ต้องบอกก่อนเลยครับนี้เป็นครั้งแรกที่มาเขียนกระท็ ปกติเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว เลยอยากเขียนกระทู้ไว้เป็นความทรงจำว่าเราไปลุยที่ไหนมาบ้างนอกเรื่องมาเยอะลุยเลยดีกว่าา
** Le'tsgo VANGVIENG **
เป้าหมายในครั้งนี้คือ "ถ้ำปูคำ " ครับ ที่คิดไว้ติด Gopro โดดน้ำเฟี้ยวๆ นั้นคือจุดมุ่งหมายผมในครั้งนี้
ทริปนี้มีผู้ร่วมชะตากรรม 8 คนครับ ไปกันวันที่ 19- 22 สิงหาคม 2016 เราไปแบบไม่รู้อะไรเลย ข้อมูลสำหรับทริปนี้น้อยมาก เห็นเป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากไปสนุกๆ มีปัญหาก็ลุยหน้างานเอาเลยดีกว่า เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินเที่ยว 6 ที่นั้ง อีก 2 คนเขานั้งรถไฟไปแล้วนอนค้างที่นั้นรอพวกเราก่อนแล้ว boarding time ตี 5.55 น. ครับ ใช้เวลาเดินทาง 45-50 นาที เรามาถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีตอน 6.55 น. บรรยากาศกำลังดีครับฝนตกเบา ๆ อากาศน่านอนต่อ ใช่ที่ไหนล่ะ ฮ่าาาา ๆ
ลงเครื่องมาเรารีบเดินทางต่อเพื่อที่จะไปขึ้นรถ อุดร - วังเวียง ซึ่งมีแค่รอบเดียว เราเหมา TAXI ไป บขส.เก่าอุดร 200 บาท
( พวกเราเลยให้เพื่อนที่มาก่อนแล้วไปซื้อให้ตั๋วครับ โดยที่พวกเราทั้งหมดฝาก PASSPORT ไว้ที่เพื่อนเพื่อใช้ในการซื้อตั๋ว)
นั้งรถไปซักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
B : ฮัลโหล ๆ เห้ยยย มีคนหนึ่งซื้อไม่ได้ และมี ตั๋วว่างแค่ 3 ที่วะ
A : ห้ะ ทำไมอ่ะ
B : อายุ PASSPORT เหลือไม่ถึง 6 เดือน !!
7.45 น. ณ สถานที บขส. : ทุกคนมากันพร้อมเอาล่ะครับปัญหามาแล้วมองหน้ากันเอายังไงดี เจ้าหน้าที่เขาเลยแนะนำให้ไปเวียงจันทร์แล้วไปหารถต่อไปวังเวียงอีกที่เพราะที่นั้นมีรถที่ไปวังเวียงเยอะ พวกเราเลยซื้อตั๋วรถประจำทาง 80 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ชั่วโมงเศษ ๆ
ส่วนคนที่มีปัญหา PASSPORT มีคนแถวนั้นเขาแนะนำ ให้ทำบัตรผ่านแดนไปแต่จะอยู่ได้แค่เวียงจันทร์นะ(ถ้าออกนอกเวียงจันทร์ก็คือคนเถื่อนดีๆนี้เองครับ ลักรอบเข้าประเทศ) ถึงด่านหนองคายเราก็ไปซื้อบัตร ONE WAY PASS
จากนั้นมาเขียนบัตรขาเข้า และ ขาออก **(เก็บรักษาให้ดี ๆ นะครับเพราะขากลับเราต้องใช้มัน)
เราได้ทำการแลกเงินจากที่นี้เลย เรทที่แลก 235
แนะนำว่าอย่าแลกเยอะเลยครับเพราะแลกคืนลำบากแลกเท่าที่จำเป็นเพราะไปนู้นก็ใช้เงินไทยได้เพียงแต่ราคาพวกสินค้าเงินกีบมันถูกกว่าแค่นั้นเอง
หลังจากพวกเราผ่านแดนก็จะมีพวกผู้คนแถวนั้นเขามาเสนอการเดินทาง ๆ ต่างถามเราไปไหนสนใจไหม
