คอนโดมิเนียม VS บ้านเดี่ยวหรืออสังหาฯแนวราบ (ผู้สูงอายุเป็นผู้อยู่อาศัย)
บทความนี้ ผมจะเปรียบเทียบ ระหว่าง คอนโดมิเนียม กับ บ้านเดี่ยว หรือ อสังหาฯแนวราบ โดยจะเปรียบเทียบในรูปแบบของเรื่องต่างๆ ในมุมมองของผมครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ
1.เรื่องของการอยู่อาศัย
คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะมีสเตป หรือการขึ้นบันได เวลาใช้สอยค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เข้ามาโครงการก็จะขึ้นลิฟท์แล้วก็เข้าห้องได้เลย เพราะฉะนั้นคอนโดมิเนียมจึงมีข้อดีคือ โอกาสที่ผู้สูงอายุจะสะดุด หรือ หกล้ม จะมีโอกาสน้อยกว่าบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่บริเวณที่อยู่อาศัยมากกว่า1ชั้น ต้องมีการขึ้นลงบันไดระหว่างชั้น รวมถึงในตัวบ้านอาจจะมีสเตปขึ้นลงตามรูปแบบของบ้าน เป็นต้น
2.เรื่องของการเดินทาง
หากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ในเมือง ก็จะตัดปัญหาเรื่องการเดินทางไปได้ เพราะในเมืองจะไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก แต่จะลำบากหน่อยตรงที่หากเป็นหมู่บ้าน เรื่องของการเรียกรถจะค่อนข้างยาก หรือหากให้รปภ.หน้าโครงการเรียกให้ได้แต่ถ้าในชั่วโมงเร่งด่วนก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรอพอสมควร รวมไปถึงถ้าเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ชานเมือง เป็นปัญหาแน่นอนในการจะเดินทางไปไหนมาไหน เรียกรถไม่สะดวกแน่นอน แต่ถ้ามีรถส่วนตัวก็ลดปัญหาไปได้ ส่วนถ้าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะอยู่แนวรถไฟฟ้า หรือไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามาก หรืออยู่ติดถนนใหญ่ไม่ก็เข้าซอยไม่มาก เพราะฉะนั้นการเดินทางโดยใช้รถโดยสารสาธารณะ รถแท๊กซี่ก็จะมีความสะดวกมาก จะไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก
3.เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก
คอนโดมิเนียมบางโครงการก็จะมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใต้โครงการ หรือบางที่ก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆอยู่ใต้โครงการ ที่มีทั้งร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในมุมมองของผมโครงการแบบนี้เหมาะกับผู้สูงอายุมากๆ เพราะจะหาอะไรทานสะดวก และ ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวก็ควรจะเลือกบ้านทีไม่ไกลจากร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ตลาด ที่สามารถเดินไปถึงได้ หรือนั่งรถไปไม่ไกล เพราะเรื่องของร้านสะดวกซื้อ สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้อยู่อาศัยก็มีความสำคัญค่อนข้างมาก
4.เรื่องของความสูง
แน่นอนว่าผู้สูงอายุบางคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากอยู่คอนโดมิเนียมเพราะสูง บ้านเดี่ยวจึงจะมีข้อได้เปรียบมากกว่าเนื่องจากบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ก็1-3ชั้น เพราะผู้สูงอายุบางคนจะมีเรื่องของการกลัวความสูง หากไปอยู่คอนโดมิเนียมชั้นสูงๆ ก็อาจจะกลัวไม่กล้าออกมาตรงระเบียง หรือมองลงมาได้ หรือแค่บอกว่าชั้นสูงผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็จะบอกไม่เอาไม่ซื้อ แต่ก็ยังมีคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่จะมาตอบโจทย์ตรงนี้ได้บ้าง หรือบางคอนโดก็มีเริ่มทำเป็นที่อยู่อาศัยกันตั้งแต่ชั้น1 ก็สามารถเลือกห้องเหล่านี้ให้กับผู้สูวอายุที่กลัวความสูงแทนได้
5.เรื่องของความปลอดภัย
