สวัสดีครับ

ผมเป็นนักเรียน เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ซึ่งถือว่าเป็นปีที่สำคัญมากๆ เพราะต้องสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
"ผมอยากเป็นสัตวแพทย์ครับ" เพราะผมชื่นชอบในสัตว์อยู่แล้ว คิดว่าถ้าได้เรียนหรือประกอบอาชีพนี้ มันคงเป็นตัวของผมที่สุดแล้ว
และผมคิดว่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ ต่อให้อุปสรรคจะมากมายเพียงไหน เราก็จะมีแรงฮึด! สู้กับอุปสรรคเหล่านั้น และสามารถผ่านมันไปได้ครับ

เวลามีใครถามผมว่าอยากเรียนอะไร? ผมก็สามารถตอบไปได้เต็มปากเลยว่า "ผมอยากเรียนสัตวแพทย์ครับ" ผมตอบอย่างนี้เสมอ เพราะผมมีเป้าหมายของผมเเล้วครับ แต่ก็นะครับ มีสิ่งที่ทำให้ผมต้องรู้สึกหนักใจมากๆอยู่เหมือนกัน นั่นคือ!
ครอบครัวของผมไม่ชอบอาชีพนี้ครับ !! อาจเป็นเพราะผมเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ หรือเรียกกันภาษาบ้านๆว่าห้องกิ๊ฟเต็ด ซึ่งคนทั่วไปก็จะมองว่าเด็กห้องนี้ ไม่แพทย์ ก็วิศวะ ซึ่งรุ่นพี่ของผมเค้าก็ได้แพทย์กันทุกปีครับ โรงเรียนของผมเค้าก็ปลูกฝังเรื่องการสอบแพทย์กับพวกผมมากๆ กดดันสุดๆ แพทย์อย่างนั้น แพทย์อย่างนี้ คือถ้าโรงเรียนอยากให้เรียนแพทย์ขนาดนี้ ทำไมไม่ตั้งเป็นโรงเรียนเตรียมแพทย์เลยล่ะครับ!
ผมจะได้ไม่เข้า =3= และครอบครัวของผมก็มีความคิดเหมือนโรงเรียนครับ! เค้าคงมีความหวังอยู่มากๆเลยแหละที่อยากให้ผมเรียนแพทย์ พ่อผมถึงขั้นขับรถพาผมไปดูบ้านของนายแพทย์ที่รู้จักกันเลยครับ =O= แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมอยากเรียนขึ้นมาเลยสักนิด ก็เพราะผมมีเป้าหมายในชีวิตของผมเเล้วไง ก็เลยเกิดการเถียงกันมาตลอดครับ ปากก็บอก " เรียนอะไรก็เรียน พ่อไม่ว่า แม่ไม่ว่า " แต่เวลาพูดกันทุกครั้งก็ยกมาแต่หมอ พยาบาล สาธารณสุข อะไรที่มันสายนี้ทั้งนั้น ซึ่งผมไม่ชอบเลยครับ! =3= พอผมบอกอยากเรียนสัตวแพทย์ ก็โดนว่าเรียนทำไม ไม่มีใครเค้าเรียนกันหรอก! !#E#!@#!!!! บลาๆๆ เห้ออ 5555 ได้แต่ถอนหายใจครับ จนตอนนี้ผมได้แต่เงียบอย่างเดียวครับ ไม่พูดแล้ว แล้วยังมีเหตุการณ์อื่นๆอีกนะครับที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเวลาผมพูดประโยคที่ว่า "ผมอยากเรียนสัตวแพทย์" .........
