฉันชอบบบบให้ 3 ผ่าน
อันนี้ก็มาส์กอีกแล้ว (เป็นคนบ้ามาส์กมาก^^") ซึ่งก็ยังคงมีส่วนผสมของน้ำผึ้งเป็นหลักอีกเช่นกัน มาส์กน้ำผึ้งของ Blossom อันนี้ก็ธรรมชาติล้วนอีกเหมือนกัน จะมีกลิ่นแบบน้ำผึ้งมะนาว เราจะใช้ตัวนี้สลับกับน้ำผึ้งแท้นะคะ เวลาขี้เกียจๆหรือเหนื่อยๆ จะใช้อันนี้เพราะมันแอบหอม เวลามาส์กเสร็จก็ล้างด้วยน้ำสะอาด และก็ทาครีมตามใจชอบ ตื่นเช้ามาจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกเกาหลีเลย โอ้ยหน้าจะดูผ่องๆ ฉ่ำๆ >< เลิศศศศ
ตัวต่อมาเป็นน้ำตบคะ ไม่เกี่ยวกับน้ำผึ้งละ อันนี้ทุกคนรู้จักกันดีไม่อธิบายมากนะคะ ^^ มันดี มันเริ่ด สำหรับเราแล้วมันช่วยให้หน้าชุ่มชื่นเติมน้ำให้ผิวแล้วก็ช่วยเรื่องสิวได้นิสนุง (สังเกตน้ำเหลือปริมๆจะหมดแล้ว แอบเสียดายตังยังไม่อยากซื้อ มันแพงจุง พยายามใช้ทีละน้อย 5555)
ตบต่อคะ เนื่องจากอายุเยอะ แก่อ่ะ 30 กลางๆ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง ฮื้อออออ .... ก็ต้องหาตัวช่วยเรื่องริ้วรอยที่ร่วงโรย เศร้า TT ผิวก็ฝื้นยาก แต่เราอย่าไปกัว ตบไปคะ ตบด้วยตัวนี้เลย ฮาดะสีแดง ตบไปเยอะๆ ตบเบาๆนะคะอย่าเอาความโกรธจากสามีมาลงที่หน้าเราเด็ดขาด ^^ ผลของตัวนี้ไม่รู้ว่าได้ผลไรนะคะ แต่รู้ว่าต้องใช้ มันก็ช่วยบำรุงผิวสำหรับคนวัย 30 อัพอะคะ ใช้แล้วไม่แพ้ด้วย
(รูปนี้เป็นขวดน้ำเงิน แต่ข้างในเป็นของสีแดงนะคะ คือแอบงกคะ ซื้อรีฟิลมาใส่ แฮะๆ)
ตัวนี้เพิ่งได้มาใหม่คะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง เกริ่นก่อน... ไม่รู้ใครเคยดูคลิปของพี่ลูกปัดมั้ย นางเป็นบิ้วตี้บล็อคเกอร์ ซึ่งเราชอบพี่เค้ามาก ดูไปขำไป ตลกโปกฮาทุกคลิป แล้วนางเป็นคนตรงมาก อันไหนใช้ดีใช้ไม่มีบอกตรงๆ (แต่ก็แล้วแต่สภาพหน้าคนนะคะ) แต่คือรวมๆแล้วนางมีเสน่ห์คะ ลองไปดูกันนะคะ ... มีคลิปนึงพี่เค้าก้มารีวิวอิตัวนี้คะ มันคือ Face วิตามินซีเข้มขน 21 % ซึ่งเค้าก็บอกนะว่าทางแบรนด์ส่งมาให้ใช้ นางใช้จริงๆคะ เราเชื่อใจนาง แล้วนางก้บอกว่ามันเห็นผลในเรื่องรูขุมขนที่เล็กลงอย่างชัดเจน ซึ่งตัวเราก็แอบรูขุมขุนใหญ่ ก็เลยลองซื้อมาดูคะ ...เห้ยยยยยแกร มันอะเมสซิ่งมากอ่ะ ตอนแรกบอกเลยว่าแอบไม่กล้าใช้ แต่ก้ซื้อมาแล้ว ลองทาแค่อิตรงรอยเหี่ยวกรอบปาก (เค้าเรียกว่าไรอะ มุมปาก คือเราเป็นคนขายของคะ เรายิ้มเยอะมันจะมีริ้วรอยตรงปากเยอะมากกกกกก) และก็ตรงที่แก้มใกล้ๆจมูก ไม่ได้ทั้งแก้มนะคะ ลองทาอยู่ 3 วันคะ คือรู้สึกได้ว่ารอยตรงปากมันดีขึ้นมันแบบฟูๆอะแต่ไม่ได้หายนะ ยังมีอยู่ ถ้าใช้ 3 วันแล้วหายเลยนี่ฉันก็กลัวอยู่นะ ส่วนเรื่องรูขุมขนก็เห็นผลนะคะ ก็เลยทาทั่วหน้าคะ และวันนี้เลยเพิ่งสัมผัสได้ว่า หน้าอิฉันที่มันสากๆ มันเนียนอะแกรรรรรรร ตื่นเต้นมากกกกกก สาบานว่าไม่ม้านะคะ อันนี้สัมผัสโดยตรงซื้อเองใช้เอง ซึ่งเราก็ตกใจนะ เราเลย line ไปถามแบรนด์ว่า ไอ้ตัวนี้มันผสมสารสเตียรอยมั้ยคะ (แอบกลัวเพราะมันเห็นผลไวมาก) ทางเค้าก็บอกว่าไม่มี ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายเลย ... อันนี้แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนนะ เราไม่รับประกันคนอื่นๆนะคะ แต่เราใช้แล้วคือมันเทพอ่ะ พอคะเยอะไปเด่วเค้าหาว่าม้า
ตัวสุดท้ายสำคัญที่สุดของที่สุด น้ำเปล่า เมื่อก่อนเป็นคนดื่มน้ำน้อยยยมากคะ วันนึงไม่ถึงขวดเล็ก เพราะว่ากินกาแฟเย็นตอนเช้า แล้วก็ยาวเลยคะกาแฟมันหวานมันเลยช่วยไม่ให้หิวน้ำ (มั้ง) แต่พอเราแก่ขึ้นคะ รู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองจากข้างในบ้าง เรื่องง่ายๆเลยที่ทำได้ก็คือลองกินน้ำเยอะๆดู มันเห็นผลเลยคะ จากคนผิวตัวแห้งๆ มันรู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้นคะ แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนนะคะ เพราะเราเพิ่งจะมาทำตอน 30 นี่เองที่เริ่มดื่มเยอะ สรุปคือดื่มวนไปคะ ดื่มไปเรื่อยๆทั้งวัน สำคัญสุดๆ สำหรับสาวผิวแห้ง ^^
เหนื่อยอ่าาาาาาาา .... ต่อเลยนะคะ ไม่อยากค้างคา
... ส่วนเรื่องสิว ใช้ 2 ตัวที่รู้จักกันดีคือ benzac 5% และ differin
benzac ทาก่อนล้างหน้า คือก่อนทาต้องทำความสะอาดหน้าในระดับ 1 ก่อนนะคะ ทิ้งไว้ 5-10 นาทีพอ กลัวหน้าแสบหน้าแห้ง แล้วก็ล้างให้สะอาด
เสร็จแล้วก็จะทาครีมที่ช่วยไม่ให้ผิวแห้ง หรือไม่ก็มาส์กหน้าแล้วก็ทาครีมต่อ จนถึงเวลาตัดใจจากมือถือได้และพร้อมปิดทีวี ก็ทา diff คะ บางๆนะคะเสร็จแล้วก้ปิดไฟด่วนๆเลยคะ เพราะมันไวต่อแสงเดี๋ยวหน้าจะกระดำกระด่าง ^^ เรื่องของการกำจัดสิวอุดตันและสิวผดก็มีประมาณนี้คะ ^^ ออ สำหรับสาวผิวแห้งที่มีสิวนะคะ เราขอแนะนำอย่าไปทายาติดๆกันทุกวัน เราทาวันเว้นวันลืมวัน ใช้เวลาคะทุกอย่าง เราผิวแห้งแล้วพวกนี้มันกัดหน้า เด่วผิวจะยิ่งเสีย
ปล. ความรู้นี้ได้มาจากบล็อคเกอร์เรื่องสิวหลายๆคนนะคะ คือไม่อยากให้ใช้ clinda m เพราะมันเป็นยาสามัญประจำบ้าน ใช้ไปนานๆจะทำให้หน้าดื้อยาได้ ดังนั้นเลี่ยงใช้ได้ก็ดีคะ ^^
จบ ปิ้ง >< ไปแล้ววว ... ขอบคุณที่พยายามทนอ่านกันนะคะ ยาวเชียว ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ รอบหน้าถ้าโอกาสดีจะมาแก้ตัวใหม่พร้อมของเด็ดๆใหม่ๆนะค่ะ
