จากหัวข้อเรื่องเลยคะ "โดนฟ้องหมินประมาท" จากคลินิคศัลยกรรมแห่งหนึ่งเพราะรีวิว แต่รีวิวในที่นี้คือรีวิวทำออกมาไม่ดีนะคะ
ต้องเกรินก่อนว่าเรื่องนี้มันนานมาแล้วคะ 4-5 ปีได้แล้ว แต่เพิ่งมีหมายแจ้งความมาเมื่อวานนี้
ข้อหาหมินประมาท
----------------------------------------------
...เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วคะ เราเคยสนใจเรื่องศัลยกรรม เพราะอยากสวย เนื่องจากตัวเอง ไม่ได้เป็นคนสวย เลยผันตัวเข้าสู่วงการศัลยกรรม และก็ได้ไปเจอกับคลินิคแห่งซึ่งตอนนี้ชื่อดังคะ มีดาราแวะเวียนมาทำกับเยอะ ช่วงนนั้นเขาได้มีการสมัครทำการศัลยกรรมฟรีคะ เราได้ไปร่วมกิจกรรม แต่ไม่ได้เข้ารอบนะคะ ช่วงนั้นคลินิคเหมือนเพิ่งเปิดตัวคะ ทำการตลาดแรง มีกิจกรรมศัลยกรรมฟรีบ่อยเพราะต้องการพรีเซนเตอร์
เราก็ได้เข้ามีส่วนร่วมกับกิจกรรมทุกครั้งจนเราได้รับเลือกเพื่อทำจมูกฟรี แต่เป็นแบบไม่ถาวรคะ เป็นการร้อยไหมเพื่อดึงจมูก
หลังจากได้ทำจมูกในครั้งนั้นฟรี
ก็ได้ตัดสินใจ ใช้บริการ ศัลยกรรมครั้งแรกที่นี้ คือทำตา 2 ชั้น ซึ่งเราไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก เพราะไว้ใจในฝีมือคะ และนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องการฟ้องร้องที่จะตามมา
----------------------------------------
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 54
เราเลือกทำตา 2 ชั้น + กรีดเอาไขมันออก แผลเล็กคะกับที่คลินิคนี้ ทางคลินิคบอกว่าทำตา 2 ชั้น แบบนี้จะอยู่ได้นาน 4-5 ปี เราจึงเลือกทำแบบนี้
ระหว่างที่ทำตา มีการเย็บแก้หลายรอบคะ เรารู้หมดเพราะเขาฉีดแค่ยาชา หลังทำเสร็จ หมอก็เอากระจกมาให้ดู เราก็แปลกใจคะ ทำไม ชั้นตาไม่เท่ากันคะ หมอบอกมันบวมคะ ยังดูไม่ออก เราก็โอเคและหลังทำเสร็จก็รับยาไปทาน และกลับบ้านมา
แรกๆ แฮปปี้คะกับตา 2 ชั้นคู่ใหม่ รีวิว และอวยให้คลินิคสารพัดแทบจะเหมือนเราเป็นหน้าม้าก็ว่าได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีคะที่มาเจอกับคลินิคนี้ แต่ก็ดีใจได้ไม่นานคะ
หลังจากทำตาช่วง ราวๆ 2 เดือน เราได้มีการติดต่อกลับไปหาคลินิคถามเรื่องชั้นตาไม่เท่ากัน แต่ทางคลินิคบอกว่าต้องรอจนยุบบวมหมดก่อน
เราก็รอคะ.........จน เข้าเดือนที่ 4 เราเริ่มสงสัยว่าทำไมยังไม่เท่ากันสักที ชั้นตาก็ไม่ธรรมชาติเลย ยิ่งนานชั้นตาก็ตก แถมไม่เท่ากันอีก เราได้ติดต่อกลับไปหาคลินิคอีกครั้งเพื่อถามว่าทำไมตาถึงไม่เท่ากัน แต่พนักงานแจ้งว่ายังไม่ยุบดี ต้องรอดูอีก 2 เดือน ถ้าไม่เท่ากันจริง ก็จะแก้ไขให้