ผมได้มีโอกาสกลับไปโรงเรียนตอนประถมครับ ไม่นานมานี้ คุณครูที่โรงเรียนท่านนึงก็ได้ถามผมว่า " เราอยากเรียนอะไร " ผมก็ตอบไปว่า " อยากเรียนสัตวแพทย์ครับ " แกก็ตอบกลับมาว่า อ้าว!? ทำไมไม่อยากเป็นหมอคนหรอ แล้วแกก็ร่ายยาวเลยครับ ว่า สัตวแพทย์ก็ดี แต่ทำไมถึงไม่ลองสอบหมอกดูหล่ะ ทำเพื่อพ่อกับแม่ เพราะผมก็บอกไปว่า ครอบครัวของผมไม่ปลื้มสัตวแพทย์ครับ แล้วแกก็บอกอีกว่าหลานแกเรียนหมอ ตอนนี้จบเฉพาะทางแล้ว แกบอกว่าแกเคยถามหลานแกว่าเดือนนึงได้เงินเท่าไร หลานแกบอกว่า ถ้าได้จากรพ ก็ประมาณแสนนึง จากคลินิกอีกก็ประมาณแสนนึง หนึ่งเดือนก็ได้ประมาณ 2 แสน ครูแกบอกว่าเค้าก็ให้เงินพ่อแม่เค้าใช้เดือนละห้าหมื่น เวลาทำบุญทีก็โอ้โห อะไรอย่างนั้น -0- แล้วแกก็เล่าถึงคนรู้จักของแกว่า คนนี้เค้าเรียนจบสายนึงมา มีครอบครัวมีลูก มีบ้าน มีรถ แต่สอบติดหมอรังสิต ก็เลยขายบ้าน ขายรถ ไปอยู่อพาร์ทเม้น ภรรยาก็หาเงินส่งสามีเรียนด้วย สามีเค้าบอกว่า มันก็เหมือนการลงทุน ไม่นานก็ได้คืน ยังงั้นยังงี้ -3- พอดีถึงเวลาที่ผมต้องไปเรียนพิเศษ ผมเลยขอตัวแกไปเรียนครับ ก็เลยรอดไป ไม่งั้นยาวอีกแน่ๆ
จากนั้นผมมีปัญหาสุขภาพนิดหน่อยครับทำให้ผมต้องไปตรวจที่รพ ระหว่างรอหมอครับผมก็ได้เจอกับนางพยาบาลเป็นแม่ของรุ่นน้องผมที่โรงเรียนครับ เค้าก็ถามผมว่า " อ้าว ม.6 แล้วนี่ อยากไปต่อสายไหนล่ะ? " ผมก็ตอบเช่นเคยครับ ว่าอยากเรียนสัตวแพทย์ จากนั้นแกก็หัวเราะใหญ่เลยครับ -0- ผมก็ไม่เข้าใจครับว่ามันขำตรงไหน หรือแกหัวเราะเพราะเอ็นดูผมครับ ผมว่าก็ไม่น่าใช่ 555 จากนั้นแกก็พูดอีกว่า " เรียนทำไมหมอสัตว์ เรียนห้องกิ๊ฟท์ทั้งทีทำไมไม่เป็นหมอคน บลาๆๆๆ " ยาวไปอีกครับ ผมก็ไม่อะไรมากแล้วล่ะ เพราะรู้สึกชินแล้ว 555555 ทั้งครอบครัว โรงเรียน ญาติพี่น้องทั้งหลาย เพื่อนบ้าน มนุษย์ป้า เพื่อนแม่ เพื่อนแม่ บลาๆๆ เวลาได้เจอหรือได้คุยกันทีไร พอถามผมทีไร ผมก็ตอบเหมือนเดิม ก็จะโดนสั่งสอนมาซ้ำๆครับ แบบเดิมๆ ว่าสัตวแพทย์ไม่ดีหรอก สู้หมอคนไม่ได้ หรือเป็นอะไรอย่างอื่นก็ยังดีกว่สัตวแพทย์ TT เวลาเทศกาลรวมญาติแต่ละทีก็จะโดนเอาลูกมาอวดกันครับ พอพ่อผมพูดว่าลูกอยากเรียนหมอหมา ทั้งวงก็จะหัวเราะกันใหญ่แล้วก็ล้อเลียนผม ว่าจะเอาหมา เอาอันนั้นอันนี้มาให้ผมรักษา ผมก็ได้แต่ยิ้มอย่างเดียวครับ ทั้งๆที่เสียใจมาก แต่พูดไม่ได้ 555555555 ที่ผมหนักใจที่สุดก็ครอบครัวนี่ละครับ คนอื่นจะว่าไงผมไม่สนใจหรอก ผมก็พยายามอธิบายว่าสัตวแพทย์เป็นได้หลายอย่าง เพราะผมเคยได้มีโอกาสไปเข้าค่ายเส้นทางสู่สัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนึง เค้าก็บอกว่า สัตวแพทย์ เข้ารพสัตว์ หรือเข้ากรมอุทยาน สวนสัตว์ก็ได้ เป็นทหารตำรวจก็ได้ เพราะทหารมีม้าต้องดูแล ส่วนตำรวจก็สุนัขสำรวจครับ หรือจะเข้ากรมปศุสัตว์ ด่านกักกันโรคที่สนามบินก็ได้ หรือจะเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์ม เพราะฟาร์มหนึ่งฟาร์มต้องมีสัตวแพทย์คอยดูแลเรื่องการควบคุมโรคหรือการผลิตครับ เค้าก็ทำให้ผมได้รู้ว่าสัตวแพทย์เรียนยังไง จบมาไปทำอะไร ข้อเสียมียังไง เค้าก็ยังบอกอีกว่า อาชีพนี้คงได้เงินเดือนไม่สู้อาชีพที่เรียน6ปีเหมือนกัน อยู่ที่ใจรัก รักในอาชีพ ผมก็บอกครอบครัวไปตามที่เคยได้รับรู้มา .. แต่ก็ยังไม่โอเคกันเลย TT ผมเครียดนะ 555555555 เครียดแบบจะอ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่องเลย ทำไมเค้าไม่เข้าใจเราว้าาา อะไรงี้ -3- ผมเข้าใจเค้านะ แต่ก็อยากให้เค้าเข้าใจผมเหมือนกัน -^- ผมดูดื้อไปปะ ก็ใช่แหละครับ มันละเอียดอ่อนจริงๆนะผมว่า เพราะถ้าเราตามพ่อกับแม่เเต่เราไม่ชอบ เราจะทำใจได้หรอว่าเราต้องเรียนในมหาลัยยังไม่พอ ออกมาประกอบอาชีพเราก็ต้องเจอสิ่งนี้อีก แต่ถ้าเราเลือกในสิ่งที่เราชอบผมก็กลัวว่าจะทำให้เค้าผิดหวัง ผมกลัวว่าถ้าผมเลือกเรียนสิ่งนี้จะทำให้ผมเหมือนเป็นเด็กอกตัญญูหรือเปล่า TT เพราะสิ่งที่ผมเเคร์ที่สุดก็ครอบครัวผมนี่ละครับ ตอนนี้ก็ได้แต่เงียบกันต่อไป ....
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ เมื่อเด็กมีเป้าหมายในชีวิตเเล้ว อย่าบั่นทอนกำลังใจของเค้าเลย เพราะเหมือนคุณจะดับไฟในใจของเค้า เมื่อเค้ามีไฟในใจของเค้าเเล้วเค้าก็จะพยายามทำทุกสิ่งเพื่อให้ไปถึงสิ่งที่เค้าต้องการ อย่างเช่นการอ่านหนังสือ มันต้องใช้ทั้งสมาธิ แรงกาย แรงใจ 555555 มันต้องมีแรงขับเคลื่อนไปอะครับ เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่ออยู่ใช่มั้ย =3= ผมรู้ว่าพ่อกับแม่อยากเห็นลูกได้ดิบได้ดี แต่การที่ลูกจะได้ดิบได้ดีนั้น ถ้ามันทำให้ลูกต้องเรียนในสิ่งที่ลูกไม่ได้ชอบ ทำในสิ่งที่ลูกไม่อยากทำ การเลือกคณะมหาลัยมันสำคัญมากนะครับ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่จะต่อยอดไปจนถึงอาชีพการงาน เป็นสิ่งที่จะอยู่กับลูกไปตลอดชีวิต ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เค้ารัก มันจะดีกว่าไหมครับ หรือยังไงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเนอะ ผมก็ไม่รู้ครับว่าคนอื่นคิดกันยังไง แต่ผมก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่อยากระบายออกมาเพียงเท่านั้น 55555 กำลังใจจากครอบครัวสำคัญที่สุดครับ
ปล.สุดท้ายผมขอยกบทความบทความนึงที่ผมเคยอ่านเจอนะครับ ของ
รศ.น.สพ.ปานเทพ ให้ภาพ ครับบทความว่า ...
