(มีคำวิบัติและคำไม่สุภาพ)
55555 ขอโทษจริงๆ ค่ะที่ต้องจ่าหน้าซองแบบนั้น
ก็แหม พวกเว็ปไซด์ที่ตั้งหัวข้อแบบนั้นมันดึงดูดมากๆ นี่นา
เลยอยากจะเลียนแบบบ้างง่ะ...
สวัสดีค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เคยตั้งกระทู้ เคยคอมเม้นท์ไว้บ้าง
แต่วันนี้ขี้เกียจแอ๊บเสียเต็มประดา ขออนุญาตเป็นตัวของตัวเองเพื่ออรรถรสนิดนึงเนอะ
เรื่องของเรื่องคือดิชั้นมีความฝันที่คอยพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอ
ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยว่า "เก็บอาเซียนให้ได้ก่อนอายุ 25"
เอาเข้าจริง พอเติบโต พอได้ทำงาน ก็ลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ
เพราะหน้าที่การงานของดิฉันนั้นทำให้ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
กว่าจะนึกถึงคำนี้ได้อีกครั้ง อายุก็ปาไป 23 ปีแล้ว... ชิบเป๋ง เหลืออีก 2 ปีเท่านั้นหรอวะเป้าหมายชั้นนนน
ทำความเข้าใจง่ายๆ
คืองานของดิชั้นนั้นทำให้ไม่มีเวลาเล่นเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไอจี
ไม่มีเวลาออกไปถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ Cozyๆ แบบสมัยสาวๆ อีกต่อไป
ลืมวันลืมคืน กลับบ้านมาก็เจอแม่ในชุดนอน จำไม่ได้แล้วว่าตอนแม่ใส่ชุดไปรเวทอื่นๆ นั้นเป็นยังไง
ไม่ได้สังเกตว่าพ่ออ้วนขึ้น ผอมลง หรือหันมากินเจ ออกจากบ้านไปทำงานก็เจอเขานั่งจิบกาแฟเท่านั้น
โอ๊ย น่าเศร้ามั้ยล่ะ
ทำงานมาก็เกือบจะวนครบปีและ ถึงงานจะเหมือนเดิม แอบมีเพิ่มเติมโปรเจ็กต์ต่างๆ มาเล็กน้อย
ก็เริ่มแบ่งช่องว่างได้ มีเวลาจับมือถือเพื่อเล่น snapchat บ้าง อยู่วันหนึ่ง ไม่รู้วันไหน นึกขึ้นได้ว่า "ไม่ได้การละ กูต้องไปเที่ยว!!"
จากนั้นก็เริ่มศึกษาเลยค่ะ วันนั้นรีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วใช้คอมบริษัทเนี่ยแหละเสิร์ชๆๆๆๆ
ไอ้นู่นก็ดี ไอ้นี่ก็น่าสนใจ เอาไงดีวะ ตอนแรกก็เผลอใจให้ปีนัง, วังเวียง, หลวงพระบาง
แต่ไม่รู้ทำไมในใจถึงต้องการอะไรที่มันเท่ๆ เผ็ดๆ กว่านั้น
ถึงแม้จะปักหมุดปีนังไว้ในตอนแรก แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจจองอะไร รอให้สมองได้คิดตกตะกอนซะก่อน
รู้สึกกระวนกระวายใจตลอดเวลา ทริปแรกที่ได้ไปเที่ยวด้วยเงินตัวเองก็ต้องคิดหนักหน่อยใช่มั้ยล่ะ
------------------------------------------------
"เป็นอะไรลูก" เจ๊ในออฟฟิศทักขณะที่ดิชั้นดูยุกยิกไปมาหน้าคอมพ์ฯ ตลอดทั้งบ่าย
"หาที่เที่ยวเจ๊" ดิชั้นตอบไป "แต่ไม่รู้จะไปไหน เครียด"
"อยากไปแบบไหนอะ?"
"ยูนีคๆ ไปแล้วแบบไม่ต้องกลับมาอีก หรือกลับมาอีกก็ตอนแก่มากและมากับทัวร์"
"เคยไปเสียมเรียบยัง" เจ๊เริ่มวางงาน และคุยกับดิชั้นจริงจังมากขึ้น
"มันคือที่ไหนคะ" ดิชั้นถามเพราะไม่รู้จริงๆ (มารู้ทีหลังว่ากูเอ้าท์มากกกกกกก แง้ U_U)
"เสียมเรียบไง ที่มีนครวัดอะ"
เป๊งงงงงงงงงงงงงงงงง!