เราเลยคุยกันว่าเหมาเลยไปเลยดีกว่าต่อเดียวถึงที่พัก ใช้เวลาเดินทาง 3 - 4 ชั่วโมงรถที่ได้คือรถ HYUNDAI VIP 12 ที่นั้ง ครับ ในราคา 3000 หาร ๆ แล้ว ตกคนละ 375 บาท **แนะนำครับต่อได้ต่อเลยมีหลายราคาให้เลือกมากครับ (เรื่องฮา ๆ ก็เกิดขึ้นจากที่พวกเราเอากระเป๋าไปเก็บด้านข้างของรถทัวร์ อัด ๆ กันเข้าไป ตอนแรกยังไม่เอะใจกัน กลิ่นมาจากไหน ?? เลยฉีดน้ำหอมดับกลิ่มไป โอเคบรรยากาศดีขึ้นคิดว่ากลิ่นอับติดกระเป๋าเลยไม่ได้อะไรกันมาก ซักพักกลิ่นมา นส. ออ สระ เอ๋ เป็นหน่วยกล้าตายดมทุกกระเป๋าเลยตะโกนลั่น อี นส.มอ เอ กระเป๋ามิงโดนอ้วก ฮาลั่นนน ทนดมกลิ่นมาตั้งนาน ชัดเลย 555+ สงสารพี่ที่เราเหมารถคงแอบด่าพวกเราในใจ ถ้าหากกระเป๋าไม่ใหญ่มากแนะนำว่าพกติดตัวดีกว่าครับ สบายใจกว่าด้วย )
16.10 รถก็มาส่งเราถึงที่พักแล้วครับ ไวกว่าที่คิด แน่สิพี่คนขับซิ่ง
ย สาย 8 ยังต้องหลบ ขนาดฝนตกนะ เสียวมาก ไม่ชินด้วยเพราะที่นั้นขับซ้าย เวลาขึ้นเขาหรือจังหวะแซงเราจะแอบเสียว ๆ
บรรยากาศที่พักดีมาก ๆ ตอนไปถึงฝนหยุดแล้ว เราก็คุยๆ กันซัก 17.30 ค่อยออกไปหาอะไรกินกันก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ซักพักฝนตกครับ และแล้วเราก็ไม่เหงา น้ำท่วมครับ ถูกต้อง น้ำท่วมแต่นิดเดียวเลยไม่เอ๊ะใจอะไร เดี๋ยวฝนก็คงหยุด บรรยากาศน่านอนมาก ๆ ฝนตกปรอย ๆ เปิดเพลงคลอเบา ๆ สูดกลิ่นธรรมชาติ
ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งฝนก็ยังไม่หยุดระดับน้ำเริ่ม ๆ เข้ามาให้ห้องแล้วครับจนทำให้ต้องย้ายที่พัก เนื่องจากที่พักเราอยู่ในพื้นที่ต่ำน่ะครับบันเทิงล่ะคราวนี้ จะรออะไรเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลุยผ่านน้ำออกไปนะสิครับ ระดับน้ำประมาณเอวในตอนนั้นทุกคนยังเฮฮากันอยู่ ยัง ยัง ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะนอนไหน ยังสนุกกันอยู่ 5555+ ก่อนไปขอถ่ายรูปไว้ที่เป็นที่ระลึกหน่อยยย อย่างกับมาช่วยผู้ประสบอุทกภัย
**แต่ต้องขอบคุณเจ้าของที่พักด้วยใจดีมาก ๆ เขามาขอโทษเราตลอดเวลาขณะเกิดเหตุ เราก็เข้าใจเขาครับ เขาก็ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเหมือนกันเพราะเขาก็เสียหาย
ดนตรีขึ้น : ทำถูกแล้ว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง 55+
ทำไงต่อก็เดินหาที่พักใหม่นะสิครับบ เดินชิล ๆ กลางสายฝนที่ตกปรอย ๆ ฟินเลยยไหมล่ะ เดินหาอยู่นานจนมาได้ที่พักล่ะครับที่พักคืนแรกเราพัก Viva Vangvieng ครับ ราคาตกใจเล็กน้อยย ทำการจองไป 2 ห้อง ห้องล่ะ 4 คน ห้องแรก 4 เตียง 120,000 กีบ อีก ห้อง 3 เตียง 100,000 กีบ คิดเป็นเงินไทย ตกคนละ 120 บาทเองครับ ชั้นล่างเป็นผับครับใครสนใจก็เชิญเลย แต่พวกผมไม่ไหว ตั้งแต่ออกจากสนามบินยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ลงความเห็นว่าจัดหนัก