ขอบคุณความรู้จากสาวห้องแป้งทุกคนเลย ^^ ชอบห้องนี้มาก ฝันดีคร่าทุกคน
[CR] รีวิวของใช้เอง จากผิวแห้งผาก + สาก + สิว + แพ้สเตียรอย
^^" ขอออกตัวก่อนคะ หากพิมพ์ผิด หรือใช้คำผิดก็ต้องขออภัยนะค่ะ ^^" และสิ่งที่แนะนำนี้ตามสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนะคร๊าฟ
... เวิ่นเว้ออออมานาน เข้าเรื่องเถิด ^^
สภาพผิว : ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งมาก ผิวขาดน้ำ มีสิวผดและสิวอุดตันขึ้น
ก่อนหน้านี้ เคยลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ใครว่าอะไรดีใช้หมด ตั้งแต่เค้าเตอร์แบรนด์ ยันรากหญ้า เป็นคนชอบอ่านกระทู้พันทิปมาก และชอบดูคลิปพวกบิ้วตี้บล็อคเกอร์มาก ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องเนาะ ว่าเค้าใช้จริงหรือไม่จริง เค้าว่าดีเราก็ซื้อตาม จนแพ้เละ (เมื่อก่อนผิวหน้าดีมากคะไม่เป็นไรเลยเป็นกระอย่างเดียว) ตอนนั้นยังไม่รู้คะว่าตัวเองแพ้อะไรในครีมหลายๆอย่างที่ใช้มา
พอหน้าพังเลยตัดสินใจหาหมอหน้า หมอบอกว่าผิวแห้งมาก แพ้สารสเตียรอย และให้ลองสังเกตของที่ใช้ดูว่ามีแอลกอฮอลล์หรือน้ำหอมมั้ยให้ค่อยๆหยุดทีละอย่าง ... จริงๆไม่ได้หยุดทีละอย่างคะ หยุดหมด ใช้แต่ครีมหมอ ใช้ครีมหมออยู่ 2 ปีได้คะ หน้ากลับมาดีขึ้นเยอะเลยใสกิ๊ก แต่ว่าเวลาอากาศเปลี่ยน เจอฝุ่น เจอแดด หน้าก็จะเปลี่ยนเลยคะ มีผดเม็ดเล็กๆๆๆๆๆเหมือนมีหนองด้วย ขึ้นรอบหน้ารอบปาก ตกใจมาก ไปหาหมอ หมอบอกว่ามันเป็นอาการเห่อของหน้า ให้ยามาทาเด่วก็หาย ... หายจริงๆ ยาอะไรจะวิเศษจัง (ตอนนั้นยังโง่อยู่คะ) พอผดขึ้นก็ใช้อีก ขึ้นอีกใช้อีก อยู่แบนี้มา 2 ปีแล้วก็ใช้ครีมหมอร้านนี้แหละคะ จนมีอยู่วันนึง ครีมหมอ อิตัวที่มันใช้ทาผดนี่แหละคะหมด ก็เลยไปซื้อแต่ยา พอดีวันนั้นมีพี่คนนึงเค้ามาซื้อนั่งข้างๆ เค้าก็ถามพนักงานว่าในยานี้มีสเตียรอยมั้ย ไอ้เราก็นึก เห้ย!! เราก็แพ้นะสเตียรอยหมอบอก เราเลยถามพนักงานบ้าง พนักงานก็บอกว่าตัวยานี้ผสมสเตียรอย อ้าวววววววววว แล้วมาให้ตรูใช้มั้ยอะ ตรูแพ้ หลังจากนั้นเลิกเลยคะ ไม่ใช้ทุกสิ่งอย่างจากที่นี้ เราขาดกัน
กลับมาบ้าน เปิดพันทิปด่วนๆ เค้าใช้อะไรกันบ้างแก้ยังไงกันบ้างกับผดผื่นแพ้สเตียรอย อ่านไปเรื่อย แล้วก็ลองไปเรื่อยๆด้วยคะ จนในที่สุด เราก็ค้นพบแล้วว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราพ้นจากหน้าไอ้ขี้แพ้สเตียรอยนี่ก็คือ เจลว่านหางจระเข้
