เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง กับมนุษย์เงินเดือนกลางกรุงแบบเรา พยายามศึกษา ปรับใช้ วิเคราะห์ แก้ไข จน เย้!!!!

กระทู้นี้ต่อเนื่องกับอีก 2 อัน   
http://pantip.com/topic/35567112
http://pantip.com/topic/35570607
(จริงๆ แล้ว กระทู้นี้ควรเขียนก่อน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของทั้ง 2 อันนั้น แต่ไม่รู้จะมีประโยชน์ไหม เลยเขียน 2 อันนั้นไปก่อนเพราะเป็นรูปธรรม ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากกว่า) พอเห็นมีคนสนใจอยู่บ้างที่จะนำไปปรับใช้ เราก็ดีใจ  เลยตัดสินใจไปเปิดสมุดโน้ตที่เราศึกษา จดรวบรวมไว้ ออกมากางเพื่อเรียบเรียงเขียนกระทู้นี้
เรื่องราวของกระทู้นี้  ถ้าเป็นประโยชน์กับใครเราดีใจ  และถ้าใครจะแนะนำเราเพิ่มเติมเราขอขอบคุณจากใจค่ะ

สิ่งที่อยู่ในใจเรามาตลอด

มนุษย์เงินเดือนกลางกรุงแบบเรา ทำยังไงจะมีความมั่นคงในชีวิต ??? (มั่นคงไม่ได้แปลว่ารวยนะ คนละความหมายกัน รวยคือมั่งคั่ง) ซึ่งเป็นคำถามให้เราค้นหาคำตอบอย่างจริงจัง

อ่านหนังสือจับประเด็นจากหนังสือหลายเล่ม

เล่มที่เปิดกะลาในชีวิตเราคือ เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง

หนังสือเล่มนี้สอนเรื่องทำอย่างไรให้มั่นคง โดยเอารูปแบบชีวิตของเกษตรกรมาเป็นตัวอย่าง เราเดาเองว่า น่าจะเป็นเพราะเกษตรกรมีมากในประเทศไทย แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างเรามีความรู้อยู่บ้างนิดหน่อยต้องพลิกแพลงเอามาใช้บ้างให้ได้ !! ลุยต่อ!!!

เราอ่านแล้วสกัดสาระออกมาว่า  อะไรคือความมั่นคง ??  ในหนังสือเล่มนี้ === เราสกัดเองได้ ดังนี้
1.    อาหาร
2.    อาศัย
3.    อาภรณ์
4.    อโรคยา  
5.    อารมณ์
6.    มีเงินสำรองไว้ใช้สำหรับครอบครัว
เรื่องทั่วๆ ไปที่เราได้ยินผ่านหูอยู่บ่อยๆ เลยใช่ไหม แต่เราไม่ค่อยได้สนใจอย่างจริงจัง เพราะพอบอกว่า มั่นคง จะนึกถึงเงินมากๆๆๆๆ มีเงินก็เอาไปซื้อทุกอย่างให้มันมั่นคงได้ 555+

หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า

1.    ความมั่นคงของอาหาร มั่นคงที่สุด คือ ผลิตกินเองได้ เพราะหนังสือเล่มนี้สอนให้แบ่งพื้นที่ผลิตอาหารเอง
        แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราทำไม่ได้ ++++ แล้วทำยังไงได้บ้าง ก็ปลูกผักสวนครัวที่ไม่ต้องดูแลมาก และใช้เล็กๆน้อยๆ ติดท้ายครัวไว้กินเองสิ รอไร สิ่งที่เราปลูก กระเพรา โหรพา มะเขือพวง มะกรูด พริก(เป็นบางช่วง เดี๋ยวนี้เอาพริกที่ซื้อจากตลาดไปปลูกมันไม่ค่อยขึ้นไม่รู้ทำไม ต้องซื้อเป็นต้นๆมาปลูก สงสัยมันถูกตอน) ตระไคร้ กะทือ ต้นหอม ประมาณนี้ปลูกติดไว้ -----ประโยชนที่ได้  คือ ประหยัด สะดวกต้องการหาได้ทันที ปลอดยาฆ่าแมลง สดด้วย

2.    ความมั่นคงของที่อยู่อาศัย มั่นคงที่สุด คือ มีบ้านและที่ดินไม่ติดจำนองเป็นของตนเอง
         อันนี้เรามีแระอุ่นใจไป ระดับนึง แต่ถ้ายังไม่มี เราว่าการเป็นหนี้เพื่อซื้อบ้านเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่สูญเปล่า ถ้ามีกำลังพอจะทำได้นะ ถ้ายังก็ประหยัด อดออม อดทน เก็บเงินไปก่อนตั้งเป้าหมายไว้ต้องได้สักวัน สู้ๆนะ เราเป็นกำลังใจให้

3.    ความมั่นคงของอาภรณ์  มั่นคงที่สุด คือ ทอผ้า ตัดเย็บเองเป็น   
        โอ้!! มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ห่างไกลมาก +++++ แล้วทำยังไงได้บ้าง  อันนี้เราได้แค่ หัดเย็บกระดุม สอย เนา ซ่อมแซมเสื้อผ้าเองเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ต้องไปจ้างช่าง ก็ลดรายจ่ายไปได้บ้าง มีเงินเก็บสำรองเพิ่มขึ้น

