สวัสดีครับ ผม Yod จากคลับ Chinchilla วันนี้ผมจะมารีวิวรถ 2016 Honda Accord Hybrid Minorchange ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานะครับ เรามาดูกันเลยครับว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน Minorchange บ้าง
Honda Accord โฉม G9 ได้เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาจนมาถึงปี 2016 ก็ได้รับการแต่งหน้าทาปากเล็กน้อยหรือที่เราเรียกกันว่า Minorchange
ภายนอก
ภายนอกของตัว Minorchange ได้มีการปรับโฉมให้ดูหรูขึ้น มีการดีไซน์กระจังหน้าใหม่และไฟ LED Daytime Running Light เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีฟ้าเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Hybrid ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและระบบปรับสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและที่กระจกมองข้างเป็นแบบ LED ไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED
ไฟท้ายและไฟเบรกก็เป็นแบบ LED เช่นกัน แหม่ ไฟภายนอกนี่แทบจะเป็น LED ทั้งคันเลยครับ ดีไซน์ไฟท้ายของตัว Minorchange นี่ผมว่าแอบมีส่วนคล้าย Mercedes-Benz E-Class W212 ตัว Facelift นะครับ ตอนกลางคืนนี่สวยงามมากครับสำหรับไฟท้าย ให้ฟีลลิ่งคล้ายๆรถยุโรปเลยครับ
ด้านอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกก็จะมีระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, ซันรูฟแบบ One-Touch, กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับมุมลงเองเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, สเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลัง, และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้ว
ด้านมิติรถยนต์มีดังนี้ครับ
ความยาว 4,930 มม.
ความกว้าง 1,850 มม.
ความสูง 1,465 มม.
ฐานล้อ 2,775 มม.
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง 1,585/1,595 มม.
ความสูงใต้ท้องรถ 141 มม.
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1,635 กก.
ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
ภายใน
ภายในไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน Minorchange มากแต่มีการเพิ่มสีภายในสีใหม่เข้ามาเป็นสีน้ำตาล (สีแอบเหมือน BMW 520d ของอาผมเลย) มาพร้อมด้วยพวงมาลัย Multifunction, ปุ่ม Push Start, แอร์แบบ Dual-Zone, ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง, ม่านกระจกหลังปรับไฟฟ้า, เบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางพร้อม Memory Seat, เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า, หน้าปัดเป็นโทนสีฟ้า, ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน
ทีแรกผมคิดว่าเวอร์ชั่นไทยจะได้เกียร์แบบปุ่มกดเหมือนเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (แบบในรูป) แต่ทางฮอนด้าก็ได้นำหัวเกียร์แบบเดิมๆมาให้เราใช้ (แอบผิดหวังเล็กน้อย ) แถมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นยังมีฟังก์ชั่น Brake Hold แบบใน Civic ใหม่มาให้ด้วยครับซึ่งทางฮอนด้าก็ไม่ได้ใส่มาให้เราครับ แต่ยังดีที่ทางฮอนด้าประเทศไทยยังให้ Engine Remote Start มาให้เราได้ใช้กัน ระบบนี้เป็นระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมแอร์ด้วยรีโมท ซึ่งผมว่าเหมาะกับอากาศบ้านเรามากครับ