เลยย เลือกร้านนี้ล่ะ Peeping som's bbq & hotpot สาว ๆ เกาหลีน่ารัก ๆ เยอะดี (ความหิวมันบังตาครับ 5555+ ) ในตอนนั้นไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้ครับนาทีนั้น หิววว !! รสชาติก็ หมูกะทะบ้าน ๆ เราเนี้ยล่ะครับ น้ำจิ้มเป็นบาบีคิว อร่อยดีแต่กินมาก ๆ เลี่ยนครับ เช็คบิล มื้อนี้ 2000 ตกคนล่ะ 250 ไม่แพงเลยครับ เอาละกลับที่พักดีกว่า พรุ่งนี้ต้องลุยกันอีก กินยาและพักผ่อนเอาแรง ๆ ฝนก็ยังไม่หยุดตก เลยคิดว่า One day trip พรุ่งนี้ไม่คุ้มแล้ว ค่อยว่ากันพรุ่งนี้ล่ะกันดูอากาศก่อน
วันที่ 2 เราตื่นกันมา 8.00 น เช้าแล้วตื่นมานี้เปิดหน้าต่างก่อนเลย เห้ยยยยย ฝนหยุดตกแล้วววว แดดออกจาง ๆ แอบยิ้ม ๆ
อาบน้ำแต่งตัวและทำการ Check out ออกและไป Check it อีกทีหนึ่งจากนั้นค่อยเที่ยว
ระยะทางไม่ไกลประมาณ 2 กิโลเลยตัดสินใจเดินดีกว่าดูอะไรข้างทางไปด้วย ดูบรรยากาศบ้านเมืองเขาน่าจะดีกว่า
(เปล่าเลยเดินมองสาวๆเนี้ยล่ะครับ 555+ ) เดินไปซักพักฝนตก ตกไม่ถึง 5 นาทีหยุด !!
10.00 เราถึงที่พักแล้ว ที่พักคืนที่ 2 เราพัก ถาวรสุข อยู่ติด ๆ ริมแม่น้ำบรรยากาศสวน
ผมพักห้อง SD15
บรรยากาศภายในห้องครับ
ถ้าชั้น 2 จะมีเป็นซุ้มมุ่งด้วยสวยดี
เอาของเก็บที่พักเราก็ออกไปหาอะไรกินจากนั้นก็ค่อยเที่ยว ผมเลือกกิน แซนวิชครับ
ชิ้นนี้ 10,000 กีบ ครับ ตกชิ้นละ 40 บาท อิ่มมาก ชีสเยอะ มีให้เลือกเยอะมากเดินไปจะเจอร้านขายพวกนี้เยอะมาก
เดินไปเจอนี้ครับไม่รู้เหมือนกันเขาเรียกอะไรเห็นคล้ายขนมครก เลยต้องลองง
นุ่มนิ่มดีครับ รสชาติหรอ จืดดดดดดด ฟืดคอ หอมกลิ่นใบเตย ขนมครกบ้านเราอร่อยกว่า
หลังจากหาอะไรกินเสร็จพวกเราคุยกันว่า ถ้าไปน้ำตกน้ำก็คงแรงกลัวน้ำป่า ถ้าไปขึ้นผาเงิน อันตรายพื้นลื่น ล่องห่วงยาง กระแสน้ำแรง เลยตัดสินใจเดินหารถไปถ้ำปูคำ แล้วค่อยว่ากัน
อย่างที่บอกข้างต้นจุดหมายครั้งนี้คือ Blue lagoon ! เราหมารถไปรถเป็นรถ 2 แถว ครับ 150,000 กีบ มีเสียค่าผ่านทาง(ข้ามสะพาน) 1,5000 และก็ค่าเข้า 80,000 กีบใช้เวลาเดินทาง ไม่นานครับ ไม่ถึงชั่วโมง
ถึงแล้วครับสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เห็นมันไม่ใช่เลย แอบผิดหวัง
ช่างมันไหน ๆ มาแล้วถ่ายรูปซักหน่อยเพราะฝนทีตกหนักน้ำขุ่น
ไปเจอทางขึ้นเขาไปไหว้พระข้างบน เจ้าหน้าที่บอกไม่ไกลนัก ไม่ถึง กิโล ไหน ๆ ก็มาแล้วลุยสิ
เดินมาถึงครึ่งทางแล้วครับ เส้นทางไม่โหดเท่าไหร่ มีแค่ช่วงปลาย ๆ จะชัน ๆ ต้องระวังหน่อย เนื่องจากฝนตกทำให้พื้นลื่นเลยต้องระวังกันพิเศษ มือ เท้า ปีน ป่ายเต็มที่ 555+
บรรยากาศภายในถ้ำ เหงือกแตกพลั่ก
เราอยู่ที่นี้ไม่นานครับ เพราะไม่มีอะไรเลย แวะไปกินกาแฟดีกว่าก่อนมาได้เลงร้านไว้แล้ว
นั้นก็คือร้าน Off-Beat บรรยากาศร้านน่านั้งดีครับ
ร้านตรงข้ามก็เช่นกันเป็นร้านของหวานเลงไว้คืนนี้ต้องมาโดน
ต่างคนต่างสั่งแล้วก็นั้งคุยกันจะเอากันต่อดีไปนี้ก็ไม่ได้ไปนู้นก็ไม่ได้ มีคนเสนอว่าลองไปดูถ้ำจังดีกว่าไม่ไกลมากนั้งลองเดินไปดู
พวกเราออกจากร้านกาแฟ มาตอน 16.00 น.
