[CR] ตาแว่น ZS พาเที่ยว>>>>ปางอุ๋ง-------อ่างขาง>>>>>>> ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา กับดอกไม้ประจำฤดูหนาวที่ใครๆก็ตามหา


                    การที่เราจะออกเดินทางไปเที่ยวสักครั้ง  หลายครั้ง  เราต้องวางแผนการเดินทาง  บางทีต้องวางแผนการเดินทางข้ามปี  คนนี้ว่างวันไหน   ใครติดอะไรบ้าง       เราก็จะต้องเคลียร์คิวกันยาวเลยกว่าจะรวมตัวกันได้สักครั้ง     จึงมีหลายๆคนเริ่มที่จะออกเดินทางไปคนเดียวมากขึ้น  ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ขอออกตัวก่อนว่านี้คือรีวิวเก่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานะครับ  ผมไม่มีเวลาเขียนรีวิว  กว่าเวลาจะเอื้ออำนวยก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว
                    การมาเที่ยวครั้งนี้ของผมก็เริ่มจากการไม่รู้จะไปไหน แต่ผมแค่อยากไปเที่ยว  ไปพักผ่อนในวันหยุดยาวของช่วงเทศกาลปีใหม่  ไม่อยากนอนอยู่ห้องเหมือนทุกๆปีที่เคยทำมา   แต่คงต้องไปภาคเหนือเพราะถ้าไปอีสานบ้านเกิดมันเป็นช่วงที่ถือว่าเลวร้ายมากในการขับรถ ผมเคยออกจากบ้านที่  มหาสารคาม เข้า กทม  ระยะทางแค่ 500 กว่ากิโลเมตรแต่ใช้เวลา 18 ชม. ผมเข็ดเลย กับการกลับบ้านช่วงเทศกาล  ผมเปิดรีวิวในพันทิพ แอบดูรีวิวจนผมได้ข้อสรุปกับตัวเองว่าผมจะไป  ป๋างอุ๋ง กับ อ่างขาง อีกครั้ง  เพราะไปครั้งก่อนเก็บภาพที่ปางอุ๋งยังไม่จุใจ  และที่เลือกอ่างข่าง   ก็เพราะช่วงปีใหม่จะมีรีวิวเก่าๆจากสมาชิกเยอะมากในการไปอ่างขางและก็จะเห็น  ดอกพญาเสือโคร่ง  บานเต็มไปหมด   ผมแค่อยากมีภาพถ่ายช่วงนั่นเก็บไว้มั้ง  เลยตั้งใจว่าจะลองไปดู และที่สำคัญผมไม่ต้องการจะรู้ว่าช่วงนั้นบานหรือยัง ผมเก็บไว้ลุ้นตอนเจอเลย
                    ผมเริ่มออกเดินทางจากกาญจนบุรีตั้งแต่ 5 ทุ่มของวันที่ 30 ธ.ค. 2558 มันเป็นวันทำงานสุดท้ายของปี ผมขับรถยาวมาถึงนครสวรรค์ประมาณตี 3   แวะทานโจ้ก ที่แถวเรือนจำ  ไม่รู้ชื่อร้านอะไรแต่เปิดดึกมาก หลังจากกินเสร็จหนังตาเริ่มหย่อนลงทุกทีๆ จนรู้สึกว่าถ้าเราขับต่อไปอีก  ผมคงต้องแวะทักทายเสาไฟฟ้าข้างทางแน่เลย  เลยจอดแวะพักสายตาตรงที่ปั้ม แต่เผลอหลับไป  ผมตื่นขึ้นมาตอน 7.00 น. ผมก็ขับรถต่อเพื่อไปจังหวัดตาก จังหวัดที่ผมมักขับผ่านแต่ไม่เคยแวะ  คราวนี้ไม่รีบขอแวะก่อนละกัน จังหวัดตากมีสะพานที่สวยมากเป็นสะพานแขวนสีเหลือง  มองดูไกลๆเหมือนสะพานโกเดนเกท ของอเมริกา  แต่ต่างกันตรงเป็นสะพานเล็กๆเอาไว้ให้คนเดินไปมาหากัน 2 ฝั่งแม่น้ำปิง บรรยากาศเงียบสงบของที่นี้

                  หลังจากเดินเล่นได้สักพัก ก็ได้เวลาออกเดินทาง ผมใช้เส้นจากตาก ไปเถิน  หลังจากนั้นผมเลี้ยวรถเพื่อมุ่งสู่อำเภอลี้  อำเภอดอยเต่า  อำเภอฮอด  แวะพักที่สวนสนบ่อแก้วที่ผมชอบและอยากมาที่สุดตอนขึ้นเหนือครั้งแรก  แต่บรรยากาศของสวนสนวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย    ที่หลั่งไหลกันมาสวนสนเต็มไปหมด  ผมแวะที่สวนสนประมาณ ครึ่ง ชม.ขับรถต่อมาทางอำเภอ  แม่สเรียง  แม่ลาน้อย  ขุนยวม  


