+++How to เก็บเงินเที่ยวยังไงไม่กินแกลบ+++

สวัสดีฮะเพื่อนๆ นี่ก็ใกล้จะปลายปีแล้ว กำลังจะถึงเดือนธันวาคมที่เต็มไปด้วยวันหยุดยาว >< หลายๆ คนก็กำลังวางแผนจะไปเที่ยวช่วงเคานต์ดาวน์รับปีใหม่ หรืออาจจะมองการณ์ไกลถึงขนาดเปิดปฏิทินดูวันหยุดยาวของปีหน้าไว้แล้วใช่มั้ยล่ะ แต่ที่ขัดสนคือเรื่องงบประมาณนี่แหละ (ร้องไห้หนักมาก) บางคนอยากไปต่างประเทศแต่ทั้งค่าตั๋ว ค่าที่พัก ค่าอาหาร เต็มไปหมด หรือจะต้องทนกินมาม่าทุกวันเพื่อเก็บตังค์ไปเที่ยว? โอย แค่คิดก็มึนหัวซะแล้ว แต่ไม่ต้องเครียดมากจนเกินไป เรามี 5 วิธีเก็บเงินเที่ยวแบบไม่ต้องกินแกลบมาฝากกัน แค่อดทนและมีวินัยก็มีเงินไปเที่ยวได้สบายๆ แล้วนาจา



1. แบ่งสรรปันส่วนจากเงินเดือน
    ข้อแรกคือเก็บเงินจากเงินเดือนของเรานี่แหละ แยกเป็นสัดส่วนแบ่งออกจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ชัดเจน หรือเปิดบัญชีเก็บเงินเฉพาะเที่ยวไปเลยก็ได้ ประมาณการคร่าวๆ ไว้เลย เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินราคา 10,000 บาท เก็บเงินเดือนละ 3,000 บาท ใช้เวลา 4 เดือน ก็ได้เงิน 12,000 บาทเผื่อเหลือเผื่อขาดแล้ว แต่ถ้ามีโปรโมชั่นลดราคาตั๋วเครื่องบินในเส้นทางที่เราจะไปก็โชคดีสุดๆ จ่ายค่าตั๋วน้อยลง เอาเงินไปทำอย่างอื่นได้อีกต่างหาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนวณอย่างระมัดระวังไม่ให้กระทบกับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ของเราด้วยนะ

2. เก็บแยกเป็นส่วนๆ
    หลายๆ คนก็กำลังใช้วิธีนี้ใช่ป่ะ ทั้งการหยอดกระปุกแต่ละใบสำหรับที่เที่ยวแต่ละที่ โดยเขียนไว้ข้างกระปุกเลย ใบนี้ไปเชียงใหม่ ใบนี้ไปฮ่องกง ฯลฯ (เหมาะกับคนวางแผนไปหลายที่) ถ้าไปในประเทศก็หยอดน้อย ถ้าไปต่างประเทศก็หยอดมากหน่อย หรือการเก็บแบงค์หายาก เช่น แบงค์ห้าสิบที่สาวๆ หลายคนนิยม บางคนสตรองมากก็เก็บแบงค์ห้าร้อยไปเลย สิ้นปีทุบกระปุกออกมาดูก็ได้หลายพันอยู่นะ อย่างเพื่อน จขกท. นางเก็บแบงค์ห้าสิบอยู่เกือบปี ตอนนี้เอาออกมาซื้อตั๋วไปฮ่องกงสบายใจเฉิบเรียบร้อย