ด้านระบบ Infotainment จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 7.7 นิ้ว, ระบบนำทาง Navigator, เครื่องเล่น DVD, ระบบเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, ช่องเชื่อมต่อ HDMI, ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง, ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อม Sub-Woofer พร้อมลำโพง 7 ตัว
จากที่ผมได้ลองระบบเครื่องเสียงของจริงมาแล้ว ผมว่าเสียงถือว่าเนียนมากเลยครับแต่ก็ยังไม่ดีเท่า Bose ใน Nissan Teana 2.5XV
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
เครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ลูกภายใต้เทคโนโลยี Earth Dream ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร เพิ่มจากรุ่นเดิมที่ให้กำลังสูงสุด 199 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 307 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน E20 แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน
ระบบเกียร์เป็นแบบ E-CVT พร้อมโหมด Sport ซึ่งในรุ่นปกติจะใช้เกียร์ 5 สปีดทอร์คคอนเวอร์เตอร์
มอเตอร์ไฟฟ้าใน Honda Accord Hybrid สามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. โดยไม่ต้องพึ่งพากำลังจากเครื่องยนต์เลยครับ อันนี้นี่คุ้นๆมั้ยครับ
ด้านอัตราเร่งสามารถทำความเร็ว 0-100 ได้ใน 8.3 วินาที ถือว่าแรงเลยทีเดียวครับ ตอนผมกดคันเร่งนี่หลังติดเบาะเลยครับ รอบกวาดไวมากครับ
ทางฮอนด้าได้เคลมไว้ว่าอัตราสิ้นเปลืองตัว Minorchange นี่ทำได้ถึง 23.8 กม./ลิตรเลยทีเดียวครับ
ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับรถขนาดใหญ่ขนาดนี้ ทำเอาบรรดา Eco Car, City Car ถึงกับค้อนเล็กๆเลยครับ
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยใน Honda Accord Hybrid Minorchange จะมาพร้อมระบบ Honda Sensing ซึ่งจะใช้เรดาร์ตรวจจับสภาพแวดล้อมบนท้องถนนเพื่อความปลอดภัยสูงสุดและเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไปด้วย ระบบความปลอดภัยจาก Honda Sensing มีดังนี้ครับ
• CMBS (Collision Mitigation Braking System) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์ พร้อมระบบช่วยเบรก
• LKAS (Lane Keeping Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
• RDM (Road Departure Mitigation) with LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกเลน
• ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ผมว่าวิศวกรฮอนด้าน่าจะเป็นสาวก Volvo นะครับ ระบบหลายๆอย่างทำงานคล้ายๆใน Volvo S60 ที่ผมเคยลองขับเลยครับ
คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Honda Sensing ได้ตามลิ้งด้านล่างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=Vb8loHeMr3U
Test Drive
ผมได้มีโอกาสไปทดลองขับ Honda Accord Hybrid Minorchange มาแล้วครับ เส้นทางที่ทดสอบคือ พระราม3-ดอนเมือง โอเคครับ มาเริ่มดูกันเลยดีกว่า