คอนโดมิเนียมที่มีการรักษาความปลอดภัยดี มีระบบคีย์การ์ดเข้าออก คีย์การ์ดล๊อคชั้น กล้องวงจรปิด รวมถึงรปภ. ที่เข้มงวดก็จะมีความปลอดภัยมากกว่า บ้านเดี่ยว ถึงแม้ถ้าเราพูดถึงความเข้มงวดในระดับใกล้เคียงกัน แต่บ้านเดี่ยวจะดูแลลำบากกว่าเพราะพื้นที่เปิดมากกว่าคอนโดมิเนียม และถ้าผู้สูงอายุที่อยู่บ้านท่านเดียวเรื่องความปลอดภัยแบบนี้ผมมาลองว่าคอนโดมิเนียมได้เปรียบมากกว่า แต่ถ้ามองในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย หรือ ไฟฟ้าดับ คอนโดมิเนียมที่จะหนีลงมาค่อนข้างลำบาก ต้องใช้บันไดหนีไฟ ขึ้นลงลำบาก ก็จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าบ้านเดี่ยว
6.เรื่องของการดูแลรักษา
เนื่องจากคอนโดมิเนียมจะมีทั้งพื้นที่ในส่วนของห้อง และ พื้นที่ส่วนกลาง ส่วนบ้านเดี่ยวก็จะมีพื้นที่ของบ้าน และอาจจะมีพื้นที่ส่วนกลาง โดยพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการดูแลของทางนิติบุคคลของทางโครงการที่จะคอย ทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถู ตัดต้นไม้ ใบหญ้า ส่วนพื้นที่ๆจะต้องดูแลเองของผู้อยู่อาศัย ก็จะเป็นส่วนของตัวห้อง หรือ ตัวบ้าน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คอนโดมิเนียมจะมีข้อได้เปรียบมากกว่า เนื่องจากพื้นที่ที่ให้ดูแลนั้นมีไม่มากเหมือนกับบ้านเดี่ยว ที่จะมีทั้งบริเวณภายในบ้าน รวมถึงบริเวณนอกบ้านถึงรั่วบ้าน บริเวณสวนหน้าบ้าน เป็นต้น จึงทำให้การดูแลรักษานั้นลำบากกว่า แต่ก็อาจจะจ้างแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดก็เป็นการอำนวยความสะดวกไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่าย
7.เรื่องของความร่มรื่น ความปลอดโปร่ง
ในเรื่องของความร่มรื่นในบ้านเดี่ยวจะมีค่อนข้างมาก เพราะมีพื้นที่โดยรอบบ้านที่สามารถปลูกต้นไม้ ทำสนามหญ้า สวนเล็กๆได้ รวมถึงเรื่องของอากาศก็จะถ่ายเทได้สะดวก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เป็นบริเวณเปิด ส่วนคอนโดมิเนียม การระบายอากาศนั้นจะไม่ค่อยดี จะได้แค่บางทิศบางมุมที่มีลมเข้า รวมถึงเราจะต้องเปิดประตูหน้าห้องช่วย เพื่อที่จะให้ลมโกรก ซึ่งการจะเปิดประตูไว้ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปกติวิสัยของผู้เช่า แต่ก็จะแลกมาด้วยวิวทิวทัศน์ที่ดีกว่าบ้านเดี่ยว หากเป็นคอนโดสูงก็จะมีวิวเมือง วิวแม่น้ำ แสงสีตอนค่ำคืน
8.เรื่องของสังคมผู้อยู่อาศัย
คอนโดมิเนียมจะมีพื้นที่ส่วนกลาง สวน ที่คอยให้ผู้สูงอายุได้มานั่งพักผ่อน พูดคุยกันกับผู้อยู่อาศัยท่านอื่นในตึก ก็เป็นสังคมเล็กๆอีกรูปแบบนึง เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวถ้าบางโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางก็จะทำให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะกัน ได้พบเจอเพื่อนบ้าน ก็จะได้ทำให้ไม่เหงา ไม่เครียด แต่บางโครงการถ้าไม่มีพื้นที่ส่วนกลางก็จะทำให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในที่อยู่อาศัยเกือบตลอดทั้งวัน ไม่มีที่ผ่อนคลาย ไม่ได้พบปะผู้คนอาจจะทำให้เหงา และอาจเกิดความเครียดได้
จากที่ได้อ่านมา ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านที่กำลังจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมให้กับผู้สูงอายุบ้างนะครับ โดยอาจจะดูไปเป็นหัวข้อ ว่าตอบโจทย์กับตัวผู้อยู่อาศัยหรือไม่ครับ
ผมอยากให้ผู้ซื้อทุกท่านซื้ออสังหาริมทรัพย์ และ อยู่อาศัย ตรงกับความต้องการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของตัวเอง จะได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขครับ
หากท่านผู้อ่านมีอะไรแนะนำสามารถคอมเม้นต์ เสนอแนะ ติชมได้เลยนะครับ
FB: คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่
#คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่
คอนโดมิเนียม VS บ้านเดี่ยวหรืออสังหาฯแนวราบ (ผู้สูงอายุเป็นผู้อยู่อาศัย)
บทความนี้ ผมจะเปรียบเทียบ ระหว่าง คอนโดมิเนียม กับ บ้านเดี่ยว หรือ อสังหาฯแนวราบ โดยจะเปรียบเทียบในรูปแบบของเรื่องต่างๆ ในมุมมองของผมครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ
1.เรื่องของการอยู่อาศัย
คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะมีสเตป หรือการขึ้นบันได เวลาใช้สอยค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เข้ามาโครงการก็จะขึ้นลิฟท์แล้วก็เข้าห้องได้เลย เพราะฉะนั้นคอนโดมิเนียมจึงมีข้อดีคือ โอกาสที่ผู้สูงอายุจะสะดุด หรือ หกล้ม จะมีโอกาสน้อยกว่าบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่บริเวณที่อยู่อาศัยมากกว่า1ชั้น ต้องมีการขึ้นลงบันไดระหว่างชั้น รวมถึงในตัวบ้านอาจจะมีสเตปขึ้นลงตามรูปแบบของบ้าน เป็นต้น
2.เรื่องของการเดินทาง
หากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ในเมือง ก็จะตัดปัญหาเรื่องการเดินทางไปได้ เพราะในเมืองจะไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก แต่จะลำบากหน่อยตรงที่หากเป็นหมู่บ้าน เรื่องของการเรียกรถจะค่อนข้างยาก หรือหากให้รปภ.หน้าโครงการเรียกให้ได้แต่ถ้าในชั่วโมงเร่งด่วนก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรอพอสมควร รวมไปถึงถ้าเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ชานเมือง เป็นปัญหาแน่นอนในการจะเดินทางไปไหนมาไหน เรียกรถไม่สะดวกแน่นอน แต่ถ้ามีรถส่วนตัวก็ลดปัญหาไปได้ ส่วนถ้าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จะอยู่แนวรถไฟฟ้า หรือไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามาก หรืออยู่ติดถนนใหญ่ไม่ก็เข้าซอยไม่มาก เพราะฉะนั้นการเดินทางโดยใช้รถโดยสารสาธารณะ รถแท๊กซี่ก็จะมีความสะดวกมาก จะไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก
3.เรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก
คอนโดมิเนียมบางโครงการก็จะมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใต้โครงการ หรือบางที่ก็จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆอยู่ใต้โครงการ ที่มีทั้งร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในมุมมองของผมโครงการแบบนี้เหมาะกับผู้สูงอายุมากๆ เพราะจะหาอะไรทานสะดวก และ ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวก็ควรจะเลือกบ้านทีไม่ไกลจากร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ตลาด ที่สามารถเดินไปถึงได้ หรือนั่งรถไปไม่ไกล เพราะเรื่องของร้านสะดวกซื้อ สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้อยู่อาศัยก็มีความสำคัญค่อนข้างมาก
4.เรื่องของความสูง
แน่นอนว่าผู้สูงอายุบางคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากอยู่คอนโดมิเนียมเพราะสูง บ้านเดี่ยวจึงจะมีข้อได้เปรียบมากกว่าเนื่องจากบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ก็1-3ชั้น เพราะผู้สูงอายุบางคนจะมีเรื่องของการกลัวความสูง หากไปอยู่คอนโดมิเนียมชั้นสูงๆ ก็อาจจะกลัวไม่กล้าออกมาตรงระเบียง หรือมองลงมาได้ หรือแค่บอกว่าชั้นสูงผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็จะบอกไม่เอาไม่ซื้อ แต่ก็ยังมีคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่จะมาตอบโจทย์ตรงนี้ได้บ้าง หรือบางคอนโดก็มีเริ่มทำเป็นที่อยู่อาศัยกันตั้งแต่ชั้น1 ก็สามารถเลือกห้องเหล่านี้ให้กับผู้สูวอายุที่กลัวความสูงแทนได้
5.เรื่องของความปลอดภัย
