...เป็นงัยครับ หลังจากไม่มีนโยบายประชานิยม ชีวิตดีขึ้นไหมเอ่ย

งบประมาณกลับมาสมดุล  หรือ ขาดดุลน้อยลงไหม ( หรือยังเหมือนเดิม )
ประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้นหรือปล่าว ( หรือแย่ลง )

ถ้างบยังขาดดุลเหมือนเดิม  และ ความเป็นอยู่ของประชาชนแย่ลง
ก็คงสรุปเป็นอย่างอื่นไม่ได้  นอกจาก
เรื่องนี้  เป็นการกล่าวหา   เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น

กลับกัน  หากวันนี้ ไม่มีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค
ผมหลับตาแล้วเห็นภาพเลย
อาชญกรรมจะเพิ่มขึ้น   ปัญหาเศรษฐกิจจะสาหัสกว่านี้   มากมายนัก

โดยเฉพาะชนชั้นกลาง ( ที่ค่อนมาระดับตํ่า )  จนถึงระดับล่าง
คิดง่ายๆ
ไปหาหมอที  อย่างโรคที่ค่ารักษาค่อนข้างสูง  ก็แทบจะมากกว่าเงินเดือนในแต่ละเดือน
แล้วจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่ายในครัวเรือนกันครับ

หรือโรคเบสิก  อย่างไข้หวัด
จากที่เคยจ่าย 300-400 บาท  กลับจ่ายแค่30
เงินที่เหลือก็สามารถ  นําไปซื้ออาหาร   หรือ   ข้าวของเครื่องใช้  
ช่วยในเรื่องเศรษฐกิจของชาติ     และ   ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  ได้ทางหนึ่ง

แต่บางท่านอาจจะค้าน  หากไม่มีนโยบาย 30บาท รักษาทุกโรค
รัฐก็จะมีงบประมาณมากพอไปใช้อย่างอื่น

แล้วท่านไม่คิดหรือ
เงินที่เหลือจากการจ่าย30บาท  เมื่อถูกนําไปใช้ในชีวิตประจําวัน
มันก็จะเกิดการหมุนเวียน  และกลับไปสู่รัฐทางอ้อม  ในรูปของภาษี  เหมือนกัน

นโยบาย 30 รักษาทุกโรค  ที่จริง  หากมองให้ลึกแล้ว  มันไม่ใช่แค่หลักประกันสุขภาพ
แต่เป็นการบริหาร   เศรษฐกิจอย่างชาญฉลาด
เหมือนหลักปรัชญา " สุดยอดของการบริหาร คือ  ไม่บริหาร "

ปล่อยให้เงินที่ประหยัดจากการรักษาพยาบาล
อยู่ในกระเป๋าประชาชน    ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ
เพื่อใช้จ่ายตามความจําเป็นของแต่ละบุคคล

ดีกว่าเอาเข้ารัฐ   แล้วให้รัฐเป็นผู้จ่ายออกไป
หรือ  ใครมั่นใจว่าการใช้จ่ายของรัฐ  ที่ใช้วิธี  หว่านเม็ดเงินจากบนไปสู่ระดับล่าง
จะทั่วถึง  ตรงจุด   ไม่มีการรัวไหล  และมีประสิทธิภาพ  
มากกว่า    การปล่อยให้เม็ดเงินอยู่ในกระเป๋าประชาชน
แล้วให้พวกเขาบริหารจัดการกันเอง    ตามความจําเป็นของแต่ละคนครับ

  

------------------