สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิพทุกท่าน และเธอ หวังว่าเธอจะได้อ่านมันเพราะตอนนี้มันคงเป็นทางเดียวที่เราจะติดต่อเธอได้
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม สำหรับการใช้ภาษาถ้อยคำเว้นวรรคคำอาจจะไม่ค่อยดีนักโปรดให้อภัยกระผมด้วยนะครับ เริ่มกันเลยครับ.......
ในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมาผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในโลกออนไลน์ผ่านแอพ แอพหนึ่ง (อักษรย่อตัว B) แอพนี้จะเป็นแอพที่หาเพื่อนคุยที่เล่นแอพเดียวกันในบริเวรใกล้ๆ วันนั้นผมหาเพื่อนคุยเลยเลือกแอดคนที่คิดว่าโปรไฟล์พอใช้ได้และผมก็ได้แอดเธอ ที่เลือกแอดเธอเพราะไทม์ไลน์ของเธอน่าสนใจคือเธอจะชอบโพสภาษาญี่ปุ่น และรูปแบ้วๆของเธอ ผ่านไปหนึ่งวันเธอก็ได้กดรับแอดผมเป็นเพื่อนกันผมก็ทำการทักทายตามปกติตามประสาโลกออนไลน์ที่เขาทำๆ คำแรกที่เธอบอกผมคือเธอก็สวัสดีและบอกต่อว่า "ไม่ได้ตั้งใจจะรับแอดนะมือมันไปโดน แต่ไหนๆก็รับแล้วจะไม่คุยก็น่าเกลียด" เป็นไงครับท่านผู้ชม แค่คำแรกก็ไม่เหมือนคนอื่นแล้ว นิสัยผมโดยปกติแล้วจะชอบผู้หญิงที่ตรงไปตรงมามันดูจริงใจและดูคุยภาษาเดียวกับผม หลังจากนั้นก็ถามไถ่เรื่องหน้าที่การงานผมก็บอกอาชีพของผมและบริษัทที่ผมอยู่ส่วนเธอนั้นบอกแต่อาชีพแต่ไม่ได้บอกชื่อบริษัทในวันแรกเราคุยกันไม่กี่ประโยคเพราะผมไม่ได้ตั้งใจกับเธอมากนักซึ่งในตอนนั้นผมก็คุยกับรุ่นน้องคนหนึ่งที่แอบชอบอยู่แต่ก็เหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยจะชอบผมเท่าใดนัก ในช่วงเดือนแรกๆของการรู้จักกันนั้นเราคุยกันทุกวันแต่คุยกันวันละไม่มากและจะคุยในเรื่องทะลึ่ง 18+ ผมจะชอบยิงมุกทะลึ่งไปและเธอก็ดันเล่นต่อมุกกลับมา เธอทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเข้าถึงง่ายและไม่ได้โลกสวยอะไรผมจำบทสนทนาของเราได้ประโยคหนึ่ง
P: เทอๆทำอะไรอยู่
Me: กำลังดูคลิป อิอิ
P : คลิปญี่ปุ่นหรอ มิยาบิหรืออาโออิ
Me : ใช่ อิคึอิคึ 55555
นั่นแหละครับ ผมเลยถามต่อว่าชอบดูหรอเขาตอบมาว่าดูเพื่อการศึกษาเพราะการจะเข้าใจภาษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นต้องรู้จักเกี่ยวกับเขาทุกด้าน ผมก็โอ้วววสุ๊ดดย๊อดดเลยย "ผู้หญิงแบบนี้มีไม่เยอะนะ" ผมบอกกับตัวเอง
