จากรักที่ไม่ต้องการเวลาในกวนมึนโฮ สู่รักที่ไม่ต้องการดวงตาใน"แฟนเดย์" หนังรักที่หม่นลงแต่ซึ้งยิ่งกว่า ...

#แฟนเดย์  10/10 (ให้คะแนนตามอินเนอร์ส่วนตัวล้วนๆ)

ไม่มีอะไรจะติ ชอบทุกองค์ประกอบ ชอบคาแรคเตอร์ตัวละคร ชอบฉาก ชอบคำพูด ต้องบอกเลยว่าคารวะให้กับการเขียนบทจริงๆ  

หนังรักที่อยากให้เชียร์ให้ทุกคนได้ดูโดยเฉพาะสาวๆ
****(ใครยังไม่ได้ดู ถ้าไม่อยากโดนสปอยล์โปรดไปดูแล้วค่อยมาอ่านจะดีกว่านะ 😅 )*****เตือนแล้วนะ ^^

ปล. ยาวมากนะคะ เพราะอินกะเนื้อเรื่องสุดๆ เขียนจากมุมมองส่วนตัวมากๆ 😆

นุ้ยเป็นตัวแทนที่ดีของสาวๆยุคนี้หลายคนที่พบเจอกันอยู่บ่อยๆ สวย น่ารัก รู้จักบริหารเสน่ห์กับเพศตรงข้าม หัวสมัยใหม่ในเรื่องsex ในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเหยื่อความรักปลอมๆเอาง่ายๆ เพราะเลือกผู้ชายที่องค์ประกอบภายนอก (พี่ท้อป ที่หล่อ รวย โปรไฟล์เริ่ด บุคลิกดี มีคำหวานและของขวัญมาปรนเปรออยู่เสมอ)

ช่วงแรกของการความจำเสื่อมจะเห็นได้ชัดเเลยว่า เธองงแกมตกใจอย่างมากเมื่อเด่นชัยบอกว่าเป็นแฟนเธอ เธอออกท่ารังเกียจใส่เขาโดยอัตโนมัติ แบบไม่เชื่อว่าตัวเองจะเป็นแฟนกับผู้ชายลุคส์นี้  เรานี่น้ำตาไหลตั้งแต่ฉากนี้เลย สงสารเด่นชัยมาก 😢😢😢

แม้กระทั่งเวลาที่นุ้ยจำอะไรไม่ได้ และเขาบอกว่าเป็นแฟนเธอ เธอยังแสดงออกถึงการปฏิเสธตัวเขาอย่างชัดเจน

เต๋อเล่นดีจริงๆ 👍👍👍👍
เราไม่รู้สึกว่าเต๋อเป็นเต๋อเลย แต่เราเห็นภาพหนุ่มเนิร์ดคนนึงที่หลงรักสาวน่ารักในฝันของเขาอย่างสุดจิตสุดใจ แต่ทำไงได้เขาจีบใครไม่เป็น รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหลา คารมคมคายอะไรก็ไม่มี พูดอะไรออกมาแต่ละทีก็สุดทื่อ  มีความดีอยู่อย่างเดียวคือใจล้วนๆที่อยากรักเธอ อยากทำให้เธอมีความสุข และใส่ใจที่จะสังเกตถึงความรู้สึกที่แท้จริงของนุ้ยเสมอในแบบที่เพื่อนสนิทนุ้ยหรือพี่ท้อปยังไม่เคยรับรู้เลย ..

เด่นชัยในบทนี้ เขาคือของล้ำค่าที่มาในหีบห่ออัปลักษณ์

สารภาพเลยว่า เรานี่น้ำตาไหลทุกฉากที่สองคนนี้อยู่ด้วยกันที่ฮอกไกโด 😢

ตอนที่รู้พล็อตว่า พระเอกจะถือโอกาสหลอกนางเอกว่าเป็นแฟนตอนที่นางเอกความจำเสื่อม เรานี่นึกอี๋ในใจมาก 😡 เพราะเกลียดคนโกหก ยิ่งฉวยโอกาสโกหกด้วยเนี่ย ยิ่งรับไม่ได้ แต่ก็อยากจะมาพิสูจน์ดูว่าพล็อตแบบนี้จะทำให้มันซึ้งได้ยังไง