วิธีใช้ : แช่ตู้เย็นไว้เลยนะคะ อาบน้ำ ล้างหน้าให้สะอาด เน้นว่าให้สะอาดนะคะ ล้างเสร็จใช้กระดาษทิชชูเช็ดหน้า ตามด้วยเจลตัวนี้เลยคะ ตอนที่เป็นผดผื่นสเตียรอย เราทาเยอะมากเลยคะ ทาแล้วนอนเลย ใช้แค่ตัวเดียวเลยนะคะ ตัวเดียวจริงๆ ผลคือ ประเสริฐ์มากคะ ของถูกและดี มันเหมาะกับหนังหน้าเรา 5555 ผดเริ่มหายคะ ผื่นเริ่มหาย แต่ต้องใช้เวลานะคะ อย่าเครียดนะคะ
พอหน้าสภาพหน้าเริ่มกลับมาโอเค ฟื้นจากผดผื่นสเตียรอย เราก็ทำการจัดการผิวหน้าที่แห้ง และสากกันเลยคะ ตามที่บอกไว้แต่แรกแล้วคือ เราแพ้แอลกอฮอล์ล เพราะทำให้หน้ายิ่งแห้งและผิวสากๆ (เราว่าคนผิวแห้งรอยละ 70 ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ลนะคะ) ซึ่งเราก็ค้นพบว่าตัวที่จะช่วยซ่อมผิวแห้งของเราได้ดี น่าจะเป็นพวกส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ (และราคาถูก ฮาาา) เราก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยเกี่ยวกับของใช้สำหรับสาวผิวแห้งจากห้องแป้งนี่แหละคะ ไปป่ะเจอทีเด็ดเข้า นั่นก็คือ "น้ำผึ้ง"
น้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรุกโทสกับกลูโคส และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี เป็นต้น และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ดูมีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติ ฯลฯ (ก๊อปเค้ามาค่ะ แฮะๆ ประโยชน์เยอะมาก ลองไปหาในอากู๋กันนะค่ะ)
ต่อไปนี้จะเป็นของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับการบำรุงผิวแห้ง ผิวสาก ผิวขาดน้ำ
อันแรกเลย น้ำผึ้งสด น้ำผึ้งแท้ เอามามาส์กหน้า ช่วงไหนแห้งและโทรมก็จะมาส์กกับไข่แดง มาส์กอาทิตย์ละ 3-4 วัน ประมาณ 10-20 นาทีและล้างออก แนะนำให้เอาน้ำผึ้งเข้าตู้เย็นนะคะมันจะสบายยยยยมว๊ากกกตอนมาส์ก ความเย็นจะช่วยให้สดชื่นและปิดรูให้รูเล็กลงด้วยคะ (รูขุมขนนะคะ อย่าคิดถึงรูอื่น ^^") ผลคือ หน้าเริ่มนุ่มขึ้นคะ รู้สึกได้ว่าได้เติมน้ำให้ผิว แต่เรื่องสากนี่ยังไม่หายนะคะ (อันนี้ไม่มีรูปประกอบนะคะ ขวดใหญ่อะถ่ายไม่สวย แฮะๆ)
ตัวต่อมา sakino อันนี้เพื่อนเอามาให้ลองใช้ เค้าว่าผลิตที่ญี่ปุ่น นำเข้าไทย ทำมาจากยีสต์น้ำผึ้งและส่วนประกอบมาจากธรรมชาติล้วน ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอล ไร้ซึ่งสารเคมี คนท้องใช้ได้ มันน่าจะใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย เลยลองดู ผลคือเห้ยยยดีอะ หน้านุมเชียวดูมีน้ำมีนวล อย่างกับใช้กล้อง 360 เต็มกำลัง 555 ตัวนี้จะใช้แค่ตอนกลางคืนนะคะ เนื้อครีมข้นแต่ตอนทาลงที่หน้าแล้วมันจะเยิ้มๆหน่อย ถ้าใครไม่ชอบเหนอะๆก็ผ่านคะ แต่คนผิวแห้งและแพ้ง่ายอย่าอิฉันชอบบบบให้ 3 ผ่าน