" บ้านเรายังขาดการเชื่อมโยงระหว่างระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของสัตว์และคน ส่วนใหญ่มุ่งแต่รักษาแต่คนซึ่งเป็นปลายเหตุ หรือไม่ก็มีแต่หมอที่นั่งรอแต่จะรักษาสัตว์โดยไม่คำนึงถึงการนำโรคไปสู่คน ยังมีส่วนน้อยที่เข้าใจว่าการรักษาสัตว์ให้สุขภาพดีนั้น เป็นการช่วยป้องกันโรคให้คนด้วย "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Credit http://www.manager.co.th
สรุปง่ายๆก็คือ ถ้าสัตว์มีสุขภาพดี โรคที่จะแพร่จากสัตว์ไปสู่คนนั้น ก็จะไม่มี ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร เพราะคนก็ยังบริโภคเนื้อสัตว์กันอยู่ใช่มั้ยครับ สัตวแพทย์เองก็มีหน้าที่สำคัญในการดูแลเรื่องตรงนี้ด้วย เหมือนเป็นการดูแลที่ต้นเหตุอีกด้านหนึ่ง ถ้าสัตว์ที่เรากินเข้าไปไม่มีโรค ก็คงจะดีต่อสุขภาพของเราแน่นอน จริงไหมครับ
ปล.2 ผมเพิ่งเคยตั้งกระทู้ยาวๆครั้งแรกครับ หากมีการพาดพิงถึงอาชีพอื่น หรือมีการใช้คำผิดคำไม่เหมาะสม ต้องขอโทษจริงๆครับผม กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ _______ _______
ผมอยากเรียนสัตวแพทย์แต่ครอบครัวไม่ชอบเลย ทำไงดีครับ?
"ผมอยากเป็นสัตวแพทย์ครับ" เพราะผมชื่นชอบในสัตว์อยู่แล้ว คิดว่าถ้าได้เรียนหรือประกอบอาชีพนี้ มันคงเป็นตัวของผมที่สุดแล้ว
และผมคิดว่า ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ ต่อให้อุปสรรคจะมากมายเพียงไหน เราก็จะมีแรงฮึด! สู้กับอุปสรรคเหล่านั้น และสามารถผ่านมันไปได้ครับ
ผมได้มีโอกาสกลับไปโรงเรียนตอนประถมครับ ไม่นานมานี้ คุณครูที่โรงเรียนท่านนึงก็ได้ถามผมว่า " เราอยากเรียนอะไร " ผมก็ตอบไปว่า " อยากเรียนสัตวแพทย์ครับ " แกก็ตอบกลับมาว่า อ้าว!? ทำไมไม่อยากเป็นหมอคนหรอ แล้วแกก็ร่ายยาวเลยครับ ว่า สัตวแพทย์ก็ดี แต่ทำไมถึงไม่ลองสอบหมอกดูหล่ะ ทำเพื่อพ่อกับแม่ เพราะผมก็บอกไปว่า ครอบครัวของผมไม่ปลื้มสัตวแพทย์ครับ แล้วแกก็บอกอีกว่าหลานแกเรียนหมอ ตอนนี้จบเฉพาะทางแล้ว แกบอกว่าแกเคยถามหลานแกว่าเดือนนึงได้เงินเท่าไร หลานแกบอกว่า ถ้าได้จากรพ ก็ประมาณแสนนึง จากคลินิกอีกก็ประมาณแสนนึง หนึ่งเดือนก็ได้ประมาณ 2 แสน ครูแกบอกว่าเค้าก็ให้เงินพ่อแม่เค้าใช้เดือนละห้าหมื่น