เหมือนมีเสียงระฆังดังอยู่ข้างๆ หูในบัดดล
จริงสิ ลืมเขมรเพื่อนบ้านเราไปได้ยังไงเนอะ
ทันทีที่พูดถึงนครวัด ภาพแองเจลิน่า โจลี่สู้กับเทพหลายมือใต้ปราสาทตาพรหมใน Tomb Raider ที่เคยดูสมัยเด็กก็ลอยมา
เหตุผลง่ายๆ ค่ะ เป็นตุ๊ดไม่ต้องคิดอะไรเยอะ จองตั๋วไปเลย ตั้งใจจะไปถ่ายรูปฟิลลาร่า คอร์ฟ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.cinematerial.com/media/posters/sm/y8/y8oq1lpv.jpg?v=1456331170
โอเค Trip แรกของเรา....
เสียมเรียบ นครวัด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก!!!
เฮ้อ เพ้อเจ้อตั้งนาน...
เอาล่ะดิชั้นจัดการ Booking และเลือกจะไปวันที่ 1-3 กันยา ลองอ่านจากพี่ๆ ที่เคยไปแล้ว 3 วันน่าจะพอ
ดิชั้นเลือกทีจะจองกับ AirAsia GO ค่ะ ตั๋วเครื่องบินไปกลับรวมค่าโรงแรมสิริรวมแล้วประมาณ 5 พัน
วินาทีนั้นไม่มีเวลาคิดค่ะว่าแพงหรือถูก รู้แค่ว่าต้องได้ไปเที่ยว เดี๋ยวค่อยไปประหยัดเอาตอนอยู่เขมรแล้วกัน
ที่พักดิชั้นเลือกอยู่ที่ Café Lodge Boutique Hotel ค่ะ มีคนรีวิวว่าดี สะดวก บรรยากาศสบาย
(แต่คืนวันที่2เจอปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนตุ๊ดชาวกัมพูชากลุ่มใหญ่ปิดสระว่ายน้ำเสียงดังมาก ดิชั้นอยากจะวีน)
ห้องนอนกว้าง ห้องน้ำสะอาด พนักงานอัธยาศัยดีค่ะ
โอเคเมื่อได้ที่พักเราก็เฝ้ารอ ทำงานเก็บเงิน กะว่าเอาไปไม่เกิน 5000 บาทไทย
ซึ่งจริงๆ แล้วดิชั้นมีนิสัยเสีย เอ๊ะ หรือนิสัยดี นั่นคือทุกเดือนจะเก็บเงินไว้ 5k และใช้ที่เหลือให้หมด จะเดือนชนเดือนยังไงก็ใช้ไป
เลยมีเงินเก็บส่วนหนึ่ง เป็นคนไม่ชอบช็อปปิ้งค่ะ ชอบทานกับเที่ยว เงินส่วนนั้นเลยไม่ลดลงไปเยอะเท่าไหร่
แต่เอาเข้าจริงแล้วการไปเที่ยวคนเดียวมันทำให้คนเราเริ่มวิตกกังวัล ไหนจะห่วงว่าพ่อแม่จะเป็นยังไง (ลูกคนเดียว)
ไหนจะกลัวว่าประเทศเขาจะต้อนรับพจมานอย่างดิชั้นมั้ย และก็กลัวว่าจะโดนจี้ปล้นอะไรสารพัด โอ๊ย ตามประสาคน Panic
เลยมีโมเม้นท์คิดว่าไม่อยากไปและ แต่ก็เสียดายเงิน ก็เลยลองชวนเพื่อนๆ คนอื่นๆ แต่ผลก็คือทุกคนเป็นสายแมสค่ะ
จะสนใจหากดิชั้นชวนไปญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ตายละไม่มีใครอยากไปดูหินผุๆ พังๆ (แต่แฝงไปด้วยอารยธรรม) แบบดิชั้นเลยหรือ
ก็เลยกัดฟัน เอาวะ ไปคนเดียวนี่แหละ!