จุดสตาร์ทคือโชว์รูมฮอนด้านราธิวาสราชนครินทร์ ช่วงออกถนนช่วงแรกรู้สึกว่าความเร็วขึ้นเร็วมากครับ แตะคันเร่งครึ่งนึงนี่หลังแทบติดเบาะเลยครับ นี่ยังไม่ได้เปิดโหมด Sport เลยนะครับ โหมดการขับขี่มีทั้งหมด 3 แบบคือ EV Drive Mode ซึ่งเป็นการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว, Hybrid Mode การขับขี่แบบผสมผสาน, และ Engine Drive Mode การขับขี่โดยใช้เครื่องยนต์ล้วน ซึ่งระบบจะแปรผันตามสภาพการขับขี่ของเรา เครื่องยนต์ถือว่าดิบและเงียบพอสมควรเลยครับแต่พวงมาลัยถือว่ายังเบาและช่วงล่างร่อนไปหน่อยตามสไตล์ฮอนด้า ตอนช่วงที่ความเร็วเริ่มแตะ 130 ผมรู้สึกว่าช่วงล่างเริ่มไม่มั่นคงทำให้ผมไม่กล้าเหยียบเยอะ และพวงมาลัยก็ถือว่าเบาเลยทีเดียวครับ ที่ย่านความเร็วแบบนี้นี่ควรจะทำพวงมาลัยให้หนืดกว่านี้หน่อยครับแล้วจะเป็นรถที่ดีคันนึง เลย แต่สิ่งที่ผมอยากจะติคือระบบ Honda LaneWatch นี่ผมว่าภาพที่แสดงผลบนหน้าจอภายในรถถือว่ามองค่อนข้างยากครับ ส่วนตัวผมมองที่กระจกมองข้างยังง่ายกว่าครับ ผมยังได้ลองระบบ RDM ซึ่งการทำงานของระบบถือว่านิ่มนวลมากครับ วิธีการทดสอบคือลองปล่อยให้รถไปทับเส้นกั้นเลนแล้วพวงมาลัยจะสั่นเตือนผู้ขับขี่และระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าปัด ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ยังไม่ดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลน ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าเลนเองครับ แต่ถ้าหากรถยังเบี่ยงออกนอกเลนจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วในกรณีที่เส้นแบ่งเลนเป็นเส้นทึบ สำหรับ Honda Accord Hybrid ผมว่าถือว่าเป็นรถที่ขับสนุกครับ ให้ฟีลลิ่งแบบวัยรุ่นเลย ทั้งๆที่เป็นรถที่ผลิตมาสำหรับเจาะตลาดผู้ใหญ่
ขากลับผมได้สลับไปนั่งเบาะหลัง เบาะหลังถือว่านั่งสบายพอสมควรครับ ให้อารมณ์แบบผู้บริหารเลย แต่ความสบายถือว่ายังสู้ Toyota Camry Hybrid ไม่ได้ แถมเบาะยังปรับเอนแบบ Camry ไม่ได้ด้วยครับ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ พื้นที่วางขาถือว่ากว้างมากเลยครับ ยืดขาได้สบายมาก ผมสูง 177 ยังยืดขาสุดยังไม่ถึงเบาะหน้าเลยครับ วัสดุหุ้มเบาะหนัง แผงประตู และคอนโซลหน้าถือว่าทำได้ดีแต่ในรถราคาระดับนี้ผมว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้
สรุป
• รูปลักษณ์ภายนอกถือว่าสวยที่สุดในคลาสในความคิดผม เป็นรถที่สะดุดตาคันนึงเลย
• ขับสนุก ขับสบาย เครื่องแรงและเงียบ ประหยัดน้ำมัน
• ช่วงล่างกับพวงมาลัยควรปรับให้ดีกว่านี้
• เก็บเสียงค่อนข้างดีในย่านความเร็วสูง แต่ยังไม่ดีเท่า Teana
• พื้นที่ใช้สอยถือว่าเยอะพอสมควร
• ระบบความปลอดภัยถือว่าล้ำเลยทีเดียวครับ
• ระบบ Infotainment ถือว่าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
• เครื่องเสียงยังไม่ดีเท่าที่ควร
• วัสดุภายในยังไม่ดีเท่าที่ควร
• งานประกอบไม่ค่อยเนี๊ยบ
• เบาะหลังถือว่าไม่ดีเท่า Camry Hybrid และ Teana ในความสบาย
• เป็นรถที่เหมือนจะเน้นคนนั่ง แต่ก็เน้นคนขับ
Honda Accord Hybrid Minorchange เคาะราคาเปิดตัวที่ 1,849,000 บาท ถูกกว่ารุ่นเดิม 50,000 บาท ซึ่งผมว่าถ้าใครกำลังมองหารถ D-Segment รุ่นท็อปซักคัน Honda Accord Hybrid ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาคันนึงเลยครับ แต่บางทีราคาแบบนี้บางคนก็หนีไป BMW 320d Iconic เหมือนกันนะครับ เพิ่มเงินประมาณ 400,000 – 500,000 ได้ใบพัดเลย