4.    ความมั่นคงของอโรคยา มั่นคงสุด คือ ไม่มีโรค แต่เป็นไปได้ยากเพราะร่างกายมนุษย์เป็นรังของโรค ++++  แล้วทำยังไงได้บ้าง  อันนี้เราใช้ 2 วิธี คือ
-    ดูแลสุขภาพ ---ทำอาหารกินเอง ขยันทำงานบ้าน ขยับร่างกายอยู่ตลอด เพราะขยับเท่ากับออกกำลัง และโชคดีที่เราเป็นคนชอบเดินมาแต่ไหนแต่ไร
-    เจ็บป่วย --- (ในหนังสือจะปลูกสมุนไพรไว้รอบบ้านเพื่อรักษาเบื้องต้นก่อน) แต่สำหรับเราไปโรงพยาบาลรัฐบาล ช้าหน่อยไม่เป็นไร พอไปนั่งรอได้เห็นคนอื่นๆ แล้วก็คิดอะไรดีๆได้เยอะแยะ เช่น เรานี่ไม่หนักยังอยู่ได้อีกนาน (คิดแล้วก็มีกำลังใจ)  ร่างกายมนุษย์เป็นรังของโรค ก็คิดได้จากการนั่งรอนี่แหละ (โชคดีหน่อยตรงที่เราเบิกสวัสดิการได้ และนานๆจะไป ร.พ. สักที) เรายังไม่เคยฉุกเฉินเลยยังไม่ได้ใช้เอกชนกับเขา 555+

5.    ความมั่นคงของอารมณ์ มั่นคงสุด คือ นิพพาน  (ในความคิดเรานะ)
        มนุษย์กิเลสมากฝึกฝนน้อยอย่างเรา ...................++++แล้วทำยังไงได้บ้าง เราสวดมนต์กับลูกทุกคืนก่อนนอน   นั่งสมาธิบ้างในบางคืน อ่านหนังสือสวดมนต์เฉพาะส่วนที่แปลไทยทุกวัน (อันนี้เราว่ามีประโยชน์กว่าสวดบาลี  ---สำหรับเรานะ---) แล้วหนังสือที่ดีมากเล่มนึงที่อ่านง่ายและใช้ได้ดีมากๆๆๆๆ คือ ทางสายกลาง ของหลวงพ่อปัญญา  
*****อ่อ อีกอย่าง และแค่เราไม่มีเรื่องเดือดร้อน อารมณ์ก็สุขล้นแล้วจริงไหม??****

6.    ความมั่นคงของมีเงินสำรอง มั่นคงสุด ไม่น่ามีจุดสิ้นสุดตราบใดที่เรายังเป็นคน (ในความคิดเรา)  
        ++++แล้วทำยังไงได้บ้าง  สิ่งที่เราทำได้ คือ ประหยัด อะไรไม่ควรซื้อไม่ควรใช้อย่าไปพิไร วางแผนเก็บเงินไว้ใช้ยามที่เราจำเป็น ยืมเงินคนอื่นมันไม่หน้าชื่นตาบานเท่ายืมเงินกระเป๋าตัวเอง  ถ้าแยกไม่ได้ว่าอะไรจำเป็นก็ท่องไว้ 6 อย่างข้างบนอ่ะ 555+

ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะตายตัวนะ เราว่าแต่ละคนต้องไปปรับใช้กันเอง เรื่องแบบนี้ของใครของมัน ดูที่ความเหมาะสมอย่างสมเหตุสมผล พอเหมาะพอดีของแต่ละคน เปรียบเทียบกันไม่ได้นะ เช่น คนที่มีรถก็ไม่ใช่ว่าจะฟุ่มเฟือยเสมอไปนะ .....ถ้ามีกำลังทำแล้วไม่ได้เดือดร้อนครอบครัว แต่เป็นประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเขาก็เป็นเรื่องพอเพียงสำหรับตัวเขาไป.......อย่าเอามาเปรียบเทียบกันนะแต่ละคนมีพื้นฐานหลายๆ อย่างไม่เหมือนกัน เทียบกันไม่ได้ จะให้เหมือนกันก็ไม่ได้มันฝืนธรรมชาติ ธรรมชาติสร้างทุกสิ่งมาให้แตกต่างกัน นี่คือความเป็นจริง โลกเราสวยงามเพราะความแตกต่างนะ ดอกมะลิก็สวยแบบดอกมะลิไม่ได้ต้องเหมือนดอกกุหลาบเสียหน่อยแต่หลายๆคนก็ชอบดอกมะลิใช่ไหมล่ะ!!!!
   
++++ทิ้งท้าย ++++หลังจากที่เราสกัดเนื้อหาจากหนังสือเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ออกมาได้แล้ว เราก็เอามาคิดเลยว่าแต่ละอย่างเราจะทำอะไรยังไงบ้าง แล้วทดลองทำ แก้ไข ปรับปรุง ไปเรื่อยๆ ผลก็เลยออกมาเป็นกระทู้ 2 กระทู้ด้านบนนั่นเอง  ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างรอบคอบและไม่ประมาทไปพร้อมๆ กันนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่