ของเก่าเล่าใหม่ แด่ฟอร์มที่สุดยอดในวันนี้
จากเด็กผอมบาง ก้านยาว ถือกำเนิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โชคชะตาที่พลิกผันเล่นตลกให้เขากลายเป็นตัวทีเด็ดนอกสายตาของทีมชาติไทย ยู 19
เรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิตค้าแข้งของ ศุภชัย ใจเด็ด นักเตะทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ลงทำศึกชิงแชมป์อาเซียนที่เวียงจันทร์เวลานี้ก็คือ เขาแทบจะเป็น “ตัวเลือกสุดท้าย” มาโดยตลอด และเส้นทางสู่ความสำเร็จของเขาทุกวันนี้ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบเลย
"อาร์มเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่เราเลือกเข้ามาอยู่ในทีม" โค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด กล่าวถึง ศุภชัย
"ก่อนหน้านี้เรามีผู้เล่นแล้ว 22 คน แต่ผมอยากได้แนวรุกเพิ่ม ประจวบเหมาะว่าพี่โต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) โค้ชของโอสถแนะนำอาร์มเข้ามา ผมเห็นว่าเขาทักษะยอดเยี่ยม และมีรูปร่างดี จึงเลือกเข้ามาติดทีม"
"ผมว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ดีมาก แม้จะอายุเพียง 17 ปี และเคยเล่นกองกลางมาก่อน แต่ผมมองว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นกองหน้าของทีมได้ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีในรายการนี้"
จากเด็กหนุ่มก้านยาวชาวปัตตานี รูปร่างผอมบาง ที่ไม่เคยคิดเรื่องการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพอย่างจริงจัง ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อมีผู้ใหญ่แถวบ้านเห็นแววและชักชวนไปซ้อมที่สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี และได้พบโค้ชคนแรกซึ่งจุดประกายเรื่องฟุตบอลให้เขา
“อาจารย์ เสรี เบญอาเหม็ด เป็นโค้ชคนแรกของผม แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่เก่งอะไรมากนัก แต่ผู้ชายคนนี้ก็เต็มไปด้วยหัวใจที่รักฟุตบอล และคอยสนับสนุนผมแทบทุกอย่าง”
ด้วยความรักในเชิงลูกหนัง ทักษะที่มีอยู่ในตัว และพรแสวงที่ขยันหมั่นฝึกฝน “อาร์ม” พัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่ออายุ 10 ขวบ เขาก็ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 แข้งเยาวชนภาคใต้ที่ไปโชว์ฝีเท้าที่สวีเดน
“ตอนนั้นผมอายุแค่ 10 ขวบเองครับ แต่ก็ได้ไปเตะที่สวีเดนรายการ 13 ปี...ผมติดไปเป็นคนสุดท้าย ส่วนโค้ชตอนนั้นเป็น สมบุญ อิ่นออน ครับ”
“ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็ได้อันดับ 9 ของโลกกลับมา จำได้ว่าแพ้ทีมชาติกานาเป็นแมตช์สุดท้าย”
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดของเขาที่ปัตตานี ก่อนจะหอบหิ้วความฝันนั่งรถไฟฟรีไปเผชิญโชคที่กรุงเทพฯ กับโรงเรียนปทุมคงคา เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว และด้วยความที่เขาต้องผ่านการคัดเลือกเป็นคนสุดท้ายที่นี่เอง ที่ทำให้เจ้าตัวต้องเสียน้ำตาและเกือบเก็บกระเป๋ากลับบ้านมาแล้ว
อ่านต่อที่
http://www.goal.com/th/news/5285/give-a-shout/2015/09/02/14969842/Give-A-Shout-%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89
ศุภชัย ใจเด็ด : จากปัตตานีหอบหิ้วความฝันนั่งรถไฟฟรีไปเผชิญโชคที่กรุงเทพ
จากเด็กผอมบาง ก้านยาว ถือกำเนิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โชคชะตาที่พลิกผันเล่นตลกให้เขากลายเป็นตัวทีเด็ดนอกสายตาของทีมชาติไทย ยู 19
เรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิตค้าแข้งของ ศุภชัย ใจเด็ด นักเตะทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ลงทำศึกชิงแชมป์อาเซียนที่เวียงจันทร์เวลานี้ก็คือ เขาแทบจะเป็น “ตัวเลือกสุดท้าย” มาโดยตลอด และเส้นทางสู่ความสำเร็จของเขาทุกวันนี้ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบเลย
"อาร์มเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่เราเลือกเข้ามาอยู่ในทีม" โค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด กล่าวถึง ศุภชัย
"ก่อนหน้านี้เรามีผู้เล่นแล้ว 22 คน แต่ผมอยากได้แนวรุกเพิ่ม ประจวบเหมาะว่าพี่โต่ย (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) โค้ชของโอสถแนะนำอาร์มเข้ามา ผมเห็นว่าเขาทักษะยอดเยี่ยม และมีรูปร่างดี จึงเลือกเข้ามาติดทีม"
"ผมว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ดีมาก แม้จะอายุเพียง 17 ปี และเคยเล่นกองกลางมาก่อน แต่ผมมองว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นกองหน้าของทีมได้ ซึ่งเขาก็ทำได้ดีในรายการนี้"
จากเด็กหนุ่มก้านยาวชาวปัตตานี รูปร่างผอมบาง ที่ไม่เคยคิดเรื่องการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพอย่างจริงจัง ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อมีผู้ใหญ่แถวบ้านเห็นแววและชักชวนไปซ้อมที่สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี และได้พบโค้ชคนแรกซึ่งจุดประกายเรื่องฟุตบอลให้เขา
“อาจารย์ เสรี เบญอาเหม็ด เป็นโค้ชคนแรกของผม แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่เก่งอะไรมากนัก แต่ผู้ชายคนนี้ก็เต็มไปด้วยหัวใจที่รักฟุตบอล และคอยสนับสนุนผมแทบทุกอย่าง”
ด้วยความรักในเชิงลูกหนัง ทักษะที่มีอยู่ในตัว และพรแสวงที่ขยันหมั่นฝึกฝน “อาร์ม” พัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่ออายุ 10 ขวบ เขาก็ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 แข้งเยาวชนภาคใต้ที่ไปโชว์ฝีเท้าที่สวีเดน
“ตอนนั้นผมอายุแค่ 10 ขวบเองครับ แต่ก็ได้ไปเตะที่สวีเดนรายการ 13 ปี...ผมติดไปเป็นคนสุดท้าย ส่วนโค้ชตอนนั้นเป็น สมบุญ อิ่นออน ครับ”
“ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก็ได้อันดับ 9 ของโลกกลับมา จำได้ว่าแพ้ทีมชาติกานาเป็นแมตช์สุดท้าย”
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดของเขาที่ปัตตานี ก่อนจะหอบหิ้วความฝันนั่งรถไฟฟรีไปเผชิญโชคที่กรุงเทพฯ กับโรงเรียนปทุมคงคา เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว และด้วยความที่เขาต้องผ่านการคัดเลือกเป็นคนสุดท้ายที่นี่เอง ที่ทำให้เจ้าตัวต้องเสียน้ำตาและเกือบเก็บกระเป๋ากลับบ้านมาแล้ว
อ่านต่อที่
http://www.goal.com/th/news/5285/give-a-shout/2015/09/02/14969842/Give-A-Shout-%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89