เราก็รอ จนครบ 2 เดือนตามที่พนักงานคลินิคบอก แต่ดันติดน้ำท่วมเดินทางไปคลินิคไม่ได้คะ แต่เรามีคิดต่อทางเฟส กับพนักงานคลินิคด้วยคะบอกว่าน้ำท่วม เราเลยไม่ได้ติดต่อกลับไป เพื่อขอแก้
จนหมดช่วงน้ำท่วม ประมาณวันที่ 7 กพ 55 ทางคลินิคจัดกิจกรรมศัลยกรรมฟรีอีกครั้ง ครั้งนี้เราก็ไปร่วมอีกคะ และได้เจอหมอศัลในคลินิค เลยให้ท่านดูตาให้ ท่านบอกว่าเกิดจากเทคนิคเย็บไม่ดี เลยทำให้รอยเย็บหลุดชั้นตาเลยตก
----------------------------------------
หลังจากจบกิจกรรมในวันที่ 25 กพ 55 เราก็ได้เข้าไปที่คลินิคอีกครั้ง
ได้เจอกับพนักงานคลินิค แต่ครั้งนี้พนักงานคนเก่าที่เคยดิวไว้ย้ายไปอยู่อีกสาขา ทำให้เราต้องคุยกับพนักงานคนใหม่อีกคนที่มาดูแลแทน และได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังคราวๆว่าเรื่องราวเป็นไง แต่พนักงานแจ้งว่าตาเราได้หมดอายุการดูแลไปแล้วแก้ไขให้ไม่ได้แล้ว ต้องทำใหม่เท่านั้น
เราเลยขอพบหมอศัลยกรรมก่อนเพื่อปรึกษาแต่ได้เจอกลับหมออีกท่านนึง หมอบอกว่าไม่แก้ไขให้ เพราะตาเราแก้ไปก็เป็นเหมือนเดิม ทำไปก็ตกเหมือนเดิมไม่ต้องทำหลอก แต่หมอก็บอกให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะทำไม่ทำ หลังจากคุยกับหมอเสร็จก็คุยกับพนักงานคลินิกต่อ
พนักงานก็พยายามเชียร์ให้เราทำคางต่อเพราะเราเป็นคนคางถอยและสั้น และบวกกับเราก็สนใจจะทำอยู่แล้ว ก็เลยบอกกับพนักงานว่าหากทำคางจะแก้ไขตาให้ด้วยไหม พนักงานรับปากที่จะทำคาง และแก้ไขตาให้ด้วย พร้อมซื้อแพคเกจฉีดลดไขมันใต้คาง ในราคาลด30% ( 49000 )เพราะเราได้ร่วมกิจกรรมกับทางคลินิคบ่อย เราเลยตกลงทำ และจ่ายเงินค่าทำให้วันนั้นเลย พนักงานก็เขียนใบนัดพร้อมระบุว่าเราได้ทำอะไรบ้าง
เนื่องจากเรารู้สึกไม่แฟร์เลยทำไมต้องตกลงไปทำคางเพื่อแก้ตาด้วย เราจึงเขียนข้อความไปหาเจ้าของคลินิคคะ เพื่อให้เขาเห็นใจเรา เจ้าของคลินิคดีคะ พอได้รับเรื่องจากเรา ก็ได้นัดเราเขาไปคุยก่อนที่จะทำคาง คุยรายละเอียดกัน ครั้งนี้เลขาเจ้าของคลินิคมาดูด้วยตัวเองคะ เขาก็ถามเราต้องการอะไรบ้าง เราก็บอกว่าเราต้องการแก้ไขตาขวาคะเพราะมันตก เขาก็มองและบอกมันตกจริงด้วยคะ ไม่ต้องกลัวเด๋วก็ได้แก้นะ และเราก็ขอเปลี่ยนจากฉีดลดไขมันใต้คางเป็นขอฉีดโบท๊อกแทน แต่พนักงานแจ้งว่าเราไม่จำเป็นต้องฉีดโบท๊อก เลขาเลยถามเราว่าอยากทำอะไรเป็นพิเศษไหม เราเลยบอกว่า ผิวคะ กับ จมูก คะ พี่เลขาหายไปพักนึงแล้วออกมาบอกว่าคุณหมอบอกว่า คุณหมอให้เลือก ระหว่าง faxel 2 ครั้งกับจมูก เราจะเลือกทำอะไร เราเลือกที่จะทำจมูกคะ
