คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เราว่าก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่า ต้องการอะไรจริงๆ ทำไมทำให้ต้องเป็นเอสเอ็ม?
เราคิดว่าถ้าอยากเป็นศิลปินจริงๆ ตอนนี้ก็พยายามฝึกฝน ตั้งใจเรียนไปด้วย ไม่ใช่แค่ด้านการแสดง ร้องเต้น แต่อาจจะเรียนภาษาด้วยตัวเองเพิ่ม และพยายามรับผิดชอบตัวเองในด้านอื่น เช่น การเรียน การทำกิจกรรมที่บ้าน ที่โรงเรียน เพื่อแสดงให้ผู้ปกครองเห็นว่าเราพยายามเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ว่าเราดูแลตัวเองได้ เวลายังอีกตั้ง 3 ปี คนเราโตขึ้นได้ อย่าคิดจะฝึกแต่เรื่องร้องเพล เต้น การแสดง แต่ลองอ่านหนังสือเยอะๆ ปรับพฤติกรรม ฝึกความคิด พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น
ทีนี้ถ้าอยากเป็นศิลปินมากๆ ต้องคิดว่าจำเป็นต้องเป็นเกาหลีรึเปล่า? เรามองว่าที่พยายามไปก็คงไม่เสียเปล่า เพราะถึงออร์ดิชั่นไม่ผ่าน พ่อแม่ไม่ให้ไปเกาหลีตอนนั้น ก็ยังมีหนทางอื่นๆอีก จะลองออร์ดิชั่นค่ายอื่น จะเข้าประกวด หรือหาหนงานเป็นศิลปินในไทย น้องอายุยังน้อย ตลาดศิลปินเกาหลียังเปลี่ยนไปได้อีกมาก ต่อไปอาจจะมีกลุ่มที่จัดตั้งในไทย หรือต่อไปตลาดเพลงเกาหลีในต่างประเทศอาจจะซาลง มีศิลปินชาติอื่นชึ้นมาแทนก็เป็นได้ ยังไงพื้นฐานที่กล่าวมาก็มีประโยชน์
แต่ถ้ายึดติดว่าต้องเอสเอ็มอย่างเดียว ก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วยว่า โอกาสจะได้เดบิวเป็นศิลปินจริงๆมันน้อยมากแค่ไหน แค่ออร์ดิชั่นผ่านได้ไปก็น้อยมากแล้ว
เราคิดว่าถ้าอยากเป็นศิลปินจริงๆ ตอนนี้ก็พยายามฝึกฝน ตั้งใจเรียนไปด้วย ไม่ใช่แค่ด้านการแสดง ร้องเต้น แต่อาจจะเรียนภาษาด้วยตัวเองเพิ่ม และพยายามรับผิดชอบตัวเองในด้านอื่น เช่น การเรียน การทำกิจกรรมที่บ้าน ที่โรงเรียน เพื่อแสดงให้ผู้ปกครองเห็นว่าเราพยายามเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ว่าเราดูแลตัวเองได้ เวลายังอีกตั้ง 3 ปี คนเราโตขึ้นได้ อย่าคิดจะฝึกแต่เรื่องร้องเพล เต้น การแสดง แต่ลองอ่านหนังสือเยอะๆ ปรับพฤติกรรม ฝึกความคิด พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น
ทีนี้ถ้าอยากเป็นศิลปินมากๆ ต้องคิดว่าจำเป็นต้องเป็นเกาหลีรึเปล่า? เรามองว่าที่พยายามไปก็คงไม่เสียเปล่า เพราะถึงออร์ดิชั่นไม่ผ่าน พ่อแม่ไม่ให้ไปเกาหลีตอนนั้น ก็ยังมีหนทางอื่นๆอีก จะลองออร์ดิชั่นค่ายอื่น จะเข้าประกวด หรือหาหนงานเป็นศิลปินในไทย น้องอายุยังน้อย ตลาดศิลปินเกาหลียังเปลี่ยนไปได้อีกมาก ต่อไปอาจจะมีกลุ่มที่จัดตั้งในไทย หรือต่อไปตลาดเพลงเกาหลีในต่างประเทศอาจจะซาลง มีศิลปินชาติอื่นชึ้นมาแทนก็เป็นได้ ยังไงพื้นฐานที่กล่าวมาก็มีประโยชน์
แต่ถ้ายึดติดว่าต้องเอสเอ็มอย่างเดียว ก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วยว่า โอกาสจะได้เดบิวเป็นศิลปินจริงๆมันน้อยมากแค่ไหน แค่ออร์ดิชั่นผ่านได้ไปก็น้อยมากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
หนูจะไปเกาหลีตอนอายุ15ไปตามหาความฝันพี่ๆคิดว่าผู้ปกครองจะให้ไปไหมค่ะ
(นี้คือขอมูลที่หามาได้ค่ะมันเป็นคำเเนะนำนะค่ะ)
ค่ายsm
-เป็นค่ายเดียวที่ฝึกหนักถึง18 ชม
-ควบคุม น้ำหนักอาหารให้เทรนนี่ ห้ามกินอะไรตามใจชอบ
-เซนต์ สันยา โคตรโหด 10-15ปี
-เป็นค่ายที่ รวยที่สุด และศิลปินได้เงินน้อย แต่ดังที่สุดในเอเชีย และยุโรป 50เปอร์เตม100
-คัดเทรนนี่ ออกทุกปี
-เป็นค่ายเดียว ที่เทรนนี่ไม่ต้อง ออกค่าอะไรเลย แต่อยู่อย่างขัดสน เสื้อผ้า ผลัดกันใส่ เคยมี
-หลายคนบอกsm งก ที่ไห้เงินศิลปินน้อย เป็นเพราะ ศิลปิน ต้องจ่ายค่า ที่บริษัท เสียค่าเทรน ค่าศัล(ใช้หนี้)
[สำหรับ Singer]
คนที่อยากจะเป็นนักร้องก็เช่นกัน เน้นที่เสียงร้องค่ะ
การออดิชั่น.. ร้องสดเสียงเพียวๆ เลย
*อันนี้สมาธิต้องมั่นมาก เวลาจะออดิชั่น ตัวคนเดียวเลยค่ะ หรือแล้วแต่บางบริษัทที่อาจจะเรียกไปทีละ 2 หรือ 5 คน
รอบทดสอบจริงๆ ก็คือ การทดสอบว่าอารมณ์และน้ำเสียงที่ออกมา สอดคล้องกับเนื้อเพลงหรือไม่ ส่งอารมณ์ผ่านน้ำเสียง รเช่น หากเลือกร้องเพลงเศร้า ก็ต้องร้องให้เค้ารู้ว่าเราเจ็บปวด เศร้า เป็นต้น
แล้วร้องออกมาเป็นเพลงให้เพราะค่ะ
อ่า...ยากจริงๆ นะคะ สำหรับ คนที่อยากเป็นนักร้อง (สำหรับเพลงที่เลือก ไม่ควรเป็นเพลงไทยนะคะ เลือกเป็นเพลงเกาหลี อังกฤษดีกว่าค่ะ)
เอาใจช่วยค่ะ...
*เหมือนเดิมนะคะ ความสามารถเป็นหลัก