คอนโดมิเนียมที่มีการรักษาความปลอดภัยดี มีระบบคีย์การ์ดเข้าออก คีย์การ์ดล๊อคชั้น กล้องวงจรปิด รวมถึงรปภ. ที่เข้มงวดก็จะมีความปลอดภัยมากกว่า บ้านเดี่ยว ถึงแม้ถ้าเราพูดถึงความเข้มงวดในระดับใกล้เคียงกัน แต่บ้านเดี่ยวจะดูแลลำบากกว่าเพราะพื้นที่เปิดมากกว่าคอนโดมิเนียม และถ้าผู้สูงอายุที่อยู่บ้านท่านเดียวเรื่องความปลอดภัยแบบนี้ผมมาลองว่าคอนโดมิเนียมได้เปรียบมากกว่า แต่ถ้ามองในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย หรือ ไฟฟ้าดับ คอนโดมิเนียมที่จะหนีลงมาค่อนข้างลำบาก ต้องใช้บันไดหนีไฟ ขึ้นลงลำบาก ก็จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าบ้านเดี่ยว
6.เรื่องของการดูแลรักษา
เนื่องจากคอนโดมิเนียมจะมีทั้งพื้นที่ในส่วนของห้อง และ พื้นที่ส่วนกลาง ส่วนบ้านเดี่ยวก็จะมีพื้นที่ของบ้าน และอาจจะมีพื้นที่ส่วนกลาง โดยพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการดูแลของทางนิติบุคคลของทางโครงการที่จะคอย ทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถู ตัดต้นไม้ ใบหญ้า ส่วนพื้นที่ๆจะต้องดูแลเองของผู้อยู่อาศัย ก็จะเป็นส่วนของตัวห้อง หรือ ตัวบ้าน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว คอนโดมิเนียมจะมีข้อได้เปรียบมากกว่า เนื่องจากพื้นที่ที่ให้ดูแลนั้นมีไม่มากเหมือนกับบ้านเดี่ยว ที่จะมีทั้งบริเวณภายในบ้าน รวมถึงบริเวณนอกบ้านถึงรั่วบ้าน บริเวณสวนหน้าบ้าน เป็นต้น จึงทำให้การดูแลรักษานั้นลำบากกว่า แต่ก็อาจจะจ้างแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดก็เป็นการอำนวยความสะดวกไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่าย
7.เรื่องของความร่มรื่น ความปลอดโปร่ง
ในเรื่องของความร่มรื่นในบ้านเดี่ยวจะมีค่อนข้างมาก เพราะมีพื้นที่โดยรอบบ้านที่สามารถปลูกต้นไม้ ทำสนามหญ้า สวนเล็กๆได้ รวมถึงเรื่องของอากาศก็จะถ่ายเทได้สะดวก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เป็นบริเวณเปิด ส่วนคอนโดมิเนียม การระบายอากาศนั้นจะไม่ค่อยดี จะได้แค่บางทิศบางมุมที่มีลมเข้า รวมถึงเราจะต้องเปิดประตูหน้าห้องช่วย เพื่อที่จะให้ลมโกรก ซึ่งการจะเปิดประตูไว้ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปกติวิสัยของผู้เช่า แต่ก็จะแลกมาด้วยวิวทิวทัศน์ที่ดีกว่าบ้านเดี่ยว หากเป็นคอนโดสูงก็จะมีวิวเมือง วิวแม่น้ำ แสงสีตอนค่ำคืน
8.เรื่องของสังคมผู้อยู่อาศัย
คอนโดมิเนียมจะมีพื้นที่ส่วนกลาง สวน ที่คอยให้ผู้สูงอายุได้มานั่งพักผ่อน พูดคุยกันกับผู้อยู่อาศัยท่านอื่นในตึก ก็เป็นสังคมเล็กๆอีกรูปแบบนึง เช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวถ้าบางโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางก็จะทำให้ผู้สูงอายุได้มีการพบปะกัน ได้พบเจอเพื่อนบ้าน ก็จะได้ทำให้ไม่เหงา ไม่เครียด แต่บางโครงการถ้าไม่มีพื้นที่ส่วนกลางก็จะทำให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในที่อยู่อาศัยเกือบตลอดทั้งวัน ไม่มีที่ผ่อนคลาย ไม่ได้พบปะผู้คนอาจจะทำให้เหงา และอาจเกิดความเครียดได้
จากที่ได้อ่านมา ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านที่กำลังจะเลือกซื้อคอนโดมิเนียมให้กับผู้สูงอายุบ้างนะครับ โดยอาจจะดูไปเป็นหัวข้อ ว่าตอบโจทย์กับตัวผู้อยู่อาศัยหรือไม่ครับ
ผมอยากให้ผู้ซื้อทุกท่านซื้ออสังหาริมทรัพย์ และ อยู่อาศัย ตรงกับความต้องการ เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของตัวเอง จะได้อยู่อาศัยอย่างมีความสุขครับ
หากท่านผู้อ่านมีอะไรแนะนำสามารถคอมเม้นต์ เสนอแนะ ติชมได้เลยนะครับ
FB: คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่
#คอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่