หลังจากคุยกันเสร็จ ก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดเตรียมตัวคะ ก่อนเข้าห้องเราก็ถามก่อนเพื่อความแน่ใจว่าเราจะได้แก้อะไรบ้าง เขาก็แจ้งว่า คางกับจมูกคะ ตาไม่ได้ทำ เราก็สงสัยเลยถามไปว่าเราขอแก้ไขตาด้วย ไม่ใช่เหรอ พนักงานแจ้งว่า คุณหมอยังไม่แก้ให้คะ เพราะทำจมูกจะมีการดึงตาออกอีก ต้องดูก่อน เราก็เลยเออ ออ ไป ก่อนจะทำเราได้บอกหมอว่าขอคางแบบธรรมชาติไม่แหลมไม่ยาวนะคะ
หลักจากทำเสร็จ หมอเอากระจกให้ดู มันยาวมากคะ ตกใจเลยถามหมอ ทำไมยาวจังคะไม่อยากได้ยาว แต่หมอก็ยิ้มแล้วพูดว่าที่ทำนานนี้เพราะงัดให้ยาวเลยนะ หมอบอกเ๋วมันก็ยุบอีกนิดหน่อยเราเลยโอเคและกรับยากลับบ้าน
หลังจากทำมา 2 อาทิตย์รู้สึกว่า หน้าแย่มาก เป็นแม่มดเลย จิตตก มีแต่คนถามตลอดทำไมคางเป็นก้อน ทำไมถึงเหมือนแม่มด เราก็เลยโทรไปที่คลินิคอีกที และได้ส่งรูปให้คนที่คลินิคดู ว่ามันดูแปลกมากคะ มันดูไม่ธรรมชาติเลย พนักงานเลยนัดเข้ามาที่คลินิคเพื่อให้หมอดู พอมาถึงคลินิค ได้พบหมอหมอบอกยังบวมแต่ถึงยุบก็ได้ทรงแบบนี้แหละ ไม่สั้นไปกว่านี้แล้ว และก็ให้กลับไปบ้านไปรอก่อน
ช่วงนั้นไม่อยากไปทำงานเลยคะ จิตตก แล้วเสียบุคลิคต้องเดินก้มหน้าตลอดเวลา ใครถามว่าอะะไรก็ไม่ตอบคะ อายมาก
หลังจากทำมา ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ เราก็เลยส่งเฟสไปหาพี่คนนึงที่คลินิคคะ ส่งรูปคางไปให้ดู พี่เขาบอกจะคุยกับหมอให้
และเราก็ได้นัดที่จะเข้าไปคลินิคอีกครั้ง เราแจ้งกับหมอว่าเรายืนยันอยากจะแก้ให้มันสั้นลงคะเพราะมันยาวไปและเป็นก้อนไม่เรียบเนียนไปกับหน้า แต่หมอบอกจะไม่แก้ไขให้ และก็บอกเราว่ามันไม่ได้ยาวไป ต้องรอ ให้เรากลับไปรออีก 2 เดือน ถ้าถึงตอนนั้น ยาวไปก็เอาออก หรือถ้าไม่สบายใจก็เอาออกไปเลยหมอจะเอาออกให้หลังจากนั้นเราก็เสียความรู้สึกดีๆกับคลินิคนี้ไปแล้วคะ ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เข้าไปหาไม่คุยอีกเลย
จนสุดท้ายเราต้องเสียเงินเพื่อไปแก้คางกลับอีกคลินิกนึง ซึ่งพอทำออกมาแล้ว มันดูดีขึ้น มั่นใจขึ้นเลยคะ ต่างจากเดิมมาก
