พอขึ้นปี 2 ผมก็ย้ายมาอยู่หอพักนอกมหาวิทยาลัย
เป็นหเองแอร์ อยู่ชั้น6 อยู่คนเดียวครับ ค่าห้องเดือนละ 4,000 ก็แพงพอสมควร
ค่าน้ำ ค่าเคเบิลอีก ก็เลยพยายามประหยัด แอร์ก็ไม่ค่อยจะเปิด นาน ๆ ทีเวลาเพื่อนมาถึงเปิด
ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 7 บาทครับ ค่าไฟเดือนแรก 559 บาท ผมก็เอ้ะ แพงจัง หรือเราเปิดแอร์บ่อย
ก็ไม่นี่ ประมาณ 7 - 8 ครั้งเอง ครั้งละไม่ถึง 8 ชม.
เดือนหน้าต้องพยายามลด แต่เดือนต่อมาค่าไฟเพิ่มเป็น 640 ตกใจมาก แอร์ก็เปิดพอ ๆ กับเดือนที่แล้วนะ
แต่เดือนที่ 3 ต้องประหยัดลงแน่ ๆ เพราะผมเริ่มทำงานพาร์ทไทม์
ค่าไฟจะนับรอบใหม่ทุก ๆ วันที่ 5 ซึ่งผมเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 เลิก 23.00 น. เกือบทุกวัน (ประมาณ 20 วัน)
เหนื่อยแต่ก็หมายความว่าเราใช้ไฟน้อยลง กลับถึงห้องประมาณ 5 ทุ่มครึ่งเปิดไฟหลอดกลางดวงเดียวในห้อง
พัดลมเบอร์ 1 ตั้งแต่ 5 ทุ่มครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้า แอร์ไม่ได้เปิดเลย ไม่ได้เปิดแบบ เอารีโมทไปไว้ห้องเพื่อนอ่ะ
เสื้อผ้าไม่ได้รีดเลย กาน้ำร้อนก็ไม่ได้เสียบ หม้อหุงข้าวก็ไม่ได้เสียบ เลยยย เครื่องทำน้ำอุ่นก็ใช้รวม ๆ วันละไม่ถึง 40 นาที
เรียนเสร็จกลับถึงหอ 15.00 น. ห้าโมงเย็นก็ไปทำงานต่อ ระหว่างนั้นก็เปิดแค่พัดลมเบอร์ 1 ชาร์จมือถือ
วัฏจักรชีวิตเป็นแบบนี้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาทั้งเดือน
ผลปรากฏว่าค่าไฟลดเหลือ 329 ซึ่งลดลงก็ดีใจนะ แต่ผมคิดว่ามันควรจะถูกกว่านี้เพราะเพื่อนผม(ผญ)
อยู่ตึกเดียวกัน ห้องพัดลม เปิดพัดลมทั้งวัน อยู่หอทั้งวันเกือบทุกวันเพราะไม่ได้ทำงาน อยู่กันสองคนด้วยซ้ำ
มันก็เปิดโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 ตัวทั้งคืน ไฟก็เปิดทีละสองดวงตลอด อาบน้ำร้อนทีก็นานมาก บางทีก็ต้มมาม่า หุงข้าวกินด้วยซ้ำ
เอาเป็นว่าถ้าคุณมาเห็นวิถีการใช้ไฟฟ้าของเรา 2 ห้อง จะเห็นว่าต่างกันมาก ๆ ๆ แต่ค่าไฟห้องเพื่อนผมแค่ 340 ซึ่งผมว่า
มันเมคโนเซ้นส์
หรือว่าแค่มีแอร์ค่าไฟก็พุ่งได้แล้ว มิเตอร์ไฟฟ้าก็ติดอยู่ข้างห้องผมนี่แหละแต่ก็ไม่รู้อันไหนของห้องไหนเพราะไม่มีอะไรระบุไว้
พอจะมีวิธีตรวจสอบมั้ยครับว่าทำไมค่าไฟถึงแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ผมกลัวว่าจะโดนโกงเพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์คำร่ำลือมาเหมือนกันเกี่ยวกับหอที่อยู่
หรือว่าควรจะปรึกษาเจ้าของหอโดยตรง แต่ก็นะ
คิดว่าค่าไฟแพงเกินไป มีวิธีตรวจสอบมั้ยครับ
เป็นหเองแอร์ อยู่ชั้น6 อยู่คนเดียวครับ ค่าห้องเดือนละ 4,000 ก็แพงพอสมควร
ค่าน้ำ ค่าเคเบิลอีก ก็เลยพยายามประหยัด แอร์ก็ไม่ค่อยจะเปิด นาน ๆ ทีเวลาเพื่อนมาถึงเปิด
ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 7 บาทครับ ค่าไฟเดือนแรก 559 บาท ผมก็เอ้ะ แพงจัง หรือเราเปิดแอร์บ่อย
ก็ไม่นี่ ประมาณ 7 - 8 ครั้งเอง ครั้งละไม่ถึง 8 ชม.