สำหรับใครที่สนใจเรื่องรถยนต์ รถแต่ง เทคนิคยานยนต์ สามารถไป Follow เราบน Ig ได้ครับ (Instagram: Chinchilla_autoholic)
[CR] Full Review: Honda Accord Hybrid Tech Minorchange ยนตรกรรมรักษ์โลกที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะ
Honda Accord โฉม G9 ได้เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาจนมาถึงปี 2016 ก็ได้รับการแต่งหน้าทาปากเล็กน้อยหรือที่เราเรียกกันว่า Minorchange
ภายนอก
ภายนอกของตัว Minorchange ได้มีการปรับโฉมให้ดูหรูขึ้น มีการดีไซน์กระจังหน้าใหม่และไฟ LED Daytime Running Light เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีฟ้าเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Hybrid ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและระบบปรับสูงต่ำอัตโนมัติ ไฟเลี้ยวด้านหน้าและที่กระจกมองข้างเป็นแบบ LED ไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED
ไฟท้ายและไฟเบรกก็เป็นแบบ LED เช่นกัน แหม่ ไฟภายนอกนี่แทบจะเป็น LED ทั้งคันเลยครับ ดีไซน์ไฟท้ายของตัว Minorchange นี่ผมว่าแอบมีส่วนคล้าย Mercedes-Benz E-Class W212 ตัว Facelift นะครับ ตอนกลางคืนนี่สวยงามมากครับสำหรับไฟท้าย ให้ฟีลลิ่งคล้ายๆรถยุโรปเลยครับ
ด้านอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกก็จะมีระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, ซันรูฟแบบ One-Touch, กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับมุมลงเองเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง, เสาอากาศแบบครีบฉลาม, สเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลัง, และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้ว
ด้านมิติรถยนต์มีดังนี้ครับ
ความยาว 4,930 มม.
ความกว้าง 1,850 มม.
ความสูง 1,465 มม.
ฐานล้อ 2,775 มม.
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง 1,585/1,595 มม.
ความสูงใต้ท้องรถ 141 มม.
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1,635 กก.
ความจุถังน้ำมัน 60 ลิตร
ภายใน
ภายในไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน Minorchange มากแต่มีการเพิ่มสีภายในสีใหม่เข้ามาเป็นสีน้ำตาล (สีแอบเหมือน BMW 520d ของอาผมเลย) มาพร้อมด้วยพวงมาลัย Multifunction, ปุ่ม Push Start, แอร์แบบ Dual-Zone, ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง, ม่านกระจกหลังปรับไฟฟ้า, เบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางพร้อม Memory Seat, เบาะคนขับปรับดันหลังไฟฟ้า, หน้าปัดเป็นโทนสีฟ้า, ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผัน
ทีแรกผมคิดว่าเวอร์ชั่นไทยจะได้เกียร์แบบปุ่มกดเหมือนเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (แบบในรูป) แต่ทางฮอนด้าก็ได้นำหัวเกียร์แบบเดิมๆมาให้เราใช้ (แอบผิดหวังเล็กน้อย ) แถมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นยังมีฟังก์ชั่น Brake Hold แบบใน Civic ใหม่มาให้ด้วยครับซึ่งทางฮอนด้าก็ไม่ได้ใส่มาให้เราครับ แต่ยังดีที่ทางฮอนด้าประเทศไทยยังให้ Engine Remote Start มาให้เราได้ใช้กัน ระบบนี้เป็นระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมแอร์ด้วยรีโมท ซึ่งผมว่าเหมาะกับอากาศบ้านเรามากครับ