                บรรยากาศ 2 ข้างทางมันเป็นบรรยากาศเดิมๆที่ผมชอบ 2 ข้างทางที่มีแต่ต้นไม้เต็ม 2 ข้างทาง ปิดแอร์เปิดกระจก สูดอากาศ ขับไปเรื่อยๆจนถึงจุดชมวิว ผาบอง ซึ่งตรงนี้แตกต่างกับสวนสนมากมีนักท่องเที่ยวบางตามาก  




                 ที่ผาบองก็สวยดีเหมือนกันนะ  ผมมาทีไรขับผ่านทุกที ทริปนี้  เรียกได้ว่าตรงไหน  มุมไหนชอบขับผ่านขอแวะละกัน     เป็นทริปเก็บตกรายละเอียด อากาศตอนนั้นประมาณ 6 โมงเย็นรู้สึกอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ คงต้องออกเดินทางเข้าตัวเมืองสักที  พอถึงตัวเมืองก็ตระเวนหาที่พัก แต่ด้วยความที่ไม่ได้มีการจองที่พักไว้ล่วงหน้าทำให้ผมไม่มีที่พัก  และผมก็มี 2 ทางเลือกคือนอนในรถ  หรือจะนอนในเต็นท์ที่อุตส่าห์ไปซื้อก่อนออกเดินทาง แต่สรุปผมก็เลือกที่จะนอนในรถ เพราะในตัวเมืองไม่เห็นมีใคร  มากางเต็นท์กันเลย ไม่เหมือนตอนที่ผมไปเที่ยวจังหวัดน่าน  วันนั้นก็ช่วงปีใหม่แบบนี้   แต่มีที่กลางเต็นให้นักท่องเที่ยวที่หาที่พักไม่ทันให้  แต่ไม่เป็นไรครับ  

                 วันนั้นทางจังหวัดได้มีการจัดกิจกรรมวันปีใหม่  ในงานมีการแสดงหลายชนเผ่าในเมืองแม่ฮ่องสอน   มีการออกร้านต่างๆบรรยากาศครึกคึนที่เดียว  และที่จะขาดไม่ได้คือของกินภายในงาน  ซึ่งบางอย่างผมก็ไม่เคยกิน ก็ได้มาลองกินที่นี้


ผมเลือกลองชิมข้าวปุกงา รสชาติคล้ายๆขนมเปียกปูนแต่เหนียวแน่นกว่า  เวลากินจะราดน้ำอ้อยข้นๆมาให้  พอดีตอนนั้นลืมถ่ายภาพ  งานวันนั้นคนคึกคักพอสมควร แต่ก็ไม่มากถึงขนาดว่าแออัด


เดินไปเรื่อยก็เริ่มง่วงขอไปนอนก่อนละกัน ถึงแม้จะเป็นการหลับข้ามปีแบบเดิมๆแต่อย่างน้อยตอนนี้เราอยู่ที่แม่ฮ่องสอนละ  ไม่ใช่ที่ กทม.แบบทุกปีที่ผ่านม
                    ผมตื่นเช้ามาในวันปีใหม่   1/1/59 การเริ่มเช้าปีใหม่ของผมไม่มีอะไรมากหยิบแปรงสีฟันมาแปรงฟัน  ล้างหน้าล้างตา แล้วก็ขับรถไปปางอุ๋ง  ผมออกจากตัวแม่ฮ่องสอนราวตี 5 บอกได้คำเดียวว่าหนาวมาก  แถมหมอกปกคลุมถนนเต็มไปหมด ขับรถผ่านถนนเส้นที่คุ้นเคย  และเริ่มชินก็โค้ง ล ขึ้นเรื่อย (ผมตั้งชื่อโค้งหักศอกแถวนี้ว่า โค้ง ล ) จนมาปากทางเข้าหน้าหมู่บ้าน  ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาล ชาวบ้านเลยให้เอารถจอดไว้ตรง รร แล้วให้ขึ้นรถชาวบ้านขึ้นไปบนปางอุ๋ง  ถือเป็นการกระจายรายได้ครับพอเข้าใจ ราคา 50 บาท/คน  พอมาถึงปางอุ๋ง   บรรยากาศยามเช้าที่อุตส่าขับรถมาเกือบ 1000 กิโลเมตร  ดีใจครับ ที่มันสวยทีเดียวถึงแม้จะไม่เจอกับไอหมอกแบบเยอะมากๆก็ตามที แต่มันก็ทำให้ผมหายเหนื่อยจากการเดิน