จากที่พักถาวรสุขไปถ้ำจังประมาณ 2 กิโล ครับ ก็ถามทางคนแถวนั้นเขาก็บอกให้เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวา เอ๊ะ บรรยากาศข้างทางเริ่มคุ้น ๆ
เห้ยนี้มันทางไปที่พักวันแรกนิน่าาสภาพตอนนั้นน้ำยังไม่ลดดีเลยครับ
ยังคงท่วมอยู่แต่ไม่มากประมาณหน้าแข้งเดินลุยๆ
ไปถึงสะพานอ้าววว เขาปิดไม่ให้เข้าเนื่องจากน้ำท่วม
[CR] สบายดีเจ้าาา วังเวียง มิ วังเวง
ทริปนี้มีผู้ร่วมชะตากรรม 8 คนครับ ไปกันวันที่ 19- 22 สิงหาคม 2016 เราไปแบบไม่รู้อะไรเลย ข้อมูลสำหรับทริปนี้น้อยมาก เห็นเป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากไปสนุกๆ มีปัญหาก็ลุยหน้างานเอาเลยดีกว่า เราได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินเที่ยว 6 ที่นั้ง อีก 2 คนเขานั้งรถไฟไปแล้วนอนค้างที่นั้นรอพวกเราก่อนแล้ว boarding time ตี 5.55 น. ครับ ใช้เวลาเดินทาง 45-50 นาที เรามาถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีตอน 6.55 น. บรรยากาศกำลังดีครับฝนตกเบา ๆ อากาศน่านอนต่อ ใช่ที่ไหนล่ะ ฮ่าาาา ๆ
ลงเครื่องมาเรารีบเดินทางต่อเพื่อที่จะไปขึ้นรถ อุดร - วังเวียง ซึ่งมีแค่รอบเดียว เราเหมา TAXI ไป บขส.เก่าอุดร 200 บาท
( พวกเราเลยให้เพื่อนที่มาก่อนแล้วไปซื้อให้ตั๋วครับ โดยที่พวกเราทั้งหมดฝาก PASSPORT ไว้ที่เพื่อนเพื่อใช้ในการซื้อตั๋ว)
นั้งรถไปซักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
B : ฮัลโหล ๆ เห้ยยย มีคนหนึ่งซื้อไม่ได้ และมี ตั๋วว่างแค่ 3 ที่วะ
A : ห้ะ ทำไมอ่ะ
B : อายุ PASSPORT เหลือไม่ถึง 6 เดือน !!
