「คันปาก」ดูมาแล้ว Kimi no Na wa เมื่อระยะทางไม่เป็นอุปสรรค หากแต่เป็น... (ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)

จริงๆก็ไม่อยากเรียกรีวิว อยากเรียกว่ามาชวนคุย มาถ่ายทอดความรู้สึกมากกว่า อย่างแรกเลยผมอยากชมงานภาพ ทำออกมาสวยงามมากๆ ดาวตกนี่สวยสุดๆ ผลงานเก่าๆของอ.ก็ขึ้นชื่อทางนี้อยู่แล้ว เพลงประกอบไพเราะ เนื้อเรื่องก็ชวนจุกเสียดอยู่เหมือนกัน กุมความรู้สึกคนดูได้ดีมากๆ แต่ไม่ถึงกับบดขยี้จนเละคามือ คือตอนที่เราประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว มันรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในหัวใจขึ้นมาเลย ที่บอกว่าต่อประติดประต่อเพราะหนังเดินเรื่องแบบตัดเป็นช่วงเวลาสลับๆกันไปมาครับ อาจจะมีงงเป็นระยะๆ ต้องรอเฉลยไปเป็นฉากๆ แต่ดูจบก็ไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ รู้สึกเคลียร์กับประเด็นใหญ่ๆทั้งหมด

พล็อตมีความเป็นไซไฟกึ่งๆแฟนตาซี แต่เราจะไปเอาทฤษฎีแบบ Steins;Gate ก็คงไม่ใช่ ประเด็นหลักคือความรู้สึกของคนสองคนที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ห่างไกลคนละซีกโลก แต่เมื่อเรารู้ว่าอะไรที่เป็นตัวกั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้ ตรงนั้นแหละคือจุดที่หน่วงขึ้นมาในอกเลยจริงๆ

แต่อย่างว่า โรแมนซ์มันมักมีสูตรสำเร็จอะไรบางอย่าง เหมือนดูหนังผีส่วนใหญ่ก็มักจะสะดุ้ง อันนี้ก็เช่นกัน มันมีเรื่องความบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้องจนรู้สึกเสียดายว่าคิดสตอรี่ได้ดีขนาดนี้แท้ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องพึ่งความบังเอิญเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอยู่ดี ทว่ามันไม่ได้ดูแล้วแบบ เฮ้ย เอางี้เลยเหรอ คือมันดีในแบบที่มันเป็นครับ แค่คิดว่าถ้าเปลี่ยนนิดหน่อยน่าจะเข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบไปอีกนิด

ดราม่าที่เป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วเล่นกับความรู้สึกคนดูนี่ต้องยกให้ญี่ปุ่นเลยครับ หลายๆปีที่ผ่านมาก็มีผลงานดราม่าดีๆเยอะ ทั้งหนังทั้งอนิเมชั่น นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เข้าไปอยู่ในใจคนญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว ดูจบนี่อยากขึ้นรถไฟไปบันไดแถวชินจูกุเลย ติดแค่ว่ามันดึกแล้ว ฮา

Kimi no Na wa เลยเป็นหนัง/อนิเมชั่น ที่เป็นแนวโรแมนซ์จริงๆเรื่องแรกเลยครับที่ทำลายกำแพงผมได้ ผมชอบมากๆ คือตอนดูอะสนแค่การเดินเรื่อง ไม่ได้สนเลยว่าพระนางจะลงเอยกันยังไง แต่โดนบีบจนท้ายที่สุดต้องยอมรับกับตัวเองว่าเราเผลออินไปกับความสัมพันธ์ของตัวละคร ทั้งที่มันไม่ได้จี๊ด จี้ใจดำหรือตรงกับชีวิตจริงแบบหนัง GTH　อะไรแบบนั้น ออกจะล้ำเกินไปด้วยซ้ำ

ใครดูแล้ว ชวนคุยครอบสปอยล์กันได้นะครับ ผมอารมณ์ค้าง อยากหาคนคุย 555