เงินเดือนใช้ไม่พอ แต่ก็ไม่สะดวกจะไปทำงานเสริม แล้วจะทำไงดี

เราพยายามใช้เงินอย่างประหยัด แต่เราอยู่ กทม. คนเดียว ต้องเช่าหอพัก แต่ละเดือนเราได้เงินเดือนและมีค่าใช้จ่ายประมาณนี้
- เงินเดือนหักประกันสังคมแล้ว 13,300- >> ถ้าทำงานเกินเวลาก็ไม่มีค่าโอทีให้
- หักค่าเช่าหอพัก 3,400- >> หอนี้พ่อเป็นคนมาช่วยเลือกให้เอง เป็นหอใหม่ด้วย วิวดี และเป็นห้องไม่มีแอร์ แต่เรากำลังคิดจะย้ายไปอยู่หอที่เก่ากว่า แต่ราคาถูกกว่า แต่มันก็ถูกกว่าแค่ไม่กี่ร้อยเอง และก็ไม่ใช่ว่าจะย้ายได้ง่ายๆ เพราะมันก็มีสัญญาการเช่า มีเงินประกันว่าต้องอยู่ครึ่งปีจึงจะได้เงินคืน เรามีญาติห่างๆอยู่ที่ กทม.ด้วย แต่เราก็ไม่สะดวกจะไปพักที่บ้านเขา (เราชอบอยู่คนเดียว)
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ประมาณ 400- >> ตอนกลางวันเราไม่ได้เปิดไฟในห้อง แต่จะเปิดคอม ถ้าเป็นวันหยุดก็เปิดคอมทั้งวัน ถ้าเป็นวันธรรมดาก็เปิดคอมประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- หักค่าเดินทางไปทำงาน 1,230- >> เราสะดวกเดินทางด้วย BTS ที่สุด(ซื้อบัตรโดยสารแบบเหมาเที่ยว) เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว และแถวนั้นก็ไม่มีรถเมล์ ถึงมีก็คงไม่นั่ง เพราะบนถนนรถติด กลัวไปทำงานสาย
- หักเงินส่งให้ที่บ้าน 2,000-
- หักเงินที่นำฝากธนาคาร 2,800- >> เงินส่วนนี้จะฝากไว้โดยไม่ถอนออกมาใช้ แต่ถ้าเดือนไหนถอนมาใช้ เดือนต่อไปต้องฝากเงินชดเชยส่วนนี้เข้าไปด้วย
- หักค่าอาหาร 3,100 >> พยายามประหยัดแล้ว แต่อาหารแถวนี้มันไม่ได้ราคาถูกๆ บ่อยครั้งที่เราต้องกินมาม่าหรือโจ๊กสำเร็จรูปแทนข้าว แต่กินบ่อยๆก็ทำให้สุขภาพเสียใช่ไหมล่ะ

พอหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะเห็นได้ว่าเราเหลือเงินติดตัวอยู่แค่นิดหน่อยเท่านั้น หรือแทบไม่เหลือเลย และนี่ยังไม่ได้นับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ค่าไปเที่ยว ค่าของใช้เบ็ดเตล็ด ค่ายารักษาโรค และตอนนี้เราเรียน ป.ตรีใบที่ 2 ของ มสธ.ด้วย บางเดือนต้องเสียค่าลงทะเบียนเรียนและค่าหนังสือด้วย

ใจนึงเราอยากหางานพิเศษทำเพิ่ม เพราะเราหยุดงานวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ก็รู้สึกไม่สะดวก ไม่รู้จะมีงานอะไรให้เราทำได้บ้าง ตอนนี้เราก็มีเว็บขายของออนไลน์ของตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่ค่อยได้ขายหรอก เพราะไม่ค่อยมีคนซื้อ และกำไรก็น้อยด้วย เราจึงไม่นับว่ามันเป็นรายได้เสริม(เริ่มขายตอนที่ยังตกงานอยู่ ขายเพราะอยากขาย ไม่ใช่ว่าเรามีหัวการค้า) ยิ่งตอนนี้เรายังอยู่ในช่วงทดลองงานประจำด้วย ยังไม่ผ่านโปร งานก็ยาก พอเลิกงานแล้วก็ยังต้องเอางานกลับไปทบทวนที่หอด้วย

และเราก็ต้องอ่านหนังสือเรียนด้วย เพราะเราเลือกเรียน ป.ตรีใบที่ 2 ในสาขาที่มันยากสำหรับเรา(บัญชี) และหนังสือของ มสธ.ก็หนา และมีหลายเล่ม เราลงเรียน 3 วิชาก็ต้องอ่านหนังสืออย่างน้อย 6 เล่ม มันเหนื่อย เราไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเร็ว ยอมรับเลยว่าอ่านไม่ค่อยทัน ถึงจะมีเวลา 4-5 เดือนก่อนสอบ ก็อ่านไม่ทันอยู่ดี ถ้าเป็นวันธรรมดาเราแทบไม่ได้อ่าน เพราะเหนื่อยจากงานประจำแล้ว

เหมือนเราจะบริหารเวลาไม่ค่อยได้ เราอยากมีเงินเพิ่ม แต่ตอนนี้เราทำได้แค่ฝากเงินเข้าธนาคารเพื่อเอาดอกเบี้ยอันน้อยนิดเท่านั้น เราเล่นหุ้นก็ไม่เป็น จะทำอาหารขายก็ทำไม่เป็น ที่หอไม่มีอุปกรณ์ทำครัวเลยสักชิ้น ใครมีคำแนะนำดีๆบ้างคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อ่านข้อมูลการใช้จ่ายของจขกท.แล้ว
ปัญหาจขกท.ไม่ได้อยู่ที่ส่งเงินให้พ่อแม่หรือออมเงินหรอกครับ
เพราะคนเรายังไงก็ต้องฝีกมีความรับผิดชอบกับรายได้  
พื้นฐานออมเงินคือต้อง 20% ของรายได้  ดังนั้นออม 2.8 พันก็พอสมควรแก่ฐานเงินเดือน 1.3 หมื่น
ให้บุพการีคือ 10% ของรายได้ คุณจขกท.อาจลดส่วนนี้ลงเหลือ 1.3 พันได้ แต่ก็ต้องให้ต่อไปครับ
ไม่มีข้ออ้างว่าชั้นรายได้ไม่พอจะเที่ยวหรือใช้จ่ายส่วนตัวแล้วจะเลิกให้พ่อแม่  ไม่ได้ครับ  
เพราะแปลว่าเราไม่มีความรับผิดชอบในการบริหารรายได้เลย  ถ้าไปเจอภาระการเงินในภายหน้าเราจะลำบากเลยครับ

จากข้อมูลตัวเลขที่ให้มา  ปัญหาจริงๆของจขกท.อยู่ที่จขกท.รักสบายไป
ค่าใช้จ่ายที่ควรลดได้มันไปอยู่ที่ความรักสบายทั้งนั้น แถมข้ออ้างเยอะอีก

1.  หอพักสามพันกว่ากับเงินเดือนไม่ถึงหมื่นห้า  ไม่สัมพันธ์กันครับ
แต่จขกท.ก็มีข้ออ้างอีกแหละ

- ราคาถูกกว่า แต่มันก็ถูกกว่าแค่ไม่กี่ร้อยเอง และก็ไม่ใช่ว่าจะย้ายได้ง่ายๆ
- อยากได้หอราคาถูกๆเหมือนกัน แต่มันไม่มี


2. การเดินทาง รถเมล์ถูกกว่าแต่ขึ้นไม่ได้ ต้องขึ้นรถไฟฟ้า
ข้ออ้างคือ
- เราสะดวกเดินทางด้วย BTS ที่สุด  และแถวนั้นก็ไม่มีรถเมล์ ถึงมีก็คงไม่นั่ง

3. แต่ก็ไม่ขวนขวายหารายได้เพิ่ม
มีข้ออ้างอีก
- ใจนึงเราอยากหางานพิเศษทำเพิ่ม เพราะเราหยุดงานวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ก็รู้สึกไม่สะดวก
- ไม่รู้จะมีงานอะไรให้เราทำได้บ้าง


4. จขกท.มีข้ออ้างเรื่องอาหารอีกแล้ว
- หักค่าอาหาร 3,100 >> พยายามประหยัดแล้ว แต่อาหารแถวนี้มันไม่ได้ราคาถูกๆ
ผมไม่ได้บอกว่าค่าอาหารคุณแพงนะ  แต่ผมฟันธงได้แน่นอนเลยว่าคนที่รายได้น้อยก็ต้องรู้จักพลิกแพลงเรื่องการทำกับข้าวกินเองครับ  เราไม่สามารถกินกับข้าวนอกบ้านตลอด 3 มื้อ 30 วันได้หรอก
ทำปิ่นโตไปกินกลางวันที่ทำงานยังต้องทำเลยเพื่อประหยัด