เข้าเดือนมีนา...เราคุยกันมาพอสมควรพอรู้จักกันบ้างว่าความคิดของคนที่เราคุยด้วยเป็นยังไงผมจึงตัดสินใจชวนเธอไปดูหนังหรือเดทนั่นเองในตอนนั้นผมต้องการจะตัดสินว่าผมควรจะเพิ่มความสัมพันธ์ดีไหม แต่!!!ผ่างง โดนปฏิเสธ "นี่เค้าไม่เคยโดนผู้หญิงคนไหนปฏิเสธการชวนไปดูหนังเลยนะ" ผมบอกกับเธอ เธอตอบมาว่า "ก็ชั้นนี่ไง อุวะฮ่าๆๆๆ" ในสมองตอนนั้น คือแบบ ผู้หญิงคนนี้แม่มกวนประสาทดีจัง ..ต่อครับ เธอให้เหตุผลว่า เธอมีกำหนดการต้องไปทำงานญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ เธอไม่อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับใคร ผมก็เข้าใจเธอ และได้ตกลงกันว่างั้นเราจะคุยกันผ่านแอพนี้และปล่อยให้เป็นไปตามอย่างที่มันควรจะเป็น และผมตอบเธอว่า "ถ้าเกิดชอบขึ้นมาก็จะรอนะ" คำนี้ผมไม่ได้พูดลอยๆนะผมพูดจริงๆถ้าผมรักเขาแล้วถ้าเขารักผม ผมจะรอเขาจริงๆ เธอบอกว่าเคยเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งครั้งนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีก ต่อจากนั้นเราก็เข้าโหมดดราม่ากันเล่าเรื่องแฟนเก่าให้กันฟัง ของผมนั้นโดนผู้หญิงทิ้งโดนเด็กหลอกให้รักแล้วเลิกไปคบกับผู้ชายคนอื่น ผมละเจ็บหนักเจ็บปางตาย แต่พอได้ฟังเรื่องของเธอเท่านั้นแหละผมถึงกับอุทาน เขร้ เรื่องของเธอมันยิ่งกว่านิยาย ผมจะบอกแค่ว่า....เธอกำลังจะแต่งงานกับแฟนเก่า...แต่ก็ต้องเลิกและถอนมั่นในงานวันรับปริญญาของตัวเอง...เพราะ...ไม่ขอเล่าต่อนะครับ ในช่วงนี้เราไม่ได้คุยเรื่อง 18+ กันแล้วนะ พูดถึงเรื่องการทำงาน การบ่นในงานที่ทำให้กันและกันฟังอะไรประมาณนี้ เธอจะไม่ชอบป้าคนหนึ่งในที่ทำงานเธอจะบ่นการกระทำของป้าคนนี้และคำพูดที่ชอบพูดให้ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดี พูดแล้วก็ตลกนะครับเธอดูไม่ชอบป้าคนนี้เอามากๆ จนปลายเดือนเธอได้ลาพักร้อนก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เธอว่างงาน เธอจะทักผมมาบ่อยๆ ผมก็รู้สึกว่าเธอดูเอาใจใส่และดูเป็นผู้ใหญ่ "นี่ไม่ใช่เหมาะที่จะเป็นแฟนนี่เหมาะจะเป็นแม่ของลูก" ผมคิดในใจเบาๆ
เมษา...เราคุยกันทุกวันและมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นช่วงที่เธอบอกอะไรๆเกี่ยวกับชีวิตของเธอเกี่ยวกับบ้านของเธอเกี่ยวกับครอบครัวเกี่ยวและกับเพื่อน พอได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกสงสารและพูดกับตัวเองว่า "ผู้หญิงคนนี้ถ้าผมได้รักเขาผมจะไม่มีวันทิ้งเขาไปแน่ๆ"
เธอพูดถึงการเล่าเรื่องของผมให้ที่บ้านและเพื่อนเพื่อนฟังและเทอก็ได้ส่งรูปผมให้เพื่อนเขาดูและก็บอกว่าผมหน้าตาคล้ายดารานักร้องเดอะสตาร์คนหนึ่งและในตอนนั้นเขาก็แสดงละครเรื่องหนึ่งอยู่ ผมไม่แน่ใจเรื่องอะไร และเธอก็อินกับเรื่องนี้มากๆ และพยายามจะเล่าเนื้องเรื่องให้ผมฟังและถามถึงความคิดว่าผม มีความคิดยังไงเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้นในละคร นึกละก็คิดถึงเวลาในช่วงนั้นครับ... มันเป็นช่วงที่เขาทุ่มความรู้สึกกับผมสุดๆแต่ผมก็ทำเหมือนจะยังไม่ทุ่มให้เธอแต่ก็ไม่ได้ไม่รู้สึกนะครับ ผมเกือบจะได้ยินเสียงของเธอครั้งแรกครับ ในตอนนั้นผมมีงานที่ต้องทำเวลาตี 2 ผมเลยวานเธอโทรปลุกโดยให้เบอร์ไว้ ปรากฏว่าเธอโทรมาจริงๆครับ แต่พอผมกดรับและพูดว่า ฮัลโหล เธอก็ได้วางสายไปและตอนนั้นทีมงานก็เริ่มทำงานพอดีเลยไม่ได้โทรกลับแต่จากตอนั้นผมก็ได้เบอร์เธอและไลน์ของเธอแต่ทว่ามันเป็นไลน์เก่าของเธอครับ จนมาถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนบิน มันเป็นครั้งแรกที่ผม พลาดมาก ผมพลาดจริงๆ ผมมีงานที่ต้องออกต่างจังหวัดโดยกลับวันศุกร์ ผมสามารถให้คนอื่นไปแทนได้แต่ผมไม่ทำเพราะผมเข้าใจว่าเธอบินในวันเสาร์ แต่!!ไม่ใช่ครับเธอบินเช้าวันศุกร์ครับ และประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกพลาดคือ เธอบอกเธออยากเจอหน้าผม แม่เขา อยากเจอหน้าผม ตายห่าาาา!!! งานก็ทิ้งไม่ได้อยากไปก็อยากไป จนสุดท้ายผมก็ได้ไปส่งเธอ มันคงให้เธอผิดหวังกับผมมาก......
พฤษภา...เธอเล่าชีวิตที่อยู่ญี่ปุ่นเดือนแรกผ่านการส่งรูปภาพ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการสนทนากันโดยส่งรูปกันไปมามากเพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าคนที่เราคุยด้วยเขาให้ความสำคัญกับเราและเราเห็นการเป็นไปของเขา เขาเจอกับอะไรบ้างอย่างน้อยไม่ทั้งหมดแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดี ในช่วงนี้เธอก็พยามหาเรื่องชวนคุยกับผมตลอด แต่ในช่วงนั้นผมงานเยอะมากและต้องนอนเร็ว แต่เธอนั้นในช่วงแรกไม่มีงานและยอมเสียเวลานอนไป 2 ชมเพื่อคุยกับผม (ญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าไทย 2 ชม.) เป็นแบบนี้อยุ่อาทิตย์หนึ่ง จนระเบิดลูกแรกก็เกิดขึ้นเราทะเลาะกันเรื่องเวลา เขานอยผมเพราะเขาอุสาห์รอคุยกับผมแต่ผมกลับหลับไปก่อนเขาและทิ้งให้เขาอ้างว้างคนเดียว ผมก็ให้เหตุผมว่าผมต้องทำงานอนดึก แล้วถ้านอนไม่พอจะหงุดหงิดมาก และก็ต่อว่าเธอไป ว่าเธอขี้งอแงนิสัยเด็กน้อย เอาแต่ใจตัวเอง หลังจากทะเลาะกันพักหนึ่งเธอก็หายไป เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ โพสถ้อยคำที่สื่อถึงว่าเธอน้อยใจ ก็ปล่อยให้เงียบไปวันหนึ่งและค่อยตามง้อเธอจนสำเร็จ เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใจเเข็งมากๆ จนเกือบท้อเวลาง้อ เราเป็นแบบนี้มาสองสามครั้ง จนเราต้องคุยกันว่าเราต้องปรับตัวเข้าหากันและกัน มันกลายเป็นว่า ผมเพิ่มความรู้สึกกับเธอมากขึ้นแต่เธอลดความรู้สึกกับผมลง แต่....นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง เรื่องนี้จนผมต้องมาเขียนพันทิพเพือ่ให้เธอกลับมาอีกครั้ง.... เดี่ยวมาต่อพรุ่งนี้นะครับขออภัยที่เขียนไม่จบ
..ผมรักคนที่คุยกันผ่านแค่ตัวหนังสือ...และเหมือนจะเสียเธอไปเพราะ...ตัวผมเอง..