แต่เด่นชัยในเรื่อง ทำให้เราต้องยอมให้อภัยที่มันตัดสินใจโกหก ดูเผินๆก็เหมือนมันเห็นแก่ตัวและเป็นพวกฉวยโอกาส แต่มันไม่ได้ทำเพื่อ take advantage อะไรจากนุ้ยเลย มันทำลงไปเพราะอยากทำให้นุ้ยมีความสุข (ซึ่งนั่นแหละคือความสุขของมัน 😢)

เด่นชัยไม่ใช่คนเลวโดยเนื้อแท้แต่อย่างใด โกหกได้ตะกุกตะกักเอามากๆ ทำให้นุ้ยยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าอิตานี่เนี่ยนะเป็นแฟนฉัน ถึงขั้นระเบิดความหงุดหงิดออกมาว่า อย่างฉันเนี่ยนะเป็นแฟนกับคนแบบนี้! เป็นแบบนี้แล้วมันเป็นยังไงเหรอครับ   โห .. เรานี่น้ำตาพรากไปแล้ว คือนุ้ยนางใจร้ายมากกว่าที่คิด! นางไม่ได้จิตใจดีเหมือนหน้าตานางเลย พูดจาทำร้ายจิตใจและดูถูกคนอื่นออกมาได้ขนาดนี้เรานี่แอบสะอึก แต่เด่นชัยมันก็ยังอุสส่าห์ทน 😭

ตอนที่เด่นชัยเดินกลับมา (หลังจากเอ๋อสติหลุดไปแป๊บนึง) พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วชวนนุ้ยไปกินซูชิที่เป็นอาหารจานโปรดของนุ้ย ภายใต้หน้าเปื้อนยิ้มและน้ำเสียงที่พยายามบังคับให้เป็นปกติ เรานี่สัมผัสความปวดร้าวของเด่นชัยอย่างกับเป็นเด่นชัยซะเองเลย 😢😢😢

การแสดงของเต๋อร้ายกาจมาก!

มันต้องใช้ความอดทนและความรักมากมายขนาดไหนกันนะถึงยังทนได้  ทั้งที่ถูกอีกฝ่ายย่ำยีขนาดนี้ ...

บทหนังเก่งมากๆในการค่อยๆเปลี่ยนนุ้ยจากสาวที่มองผู้ชายแต่เพียงองค์ประกอบภายนอกมาตลอด ให้ค่อยๆเปิดใจและปรับมุมมองใหม่

เห็นได้ชัดว่าที่ร้านซูชินี่แหละที่เธอเกิดความรู้สึกประทับใจในตัวเด่นชัยขึ้นมาจริงๆ และเริ่มเชื่อว่าเธอกับเขาคงเป็นแฟนกัน เพราะเด่นชัยรู้ว่าเธอชอบเมนูไข่หอยเม่นและชอบวาซาบิเยอะๆ เธอเริ่มเป็นกันเองกับเขา เราจะเริ่มเห็นรอยยิ้มสดใสของนุ้ยตั้งแต่ตอนนี้

นุ้ยเปิดใจให้เด่นชัยแล้ว ... 😊 เรานี่ไชโยเลย 😄

ซีนต่อๆมาหลังจากนี้ เราจะเห็นว่านุ้ยเริ่มเอ็นดูผู้ชายทื่อๆอย่างเด่นชัยมากขึ้นทีละนิดๆ 😉

ที่หุบเขานรก .. เธอเริ่มบริหารเสน่ห์เล็กๆอย่างที่เธอถนัด เธอบอกเขาว่าเป็นแฟนกันยังไงทำไมเขาถึงหลบตาเธอตลอดเวลา เธอให้เขาจ้องตากับเธอ 1 นาที ..

ซีนนี้เราก็ชอบมากกกกก 💖💖💖

ทั้งคู่แสดงดีจริงๆ เต๋อเขินได้แบบที่เราต้องเขินตาม คิดดูสิว่าผู้ชายที่เนิร์ดมาทั้งชีวิตเข้าหาผู้หญิงไม่เป็นอย่างเด่นชัยจะทั้งประหม่าทั้งเขินอายเลเวลไหน เมื่อผู้หญิงที่ตัวเองแอบรักมาอยู่ใกล้ขนาดนี้และกำลังจ้องมาที่เขา แอร๊ยยยยย ~ 😍