อันนี้ก็มาส์กอีกแล้ว (เป็นคนบ้ามาส์กมาก^^") ซึ่งก็ยังคงมีส่วนผสมของน้ำผึ้งเป็นหลักอีกเช่นกัน มาส์กน้ำผึ้งของ Blossom อันนี้ก็ธรรมชาติล้วนอีกเหมือนกัน จะมีกลิ่นแบบน้ำผึ้งมะนาว เราจะใช้ตัวนี้สลับกับน้ำผึ้งแท้นะคะ เวลาขี้เกียจๆหรือเหนื่อยๆ จะใช้อันนี้เพราะมันแอบหอม เวลามาส์กเสร็จก็ล้างด้วยน้ำสะอาด และก็ทาครีมตามใจชอบ ตื่นเช้ามาจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกเกาหลีเลย โอ้ยหน้าจะดูผ่องๆ ฉ่ำๆ >< เลิศศศศ
ตัวต่อมาเป็นน้ำตบคะ ไม่เกี่ยวกับน้ำผึ้งละ อันนี้ทุกคนรู้จักกันดีไม่อธิบายมากนะคะ ^^ มันดี มันเริ่ด สำหรับเราแล้วมันช่วยให้หน้าชุ่มชื่นเติมน้ำให้ผิวแล้วก็ช่วยเรื่องสิวได้นิสนุง (สังเกตน้ำเหลือปริมๆจะหมดแล้ว แอบเสียดายตังยังไม่อยากซื้อ มันแพงจุง พยายามใช้ทีละน้อย 5555)
ตบต่อคะ เนื่องจากอายุเยอะ แก่อ่ะ 30 กลางๆ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง ฮื้อออออ .... ก็ต้องหาตัวช่วยเรื่องริ้วรอยที่ร่วงโรย เศร้า TT ผิวก็ฝื้นยาก แต่เราอย่าไปกัว ตบไปคะ ตบด้วยตัวนี้เลย ฮาดะสีแดง ตบไปเยอะๆ ตบเบาๆนะคะอย่าเอาความโกรธจากสามีมาลงที่หน้าเราเด็ดขาด ^^ ผลของตัวนี้ไม่รู้ว่าได้ผลไรนะคะ แต่รู้ว่าต้องใช้ มันก็ช่วยบำรุงผิวสำหรับคนวัย 30 อัพอะคะ ใช้แล้วไม่แพ้ด้วย
(รูปนี้เป็นขวดน้ำเงิน แต่ข้างในเป็นของสีแดงนะคะ คือแอบงกคะ ซื้อรีฟิลมาใส่ แฮะๆ)
ตัวนี้เพิ่งได้มาใหม่คะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง เกริ่นก่อน... ไม่รู้ใครเคยดูคลิปของพี่ลูกปัดมั้ย นางเป็นบิ้วตี้บล็อคเกอร์ ซึ่งเราชอบพี่เค้ามาก ดูไปขำไป ตลกโปกฮาทุกคลิป แล้วนางเป็นคนตรงมาก อันไหนใช้ดีใช้ไม่มีบอกตรงๆ (แต่ก็แล้วแต่สภาพหน้าคนนะคะ) แต่คือรวมๆแล้วนางมีเสน่ห์คะ ลองไปดูกันนะคะ ... มีคลิปนึงพี่เค้าก้มารีวิวอิตัวนี้คะ มันคือ Face วิตามินซีเข้มขน 21 % ซึ่งเค้าก็บอกนะว่าทางแบรนด์ส่งมาให้ใช้ นางใช้จริงๆคะ เราเชื่อใจนาง แล้วนางก้บอกว่ามันเห็นผลในเรื่องรูขุมขนที่เล็กลงอย่างชัดเจน ซึ่งตัวเราก็แอบรูขุมขุนใหญ่ ก็เลยลองซื้อมาดูคะ ...เห้ยยยยยแกร มันอะเมสซิ่งมากอ่ะ ตอนแรกบอกเลยว่าแอบไม่กล้าใช้ แต่ก้ซื้อมาแล้ว ลองทาแค่อิตรงรอยเหี่ยวกรอบปาก (เค้าเรียกว่าไรอะ มุมปาก คือเราเป็นคนขายของคะ เรายิ้มเยอะมันจะมีริ้วรอยตรงปากเยอะมากกกกกก) และก็ตรงที่แก้มใกล้ๆจมูก ไม่ได้ทั้งแก้มนะคะ ลองทาอยู่ 3 วันคะ คือรู้สึกได้ว่ารอยตรงปากมันดีขึ้นมันแบบฟูๆอะแต่ไม่ได้หายนะ ยังมีอยู่ ถ้าใช้ 3 วันแล้วหายเลยนี่ฉันก็กลัวอยู่นะ ส่วนเรื่องรูขุมขนก็เห็นผลนะคะ ก็เลยทาทั่วหน้าคะ และวันนี้เลยเพิ่งสัมผัสได้ว่า หน้าอิฉันที่มันสากๆ มันเนียนอะแกรรรรรรร ตื่นเต้นมากกกกกก สาบานว่าไม่ม้านะคะ อันนี้สัมผัสโดยตรงซื้อเองใช้เอง ซึ่งเราก็ตกใจนะ เราเลย line ไปถามแบรนด์ว่า ไอ้ตัวนี้มันผสมสารสเตียรอยมั้ยคะ (แอบกลัวเพราะมันเห็นผลไวมาก) ทางเค้าก็บอกว่าไม่มี ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายเลย ... อันนี้แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนนะ เราไม่รับประกันคนอื่นๆนะคะ แต่เราใช้แล้วคือมันเทพอ่ะ พอคะเยอะไปเด่วเค้าหาว่าม้า
ตัวสุดท้ายสำคัญที่สุดของที่สุด น้ำเปล่า เมื่อก่อนเป็นคนดื่มน้ำน้อยยยมากคะ วันนึงไม่ถึงขวดเล็ก เพราะว่ากินกาแฟเย็นตอนเช้า แล้วก็ยาวเลยคะกาแฟมันหวานมันเลยช่วยไม่ให้หิวน้ำ (มั้ง) แต่พอเราแก่ขึ้นคะ รู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองจากข้างในบ้าง เรื่องง่ายๆเลยที่ทำได้ก็คือลองกินน้ำเยอะๆดู มันเห็นผลเลยคะ จากคนผิวตัวแห้งๆ มันรู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้นคะ แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนนะคะ เพราะเราเพิ่งจะมาทำตอน 30 นี่เองที่เริ่มดื่มเยอะ สรุปคือดื่มวนไปคะ ดื่มไปเรื่อยๆทั้งวัน สำคัญสุดๆ สำหรับสาวผิวแห้ง ^^
เหนื่อยอ่าาาาาาาา .... ต่อเลยนะคะ ไม่อยากค้างคา
... ส่วนเรื่องสิว ใช้ 2 ตัวที่รู้จักกันดีคือ benzac 5% และ differin
benzac ทาก่อนล้างหน้า คือก่อนทาต้องทำความสะอาดหน้าในระดับ 1 ก่อนนะคะ ทิ้งไว้ 5-10 นาทีพอ กลัวหน้าแสบหน้าแห้ง แล้วก็ล้างให้สะอาด
เสร็จแล้วก็จะทาครีมที่ช่วยไม่ให้ผิวแห้ง หรือไม่ก็มาส์กหน้าแล้วก็ทาครีมต่อ จนถึงเวลาตัดใจจากมือถือได้และพร้อมปิดทีวี ก็ทา diff คะ บางๆนะคะเสร็จแล้วก้ปิดไฟด่วนๆเลยคะ เพราะมันไวต่อแสงเดี๋ยวหน้าจะกระดำกระด่าง ^^ เรื่องของการกำจัดสิวอุดตันและสิวผดก็มีประมาณนี้คะ ^^ ออ สำหรับสาวผิวแห้งที่มีสิวนะคะ เราขอแนะนำอย่าไปทายาติดๆกันทุกวัน เราทาวันเว้นวันลืมวัน ใช้เวลาคะทุกอย่าง เราผิวแห้งแล้วพวกนี้มันกัดหน้า เด่วผิวจะยิ่งเสีย
ปล. ความรู้นี้ได้มาจากบล็อคเกอร์เรื่องสิวหลายๆคนนะคะ คือไม่อยากให้ใช้ clinda m เพราะมันเป็นยาสามัญประจำบ้าน ใช้ไปนานๆจะทำให้หน้าดื้อยาได้ ดังนั้นเลี่ยงใช้ได้ก็ดีคะ ^^
จบ ปิ้ง >< ไปแล้ววว ... ขอบคุณที่พยายามทนอ่านกันนะคะ ยาวเชียว ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ รอบหน้าถ้าโอกาสดีจะมาแก้ตัวใหม่พร้อมของเด็ดๆใหม่ๆนะค่ะ
ขอบคุณความรู้จากสาวห้องแป้งทุกคนเลย ^^ ชอบห้องนี้มาก ฝันดีคร่าทุกคน