---------------------------------------------------
จุดพีคมันอยู่ตรงนี้คะ
คือเรา เสียใจ จากคลินิคเก่า เนื่องจากเราไว้ใจ และรักคลินิคนี้มาก พอเขาผิดคำพูดกับเรา ที่บอกจะแก้ตาให้ และ บวกกับว่าคางมันออกมาไม่ดี ทำให้สภาพจิตใจเราแย่มากคะ เราเลยโมโห และโกรธมาก เราเลยได้ไปเขียนเว็บบอร์ดแชร์ประสบการณ์ ศัลยกรรม จากคลินิคนั้น ในเว็บศัลยกรรมแห่งนึ่ง เราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ และได้เอ๋ยชื่อเล่น และ ชื่อ ย่อขอคลินิกนี้ และด้วยความโกรธเราได้ใช้ถ้อยทำที่รุนแรงด่าทอ สาปแช่ง จนสุดท้ายมีคน เอาข่าวไปแจ้งกับทางคลินิค เขาติดต่อมาขอให้เราลบโพส ซึ่งตอนแรกเราไม่ยอม และเขาก็ติดต่อกลับมาอีก จะแก้ไขทุกอย่างให้เรา แต่เราต้องลบโพสให้เขา เราบอกเราไม่ขอแก้ไขอะไรแล้ว ทางคลินิคโทรมาเพื่อใช้ไม้อ่อนกับเรา แต่เราไม่ยอมคะเพราะช่วงนั้นเสียใจมากจิตตกมากโกรธมากเราเลยปฎิเสษไปคะ หลังจากนั้นไม่นานเาเริ่มโทรมาใช้ไม้แข็ง บอกว่าจะฟ้องข้อหาหมินประมาท เพราะเรามีการเอ๋ยชื่อย่อคลินิค และชื่อเล่นของบุคคนในคลินิคซึ่งถ้าใครอ่านและรู้จักคลินิคนี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าใคร และที่ไหน เขาโทรมาบอกว่าจะฟ้องอยู่หลายครั้งคะ จนเราเริ่มใจอ่อน และ บวกกับว่าสภาพจิตใจตอนนั้นดีขึ้นแล้ว และไม่อยากให้เรื่องราวให่โตไปกว่านี้ เราก็เลยคุยกับเขาว่าจะยอมปิดกระทู้ให้
แต่ครั้งนี้ทางคลินิคไม่ยอมแล้วคะ เขาเสียหายมาก เสื่อมเสียชื่อเสียง ให้เราโพสขอโทษก่อน เราจึงยอมทำตาม โพสขอโทษ และชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน และได้ทำการยกอำนาจให้ทางคลินิคเป็นคนดำเนินการปิดโพสเองได้เลยโดนแจ้งกับแอดมินเว็บ เรื่องมันก็น่าจะจบไปได้ด้วยดี แต่.......มันไม่จบคะ
เมื่อวานนี้ วันที่ 5 /9/2559 ได้มีหมายเรียกตัวไปสอบสวนคดี หมิ่นประมาท จากคลินิคดังกล่าว ลงวันที่หมายเรียกวันที่ 30 สิงหาคม 59
เรางงว่าเรื่องมันตั้ง 4 ปีแล้ว เขาต้องการอะไรจากเราอีก เขาต้องการอะไร เราเองก็ไม่ได้มีเงินไม่สู้คดีอะไรกับเขาหลอกถึงเขาจะฟ้องมาก็ไม่มีเงินจะไปจ่ายเขาหลอกคะ เราเองก็มีลูกเล็กด้วย ครอบครัวก็ไม่ได้ล่ำรวยอะไร เพราะหลังจากที่เราขอโทษออกสื่อไปแล้ว เราก็ไม่ได้ติดต่อหรือคุยกับคนในนั้นอีกเลยคะ
เราเลยอยากจะขอคำแนะนำและความเห็นจากชาวพันทิปคะ เพราะเราเองไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายเท่าไหร่นัก เราควรทำอย่างไรดี