7.45 น. ณ สถานที บขส. : ทุกคนมากันพร้อมเอาล่ะครับปัญหามาแล้วมองหน้ากันเอายังไงดี เจ้าหน้าที่เขาเลยแนะนำให้ไปเวียงจันทร์แล้วไปหารถต่อไปวังเวียงอีกที่เพราะที่นั้นมีรถที่ไปวังเวียงเยอะ พวกเราเลยซื้อตั๋วรถประจำทาง 80 บาท ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ชั่วโมงเศษ ๆ
ส่วนคนที่มีปัญหา PASSPORT มีคนแถวนั้นเขาแนะนำ ให้ทำบัตรผ่านแดนไปแต่จะอยู่ได้แค่เวียงจันทร์นะ(ถ้าออกนอกเวียงจันทร์ก็คือคนเถื่อนดีๆนี้เองครับ ลักรอบเข้าประเทศ) ถึงด่านหนองคายเราก็ไปซื้อบัตร ONE WAY PASS
จากนั้นมาเขียนบัตรขาเข้า และ ขาออก **(เก็บรักษาให้ดี ๆ นะครับเพราะขากลับเราต้องใช้มัน)
เราได้ทำการแลกเงินจากที่นี้เลย เรทที่แลก 235
แนะนำว่าอย่าแลกเยอะเลยครับเพราะแลกคืนลำบากแลกเท่าที่จำเป็นเพราะไปนู้นก็ใช้เงินไทยได้เพียงแต่ราคาพวกสินค้าเงินกีบมันถูกกว่าแค่นั้นเอง
หลังจากพวกเราผ่านแดนก็จะมีพวกผู้คนแถวนั้นเขามาเสนอการเดินทาง ๆ ต่างถามเราไปไหนสนใจไหม
16.10 รถก็มาส่งเราถึงที่พักแล้วครับ ไวกว่าที่คิด แน่สิพี่คนขับซิ่ง
บรรยากาศที่พักดีมาก ๆ ตอนไปถึงฝนหยุดแล้ว เราก็คุยๆ กันซัก 17.30 ค่อยออกไปหาอะไรกินกันก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ซักพักฝนตกครับ และแล้วเราก็ไม่เหงา น้ำท่วมครับ ถูกต้อง น้ำท่วมแต่นิดเดียวเลยไม่เอ๊ะใจอะไร เดี๋ยวฝนก็คงหยุด บรรยากาศน่านอนมาก ๆ ฝนตกปรอย ๆ เปิดเพลงคลอเบา ๆ สูดกลิ่นธรรมชาติ
ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งฝนก็ยังไม่หยุดระดับน้ำเริ่ม ๆ เข้ามาให้ห้องแล้วครับจนทำให้ต้องย้ายที่พัก เนื่องจากที่พักเราอยู่ในพื้นที่ต่ำน่ะครับบันเทิงล่ะคราวนี้ จะรออะไรเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลุยผ่านน้ำออกไปนะสิครับ ระดับน้ำประมาณเอวในตอนนั้นทุกคนยังเฮฮากันอยู่ ยัง ยัง ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะนอนไหน ยังสนุกกันอยู่ 5555+ ก่อนไปขอถ่ายรูปไว้ที่เป็นที่ระลึกหน่อยยย อย่างกับมาช่วยผู้ประสบอุทกภัย
**แต่ต้องขอบคุณเจ้าของที่พักด้วยใจดีมาก ๆ เขามาขอโทษเราตลอดเวลาขณะเกิดเหตุ เราก็เข้าใจเขาครับ เขาก็ไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นเหมือนกันเพราะเขาก็เสียหาย
ดนตรีขึ้น : ทำถูกแล้ว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง 55+
ทำไงต่อก็เดินหาที่พักใหม่นะสิครับบ เดินชิล ๆ กลางสายฝนที่ตกปรอย ๆ ฟินเลยยไหมล่ะ เดินหาอยู่นานจนมาได้ที่พักล่ะครับที่พักคืนแรกเราพัก Viva Vangvieng ครับ ราคาตกใจเล็กน้อยย ทำการจองไป 2 ห้อง ห้องล่ะ 4 คน ห้องแรก 4 เตียง 120,000 กีบ อีก ห้อง 3 เตียง 100,000 กีบ คิดเป็นเงินไทย ตกคนละ 120 บาทเองครับ ชั้นล่างเป็นผับครับใครสนใจก็เชิญเลย แต่พวกผมไม่ไหว ตั้งแต่ออกจากสนามบินยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ลงความเห็นว่าจัดหนัก
วันที่ 2 เราตื่นกันมา 8.00 น เช้าแล้วตื่นมานี้เปิดหน้าต่างก่อนเลย เห้ยยยยย ฝนหยุดตกแล้วววว แดดออกจาง ๆ แอบยิ้ม ๆ
อาบน้ำแต่งตัวและทำการ Check out ออกและไป Check it อีกทีหนึ่งจากนั้นค่อยเที่ยว
ระยะทางไม่ไกลประมาณ 2 กิโลเลยตัดสินใจเดินดีกว่าดูอะไรข้างทางไปด้วย ดูบรรยากาศบ้านเมืองเขาน่าจะดีกว่า
(เปล่าเลยเดินมองสาวๆเนี้ยล่ะครับ 555+ ) เดินไปซักพักฝนตก ตกไม่ถึง 5 นาทีหยุด !!