-----------------------------------
Day ONE : ความฝันของตุ๊ดเด็ก
เครื่องออกสิบโมง ตื่นมันตั้งแต่ตีห้า (บ้านอยู่บางแคค่ะ เทียบกับดอนเมือง ความห่างต้องใช้หน่วยเป็นลี้ ไม่ใช่กิโล)
อาบน้ำแต่งตัว จัดกระเป๋า (ใช่ค่ะ คุณอ่านถูกต้อง ดิชั้นจัดกระเป๋าก่อนไปไม่กี่ชั่วโมง)
ไปถึงสนามบินดอนเมืองตอน 8 โมงพอดี โชว์เฟอร์ยิ้มหราตอนรับเงิน เออสิ เกือบครึ่งพันเลยนะคะมิสเตอร์แท็คซี่
ไปเช็คอินค่ะ ตายละหว่า เก้ๆ กังๆ ไม่เคยมาคนเดียว มาแต่กับทัวร์ไม่ก็ที่บ้าน ไปไหนไปกัน
นี่ต้องทำเองทุกอย่าง เห็นพี่ทัวร์จีนไม่ยอมต่อคิวแซงไปเช็คอินก็เอ๋อๆ ปล่อยเขาไป จนพี่คนไทยข้างหลังจิ๊ปาก โอ๊ย หนูเบลอค่ะพี่ ให้เวลาจูนหน่อย
เมื่อเช็คอินก็จัดการโหลดกระเป๋า ไปสามวันแต่กระเป๋าเกือบ10โลค่ะ เน้นชุดกะรองเท้าไว้ถ่ายรูป
อ้อนพี่พนักงานผู้ชายแบบแบ๊วๆ ว่า "ขอนั่งติดหน้าต่างได้มั้ยครับ"
พี่คนนั้นตาโตอึ้งๆ ก่อนบอก "ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
ดิชั้นได้นั่งติดหน้าต่างสมใจ
ทีนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปหลับข้างบนเครื่อง
แต่เจ้าประคุณเอ๊ยยยยยยย ไม่นึกเลยว่าการไม่ได้นั่งเครื่องบินนานจะลำบากขนาดนี้
ดิชั้นเหงื่อตก อยู่ริมหน้าต่างข้างๆ มีสาวเยอรมันที่กริ๊ดไปพร้อมกันเวลาอยู่บนเครื่อง เหมือนดูโตเกียวดริฟเวอชั่นแอร์เพลนเลยค่ะ
และไม่นานนักดิชั้นก็มาถึงจนได้ ท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมเรียบ เล็กๆ น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม
ทีนี้ก็เดินไปหารถตุ๊กๆ ที่โรงแรมส่งมารับค่ะ ตุ๊กๆ ที่นี่จะไม่เหมือนที่ไทยนะ ที่นี่เขาพ่วงกับมอเตอร์ไซด์
ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ประชด แง้ U_U
พี่ตุ๊กๆ ของดิชั้นไม่รู้ชื่ออะไร ไม่ได้ถามชื่อถามแซ่ แค่เจอเขาดิชั้นก็ดีใจแล้วค่ะ ต้องเดินวนสองรอบกว่าจะเจอ
จากนั้นพวกเราก็ไปโรงแรมกัน ระยะทางระหว่างสนามบินไปตัวเมืองนี่ห่างกันเยอะอยู่นะ แถมฝุ่นเยอะมาก
แนะนำใครมาให้เอาผ้าปิดปากหรือผ้าเช็ดหน้ามาด้วย แต่ถ้าแนะนำ เอาตัวกรองมาเลยเถอะค่ะ ขนาดดิชั้นใช้มาร์กดิชั้นยังจะตายเอา
ฝุ่นเยอะขนาดเวลากินน้ำกินขนมแล้วมันรู้สึกกรุปๆ เหมือนมีเศษดินเข้าไปด้วย ฮือ อาหย่อย
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะคะว่าการที่เขาขับเลนขวาทำให้ทุกอย่างดูอันตรายขึ้นมากๆ
เพราะเราไม่ชินหรือว่ายังไงคะ? แต่บอกเลยนะคะว่าเป็นเมืองที่มลพิษเยอะจริงๆ หายใจไม่สะดวก
กรดไหลย้อนดิชั้นกำเริบขึ้นมาด้วยแหละ ทำให้ซึมไปพักนึงแหนะ ฮือๆ
เจอน้องๆ วัยรุ่นด้วยแฮะ ไม่รู้แฮะว่าชาติไหน
ถ้าเป็นคนไทยมาบอกป้าด้วยนะลูก ตายแล้ว รู้จักเที่ยว อายุเท่านี้เจ๊ยังวิ่งตามทาทายังที่เซ็นทรัลเวิร์ลอยู่เลย
และแล้วก็ถึงที่พัก จัดการพูดกับรีเซปชั่นสำเนียงท้องถิ่นแบบงูๆ ปลาๆ ไอ้เราไม่ได้เก่งมากอยู่แล้ว
เจอสำเนียงฟังยากไปก็เกือบจะร้องไห้ อยากจะแกล้งสลบกระแทกพื้นไปให้จบๆ ตอบแต่เยสๆ ชัวร์ โอเค โนพรอบรึม ด้วยสำเนียง
บิติช หลังจากศึกษาสำเนียงจากอเดลมานาน ฮะฮ่า ได้ใช้แล้ว แต่ต้องเป็นประโยคที่นึกไว้ในหัวก่อนนะ ถ้ามีปัญหาหรือขัดข้อง
