[CR] แฟนเดย์

ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่าพอได้เห็นโฆษณา หนังเรื่องนี้ อดไม่ได้ที่เราจะคิดไปถึงอารมณ์ กวน มึน โฮ ที่พระเอกของเรื่อง เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี เคยแสดงกับ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ ไม่ว่าจะเป็น บรรยากาศ ฉากที่ตัดออกมาเพื่อโฆษณา มันคล้าย จนคนที่เห็นโฆษณาหนังเรื่องนี้กลับที่ต้องการจะเห็นความสนุกในแบบนั้นอีกครั้งแต่จริงๆแล้วแม้หนังจะมีความสนุกตามมุขตลกที่หนังทำได้ดี แต่จริงๆแล้วอารมณ์ต่างกับ กวน มึน โฮ อย่างสิ้นเชิง หนังดูเอาฮา สนุก ตลก นี่ไม่ใช่แล้วครับ ตลกครับ แต่ว่ามันตลกร้ายและหนังมีรายละเอียดมาก(ประเด็นนี้ชม) และกลับเป็นหนังที่จับเรื่องราวชีวิตจริงมาทำได้อย่างดี ในแง่มุมของความรัก การใช้ชีวิต ที่ดูจบแล้วอดไม่ได้ที่จะคิดว่า “ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้”
แฟนเดย์เป็นเรื่องของ เด่น(นำแสดงโดยเต๋อ ฉันทวิชช์) เจ้าหน้าที่ไอที บริษัทอาหารแห่งหนึ่ง เกิดตกหลุมรัก นุ้ย(นำแสดงโดยมิว นิษฐา) พนักงานใหม่ของบริษัท ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นเมียน้อยแบบลับๆ ของเจ้าของบริษัทที่ชื่อ ท๊อป (นำแสดงโดยตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล) เรื่องมาเกิดเป็นแฟนเดย์ ตรงที่ว่า นุ้ยผิดหวังกับคำหลอกลวงของท๊อปครั้งแล้วครั้งเล่า จนเมื่อถึงที่สุด นุ้ยตั้งใจจะมาเที่ยวกับท๊อป สองต่อสอง จากทริปเที่ยวประจำปีที่ฮอกไกโด ของบริษัท กลับเจอเมียหลวง ตามมาฮอกไกโดแบบไม่ทันตั้งตัว แถมมาเมียหลวงมาประกาศอีกว่าเธอกำลังจะมีบุตรอีกคนกับท๊อป เมื่อความเศร้าผิดหวังกัดกินใจนุ้ยจนทนไม่ไหว แผนที่ตั้งใจไว้มาพังทลายและเธอ(นุ้ย) ทนรับสภาพแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วกับการโดนให้ความหวังครั้งแล้วครั้งเล่าว่าจะหย่ากับภรรยาของท๊อป แต่เธอก็ตัดใจจากท๊อปไม่ได้ นุ้ยจึงคิดฆ่าตัวตาย โดยไถลสกีลงจากเนินเขาสูงด้วยตัวเองก็เล่นไม่ค่อยเป็นแต่ปรากฏว่าเธอรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ แต่เธอจะมีความจำเสื่อมแค่วันเดียวจากการกระทบกระเทือน เด่นซึ่งแอบชอบนุ้ยมานานและได้ช่วยชีวิตนุ้ยไว้ ก็ได้สวมรอยเป็นแฟนนุ้ยในหนึ่งวันที่เราจะเรียกว่า “แฟนเดย์” ระหว่างแฟนเดย์ เด่นก็งัดความจริงใจ งัดมุข เผยสิ่งที่พระเอกเคยทำให้กับ นุ้ย จีบนุ้ยอีกครั้งใน “แฟนเดย์” เพราะเขารู้ว่า เขามีเวลาแค่วันเดียวเท่านั้น ที่จะได้เป็นแฟนนุ้ย คนที่เขาประทับใจและแอบชอบเขามานาน...