ด้านระบบ Infotainment จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 7.7 นิ้ว, ระบบนำทาง Navigator, เครื่องเล่น DVD, ระบบเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI, ช่องเชื่อมต่อ HDMI, ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง, ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อม Sub-Woofer พร้อมลำโพง 7 ตัว
จากที่ผมได้ลองระบบเครื่องเสียงของจริงมาแล้ว ผมว่าเสียงถือว่าเนียนมากเลยครับแต่ก็ยังไม่ดีเท่า Bose ใน Nissan Teana 2.5XV
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
เครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ลูกภายใต้เทคโนโลยี Earth Dream ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร เพิ่มจากรุ่นเดิมที่ให้กำลังสูงสุด 199 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 307 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน E20 แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน
ระบบเกียร์เป็นแบบ E-CVT พร้อมโหมด Sport ซึ่งในรุ่นปกติจะใช้เกียร์ 5 สปีดทอร์คคอนเวอร์เตอร์
มอเตอร์ไฟฟ้าใน Honda Accord Hybrid สามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. โดยไม่ต้องพึ่งพากำลังจากเครื่องยนต์เลยครับ อันนี้นี่คุ้นๆมั้ยครับ
ด้านอัตราเร่งสามารถทำความเร็ว 0-100 ได้ใน 8.3 วินาที ถือว่าแรงเลยทีเดียวครับ ตอนผมกดคันเร่งนี่หลังติดเบาะเลยครับ รอบกวาดไวมากครับ
ทางฮอนด้าได้เคลมไว้ว่าอัตราสิ้นเปลืองตัว Minorchange นี่ทำได้ถึง 23.8 กม./ลิตรเลยทีเดียวครับ
ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับรถขนาดใหญ่ขนาดนี้ ทำเอาบรรดา Eco Car, City Car ถึงกับค้อนเล็กๆเลยครับ
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยใน Honda Accord Hybrid Minorchange จะมาพร้อมระบบ Honda Sensing ซึ่งจะใช้เรดาร์ตรวจจับสภาพแวดล้อมบนท้องถนนเพื่อความปลอดภัยสูงสุดและเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไปด้วย ระบบความปลอดภัยจาก Honda Sensing มีดังนี้ครับ
• CMBS (Collision Mitigation Braking System) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์ พร้อมระบบช่วยเบรก
• LKAS (Lane Keeping Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
• RDM (Road Departure Mitigation) with LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกเลน
• ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ผมว่าวิศวกรฮอนด้าน่าจะเป็นสาวก Volvo นะครับ ระบบหลายๆอย่างทำงานคล้ายๆใน Volvo S60 ที่ผมเคยลองขับเลยครับ
คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Honda Sensing ได้ตามลิ้งด้านล่างครับ
https://www.youtube.com/watch?v=Vb8loHeMr3U
Test Drive
ผมได้มีโอกาสไปทดลองขับ Honda Accord Hybrid Minorchange มาแล้วครับ เส้นทางที่ทดสอบคือ พระราม3-ดอนเมือง โอเคครับ มาเริ่มดูกันเลยดีกว่า