ต้องพูดแบบทันที เช่น ไม่รู้ตัวมาก่อน หรือประโยคไม่คุ้น สำเนียงดิชั้นจะกลายเป็นเมียเช่าทันทีค่ะ U_U
เอาล่ะจัดการวางกระเป๋า เข้าห้องน้ำ พอเห็นเท่านั้นแหละกรี๊ดลั่นจนพนักงานโทรเข้ามาหา
ก็แหม มันมี Bathtub ด้วยนี่คะ กรี๊ดดดดด อยากแช่อ่าง ขออนุญาตแช่อ่างก่อนนะ เดี๋ยวเราไปซื้อ Angkor Pass กัน
หลังจากสดชื่นละมุนละไมแล้ว เราก็บอกคนขับรถว่าเราจะไปซื้ออังกอร์พาสนะคะ
จากนั้นก็จะแวะไปดูพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็งด้วย นางก็พยักหน้าหงึกหงัก บอกว่าเป็นกุ๊ดช้อยส์
ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนที่ซื้อขายหรืออย่างไร
เพราะที่ศึกษาจากคนอื่นๆ แต่ก่อนคงต้องซื้อกันหน้านครวัด แต่ดิชั้นมาซื้อในที่ที่เป็นเหมือนมิวเซี่ยม สร้างใหม่หรือเปล่าไม่ทราบได้
ยอมรับว่าสถานที่ไม่เหมือนในรีวิว ตุ๊ดก็งง-ซิคะ ยืนเอ๋อ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำเป็นกดมือถือเล่นบนตุ๊กๆ หารู้ไม่ กำลังขอความช่วยเหลือ
แต่สุดท้ายก็ยอมกลั้นใจ เอาว่ะ มาคนเดียวมันต้องแกร่งสิ
เลยเดินเข้าไปค่ะ สรุปมันเป็นที่ซื้อจริงๆ รอดตายแล้ว
สำหรับค่าเข้าก็ตามที่คุณๆ เคยศึกษามานะคะ
1 วัน 20 ดอลล่าร์
3 วัน (ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่)
7 วัน (ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่)
ถ้ามีเวลาเที่ยวจำกัด 1 วันก็พอค่ะ แต่ถ้าใครอยู่ยาวๆ ไม่อยากรีบ ก็แนะนำ 3 วัน
แต่ถ้าเจ็ดวัน แนะนำให้คนที่มีธุรกิจหรือผู้ที่ต้องการสร้างครอบครัวสร้างรากฐานระยาวเที่ยวนะคะ 5555 ล้อเล่นค่ะ
ในโซนขายบัตรมีป้ายเตือนด้วยนะจ๊า ใครจะมาเล่นโปเกมอนศึกษาดีๆ เด้อ
ระวังเสือ ระวังงูเงี้ยวเขี้ยวขอกันดีๆ ที่สำคัญ ระวังอันตรายจากพื้นที่อันเป็นซากปรักหักพังด้วยนะคะ สำคัญที่สุดเลย
มีแผนที่ให้ดูแบบมุมกว้างด้วย โอ้โห ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
และเราก็ได้มาแล้ว Angkor Pass สำหรับ 1 วัน (ใช้ได้วันพรุ่งนี้นะคะ)
อ๋อลืมบอกไป ถ้ามาหลัง 5 โมงเย็น สามารถซื้อบัตรของวันรุ่งขึ้นได้นะคะ
และหลังจาก 5 โมงเย็นก็สามารถไปปราสาทในบริเวณนั้นได้ฟรีก่อนที่จะปิดใน 5 โมงครึ่ง
เท่ากับมีเวลาเที่ยวแค่ครึ่งชั่วโมง แนะนำให้ไปพนมบาเค็งนะคะ ไปชมพระอาทิตย์ตกดินค่ะ
ถึงเวลาเดินทาง ไปกันเล้ยยยย! แค่ทางเข้าก็ขลังจนจับภาพไม่ทันแล้วววววว
เอาล่ะโควต้าตัวอักษรครบพอดี แล้วเรามาต่อกันที่ 'พนมบาเค็ง' สถานที่ยอดฮิตในการชมพระอาทิตย์ตกดินกันต่อนะคะ
อย่าลืมติดตามและให้กำลังใจน้องด้วยน้า กระทู้รีวิวท่องเที่ยวครั้งแรก และทริปนี้สนุกจริงๆ อยากให้ติดตามค่า >_<
TEASER :
ทางเข้าที่สวยงาม
หนุ่มเวียดนามที่แสนใจดี
พลาดไม่ได้ เดี๋ยวมาต่อกันค่ะ
ฝากกระทู้ด้วยนะค้า >___
เมื่อตุ๊ดตัดสินใจไปเที่ยวนครวัด...คนเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นเหลือเชื่อ!! (อ่านต่อ)
55555 ขอโทษจริงๆ ค่ะที่ต้องจ่าหน้าซองแบบนั้น
ก็แหม พวกเว็ปไซด์ที่ตั้งหัวข้อแบบนั้นมันดึงดูดมากๆ นี่นา
เลยอยากจะเลียนแบบบ้างง่ะ...