3. เก็บจากดอกเบี้ย เงินปันผล หุ้น
    สำหรับใครที่เล่นหุ้นหรือมีเงินปันผลที่เป็น Passive income (รวมถึงช่องทางอื่น เช่น ปล่อยคอนโดให้เช่า) ที่เป็นผลงอกเงยขึ้นมาก็สามารถนำเงินตรงนี้มาเป็นทุนไปเที่ยวได้นะ ถ้าเราไม่เร่งรีบหรือจำเป็นต้องเอาเงินไปใช้ทำอย่างอื่นซะก่อน ยิ่งใครมี Passive income เยอะยิ่งดีเลย เพราะแทบไม่ต้องรบกวนเงินรายรับจากช่องทางอื่น เรียกได้ว่า เงินต้นไม่หาย แถมได้ไปเที่ยวอีก สบายแท้ๆ แต่คนที่เงินฝากธนาคารยังไม่เยอะหรือเล่นหุ้นเล็กๆ น้อยๆ จำนวนเงินที่ได้จากช่องทางนี้อาจจะไม่มากเท่าไหร่ เอาไว้เป็นส่วนช่วยโปะเงินเก็บจากช่องทางอื่นๆ ละกันเนอะ

4. โบนัส
    ใกล้เข้าสู่ช่วงปลายปีแล้วก็หวังว่าเจ้านายที่เคารพจะให้โบนัสมาสักก้อน (หรือหลายๆ ก้อนก็ได้นะ อิอิ)  เอาเงินส่วนนี้มาเก็บไว้เที่ยวก็ช่วยลดการออมเงินจากช่องทางอื่นๆ ได้พอสมควรเลยทีเดียว หรือใครจะแบ่งเก็บไว้เที่ยวส่วนหนึ่งก็ได้ ที่เหลือเอาไปช้อปปิ้งช่วง SELL ปลายปีก็ไม่ว่ากัน แต่วิธีนี้ก็แนวๆ หวังน้ำบ่อหน้าไปนิด ไม่ควรหวังจะไปเที่ยวโดยรอเงินโบนัสเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดี โบนัสไม่ออกจะเงิบเอานะจ๊ะ

5. รายได้พิเศษ
    ถ้าใครมีเวลาว่างหลังเลิกงานหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ลองหารายได้พิเศษดู ไม่ว่าจะเป็นเปิดท้ายขายของ ขายของออนไลน์ รับจ็อบพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสอนหนังสือ เป็นพนักงานพาร์ทไทม์ ฯลฯ ส่วนตัว จขกท. ก็ใช้วิธีนี้ฮะ บางทีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เอาเงินที่ได้จากงานพิเศษนี่แหละไปใช้ แทบจะไม่รบกวนเงินจากงานประจำเลย ลองหาช่องทางเพิ่มรายได้ให้ตัวเองนอกเหนือไปจากงานประจำ ยอมเหนื่อยเพิ่มขึ้นแลกกับรายได้ที่มากขึ้น ก็สามารถแบ่งเงินส่วนนี้มาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของเราได้อีกทางหนึ่งนะฮะ

     สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะทำให้เรากินแกลบจริงๆ ไม่ใช่เพราะการเก็บเงินเลยครับ แต่เป็นวิธีการใช้เงินของเรามากกว่า บางคนเห็นโปรโมชั่นออกใหม่ก็รูดบัตรจ่าย ไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง หรือเวลาไปเที่ยวแล้วเงินสดไม่พอก็รูดบัตรออกไปก่อน เวลารูดบัตรก็ไม่รู้สึกอะไร แต่สุดท้ายก็มานั่งใช้หนี้ที่งอกออกมา พอจะวางแพลนทริปหน้า อ้าว! เงินหมด! หนี้มา! ทีนี้ล่ะกินแกลบของจริงแน่ ดังนั้นวิธีที่เอามาเล่าสู่กันฟังนี้เป็นช่องทางออมเงินแบบเน้นเก็บก่อน จ่ายทีหลัง ไม่ใช่จ่ายก่อนแล้วมานั่งเครียดทีหลังนะฮะ เชื่อเถอะว่าไม่มีหนี้ ชีวิตดี๊ดีแน่นอน วิธีเก็บเงินเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้นะฮะ ไม่ว่าจะเป็นเก็บเงินซื้อของ เก็บเงินดูคอนเสิร์ตเกาหลี เก็บเงินแต่งงาน ฯลฯ สายเที่ยวบ่อยๆ เก็บเงินด้วยวิธีไหนกันบ้าง หรือถ้าใครมีวิธีเก็บเงินเจ๋งๆ แบบอื่นก็เอามาแชร์กันได้นะฮับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่