วันนี้บรรยากาศปางอุ๋งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว   ช่วงปีใหม่ใครๆก็อยากพักผ่อน  อยากมาหาสถานที่สวยๆที่เคยเห็นแค่ในภาพ  ได้มีโอกาสมาเห็นบรรยากาศของจริงสักครั้ง  ได้พาคนที่เรารักมาพักผ่อน   ได้มีเวลาช่วงความสุขร่วมกัน  เก็บความทรงจำไว้ในรูปถ่ายสักใบ  เพื่อให้นึกถึงความสุขที่มีร่วมกัน



ผมเดินเที่ยวชมบรรยากาศ รอบๆปางอุ๋ง  แต่ปีนี้เสียดายว่าจะนั่งเรือไม้ไผ่แต่ก็ไม่ได้นั่ง  เพราะเรือเต็มหมดแล้ว  เลยคิดว่าจะไม่รอเพราะมีคิวยาวพอสมควร   ได้แต่เดินเก็บภาพต่างๆ                                                                                                  





แสงอ่อนๆเริ่มเพิ่มความอบอุ่นให้กับอากาศหนาว  ค่อยๆอุ่นขึ้นๆ ตามเวลาที่ผ่านไปทีละน้อยๆ  


                ผมออกจากปางอุ๋งประมาณ 8.30 น.เริ่มที่จะง่วงเพราะตื่นเช้ามากขับรถต่อไปคงไม่ดีแน่    เลยกำลังมองหาร้านกาแฟที่บรรยากาศดีนั่งพัก ตอนแรกขับรถไปที่  ลีไวน์รักไทย แต่คนเยอะมาก  เลยต้องวนรถกลับแล้วก็มาเจอกับร้านกาแฟแห่งนี้ซึ่งปีที่แล้วก็เคยผ่านแต่ลืมไปเลย  ปีนี้ขอแวะหน่อยละกัน  


เป็นร้านกาแฟที่บรรยกาศดีมากครับ  ต้นไม้เยอะเหมือนอยู่ในสวนจริงๆ


นั่งในร้านนี้เพลินเลยครับ  ผมสั่งกาแฟม็อคค่าเย็นหวานน้อย  นั่งไปก็เอารูปที่ถ่ายในทริปนี่ที่ผ่าน นั่งอยู่ที่เกือบ ชั่วโมงเศษ  ก็ไดเวลาออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ดอยอ่างขาง  ระยะทางจากแม่ฮ่องสอนมาอ่างขาง ช่วงนั้นกำลังสร้างทางจาก เชียงใหม่-ปาย บางช่วงทางก็ดีมากบางช่วงก็ฝุ่นตลบ  ขับมาถึงไชยปรากาณประมาณ 1 ทุ่มคง  ผมไม่ได้พักบนดอยอ่างขางครับผมเลือกที่จะหาที่พักด้านล่างแทน คืนนั้นผมภาวนาว่าขอให้เจอดอกพญาเสือโครงบานเต็มสถานีเกษตร
  ผมตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5 เพื่อให้ทันแสงแรกบนดอยอ่างขาง    พอไปถึงก็เจอแล้วครับดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูหนาว พญาเสือโคร่งที่ตามหา


การมาทริปนี้ก็เพื่อสิ่งนี้มันยิ่งกว่าดีใจครับ  ผมขึ้นเหนือทีไรเจอบานน้อยมากในหลายๆที่ที่ไป ครั้งนี้ปลื้มมากครับ




มาที่อ่างขาง 3 ครั้งในรอบ  3 ปีเป็นที่เดียวที่ผมตั้งใจแวะทุกปี  เพราะมีเรื่องราวความทรงจำดีๆหลายอย่างกับสถานที่แห่งนี้   มันเป็นเหมือนที่เติมเต็มการมาเที่ยวพักผ่อน  มันเป็นเหมือนแรบันดาลใจในการออกเดินทาง


มาอ่างขางผมไม่ลืมที่จะแวะไปไร่สตรอเบอรี่ แต่วันที่ไปทางไร่สตรอเบอรี่แจ้งว่าไม่ขายให้นักท่องเที่ยวแอบเสียดายมาที่นี้ทีไรกินจนพุงกางทุกที  ผมเลยต้องไปซื้อที่มีขายตามข้างทางที่ผ่านมาแทน  แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เดินเล่นออกกำลังกายถ่ายรูปมุมโน้นมุมนี้   ข้างทางที่มีสีชมพูสลับกับสีเขียวแลดูสวยมากครับ



หลังจากถ่ายภาพอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาเดินทางกลับ  เสียดายสำหรับเวลาวันหยุดที่แสนสั้น ทริปนี้จบลงแล้วแต่ภาพความประทับใจยังคงอยู่  มันยังอยู่ในความรู้สึกและความทรงจำของเราเสมอ ทริปหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามานี้ผมจะไปที่ไหนอย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ  ลาไปด้วย 2 สุดท้ายนี้นะครับ

ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวทั่วไป ประเทศไทยของเรา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่