บางทีคิดว่า การที่จะทำหนังที่ผมว่ามันฝืนๆ ก็พยายามให้เนียนแต่เนียนไม่มาก ไม่รู้สิ หนังมันอารมณ์มันปนกันเยอะไปหน่อย ตลกก็ส่วน ดราม่าก็ส่วน โรแมนติกก็ส่วน ทั้งที่จริงหนังบอกตัวเองว่า โรแมนติกดราม่า แต่มันก็จงใจให้เห็นส่วนของ คอมเมดี้ ตั้งแต่ตอนโฆษณาแล้ว และส่วนตัวหนังก็มีความเป็น คอมเมดี้อยู่พอสมควร แต่ผมว่าหนังแบบนี้มันยากนะครับ ผมไม่รู้ว่าไอ้หนังแนว โรแมนติกดราม่า มันควรจะน้ำตาไหลซึ้ง หรือเปล่า แต่ผมว่าถ้ามันทำถึงจริงๆ มันก็ควรจะไหลเพราะความเศร้าและความซาบซึ้งอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ดังนั้นหนังเรื่องนี้จึงดูแล้วมันดูแล้วมันไม่สุดครับเพราะว่ามันปนกันเยอะไป มันอึดอัด แต่ผมเข้าใจว่า GDH หวังกับหนังเรื่องนี้ไว้มาก ครั้นจะทำดราม่าหนักๆก็ไม่ไหวครับ ไม่ขาย (ไม่รู้คิดถูกเปล่า แต่ว่าผมคิดอย่างนี้) เพราะบางทีสิ่งที่คิดไว้ มันอาจสื่อถึงคนดูได้ไม่ถึง หรือถึงแต่อาจจะไม่อิน เพราะมัวแต่ติดกับกวน มึน โฮ(แม้ชื่อหนังกวน มึน โฮ จะเป็นอารมณ์รวมแต่คุมโทนไว้อยู่ว่าเป็น โรแมนติกคอมเมดี้แต่หนังก็คุมโทนหลักๆได้ชัดเจนโดยเศร้าเล็กน้อยเพียงเท่านั้นและหนังก็สดใสดูสนุกและไม่หม่นเท่าเรื่องนี้) ที่ตัวหนังโฆษณาให้คิดไปในทำนองนั้น แต่สิ่งที่ต้องชมคือ เรื่อง การหยิบประเด็นสังคมเรื่อง “เมียน้อย” มาตีแผ่ แบบที่ทำให้เห็นใจในมุมที่เราไม่เคยคิด พยายามทำหนังให้โรแมนติกด้วยการใส่ความประทับใจแบบที่ “คนแอบชอบ” ทำให้ “คนที่ถูกชอบ” (รักเขาข้างเดียว) แม้จะดูเหมือนโรคจิตหน่อยๆ ฮา และสอดแทรกประเด็นที่ว่าเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยพูดตรงกับความเป็นจริงด้วยการกดปุ่มที่หน้าผากนี่ก็ชวนคิดไม่น้อย คุณรักเขาข้างเดียวคุณจะทำอย่าง “เด่น” ที่ทำให้ “นุ้ย” หรือเปล่าครับ และ เมื่อถึงจุดที่คุณจะได้ประโยชน์กับคุณมากที่สุด คุณจะทำอย่าง “เด่น” หรือเปล่า
สิ่งที่ผมชอบและได้รับจากหนังแฟนเดย์
•    นักแสดงคู่พระนางแสดงได้ดีเลยทั้งสองคน เล่น ดีมากๆ เต๋อ และ มิวยอดเยี่ยม พูดไม่เยอะ แต่ท่าทางนี่มีการแสดงนัยยะมากมาย ผมว่าแสดงดีมากครับ บทแบบนี้มันยากอยู่นะครับ ยากกว่าบทพูดเยอะเสียอีกและทั้งคู่เล่นเป็นธรรมชาติมาก
•    จบแบบนี้แหละต้องจบแบบนี้ เศร้าๆ ทิ้งให้คิด ค้างๆคาๆแบบนี้ต้องอย่างนี้ ไม่ต้องมาสมหวังผิดหวังตัดสินใจอย่างไร ทิ้งให้คิด
•    “ฝันลำเอียง” เพลงรุ่นคุณพ่อของ “พี่แจ้” ดนุพล แก้วกาญจน์ ผมไม่ได้ฟังมานาน แต่เมื่อดูเนื้อเพลงบางช่วง ...แต่ฝันลำเอียง ไม่เหมือนความจริง ทิ้งเราให้หลงในภวังค์ร่ำไป เจอะกันเพียงครั้งเดียว พูดกันเพียงแป๊บเดียว ยังมิพอ... ช่างสื่อสารสิ่งที่หนังต้องการสื่อได้ดีเหลือเกิน เพลงเพราะมากๆครับ