สวัสดีค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เคยตั้งกระทู้ เคยคอมเม้นท์ไว้บ้าง
แต่วันนี้ขี้เกียจแอ๊บเสียเต็มประดา ขออนุญาตเป็นตัวของตัวเองเพื่ออรรถรสนิดนึงเนอะ
เรื่องของเรื่องคือดิชั้นมีความฝันที่คอยพร่ำบอกตัวเองอยู่เสมอ
ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยว่า "เก็บอาเซียนให้ได้ก่อนอายุ 25"
เอาเข้าจริง พอเติบโต พอได้ทำงาน ก็ลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ
เพราะหน้าที่การงานของดิฉันนั้นทำให้ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง
กว่าจะนึกถึงคำนี้ได้อีกครั้ง อายุก็ปาไป 23 ปีแล้ว... ชิบเป๋ง เหลืออีก 2 ปีเท่านั้นหรอวะเป้าหมายชั้นนนน
ทำความเข้าใจง่ายๆ
คืองานของดิชั้นนั้นทำให้ไม่มีเวลาเล่นเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไอจี
ไม่มีเวลาออกไปถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ Cozyๆ แบบสมัยสาวๆ อีกต่อไป
ลืมวันลืมคืน กลับบ้านมาก็เจอแม่ในชุดนอน จำไม่ได้แล้วว่าตอนแม่ใส่ชุดไปรเวทอื่นๆ นั้นเป็นยังไง
ไม่ได้สังเกตว่าพ่ออ้วนขึ้น ผอมลง หรือหันมากินเจ ออกจากบ้านไปทำงานก็เจอเขานั่งจิบกาแฟเท่านั้น
โอ๊ย น่าเศร้ามั้ยล่ะ
ทำงานมาก็เกือบจะวนครบปีและ ถึงงานจะเหมือนเดิม แอบมีเพิ่มเติมโปรเจ็กต์ต่างๆ มาเล็กน้อย
ก็เริ่มแบ่งช่องว่างได้ มีเวลาจับมือถือเพื่อเล่น snapchat บ้าง อยู่วันหนึ่ง ไม่รู้วันไหน นึกขึ้นได้ว่า "ไม่ได้การละ กูต้องไปเที่ยว!!"
จากนั้นก็เริ่มศึกษาเลยค่ะ วันนั้นรีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วใช้คอมบริษัทเนี่ยแหละเสิร์ชๆๆๆๆ
ไอ้นู่นก็ดี ไอ้นี่ก็น่าสนใจ เอาไงดีวะ ตอนแรกก็เผลอใจให้ปีนัง, วังเวียง, หลวงพระบาง
แต่ไม่รู้ทำไมในใจถึงต้องการอะไรที่มันเท่ๆ เผ็ดๆ กว่านั้น
ถึงแม้จะปักหมุดปีนังไว้ในตอนแรก แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจจองอะไร รอให้สมองได้คิดตกตะกอนซะก่อน
รู้สึกกระวนกระวายใจตลอดเวลา ทริปแรกที่ได้ไปเที่ยวด้วยเงินตัวเองก็ต้องคิดหนักหน่อยใช่มั้ยล่ะ
------------------------------------------------
"เป็นอะไรลูก" เจ๊ในออฟฟิศทักขณะที่ดิชั้นดูยุกยิกไปมาหน้าคอมพ์ฯ ตลอดทั้งบ่าย
"หาที่เที่ยวเจ๊" ดิชั้นตอบไป "แต่ไม่รู้จะไปไหน เครียด"
"อยากไปแบบไหนอะ?"
"ยูนีคๆ ไปแล้วแบบไม่ต้องกลับมาอีก หรือกลับมาอีกก็ตอนแก่มากและมากับทัวร์"
"เคยไปเสียมเรียบยัง" เจ๊เริ่มวางงาน และคุยกับดิชั้นจริงจังมากขึ้น
"มันคือที่ไหนคะ" ดิชั้นถามเพราะไม่รู้จริงๆ (มารู้ทีหลังว่ากูเอ้าท์มากกกกกกก แง้ U_U)
"เสียมเรียบไง ที่มีนครวัดอะ"
เป๊งงงงงงงงงงงงงงงงง!