มิวเป็นนุ้ยได้มีเสน่ห์มากกกก ท่าทางสนุก ขี้เล่น ช่างหยอกเย้าของเธอ การใช้อำนาจนิดๆแบบคนที่รู้สึกถึงความเหนือกว่าของตัวเอง การเป็นฝ่ายจ้องเด่นชัยอย่างไล่ต้อน เราว่าช่วงนี้หลายคนต้องมีจิกเบาะมั่งแหละ ^^

และสุดท้ายนุ้ยเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้สายตาที่จริงจังของเด่น จนต้องเป็นฝ่ายหลบตาซะเอง

แต่ในความพ่ายแพ้ของนุ้ยนั้น หัวใจข้างในคงรู้สึกเหมือนถูกช้อตด้วยไฟฟ้าอย่างแรง ใจที่หลับไหลหมองหม่นมาตลอดของเธอเหมือนถูกปลุกให้ตื่นด้วยพลัง Love beam ที่พุ่งออกมาจากตาของเด่น 😄

ภาพในซีนนี้นั้นสวยจริงๆ ...
กล้องแช่ภาพทั้งคู่ตอนมองตากันไว้ แล้วค่อยๆซูมออกเป็นภาพระยะไกล  เราจะเห็นคนสองคนท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ไอของน้ำพุร้อน ในสถานที่ที่มีชื่อว่าหุบเขานรก แต่เรากลับรู้สึกถึงมวลพลังงานอันอบอุ่นที่อวลอยู่รอบๆกายของทั้งสองคน

จังหวะที่นุ้ยหลบสายตาของเด่นแล้วหันหลังให้เขา เราชอบสีหน้า อารมณ์ของนุ้ยและเด่นมาก

นุ้ยที่ดูเหมือนพ่ายแพ้แต่ข้างในกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เธอก็คงไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน มันเป็นพลังงานบางอย่างที่ถูกจุดติดขึ้นมากลางใจ

ในขณะที่เด่นบอกว่า ยังไม่ครบ1นาทีเลยนะครับ เราจะรู้สึกได้เลยว่ามันไม่ได้พูดเพราะจะเย้ยว่ามันชนะ แต่น้ำเสียงนั้นมันบอกว่า มันยังพร้อมจะทำอย่างที่นุ้ยขอ มันตั้งใจจะมองให้ครบ1นาทีจริงๆ ที่นุ้ยหันหน้าหนี นุ้ยไม่ได้โกรธใช่ไหม มันเป็นความรู้สึกของคนที่จ้องตาเพื่อ ..

.. to surrender not to win...

จากนั้นเราจะได้เห็นทั้งสองทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุขอีกมากมาย ช่วงนี้เราจะรู้สึกได้เลยว่านุ้ยนั้นมีออร่าที่สดใส ค่อยๆปลดปล่อยพลังงานความสุขออกมาตลอดเวลา (ต้องยอมรับเลยว่ารอยยิ้มแห่งความสุขของมิว นิษฐานั้นมีเสน่ห์เกินต้านทานจริงๆ 😙)

หนังไม่ละเลยการกระทำเล็กๆน้อยๆที่แสดงถึงความใส่ใจที่เด่นมีให้นุ้ย อย่างการที่เด่นกระตือรือร้นที่จะช่วยนุ้ยหาตัว secret จากตู้ gacha อย่างจริงจังโดยไม่ได้มองว่ามันไร้สาระ เจอตู้ที่ไหนมันก็เป็นฝ่ายชวนนุ้ยเข้าไปไขเองเลย (สาวๆจำไว้เถอะ ผู้ชายที่ใส่ใจคนที่เขารักอย่างแท้จริง เขาจะไม่ตัดสินเธอเลย เธอชอบหรืออยากได้สิ่งใดเขาก็ยินดีช่วยเธอเสมอจากใจจริง)

จนกระทั่งฉากเด่นอีกอันนึงที่เราว่ามีความน่าสนใจในเรื่องอารมณ์ที่เขียนบทออกมาได้เด็ดขาดมากๆ คือตอนที่ทั้งสองต้องนั่งรอให้พายุสงบเพื่อจะได้ขึ้นรถไฟไปเทศกาลหิมะอยู่ในมินิมาร์ท นุ้ยนั้นไม่ได้คิดมากมายอะไรแล้วกับการที่อาจต้องพลาดเทศกาลหิมะในปีนี้ เพราะความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเพียงพอแล้วในตัวเอง  มันเป็นความรู้สึกความอบอุ่น ปลอดภัย สบายใจอย่างที่สุด (ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ทั้งน่าเบื่อหน่าย ทั้งน่าหงุดหงิดผิดหวังที่สุด เพราะต้องมาติดอยู่ในที่แคบๆ) และคงจะนานมากแล้วที่เธอไม่เคยได้รู้สึกอะไรแบบนี้