เดือนหน้าต้องพยายามลด แต่เดือนต่อมาค่าไฟเพิ่มเป็น 640 ตกใจมาก แอร์ก็เปิดพอ ๆ กับเดือนที่แล้วนะ
แต่เดือนที่ 3 ต้องประหยัดลงแน่ ๆ เพราะผมเริ่มทำงานพาร์ทไทม์
ค่าไฟจะนับรอบใหม่ทุก ๆ วันที่ 5 ซึ่งผมเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 เลิก 23.00 น. เกือบทุกวัน (ประมาณ 20 วัน)
เหนื่อยแต่ก็หมายความว่าเราใช้ไฟน้อยลง กลับถึงห้องประมาณ 5 ทุ่มครึ่งเปิดไฟหลอดกลางดวงเดียวในห้อง
พัดลมเบอร์ 1 ตั้งแต่ 5 ทุ่มครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้า แอร์ไม่ได้เปิดเลย ไม่ได้เปิดแบบ เอารีโมทไปไว้ห้องเพื่อนอ่ะ
เสื้อผ้าไม่ได้รีดเลย กาน้ำร้อนก็ไม่ได้เสียบ หม้อหุงข้าวก็ไม่ได้เสียบ เลยยย เครื่องทำน้ำอุ่นก็ใช้รวม ๆ วันละไม่ถึง 40 นาที
เรียนเสร็จกลับถึงหอ 15.00 น. ห้าโมงเย็นก็ไปทำงานต่อ ระหว่างนั้นก็เปิดแค่พัดลมเบอร์ 1 ชาร์จมือถือ
วัฏจักรชีวิตเป็นแบบนี้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของระยะเวลาทั้งเดือน
ผลปรากฏว่าค่าไฟลดเหลือ 329 ซึ่งลดลงก็ดีใจนะ แต่ผมคิดว่ามันควรจะถูกกว่านี้เพราะเพื่อนผม(ผญ)
อยู่ตึกเดียวกัน ห้องพัดลม เปิดพัดลมทั้งวัน อยู่หอทั้งวันเกือบทุกวันเพราะไม่ได้ทำงาน อยู่กันสองคนด้วยซ้ำ
มันก็เปิดโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 ตัวทั้งคืน ไฟก็เปิดทีละสองดวงตลอด อาบน้ำร้อนทีก็นานมาก บางทีก็ต้มมาม่า หุงข้าวกินด้วยซ้ำ
เอาเป็นว่าถ้าคุณมาเห็นวิถีการใช้ไฟฟ้าของเรา 2 ห้อง จะเห็นว่าต่างกันมาก ๆ ๆ แต่ค่าไฟห้องเพื่อนผมแค่ 340 ซึ่งผมว่า
มันเมคโนเซ้นส์
หรือว่าแค่มีแอร์ค่าไฟก็พุ่งได้แล้ว มิเตอร์ไฟฟ้าก็ติดอยู่ข้างห้องผมนี่แหละแต่ก็ไม่รู้อันไหนของห้องไหนเพราะไม่มีอะไรระบุไว้
พอจะมีวิธีตรวจสอบมั้ยครับว่าทำไมค่าไฟถึงแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ผมกลัวว่าจะโดนโกงเพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์คำร่ำลือมาเหมือนกันเกี่ยวกับหอที่อยู่
หรือว่าควรจะปรึกษาเจ้าของหอโดยตรง แต่ก็นะ