เหมือนมีเสียงระฆังดังอยู่ข้างๆ หูในบัดดล
จริงสิ ลืมเขมรเพื่อนบ้านเราไปได้ยังไงเนอะ
ทันทีที่พูดถึงนครวัด ภาพแองเจลิน่า โจลี่สู้กับเทพหลายมือใต้ปราสาทตาพรหมใน Tomb Raider ที่เคยดูสมัยเด็กก็ลอยมา
เหตุผลง่ายๆ ค่ะ เป็นตุ๊ดไม่ต้องคิดอะไรเยอะ จองตั๋วไปเลย ตั้งใจจะไปถ่ายรูปฟิลลาร่า คอร์ฟ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอเค Trip แรกของเรา....
เสียมเรียบ นครวัด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก!!!
เฮ้อ เพ้อเจ้อตั้งนาน...
เอาล่ะดิชั้นจัดการ Booking และเลือกจะไปวันที่ 1-3 กันยา ลองอ่านจากพี่ๆ ที่เคยไปแล้ว 3 วันน่าจะพอ
ดิชั้นเลือกทีจะจองกับ AirAsia GO ค่ะ ตั๋วเครื่องบินไปกลับรวมค่าโรงแรมสิริรวมแล้วประมาณ 5 พัน
วินาทีนั้นไม่มีเวลาคิดค่ะว่าแพงหรือถูก รู้แค่ว่าต้องได้ไปเที่ยว เดี๋ยวค่อยไปประหยัดเอาตอนอยู่เขมรแล้วกัน
ที่พักดิชั้นเลือกอยู่ที่ Café Lodge Boutique Hotel ค่ะ มีคนรีวิวว่าดี สะดวก บรรยากาศสบาย
(แต่คืนวันที่2เจอปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนตุ๊ดชาวกัมพูชากลุ่มใหญ่ปิดสระว่ายน้ำเสียงดังมาก ดิชั้นอยากจะวีน)
ห้องนอนกว้าง ห้องน้ำสะอาด พนักงานอัธยาศัยดีค่ะ
โอเคเมื่อได้ที่พักเราก็เฝ้ารอ ทำงานเก็บเงิน กะว่าเอาไปไม่เกิน 5000 บาทไทย
ซึ่งจริงๆ แล้วดิชั้นมีนิสัยเสีย เอ๊ะ หรือนิสัยดี นั่นคือทุกเดือนจะเก็บเงินไว้ 5k และใช้ที่เหลือให้หมด จะเดือนชนเดือนยังไงก็ใช้ไป
เลยมีเงินเก็บส่วนหนึ่ง เป็นคนไม่ชอบช็อปปิ้งค่ะ ชอบทานกับเที่ยว เงินส่วนนั้นเลยไม่ลดลงไปเยอะเท่าไหร่
แต่เอาเข้าจริงแล้วการไปเที่ยวคนเดียวมันทำให้คนเราเริ่มวิตกกังวัล ไหนจะห่วงว่าพ่อแม่จะเป็นยังไง (ลูกคนเดียว)
ไหนจะกลัวว่าประเทศเขาจะต้อนรับพจมานอย่างดิชั้นมั้ย และก็กลัวว่าจะโดนจี้ปล้นอะไรสารพัด โอ๊ย ตามประสาคน Panic
เลยมีโมเม้นท์คิดว่าไม่อยากไปและ แต่ก็เสียดายเงิน ก็เลยลองชวนเพื่อนๆ คนอื่นๆ แต่ผลก็คือทุกคนเป็นสายแมสค่ะ
จะสนใจหากดิชั้นชวนไปญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา ตายละไม่มีใครอยากไปดูหินผุๆ พังๆ (แต่แฝงไปด้วยอารยธรรม) แบบดิชั้นเลยหรือ
ก็เลยกัดฟัน เอาวะ ไปคนเดียวนี่แหละ!
-----------------------------------
Day ONE : ความฝันของตุ๊ดเด็ก
เครื่องออกสิบโมง ตื่นมันตั้งแต่ตีห้า (บ้านอยู่บางแคค่ะ เทียบกับดอนเมือง ความห่างต้องใช้หน่วยเป็นลี้ ไม่ใช่กิโล)
อาบน้ำแต่งตัว จัดกระเป๋า (ใช่ค่ะ คุณอ่านถูกต้อง ดิชั้นจัดกระเป๋าก่อนไปไม่กี่ชั่วโมง)
ไปถึงสนามบินดอนเมืองตอน 8 โมงพอดี โชว์เฟอร์ยิ้มหราตอนรับเงิน เออสิ เกือบครึ่งพันเลยนะคะมิสเตอร์แท็คซี่
ไปเช็คอินค่ะ ตายละหว่า เก้ๆ กังๆ ไม่เคยมาคนเดียว มาแต่กับทัวร์ไม่ก็ที่บ้าน ไปไหนไปกัน
นี่ต้องทำเองทุกอย่าง เห็นพี่ทัวร์จีนไม่ยอมต่อคิวแซงไปเช็คอินก็เอ๋อๆ ปล่อยเขาไป จนพี่คนไทยข้างหลังจิ๊ปาก โอ๊ย หนูเบลอค่ะพี่ ให้เวลาจูนหน่อย
เมื่อเช็คอินก็จัดการโหลดกระเป๋า ไปสามวันแต่กระเป๋าเกือบ10โลค่ะ เน้นชุดกะรองเท้าไว้ถ่ายรูป
อ้อนพี่พนักงานผู้ชายแบบแบ๊วๆ ว่า "ขอนั่งติดหน้าต่างได้มั้ยครับ"
พี่คนนั้นตาโตอึ้งๆ ก่อนบอก "ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
ดิชั้นได้นั่งติดหน้าต่างสมใจ
ทีนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปหลับข้างบนเครื่อง
แต่เจ้าประคุณเอ๊ยยยยยยย ไม่นึกเลยว่าการไม่ได้นั่งเครื่องบินนานจะลำบากขนาดนี้
ดิชั้นเหงื่อตก อยู่ริมหน้าต่างข้างๆ มีสาวเยอรมันที่กริ๊ดไปพร้อมกันเวลาอยู่บนเครื่อง เหมือนดูโตเกียวดริฟเวอชั่นแอร์เพลนเลยค่ะ
และไม่นานนักดิชั้นก็มาถึงจนได้ ท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมเรียบ เล็กๆ น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม
ทีนี้ก็เดินไปหารถตุ๊กๆ ที่โรงแรมส่งมารับค่ะ ตุ๊กๆ ที่นี่จะไม่เหมือนที่ไทยนะ ที่นี่เขาพ่วงกับมอเตอร์ไซด์
ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ประชด แง้ U_U
พี่ตุ๊กๆ ของดิชั้นไม่รู้ชื่ออะไร ไม่ได้ถามชื่อถามแซ่ แค่เจอเขาดิชั้นก็ดีใจแล้วค่ะ ต้องเดินวนสองรอบกว่าจะเจอ
จากนั้นพวกเราก็ไปโรงแรมกัน ระยะทางระหว่างสนามบินไปตัวเมืองนี่ห่างกันเยอะอยู่นะ แถมฝุ่นเยอะมาก
แนะนำใครมาให้เอาผ้าปิดปากหรือผ้าเช็ดหน้ามาด้วย แต่ถ้าแนะนำ เอาตัวกรองมาเลยเถอะค่ะ ขนาดดิชั้นใช้มาร์กดิชั้นยังจะตายเอา
ฝุ่นเยอะขนาดเวลากินน้ำกินขนมแล้วมันรู้สึกกรุปๆ เหมือนมีเศษดินเข้าไปด้วย ฮือ อาหย่อย
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะคะว่าการที่เขาขับเลนขวาทำให้ทุกอย่างดูอันตรายขึ้นมากๆ
เพราะเราไม่ชินหรือว่ายังไงคะ? แต่บอกเลยนะคะว่าเป็นเมืองที่มลพิษเยอะจริงๆ หายใจไม่สะดวก
กรดไหลย้อนดิชั้นกำเริบขึ้นมาด้วยแหละ ทำให้ซึมไปพักนึงแหนะ ฮือๆ
เจอน้องๆ วัยรุ่นด้วยแฮะ ไม่รู้แฮะว่าชาติไหน
ถ้าเป็นคนไทยมาบอกป้าด้วยนะลูก ตายแล้ว รู้จักเที่ยว อายุเท่านี้เจ๊ยังวิ่งตามทาทายังที่เซ็นทรัลเวิร์ลอยู่เลย
และแล้วก็ถึงที่พัก จัดการพูดกับรีเซปชั่นสำเนียงท้องถิ่นแบบงูๆ ปลาๆ ไอ้เราไม่ได้เก่งมากอยู่แล้ว
เจอสำเนียงฟังยากไปก็เกือบจะร้องไห้ อยากจะแกล้งสลบกระแทกพื้นไปให้จบๆ ตอบแต่เยสๆ ชัวร์ โอเค โนพรอบรึม ด้วยสำเนียง