ส่วนเด่นชัยล่ะ เขายังคงกังวล จดจ่ออยู่กับการรอฟังข่าวดีว่ารถไฟไปซับโปโรสามารถวิ่งได้แล้ว มากกว่าเจ้าของเป้าหมายผู้อยากไปเที่ยวเทศกาลหิมะเสียอีก แม้กระทั่งตอนที่นุ้ยให้เป่าเทียนเพื่ออธิษฐานขอพรในวันเกิด ซึ่งน่าจะเป็นจังหวะที่น่าจะพูดอะไรที่มันโรแมนติกให้สมกับสถานการณ์ที่นุ้ยเปิดนำมาให้อย่างอารมณ์ดี แต่เด่นชัยกลับบอกอย่างซื่อๆออกมาว่า .." อยากให้พายุสงบครับ" (คุณนุ้ยจะได้ ได้ไปเที่ยวงานนี้ .. 😢)

คนหัวเราะกันทั้งโรง ..
แต่เรานี่น้ำตาพรากหนักมากกกกกก T T

เด่นมันคิดถึงแต่ความสุขของนุ้ยตลอดเวลาจริงๆ
มันไม่ได้คิดจะทำอะไรเพื่อตัวเองเลย ..

ช่วงนี้มีบทสนทนายาวๆที่หลายคนน่าจะชอบ ทั้งตอนที่นุ้ยให้เด่นลองเข้ามาจีบเธอใหม่ เพราะเธอสงสัยว่าเด่นจะจีบเธอยังไง (ตรงนี้ก็ฮานะ เด่นมันทื่อจริงๆ 555+) ทั้งตอนที่เด่นพูดกับนุ้ยเรื่องเอฟเวอร์เรส ซึ่งเราเฉยๆนะ เรารู้สึกว่ามันตั้งใจไปหน่อยที่จะใส่ Quote เท่ๆลงมาตรงนี้ แต่ก็ไม่ได้ขัดความรู้สึกอะไร

ช่วงที่เด่นพูดถึงสิ่งต่างๆที่เขาเคยทำเพื่อเธอตลอดมาแว่บหนึ่งนึกไปถึง my sassy girl ขึ้นมานิดนึง อารมณ์มันคล้ายๆกัน ช่วงนี้ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจว่าเด่นมันทำไมต้องพูดแบบกล้าๆกลัวๆอะไรขนาดน้าน แอบนึกรำคาญขึ้นมานิดนึงด้วย  นุ้ยอุตส่าห์ส่งสัญญาณบวกออกมาขนาดนี้แล้วทำไมมันยังต้องทำตัวเกร็งอะไรตลอดเวลา  

แต่พอมาเฉลยตอนท้ายที่ได้รู้ว่าทั้งหมดนั้นมันเคยพูดกับนุ้ยมาแล้ว แต่ปฏิกิริยาที่มันเคยได้รับจากคำพูดที่เป็นความจริงชุดเดียวกันนี้แท้ๆ แต่นุ้ยกลับมีท่าทีตรงกันข้ามกับนุ้ยที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้อย่างสิ้นเชิง ตอนนั้นสิ่งที่มันได้รับคือสายตารังเกียจและขยะแขยง พร้อมคำสบถเบาๆจากปากเธอ ในขณะที่เธอกระแทกประตูรถ ปัง! อย่างอารมณ์เสียสุดๆ  "หลอนว่ะ!"

ตรงนี้ คารวะคนเขียนบทจริงๆ โคตรเทพเลย! ที่สร้างซีน2ซีนด้วยคำพูดเดียวกันแต่ให้อารมณ์ที่ต่างกันแบบกลับหัวกลับหางขนาดนี้

ฉากเฉลยนี้ทำเอาเราทั้งจุกทั้งเจ็บอย่างแรง  เมื่อนึกถึงรอยยิ้มอย่างดีใจ ปลื้มใจ มีความสุขที่นุ้ยยิ้มให้มันในมินิมาร์ทตอนที่มันพูดสิ่งเดียวกัน!!(เด่น ... นายทนมันได้ยังไง 😢😭😭)

(มีต่อนะคะ 😉)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่