•    หนึ่งวัน แฟนเดย์ แม้ว่าจะยังไม่พอที่จะทำให้ “เด่น” และ “นุ้ย” มารักกันได้ในชีวิตจริง และ ตลอดเวลาหนัง 136 นาที หรือ 2 ชั่วโมงนิดๆ และยังไม่พอที่จะทำให้ผมประทับใจกับหนัง “ครึ่งๆกลางๆ(แปลว่าหนังจะตลกก็ไม่ใช่ดราม่าก็ไม่สุดโรแมนติกก็ไม่สุด)” เรื่องนี้ แม้แต่ฉากเรียกน้ำตา ก็ทำไม่ทำให้ร้องไห้ หรือรื้นแต่อย่างใด แต่ก็ทำให้เราเข้าใจ ความรักที่หลบเร้น สงสารในมุมหนึ่งที่พวกเขาเป็นและรู้สึก ในอีกมุมหนึ่ง “ใครไม่ได้เป็นเมียน้อยก็คงไม่เข้าใจ ว่าทำไมยอม ว่าทำไมถึงทำอะไรที่ชั่วร้าย เช่นนั้น เพราะว่า เรายอมทำอะไรที่งี่เง่า เสมอๆ เมื่อความรัก ความหลง เข้าตาไปและครอบงำไปถึง “ใจ” ครับ” อย่างที่บอกสื่อสารชัดเจน “ไม่เจอ(ความรัก) กับตัวก็คงจะไม่เข้าใจ” (ในความคิดเห็นความรักที่เต็มไปด้วยเหตุผลมิใช่ความรักอีกต่อไป ดังนั้นความรักมันควรจะทำให้เราทำอะไรบ้าๆบอๆ โง่ๆ งี่เง่าๆ โรแมนติกๆ ขำๆ เพ้อๆ เศร้าๆ ต้องมีอะไรสักอย่างที่มันไม่ต้องการเหตุผล อันนี้อาจขัดใจและไม่เห็นด้วยผมเข้าใจครับ แต่ส่วนตัว “ความรักบางทีมันก็ทำให้เราขาดเหตุผลและความยับยั้งชั่งใจ”
•    “แฟนเดย์" ซึ่งแปลว่า วันที่เป็นแฟนกัน(แปลภาษาไทยปนอังกฤษ) คงจะสำคัญและมีค่ามากครับ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นในชีวิตจริงแต่อย่างน้อยมันก็คงเป็นวันที่ “เด่นชัย” จะไม่มีวันลืมเลย แม้ในชีวิตจริงกับในฝันของ “เด่นชัย” มันช่างแตกต่างกันเหลือเกินดังนั้น บางที “เด่นชัย” ที่ลาออกไปอาจเก็บความฝันวันแฟนเดย์ไว้หล่อเลี้ยงจิตใจของเขาในการเดินก้าวไปข้างหน้าในทุกย่างก้าวของชีวิต คุณทุกคนก็ควรจะมีฝันนะครับ ฝันที่สวยงาม ทำตามได้ก็เยี่ยม ทำไม่ได้ก็เก็บมันไว้หล่อเลี้ยงจิตใจ ครับคุณว่าเปล่าครับ  “ความฝันดีๆ ช่วงเวลาดีๆ” ควรมีไว้ครับ
•    “เห็นด้วยกับนุ้ยและเด่น “ความรัก” ทำให้เราทำสิ่งที่งี่เง่า คนไม่เจอคงไม่รู้ อย่างที่บอกย่อหน้าที่แล้ว ความรักที่มีเหตุผล 100 เปอร์เซ็นต์ คงมิใช่ความรักแล้ว”
•    “ชอบนะครับมุข ภูเขา Everest และ ตึก World Trade Center” คุณเจอใครที่คุณพร้อมที่จะทำอะไรบ้าบอและเสี่ยงขนาดนั้นหรือยัง? ครับ คุณเจอหรือยัง?
•    “ตอนนั่งรถออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบินหลังจากนางเอก “นุ้ย” กลับมาเป็นคนปกติและจำ “แฟนเดย์” ไม่ได้แล้ว  “เด่น” กับ “นุ้ย” นั่งรถประจำทางคันเดียวกัน มองเห็นปราสาทน้ำแข็งที่ทั้งสองเที่ยวด้วยกันถูกทำลายลงในพริบตา นุ้ยยังคงมองไปข้างหน้า มองไปแบบจำไม่ได้ แต่ เด่น กลับมองเห็นปราสาทน้ำแข็งที่เขาไปเที่ยวกับนุ้ยด้วยกันใน “แฟนเดย์” ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว “แฟนเดย์” และ “ปราสาทน้ำแข็ง” คงไม่ต่างกันในความรู้สึกที่ปวดร้าวของ “เด่น” ขณะที่ “นุ้ย” จำอะไรไม่ได้เลย เจ็บมากครับ...ความฝันของเด่นกับการรักเขาข้างเดียว และ ความจริงของนุ้ยกับรักลับๆที่เปิดเผยไม่ได้...
หนังสอบผ่านนะครับ แค่มัน ครึ่งๆกลางๆ แปลกนะ ผมอยากดูมันอีกรอบดูเหมือนรายละเอียดของ “ความรัก” ฉบับ “แฟนเดย์” มันเยอะอยู่ เรื่องนี้แม้มันจะไม่ทำให้ผมรื้น แม้มันจะครึ่งๆกลางๆ แต่มันชวนขบคิดในมุมมองของความรักในโลกของความเป็นจริงมากขึ้นคุณคิดเหมือนผมไหมครับ...
กาแฟรสจืด
ชื่อสินค้า:   ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าเรื่องแรกของ GDH
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่