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม สำหรับการใช้ภาษาถ้อยคำเว้นวรรคคำอาจจะไม่ค่อยดีนักโปรดให้อภัยกระผมด้วยนะครับ เริ่มกันเลยครับ.......
ในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมาผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในโลกออนไลน์ผ่านแอพ แอพหนึ่ง (อักษรย่อตัว B) แอพนี้จะเป็นแอพที่หาเพื่อนคุยที่เล่นแอพเดียวกันในบริเวรใกล้ๆ วันนั้นผมหาเพื่อนคุยเลยเลือกแอดคนที่คิดว่าโปรไฟล์พอใช้ได้และผมก็ได้แอดเธอ ที่เลือกแอดเธอเพราะไทม์ไลน์ของเธอน่าสนใจคือเธอจะชอบโพสภาษาญี่ปุ่น และรูปแบ้วๆของเธอ ผ่านไปหนึ่งวันเธอก็ได้กดรับแอดผมเป็นเพื่อนกันผมก็ทำการทักทายตามปกติตามประสาโลกออนไลน์ที่เขาทำๆ คำแรกที่เธอบอกผมคือเธอก็สวัสดีและบอกต่อว่า "ไม่ได้ตั้งใจจะรับแอดนะมือมันไปโดน แต่ไหนๆก็รับแล้วจะไม่คุยก็น่าเกลียด" เป็นไงครับท่านผู้ชม แค่คำแรกก็ไม่เหมือนคนอื่นแล้ว นิสัยผมโดยปกติแล้วจะชอบผู้หญิงที่ตรงไปตรงมามันดูจริงใจและดูคุยภาษาเดียวกับผม หลังจากนั้นก็ถามไถ่เรื่องหน้าที่การงานผมก็บอกอาชีพของผมและบริษัทที่ผมอยู่ส่วนเธอนั้นบอกแต่อาชีพแต่ไม่ได้บอกชื่อบริษัทในวันแรกเราคุยกันไม่กี่ประโยคเพราะผมไม่ได้ตั้งใจกับเธอมากนักซึ่งในตอนนั้นผมก็คุยกับรุ่นน้องคนหนึ่งที่แอบชอบอยู่แต่ก็เหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยจะชอบผมเท่าใดนัก ในช่วงเดือนแรกๆของการรู้จักกันนั้นเราคุยกันทุกวันแต่คุยกันวันละไม่มากและจะคุยในเรื่องทะลึ่ง 18+ ผมจะชอบยิงมุกทะลึ่งไปและเธอก็ดันเล่นต่อมุกกลับมา เธอทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเข้าถึงง่ายและไม่ได้โลกสวยอะไรผมจำบทสนทนาของเราได้ประโยคหนึ่ง
P: เทอๆทำอะไรอยู่
Me: กำลังดูคลิป อิอิ
P : คลิปญี่ปุ่นหรอ มิยาบิหรืออาโออิ
Me : ใช่ อิคึอิคึ 55555
นั่นแหละครับ ผมเลยถามต่อว่าชอบดูหรอเขาตอบมาว่าดูเพื่อการศึกษาเพราะการจะเข้าใจภาษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นต้องรู้จักเกี่ยวกับเขาทุกด้าน ผมก็โอ้วววสุ๊ดดย๊อดดเลยย "ผู้หญิงแบบนี้มีไม่เยอะนะ" ผมบอกกับตัวเอง
เข้าเดือนมีนา...เราคุยกันมาพอสมควรพอรู้จักกันบ้างว่าความคิดของคนที่เราคุยด้วยเป็นยังไงผมจึงตัดสินใจชวนเธอไปดูหนังหรือเดทนั่นเองในตอนนั้นผมต้องการจะตัดสินว่าผมควรจะเพิ่มความสัมพันธ์ดีไหม แต่!!!ผ่างง โดนปฏิเสธ "นี่เค้าไม่เคยโดนผู้หญิงคนไหนปฏิเสธการชวนไปดูหนังเลยนะ" ผมบอกกับเธอ เธอตอบมาว่า "ก็ชั้นนี่ไง อุวะฮ่าๆๆๆ" ในสมองตอนนั้น คือแบบ ผู้หญิงคนนี้แม่มกวนประสาทดีจัง ..