10.00 เราถึงที่พักแล้ว ที่พักคืนที่ 2 เราพัก ถาวรสุข อยู่ติด ๆ ริมแม่น้ำบรรยากาศสวน
ผมพักห้อง SD15
บรรยากาศภายในห้องครับ
ถ้าชั้น 2 จะมีเป็นซุ้มมุ่งด้วยสวยดี
เอาของเก็บที่พักเราก็ออกไปหาอะไรกินจากนั้นก็ค่อยเที่ยว ผมเลือกกิน แซนวิชครับ
ชิ้นนี้ 10,000 กีบ ครับ ตกชิ้นละ 40 บาท อิ่มมาก ชีสเยอะ มีให้เลือกเยอะมากเดินไปจะเจอร้านขายพวกนี้เยอะมาก
เดินไปเจอนี้ครับไม่รู้เหมือนกันเขาเรียกอะไรเห็นคล้ายขนมครก เลยต้องลองง
นุ่มนิ่มดีครับ รสชาติหรอ จืดดดดดดด ฟืดคอ หอมกลิ่นใบเตย ขนมครกบ้านเราอร่อยกว่า
หลังจากหาอะไรกินเสร็จพวกเราคุยกันว่า ถ้าไปน้ำตกน้ำก็คงแรงกลัวน้ำป่า ถ้าไปขึ้นผาเงิน อันตรายพื้นลื่น ล่องห่วงยาง กระแสน้ำแรง เลยตัดสินใจเดินหารถไปถ้ำปูคำ แล้วค่อยว่ากัน
อย่างที่บอกข้างต้นจุดหมายครั้งนี้คือ Blue lagoon ! เราหมารถไปรถเป็นรถ 2 แถว ครับ 150,000 กีบ มีเสียค่าผ่านทาง(ข้ามสะพาน) 1,5000 และก็ค่าเข้า 80,000 กีบใช้เวลาเดินทาง ไม่นานครับ ไม่ถึงชั่วโมง
ถึงแล้วครับสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เห็นมันไม่ใช่เลย แอบผิดหวัง
ช่างมันไหน ๆ มาแล้วถ่ายรูปซักหน่อยเพราะฝนทีตกหนักน้ำขุ่น
ไปเจอทางขึ้นเขาไปไหว้พระข้างบน เจ้าหน้าที่บอกไม่ไกลนัก ไม่ถึง กิโล ไหน ๆ ก็มาแล้วลุยสิ
เดินมาถึงครึ่งทางแล้วครับ เส้นทางไม่โหดเท่าไหร่ มีแค่ช่วงปลาย ๆ จะชัน ๆ ต้องระวังหน่อย เนื่องจากฝนตกทำให้พื้นลื่นเลยต้องระวังกันพิเศษ มือ เท้า ปีน ป่ายเต็มที่ 555+
บรรยากาศภายในถ้ำ เหงือกแตกพลั่ก
เราอยู่ที่นี้ไม่นานครับ เพราะไม่มีอะไรเลย แวะไปกินกาแฟดีกว่าก่อนมาได้เลงร้านไว้แล้ว
นั้นก็คือร้าน Off-Beat บรรยากาศร้านน่านั้งดีครับ
ร้านตรงข้ามก็เช่นกันเป็นร้านของหวานเลงไว้คืนนี้ต้องมาโดน
ต่างคนต่างสั่งแล้วก็นั้งคุยกันจะเอากันต่อดีไปนี้ก็ไม่ได้ไปนู้นก็ไม่ได้ มีคนเสนอว่าลองไปดูถ้ำจังดีกว่าไม่ไกลมากนั้งลองเดินไปดู
พวกเราออกจากร้านกาแฟ มาตอน 16.00 น.
จากที่พักถาวรสุขไปถ้ำจังประมาณ 2 กิโล ครับ ก็ถามทางคนแถวนั้นเขาก็บอกให้เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวา เอ๊ะ บรรยากาศข้างทางเริ่มคุ้น ๆ
เห้ยนี้มันทางไปที่พักวันแรกนิน่าาสภาพตอนนั้นน้ำยังไม่ลดดีเลยครับ
ยังคงท่วมอยู่แต่ไม่มากประมาณหน้าแข้งเดินลุยๆ
ไปถึงสะพานอ้าววว เขาปิดไม่ให้เข้าเนื่องจากน้ำท่วม