โดนฟ้อง จากคลินิค เพราะรีวิว
ต้องเกรินก่อนว่าเรื่องนี้มันนานมาแล้วคะ 4-5 ปีได้แล้ว แต่เพิ่งมีหมายแจ้งความมาเมื่อวานนี้ ข้อหาหมินประมาท
----------------------------------------------
...เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วคะ เราเคยสนใจเรื่องศัลยกรรม เพราะอยากสวย เนื่องจากตัวเอง ไม่ได้เป็นคนสวย เลยผันตัวเข้าสู่วงการศัลยกรรม และก็ได้ไปเจอกับคลินิคแห่งซึ่งตอนนี้ชื่อดังคะ มีดาราแวะเวียนมาทำกับเยอะ ช่วงนนั้นเขาได้มีการสมัครทำการศัลยกรรมฟรีคะ เราได้ไปร่วมกิจกรรม แต่ไม่ได้เข้ารอบนะคะ ช่วงนั้นคลินิคเหมือนเพิ่งเปิดตัวคะ ทำการตลาดแรง มีกิจกรรมศัลยกรรมฟรีบ่อยเพราะต้องการพรีเซนเตอร์ เราก็ได้เข้ามีส่วนร่วมกับกิจกรรมทุกครั้งจนเราได้รับเลือกเพื่อทำจมูกฟรี แต่เป็นแบบไม่ถาวรคะ เป็นการร้อยไหมเพื่อดึงจมูก
หลังจากได้ทำจมูกในครั้งนั้นฟรี ก็ได้ตัดสินใจ ใช้บริการ ศัลยกรรมครั้งแรกที่นี้ คือทำตา 2 ชั้น ซึ่งเราไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก เพราะไว้ใจในฝีมือคะ และนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องการฟ้องร้องที่จะตามมา
----------------------------------------
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 54
เราเลือกทำตา 2 ชั้น + กรีดเอาไขมันออก แผลเล็กคะกับที่คลินิคนี้ ทางคลินิคบอกว่าทำตา 2 ชั้น แบบนี้จะอยู่ได้นาน 4-5 ปี เราจึงเลือกทำแบบนี้
ระหว่างที่ทำตา มีการเย็บแก้หลายรอบคะ เรารู้หมดเพราะเขาฉีดแค่ยาชา หลังทำเสร็จ หมอก็เอากระจกมาให้ดู เราก็แปลกใจคะ ทำไม ชั้นตาไม่เท่ากันคะ หมอบอกมันบวมคะ ยังดูไม่ออก เราก็โอเคและหลังทำเสร็จก็รับยาไปทาน และกลับบ้านมา
แรกๆ แฮปปี้คะกับตา 2 ชั้นคู่ใหม่ รีวิว และอวยให้คลินิคสารพัดแทบจะเหมือนเราเป็นหน้าม้าก็ว่าได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีคะที่มาเจอกับคลินิคนี้ แต่ก็ดีใจได้ไม่นานคะ
หลังจากทำตาช่วง ราวๆ 2 เดือน เราได้มีการติดต่อกลับไปหาคลินิคถามเรื่องชั้นตาไม่เท่ากัน แต่ทางคลินิคบอกว่าต้องรอจนยุบบวมหมดก่อน
เราก็รอคะ.........จน เข้าเดือนที่ 4 เราเริ่มสงสัยว่าทำไมยังไม่เท่ากันสักที ชั้นตาก็ไม่ธรรมชาติเลย ยิ่งนานชั้นตาก็ตก แถมไม่เท่ากันอีก เราได้ติดต่อกลับไปหาคลินิคอีกครั้งเพื่อถามว่าทำไมตาถึงไม่เท่ากัน แต่พนักงานแจ้งว่ายังไม่ยุบดี ต้องรอดูอีก 2 เดือน ถ้าไม่เท่ากันจริง ก็จะแก้ไขให้