จุดสตาร์ทคือโชว์รูมฮอนด้านราธิวาสราชนครินทร์ ช่วงออกถนนช่วงแรกรู้สึกว่าความเร็วขึ้นเร็วมากครับ แตะคันเร่งครึ่งนึงนี่หลังแทบติดเบาะเลยครับ นี่ยังไม่ได้เปิดโหมด Sport เลยนะครับ โหมดการขับขี่มีทั้งหมด 3 แบบคือ EV Drive Mode ซึ่งเป็นการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว, Hybrid Mode การขับขี่แบบผสมผสาน, และ Engine Drive Mode การขับขี่โดยใช้เครื่องยนต์ล้วน ซึ่งระบบจะแปรผันตามสภาพการขับขี่ของเรา เครื่องยนต์ถือว่าดิบและเงียบพอสมควรเลยครับแต่พวงมาลัยถือว่ายังเบาและช่วงล่างร่อนไปหน่อยตามสไตล์ฮอนด้า ตอนช่วงที่ความเร็วเริ่มแตะ 130 ผมรู้สึกว่าช่วงล่างเริ่มไม่มั่นคงทำให้ผมไม่กล้าเหยียบเยอะ และพวงมาลัยก็ถือว่าเบาเลยทีเดียวครับ ที่ย่านความเร็วแบบนี้นี่ควรจะทำพวงมาลัยให้หนืดกว่านี้หน่อยครับแล้วจะเป็นรถที่ดีคันนึง เลย แต่สิ่งที่ผมอยากจะติคือระบบ Honda LaneWatch นี่ผมว่าภาพที่แสดงผลบนหน้าจอภายในรถถือว่ามองค่อนข้างยากครับ ส่วนตัวผมมองที่กระจกมองข้างยังง่ายกว่าครับ ผมยังได้ลองระบบ RDM ซึ่งการทำงานของระบบถือว่านิ่มนวลมากครับ วิธีการทดสอบคือลองปล่อยให้รถไปทับเส้นกั้นเลนแล้วพวงมาลัยจะสั่นเตือนผู้ขับขี่และระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าปัด ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ยังไม่ดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลน ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าเลนเองครับ แต่ถ้าหากรถยังเบี่ยงออกนอกเลนจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วในกรณีที่เส้นแบ่งเลนเป็นเส้นทึบ สำหรับ Honda Accord Hybrid ผมว่าถือว่าเป็นรถที่ขับสนุกครับ ให้ฟีลลิ่งแบบวัยรุ่นเลย ทั้งๆที่เป็นรถที่ผลิตมาสำหรับเจาะตลาดผู้ใหญ่
ขากลับผมได้สลับไปนั่งเบาะหลัง เบาะหลังถือว่านั่งสบายพอสมควรครับ ให้อารมณ์แบบผู้บริหารเลย แต่ความสบายถือว่ายังสู้ Toyota Camry Hybrid ไม่ได้ แถมเบาะยังปรับเอนแบบ Camry ไม่ได้ด้วยครับ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ พื้นที่วางขาถือว่ากว้างมากเลยครับ ยืดขาได้สบายมาก ผมสูง 177 ยังยืดขาสุดยังไม่ถึงเบาะหน้าเลยครับ วัสดุหุ้มเบาะหนัง แผงประตู และคอนโซลหน้าถือว่าทำได้ดีแต่ในรถราคาระดับนี้ผมว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้
สรุป
• รูปลักษณ์ภายนอกถือว่าสวยที่สุดในคลาสในความคิดผม เป็นรถที่สะดุดตาคันนึงเลย
• ขับสนุก ขับสบาย เครื่องแรงและเงียบ ประหยัดน้ำมัน
• ช่วงล่างกับพวงมาลัยควรปรับให้ดีกว่านี้
• เก็บเสียงค่อนข้างดีในย่านความเร็วสูง แต่ยังไม่ดีเท่า Teana
• พื้นที่ใช้สอยถือว่าเยอะพอสมควร
• ระบบความปลอดภัยถือว่าล้ำเลยทีเดียวครับ
• ระบบ Infotainment ถือว่าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
• เครื่องเสียงยังไม่ดีเท่าที่ควร
• วัสดุภายในยังไม่ดีเท่าที่ควร
• งานประกอบไม่ค่อยเนี๊ยบ
• เบาะหลังถือว่าไม่ดีเท่า Camry Hybrid และ Teana ในความสบาย
• เป็นรถที่เหมือนจะเน้นคนนั่ง แต่ก็เน้นคนขับ
Honda Accord Hybrid Minorchange เคาะราคาเปิดตัวที่ 1,849,000 บาท ถูกกว่ารุ่นเดิม 50,000 บาท ซึ่งผมว่าถ้าใครกำลังมองหารถ D-Segment รุ่นท็อปซักคัน Honda Accord Hybrid ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาคันนึงเลยครับ แต่บางทีราคาแบบนี้บางคนก็หนีไป BMW 320d Iconic เหมือนกันนะครับ เพิ่มเงินประมาณ 400,000 – 500,000 ได้ใบพัดเลย
สำหรับใครที่สนใจเรื่องรถยนต์ รถแต่ง เทคนิคยานยนต์ สามารถไป Follow เราบน Ig ได้ครับ (Instagram: Chinchilla_autoholic)