บิติช หลังจากศึกษาสำเนียงจากอเดลมานาน ฮะฮ่า ได้ใช้แล้ว แต่ต้องเป็นประโยคที่นึกไว้ในหัวก่อนนะ ถ้ามีปัญหาหรือขัดข้อง
ต้องพูดแบบทันที เช่น ไม่รู้ตัวมาก่อน หรือประโยคไม่คุ้น สำเนียงดิชั้นจะกลายเป็นเมียเช่าทันทีค่ะ U_U
เอาล่ะจัดการวางกระเป๋า เข้าห้องน้ำ พอเห็นเท่านั้นแหละกรี๊ดลั่นจนพนักงานโทรเข้ามาหา
ก็แหม มันมี Bathtub ด้วยนี่คะ กรี๊ดดดดด อยากแช่อ่าง ขออนุญาตแช่อ่างก่อนนะ เดี๋ยวเราไปซื้อ Angkor Pass กัน
หลังจากสดชื่นละมุนละไมแล้ว เราก็บอกคนขับรถว่าเราจะไปซื้ออังกอร์พาสนะคะ
จากนั้นก็จะแวะไปดูพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็งด้วย นางก็พยักหน้าหงึกหงัก บอกว่าเป็นกุ๊ดช้อยส์
ไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนที่ซื้อขายหรืออย่างไร
เพราะที่ศึกษาจากคนอื่นๆ แต่ก่อนคงต้องซื้อกันหน้านครวัด แต่ดิชั้นมาซื้อในที่ที่เป็นเหมือนมิวเซี่ยม สร้างใหม่หรือเปล่าไม่ทราบได้
ยอมรับว่าสถานที่ไม่เหมือนในรีวิว ตุ๊ดก็งง-ซิคะ ยืนเอ๋อ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำเป็นกดมือถือเล่นบนตุ๊กๆ หารู้ไม่ กำลังขอความช่วยเหลือ
แต่สุดท้ายก็ยอมกลั้นใจ เอาว่ะ มาคนเดียวมันต้องแกร่งสิ
เลยเดินเข้าไปค่ะ สรุปมันเป็นที่ซื้อจริงๆ รอดตายแล้ว
สำหรับค่าเข้าก็ตามที่คุณๆ เคยศึกษามานะคะ
1 วัน 20 ดอลล่าร์
3 วัน (ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่)
7 วัน (ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่)
ถ้ามีเวลาเที่ยวจำกัด 1 วันก็พอค่ะ แต่ถ้าใครอยู่ยาวๆ ไม่อยากรีบ ก็แนะนำ 3 วัน
แต่ถ้าเจ็ดวัน แนะนำให้คนที่มีธุรกิจหรือผู้ที่ต้องการสร้างครอบครัวสร้างรากฐานระยาวเที่ยวนะคะ 5555 ล้อเล่นค่ะ
ในโซนขายบัตรมีป้ายเตือนด้วยนะจ๊า ใครจะมาเล่นโปเกมอนศึกษาดีๆ เด้อ
ระวังเสือ ระวังงูเงี้ยวเขี้ยวขอกันดีๆ ที่สำคัญ ระวังอันตรายจากพื้นที่อันเป็นซากปรักหักพังด้วยนะคะ สำคัญที่สุดเลย
มีแผนที่ให้ดูแบบมุมกว้างด้วย โอ้โห ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
และเราก็ได้มาแล้ว Angkor Pass สำหรับ 1 วัน (ใช้ได้วันพรุ่งนี้นะคะ)
อ๋อลืมบอกไป ถ้ามาหลัง 5 โมงเย็น สามารถซื้อบัตรของวันรุ่งขึ้นได้นะคะ
และหลังจาก 5 โมงเย็นก็สามารถไปปราสาทในบริเวณนั้นได้ฟรีก่อนที่จะปิดใน 5 โมงครึ่ง
เท่ากับมีเวลาเที่ยวแค่ครึ่งชั่วโมง แนะนำให้ไปพนมบาเค็งนะคะ ไปชมพระอาทิตย์ตกดินค่ะ
ถึงเวลาเดินทาง ไปกันเล้ยยยย! แค่ทางเข้าก็ขลังจนจับภาพไม่ทันแล้วววววว
เอาล่ะโควต้าตัวอักษรครบพอดี แล้วเรามาต่อกันที่ 'พนมบาเค็ง' สถานที่ยอดฮิตในการชมพระอาทิตย์ตกดินกันต่อนะคะ
อย่าลืมติดตามและให้กำลังใจน้องด้วยน้า กระทู้รีวิวท่องเที่ยวครั้งแรก และทริปนี้สนุกจริงๆ อยากให้ติดตามค่า >_<
TEASER :
ทางเข้าที่สวยงาม
หนุ่มเวียดนามที่แสนใจดี
พลาดไม่ได้ เดี๋ยวมาต่อกันค่ะ
ฝากกระทู้ด้วยนะค้า >___