เราก็รอ จนครบ 2 เดือนตามที่พนักงานคลินิคบอก แต่ดันติดน้ำท่วมเดินทางไปคลินิคไม่ได้คะ แต่เรามีคิดต่อทางเฟส กับพนักงานคลินิคด้วยคะบอกว่าน้ำท่วม เราเลยไม่ได้ติดต่อกลับไป เพื่อขอแก้
จนหมดช่วงน้ำท่วม ประมาณวันที่ 7 กพ 55 ทางคลินิคจัดกิจกรรมศัลยกรรมฟรีอีกครั้ง ครั้งนี้เราก็ไปร่วมอีกคะ และได้เจอหมอศัลในคลินิค เลยให้ท่านดูตาให้ ท่านบอกว่าเกิดจากเทคนิคเย็บไม่ดี เลยทำให้รอยเย็บหลุดชั้นตาเลยตก
----------------------------------------
หลังจากจบกิจกรรมในวันที่ 25 กพ 55 เราก็ได้เข้าไปที่คลินิคอีกครั้ง
ได้เจอกับพนักงานคลินิค แต่ครั้งนี้พนักงานคนเก่าที่เคยดิวไว้ย้ายไปอยู่อีกสาขา ทำให้เราต้องคุยกับพนักงานคนใหม่อีกคนที่มาดูแลแทน และได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังคราวๆว่าเรื่องราวเป็นไง แต่พนักงานแจ้งว่าตาเราได้หมดอายุการดูแลไปแล้วแก้ไขให้ไม่ได้แล้ว ต้องทำใหม่เท่านั้น
เราเลยขอพบหมอศัลยกรรมก่อนเพื่อปรึกษาแต่ได้เจอกลับหมออีกท่านนึง หมอบอกว่าไม่แก้ไขให้ เพราะตาเราแก้ไปก็เป็นเหมือนเดิม ทำไปก็ตกเหมือนเดิมไม่ต้องทำหลอก แต่หมอก็บอกให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะทำไม่ทำ หลังจากคุยกับหมอเสร็จก็คุยกับพนักงานคลินิกต่อ
พนักงานก็พยายามเชียร์ให้เราทำคางต่อเพราะเราเป็นคนคางถอยและสั้น และบวกกับเราก็สนใจจะทำอยู่แล้ว ก็เลยบอกกับพนักงานว่าหากทำคางจะแก้ไขตาให้ด้วยไหม พนักงานรับปากที่จะทำคาง และแก้ไขตาให้ด้วย พร้อมซื้อแพคเกจฉีดลดไขมันใต้คาง ในราคาลด30% ( 49000 )เพราะเราได้ร่วมกิจกรรมกับทางคลินิคบ่อย เราเลยตกลงทำ และจ่ายเงินค่าทำให้วันนั้นเลย พนักงานก็เขียนใบนัดพร้อมระบุว่าเราได้ทำอะไรบ้าง
เนื่องจากเรารู้สึกไม่แฟร์เลยทำไมต้องตกลงไปทำคางเพื่อแก้ตาด้วย เราจึงเขียนข้อความไปหาเจ้าของคลินิคคะ เพื่อให้เขาเห็นใจเรา เจ้าของคลินิคดีคะ พอได้รับเรื่องจากเรา ก็ได้นัดเราเขาไปคุยก่อนที่จะทำคาง คุยรายละเอียดกัน ครั้งนี้เลขาเจ้าของคลินิคมาดูด้วยตัวเองคะ เขาก็ถามเราต้องการอะไรบ้าง เราก็บอกว่าเราต้องการแก้ไขตาขวาคะเพราะมันตก เขาก็มองและบอกมันตกจริงด้วยคะ ไม่ต้องกลัวเด๋วก็ได้แก้นะ และเราก็ขอเปลี่ยนจากฉีดลดไขมันใต้คางเป็นขอฉีดโบท๊อกแทน แต่พนักงานแจ้งว่าเราไม่จำเป็นต้องฉีดโบท๊อก เลขาเลยถามเราว่าอยากทำอะไรเป็นพิเศษไหม เราเลยบอกว่า ผิวคะ กับ จมูก คะ พี่เลขาหายไปพักนึงแล้วออกมาบอกว่าคุณหมอบอกว่า คุณหมอให้เลือก ระหว่าง faxel 2 ครั้งกับจมูก เราจะเลือกทำอะไร เราเลือกที่จะทำจมูกคะ