เวลาทำบุญทีก็โอ้โห อะไรอย่างนั้น -0- แล้วแกก็เล่าถึงคนรู้จักของแกว่า คนนี้เค้าเรียนจบสายนึงมา มีครอบครัวมีลูก มีบ้าน มีรถ แต่สอบติดหมอรังสิต ก็เลยขายบ้าน ขายรถ ไปอยู่อพาร์ทเม้น ภรรยาก็หาเงินส่งสามีเรียนด้วย สามีเค้าบอกว่า มันก็เหมือนการลงทุน ไม่นานก็ได้คืน ยังงั้นยังงี้ -3- พอดีถึงเวลาที่ผมต้องไปเรียนพิเศษ ผมเลยขอตัวแกไปเรียนครับ ก็เลยรอดไป ไม่งั้นยาวอีกแน่ๆ
จากนั้นผมมีปัญหาสุขภาพนิดหน่อยครับทำให้ผมต้องไปตรวจที่รพ ระหว่างรอหมอครับผมก็ได้เจอกับนางพยาบาลเป็นแม่ของรุ่นน้องผมที่โรงเรียนครับ เค้าก็ถามผมว่า " อ้าว ม.6 แล้วนี่ อยากไปต่อสายไหนล่ะ? " ผมก็ตอบเช่นเคยครับ ว่าอยากเรียนสัตวแพทย์ จากนั้นแกก็หัวเราะใหญ่เลยครับ -0- ผมก็ไม่เข้าใจครับว่ามันขำตรงไหน หรือแกหัวเราะเพราะเอ็นดูผมครับ ผมว่าก็ไม่น่าใช่ 555 จากนั้นแกก็พูดอีกว่า " เรียนทำไมหมอสัตว์ เรียนห้องกิ๊ฟท์ทั้งทีทำไมไม่เป็นหมอคน บลาๆๆๆ " ยาวไปอีกครับ ผมก็ไม่อะไรมากแล้วล่ะ เพราะรู้สึกชินแล้ว 555555 ทั้งครอบครัว โรงเรียน ญาติพี่น้องทั้งหลาย เพื่อนบ้าน มนุษย์ป้า เพื่อนแม่ เพื่อนแม่ บลาๆๆ เวลาได้เจอหรือได้คุยกันทีไร พอถามผมทีไร ผมก็ตอบเหมือนเดิม ก็จะโดนสั่งสอนมาซ้ำๆครับ แบบเดิมๆ ว่าสัตวแพทย์ไม่ดีหรอก สู้หมอคนไม่ได้ หรือเป็นอะไรอย่างอื่นก็ยังดีกว่สัตวแพทย์ TT เวลาเทศกาลรวมญาติแต่ละทีก็จะโดนเอาลูกมาอวดกันครับ พอพ่อผมพูดว่าลูกอยากเรียนหมอหมา ทั้งวงก็จะหัวเราะกันใหญ่แล้วก็ล้อเลียนผม ว่าจะเอาหมา เอาอันนั้นอันนี้มาให้ผมรักษา ผมก็ได้แต่ยิ้มอย่างเดียวครับ ทั้งๆที่เสียใจมาก แต่พูดไม่ได้ 555555555 ที่ผมหนักใจที่สุดก็ครอบครัวนี่ละครับ คนอื่นจะว่าไงผมไม่สนใจหรอก ผมก็พยายามอธิบายว่าสัตวแพทย์เป็นได้หลายอย่าง เพราะผมเคยได้มีโอกาสไปเข้าค่ายเส้นทางสู่สัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนึง เค้าก็บอกว่า สัตวแพทย์ เข้ารพสัตว์ หรือเข้ากรมอุทยาน สวนสัตว์ก็ได้ เป็นทหารตำรวจก็ได้ เพราะทหารมีม้าต้องดูแล ส่วนตำรวจก็สุนัขสำรวจครับ หรือจะเข้ากรมปศุสัตว์ ด่านกักกันโรคที่สนามบินก็ได้ หรือจะเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์ม