จขกท.อยู่วงเวียนใหญ่ มีตลาดเลยแหละ  ผมอยู่รัชโยธิน  ข้าวแกงอยู่ไกลจากบ้านผมไปหน่อย ต้องเดินไปซื้อ แต่กับถุงนึงเยอะมาก ราคา 30 บาทผมหุงข้าวกิน กินได้ 2 มื้อนะครับ  ตอนเช้าผมต้มไข่กินครับ  สรุปคือค่ากับข้าววันนึง รวมไข่ 2 ฟองกับข้าวสารของตัวเอง น่าจะ 60 บาท
ความคิดเห็นที่ 23
ถ้าเป็นเรานะ เงินฝาก 2800 ยืมมาก่อน 1000 หรือจะหักจากงบอาหารของคุณมาก็ได้ ไปซื้อหม้อหุงข้าวใบเล็ก กับกระทะไฟฟ้า ตะหลิว ปลั้กสามตา น้ำมันพืช ข้าวสาร อกไก่ ไข่ไก่ กะหล่ำปลี และกล่องโฟม(เอาไว้ใส่น้ำแข็งแช่อาหาร) หรือจะลงทุนผ่อนตู้เย็นสัก 4.9 คิว  (ตู้เย็นแบบ1ประตูไม่กินไฟนะคะ ค่าไฟเดือนนึงสัก 50บาทได้ ลองไปอ่านสลากที่ตู้ดู อย่าซื้อพวกใบเล็กๆแบบ รร นั่นน่ะกินไฟ)
ถ้าคุณไม่อยากซื้อตู้เย็น ของสดซื้อวันเว้นวันก็ได้ค่ะ

ไหนๆก็เรียนบัญชีล่ะ คุณลองกดเครื่องคิดเลขตามดูแค่คุณหุงข้าวกินเองนะ ก็ประหยัดไปได้เยอะแล้ว
ค่าอาหารกลางวันคุณ 50*20 = 1000 เราแถมให้อีก 200 เผื่อซื้อน้ำ ซื้อผลไม้ ส่วนต่าง1900 นี่ถ้าทำกินเองกินดีแถมอิ่มจนจุก

ข้าวสาร 5 กิโล 200 บาท กินได้ครึ่งปีมั้ง ถ้ากลัวมอดขึ้น ซื้อถุงล่ะ2กิโลก็ได้ หุงได้เป็นเดือน
กับข้าวถ้าไม่อยากทำเอง ซื้อกินเอา แกงถุง ผัดอะไรอีกถุง วันหยุดกินได้ทั้งวัน
ไข่ไก่ 10 ฟอง 45 บาท กินวันล่ะฟอง ก็ได้ 10 มื้อแล้ว
ถ้าไม่อยากทำกินเองซื้อแต่หม้อหุงข้าวพอ ทั้งอุ่นแกง อุ่นกับข้าว ต้มไข่ ทำไรได้เยอะแยะ

เช้า หุงข้าว เจียวไข่ อิ่มอร่อย
เที่ยงหาทานแถวที่ทำงาน ถ้าอีกหน่อยฟิต จะทำใส่กล่องไปทานก็ได้ เมนูง่ายๆ ข้าวผัด หมูกระเทียม กะเพรา
เย็น ข้าวหุงเอง กับข้าวถุง หรืออยากกินไรก็ทำ จะผัดกะหล่ำใส่ไข่ใส่หมู สุกี้ ไข่ขยี้ มาม่าผัด สาระพัดจะทำกินได้ค่ะ

เรื่องอาหาร แค่มีหม้อหุงข้าวใบเดียว คุณจะประหยัดไปเยอะเลยค่ะ
เงินเก็บตั้ง 2800 หักมา2เดือนได้ตู้เย็นใบนึงล่ะ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ประหยัดแล้วตัวเองลำบาก จะเก็บเงินไปเพื่ออะไร

ส อา ว่าง ง่ายสุดคือพาร์ทไทม์ร้านอาหาร หรือ 7-11 วันล่ะกะ ทำเฉพาะวันเสาร์ก็พอ แค่นี้น่าจะได้เสริมอีก พันกว่าสองพันต่อเดือน

ววญ สีลม ใกล้มาก รถเมล์เพียบ ขาไปถ้าไม่อยากตื่นเช้า คุณนั่ง bts ก็ได้ แต่ขากลับ ไม่รีบ รอรถเมล์ดีไหมคะ จะได้รู้จักถนนหนทาง ตลาด ร้านค้าอะไรไปพลางด้วย

หอคุณลึก หรือคุณเดินช้าคะ 15 นาทีเราเดินได้เป็นกิโลเลยนะ

คำแนะนำก็ประมาณนี้ เราว่าก็คล้ายๆกะของเพื่อนๆคนอื่นๆแนะนำคุณ ถ้าคุณไม่ทำ หรือทำไม่ได้เลยสักอย่าง ก็อยู่มันไปแบบนี้ต่อไปค่ะ ข้ออ้างเยอะมากๆเลยเท่าที่อ่านมา
อ่อนแอก็แพ้ไปนะคะ ยังไงก็อยากให้พยายามเข้านะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่