หลังจากคุยกันเสร็จ ก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดเตรียมตัวคะ ก่อนเข้าห้องเราก็ถามก่อนเพื่อความแน่ใจว่าเราจะได้แก้อะไรบ้าง เขาก็แจ้งว่า คางกับจมูกคะ ตาไม่ได้ทำ เราก็สงสัยเลยถามไปว่าเราขอแก้ไขตาด้วย ไม่ใช่เหรอ พนักงานแจ้งว่า คุณหมอยังไม่แก้ให้คะ เพราะทำจมูกจะมีการดึงตาออกอีก ต้องดูก่อน เราก็เลยเออ ออ ไป ก่อนจะทำเราได้บอกหมอว่าขอคางแบบธรรมชาติไม่แหลมไม่ยาวนะคะ
หลักจากทำเสร็จ หมอเอากระจกให้ดู มันยาวมากคะ ตกใจเลยถามหมอ ทำไมยาวจังคะไม่อยากได้ยาว แต่หมอก็ยิ้มแล้วพูดว่าที่ทำนานนี้เพราะงัดให้ยาวเลยนะ หมอบอกเ๋วมันก็ยุบอีกนิดหน่อยเราเลยโอเคและกรับยากลับบ้าน
หลังจากทำมา 2 อาทิตย์รู้สึกว่า หน้าแย่มาก เป็นแม่มดเลย จิตตก มีแต่คนถามตลอดทำไมคางเป็นก้อน ทำไมถึงเหมือนแม่มด เราก็เลยโทรไปที่คลินิคอีกที และได้ส่งรูปให้คนที่คลินิคดู ว่ามันดูแปลกมากคะ มันดูไม่ธรรมชาติเลย พนักงานเลยนัดเข้ามาที่คลินิคเพื่อให้หมอดู พอมาถึงคลินิค ได้พบหมอหมอบอกยังบวมแต่ถึงยุบก็ได้ทรงแบบนี้แหละ ไม่สั้นไปกว่านี้แล้ว และก็ให้กลับไปบ้านไปรอก่อน
ช่วงนั้นไม่อยากไปทำงานเลยคะ จิตตก แล้วเสียบุคลิคต้องเดินก้มหน้าตลอดเวลา ใครถามว่าอะะไรก็ไม่ตอบคะ อายมาก
หลังจากทำมา ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ เราก็เลยส่งเฟสไปหาพี่คนนึงที่คลินิคคะ ส่งรูปคางไปให้ดู พี่เขาบอกจะคุยกับหมอให้
และเราก็ได้นัดที่จะเข้าไปคลินิคอีกครั้ง เราแจ้งกับหมอว่าเรายืนยันอยากจะแก้ให้มันสั้นลงคะเพราะมันยาวไปและเป็นก้อนไม่เรียบเนียนไปกับหน้า แต่หมอบอกจะไม่แก้ไขให้ และก็บอกเราว่ามันไม่ได้ยาวไป ต้องรอ ให้เรากลับไปรออีก 2 เดือน ถ้าถึงตอนนั้น ยาวไปก็เอาออก หรือถ้าไม่สบายใจก็เอาออกไปเลยหมอจะเอาออกให้หลังจากนั้นเราก็เสียความรู้สึกดีๆกับคลินิคนี้ไปแล้วคะ ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เข้าไปหาไม่คุยอีกเลย
จนสุดท้ายเราต้องเสียเงินเพื่อไปแก้คางกลับอีกคลินิกนึง ซึ่งพอทำออกมาแล้ว มันดูดีขึ้น มั่นใจขึ้นเลยคะ ต่างจากเดิมมาก
---------------------------------------------------