เพราะฟาร์มหนึ่งฟาร์มต้องมีสัตวแพทย์คอยดูแลเรื่องการควบคุมโรคหรือการผลิตครับ เค้าก็ทำให้ผมได้รู้ว่าสัตวแพทย์เรียนยังไง จบมาไปทำอะไร ข้อเสียมียังไง เค้าก็ยังบอกอีกว่า อาชีพนี้คงได้เงินเดือนไม่สู้อาชีพที่เรียน6ปีเหมือนกัน อยู่ที่ใจรัก รักในอาชีพ ผมก็บอกครอบครัวไปตามที่เคยได้รับรู้มา .. แต่ก็ยังไม่โอเคกันเลย TT ผมเครียดนะ 555555555 เครียดแบบจะอ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่องเลย ทำไมเค้าไม่เข้าใจเราว้าาา อะไรงี้ -3- ผมเข้าใจเค้านะ แต่ก็อยากให้เค้าเข้าใจผมเหมือนกัน -^- ผมดูดื้อไปปะ ก็ใช่แหละครับ มันละเอียดอ่อนจริงๆนะผมว่า เพราะถ้าเราตามพ่อกับแม่เเต่เราไม่ชอบ เราจะทำใจได้หรอว่าเราต้องเรียนในมหาลัยยังไม่พอ ออกมาประกอบอาชีพเราก็ต้องเจอสิ่งนี้อีก แต่ถ้าเราเลือกในสิ่งที่เราชอบผมก็กลัวว่าจะทำให้เค้าผิดหวัง ผมกลัวว่าถ้าผมเลือกเรียนสิ่งนี้จะทำให้ผมเหมือนเป็นเด็กอกตัญญูหรือเปล่า TT เพราะสิ่งที่ผมเเคร์ที่สุดก็ครอบครัวผมนี่ละครับ ตอนนี้ก็ได้แต่เงียบกันต่อไป ....
ปล.สุดท้ายผมขอยกบทความบทความนึงที่ผมเคยอ่านเจอนะครับ ของ รศ.น.สพ.ปานเทพ ให้ภาพ ครับบทความว่า ...
" บ้านเรายังขาดการเชื่อมโยงระหว่างระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของสัตว์และคน ส่วนใหญ่มุ่งแต่รักษาแต่คนซึ่งเป็นปลายเหตุ หรือไม่ก็มีแต่หมอที่นั่งรอแต่จะรักษาสัตว์โดยไม่คำนึงถึงการนำโรคไปสู่คน ยังมีส่วนน้อยที่เข้าใจว่าการรักษาสัตว์ให้สุขภาพดีนั้น เป็นการช่วยป้องกันโรคให้คนด้วย "
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปง่ายๆก็คือ ถ้าสัตว์มีสุขภาพดี โรคที่จะแพร่จากสัตว์ไปสู่คนนั้น ก็จะไม่มี ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร เพราะคนก็ยังบริโภคเนื้อสัตว์กันอยู่ใช่มั้ยครับ สัตวแพทย์เองก็มีหน้าที่สำคัญในการดูแลเรื่องตรงนี้ด้วย เหมือนเป็นการดูแลที่ต้นเหตุอีกด้านหนึ่ง ถ้าสัตว์ที่เรากินเข้าไปไม่มีโรค ก็คงจะดีต่อสุขภาพของเราแน่นอน จริงไหมครับ
ปล.2 ผมเพิ่งเคยตั้งกระทู้ยาวๆครั้งแรกครับ หากมีการพาดพิงถึงอาชีพอื่น หรือมีการใช้คำผิดคำไม่เหมาะสม ต้องขอโทษจริงๆครับผม กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ _______ _______