ต่อครับ เธอให้เหตุผลว่า เธอมีกำหนดการต้องไปทำงานญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ เธอไม่อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับใคร ผมก็เข้าใจเธอ และได้ตกลงกันว่างั้นเราจะคุยกันผ่านแอพนี้และปล่อยให้เป็นไปตามอย่างที่มันควรจะเป็น และผมตอบเธอว่า "ถ้าเกิดชอบขึ้นมาก็จะรอนะ" คำนี้ผมไม่ได้พูดลอยๆนะผมพูดจริงๆถ้าผมรักเขาแล้วถ้าเขารักผม ผมจะรอเขาจริงๆ เธอบอกว่าเคยเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่งครั้งนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีก ต่อจากนั้นเราก็เข้าโหมดดราม่ากันเล่าเรื่องแฟนเก่าให้กันฟัง ของผมนั้นโดนผู้หญิงทิ้งโดนเด็กหลอกให้รักแล้วเลิกไปคบกับผู้ชายคนอื่น ผมละเจ็บหนักเจ็บปางตาย แต่พอได้ฟังเรื่องของเธอเท่านั้นแหละผมถึงกับอุทาน เขร้ เรื่องของเธอมันยิ่งกว่านิยาย ผมจะบอกแค่ว่า....เธอกำลังจะแต่งงานกับแฟนเก่า...แต่ก็ต้องเลิกและถอนมั่นในงานวันรับปริญญาของตัวเอง...เพราะ...ไม่ขอเล่าต่อนะครับ ในช่วงนี้เราไม่ได้คุยเรื่อง 18+ กันแล้วนะ พูดถึงเรื่องการทำงาน การบ่นในงานที่ทำให้กันและกันฟังอะไรประมาณนี้ เธอจะไม่ชอบป้าคนหนึ่งในที่ทำงานเธอจะบ่นการกระทำของป้าคนนี้และคำพูดที่ชอบพูดให้ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดี พูดแล้วก็ตลกนะครับเธอดูไม่ชอบป้าคนนี้เอามากๆ จนปลายเดือนเธอได้ลาพักร้อนก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ในช่วงนี้เป็นช่วงที่เธอว่างงาน เธอจะทักผมมาบ่อยๆ ผมก็รู้สึกว่าเธอดูเอาใจใส่และดูเป็นผู้ใหญ่ "นี่ไม่ใช่เหมาะที่จะเป็นแฟนนี่เหมาะจะเป็นแม่ของลูก" ผมคิดในใจเบาๆ
เมษา...เราคุยกันทุกวันและมากขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นช่วงที่เธอบอกอะไรๆเกี่ยวกับชีวิตของเธอเกี่ยวกับบ้านของเธอเกี่ยวกับครอบครัวเกี่ยวและกับเพื่อน พอได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกสงสารและพูดกับตัวเองว่า "ผู้หญิงคนนี้ถ้าผมได้รักเขาผมจะไม่มีวันทิ้งเขาไปแน่ๆ"
เธอพูดถึงการเล่าเรื่องของผมให้ที่บ้านและเพื่อนเพื่อนฟังและเทอก็ได้ส่งรูปผมให้เพื่อนเขาดูและก็บอกว่าผมหน้าตาคล้ายดารานักร้องเดอะสตาร์คนหนึ่งและในตอนนั้นเขาก็แสดงละครเรื่องหนึ่งอยู่ ผมไม่แน่ใจเรื่องอะไร และเธอก็อินกับเรื่องนี้มากๆ และพยายามจะเล่าเนื้องเรื่องให้ผมฟังและถามถึงความคิดว่าผม มีความคิดยังไงเกี่ยวกับเหตุการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้นในละคร นึกละก็คิดถึงเวลาในช่วงนั้นครับ... มันเป็นช่วงที่เขาทุ่มความรู้สึกกับผมสุดๆแต่ผมก็ทำเหมือนจะยังไม่ทุ่มให้เธอแต่ก็ไม่ได้ไม่รู้สึกนะครับ ผมเกือบจะได้ยินเสียงของเธอครั้งแรกครับ ในตอนนั้นผมมีงานที่ต้องทำเวลาตี 2 ผมเลยวานเธอโทรปลุกโดยให้เบอร์ไว้ ปรากฏว่าเธอโทรมาจริงๆครับ แต่พอผมกดรับและพูดว่า ฮัลโหล เธอก็ได้วางสายไปและตอนนั้นทีมงานก็เริ่มทำงานพอดีเลยไม่ได้โทรกลับแต่จากตอนั้นผมก็ได้เบอร์เธอและไลน์ของเธอแต่ทว่ามันเป็นไลน์เก่าของเธอครับ จนมาถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนบิน มันเป็นครั้งแรกที่ผม พลาดมาก ผมพลาดจริงๆ ผมมีงานที่ต้องออกต่างจังหวัดโดยกลับวันศุกร์ ผมสามารถให้คนอื่นไปแทนได้แต่ผมไม่ทำเพราะผมเข้าใจว่าเธอบินในวันเสาร์ แต่!!ไม่ใช่ครับเธอบินเช้าวันศุกร์ครับ และประโยคที่ทำให้ผมรู้สึกพลาดคือ เธอบอกเธออยากเจอหน้าผม แม่เขา อยากเจอหน้าผม ตายห่าาาา!!! งานก็ทิ้งไม่ได้อยากไปก็อยากไป จนสุดท้ายผมก็ได้ไปส่งเธอ มันคงให้เธอผิดหวังกับผมมาก......
พฤษภา...เธอเล่าชีวิตที่อยู่ญี่ปุ่นเดือนแรกผ่านการส่งรูปภาพ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการสนทนากันโดยส่งรูปกันไปมามากเพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าคนที่เราคุยด้วยเขาให้ความสำคัญกับเราและเราเห็นการเป็นไปของเขา เขาเจอกับอะไรบ้างอย่างน้อยไม่ทั้งหมดแค่เสี้ยววินาทีก็ยังดี ในช่วงนี้เธอก็พยามหาเรื่องชวนคุยกับผมตลอด แต่ในช่วงนั้นผมงานเยอะมากและต้องนอนเร็ว แต่เธอนั้นในช่วงแรกไม่มีงานและยอมเสียเวลานอนไป 2 ชมเพื่อคุยกับผม (ญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าไทย 2 ชม.) เป็นแบบนี้อยุ่อาทิตย์หนึ่ง จนระเบิดลูกแรกก็เกิดขึ้นเราทะเลาะกันเรื่องเวลา เขานอยผมเพราะเขาอุสาห์รอคุยกับผมแต่ผมกลับหลับไปก่อนเขาและทิ้งให้เขาอ้างว้างคนเดียว ผมก็ให้เหตุผมว่าผมต้องทำงานอนดึก แล้วถ้านอนไม่พอจะหงุดหงิดมาก และก็ต่อว่าเธอไป ว่าเธอขี้งอแงนิสัยเด็กน้อย เอาแต่ใจตัวเอง หลังจากทะเลาะกันพักหนึ่งเธอก็หายไป เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ โพสถ้อยคำที่สื่อถึงว่าเธอน้อยใจ ก็ปล่อยให้เงียบไปวันหนึ่งและค่อยตามง้อเธอจนสำเร็จ เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใจเเข็งมากๆ จนเกือบท้อเวลาง้อ เราเป็นแบบนี้มาสองสามครั้ง จนเราต้องคุยกันว่าเราต้องปรับตัวเข้าหากันและกัน มันกลายเป็นว่า ผมเพิ่มความรู้สึกกับเธอมากขึ้นแต่เธอลดความรู้สึกกับผมลง แต่....นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง เรื่องนี้จนผมต้องมาเขียนพันทิพเพือ่ให้เธอกลับมาอีกครั้ง.... เดี่ยวมาต่อพรุ่งนี้นะครับขออภัยที่เขียนไม่จบ