จุดพีคมันอยู่ตรงนี้คะ
คือเรา เสียใจ จากคลินิคเก่า เนื่องจากเราไว้ใจ และรักคลินิคนี้มาก พอเขาผิดคำพูดกับเรา ที่บอกจะแก้ตาให้ และ บวกกับว่าคางมันออกมาไม่ดี ทำให้สภาพจิตใจเราแย่มากคะ เราเลยโมโห และโกรธมาก เราเลยได้ไปเขียนเว็บบอร์ดแชร์ประสบการณ์ ศัลยกรรม จากคลินิคนั้น ในเว็บศัลยกรรมแห่งนึ่ง เราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ และได้เอ๋ยชื่อเล่น และ ชื่อ ย่อขอคลินิกนี้ และด้วยความโกรธเราได้ใช้ถ้อยทำที่รุนแรงด่าทอ สาปแช่ง จนสุดท้ายมีคน เอาข่าวไปแจ้งกับทางคลินิค เขาติดต่อมาขอให้เราลบโพส ซึ่งตอนแรกเราไม่ยอม และเขาก็ติดต่อกลับมาอีก จะแก้ไขทุกอย่างให้เรา แต่เราต้องลบโพสให้เขา เราบอกเราไม่ขอแก้ไขอะไรแล้ว ทางคลินิคโทรมาเพื่อใช้ไม้อ่อนกับเรา แต่เราไม่ยอมคะเพราะช่วงนั้นเสียใจมากจิตตกมากโกรธมากเราเลยปฎิเสษไปคะ หลังจากนั้นไม่นานเาเริ่มโทรมาใช้ไม้แข็ง บอกว่าจะฟ้องข้อหาหมินประมาท เพราะเรามีการเอ๋ยชื่อย่อคลินิค และชื่อเล่นของบุคคนในคลินิคซึ่งถ้าใครอ่านและรู้จักคลินิคนี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าใคร และที่ไหน เขาโทรมาบอกว่าจะฟ้องอยู่หลายครั้งคะ จนเราเริ่มใจอ่อน และ บวกกับว่าสภาพจิตใจตอนนั้นดีขึ้นแล้ว และไม่อยากให้เรื่องราวให่โตไปกว่านี้ เราก็เลยคุยกับเขาว่าจะยอมปิดกระทู้ให้
แต่ครั้งนี้ทางคลินิคไม่ยอมแล้วคะ เขาเสียหายมาก เสื่อมเสียชื่อเสียง ให้เราโพสขอโทษก่อน เราจึงยอมทำตาม โพสขอโทษ และชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน และได้ทำการยกอำนาจให้ทางคลินิคเป็นคนดำเนินการปิดโพสเองได้เลยโดนแจ้งกับแอดมินเว็บ เรื่องมันก็น่าจะจบไปได้ด้วยดี แต่.......มันไม่จบคะ
เมื่อวานนี้ วันที่ 5 /9/2559 ได้มีหมายเรียกตัวไปสอบสวนคดี หมิ่นประมาท จากคลินิคดังกล่าว ลงวันที่หมายเรียกวันที่ 30 สิงหาคม 59
เรางงว่าเรื่องมันตั้ง 4 ปีแล้ว เขาต้องการอะไรจากเราอีก เขาต้องการอะไร เราเองก็ไม่ได้มีเงินไม่สู้คดีอะไรกับเขาหลอกถึงเขาจะฟ้องมาก็ไม่มีเงินจะไปจ่ายเขาหลอกคะ เราเองก็มีลูกเล็กด้วย ครอบครัวก็ไม่ได้ล่ำรวยอะไร เพราะหลังจากที่เราขอโทษออกสื่อไปแล้ว เราก็ไม่ได้ติดต่อหรือคุยกับคนในนั้นอีกเลยคะ
เราเลยอยากจะขอคำแนะนำและความเห็นจากชาวพันทิปคะ เพราะเราเองไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายเท่าไหร่นัก เราควรทำอย่างไรดี