1. ที่เจ็บ หรือ แสบตาเพราะ เจอแสงจ้า
หรือ รังสีที่รุนแรงของแสง เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อสองส่วนคือ
เยื่อบุตา และ เซลล์ ประสาทตา ที่อยู่ในส่วนของเรตินา(ส่วนประสาทรับแสงและรับภาพ)

2. อาการเกิดจากควัน น้อยมากครับ
ทดสอบได้ โดยการเชื่อมให้วัสดุ และหัวเชื่อม อยู่ในตู้กระจก
แล้ว ดูดควันออกข้างบน ควันจะไม่โดนหน้า หรือโดนตาเลย
แต่ เรายังแสบตาอยู่ตามเดิม
2.1 หลายครั้ง ควันไม่โดนหน้าผาก หรือ โหนกแก้ม
แต่ถ้าเราเชื่อมทั้งวัน ทำไม หน้าผาก และโหนกแก้มเรา หนังจึงลอก
ควันมีฤทธิ์ ทำให้หนังลอกเหรอครับ

เอาหละ เรื่องนี้ พิสูจน์ กันเอาเองเถิด เพราะ เชื่อกันมานานว่า
แสบตาเพราะควัน  แล้วเคยสังเกตไหมครับ การเชื่อมบางอย่างที่มีแสงจ้า
และธูป ไม่มีควัน เราก็ยังคงแสบตาอยู่ดี  ก็หาเหตุผลมา
ส่วนผมได้รับคำอธิบายจากหมอตา และอาจารย์หมอตา มาว่าอย่างนี้
และเข้าใจ อธิบายได้ พิสูจน์ ได้ จากการเชื่อมโดยให้ชิ้นงานอยู่ในตู้กระจก
แต่ใส่แว่น แบบกันแสงธรรมดา ไม่ได้ใส่หน้ากาก กันแสง ก็ยังแสบอยู่ดี

-----------------------------------------

ผม ใช้ยาหยอดตา ครับ ช่วยได้มาก แล้วก็ปิดตา
แม้เราจะรู้สึกเจ็บตา ก็ตาม ทั้งนี้เพราะ เนื้อเยื่อหุ้มตาหลุดร่อนออกมา
ทำให้เราเจ็บ คงต้องปิดตาไป 24 ชั่วโมง แล้วจะดีขึ้น

พยายามอย่าให้ถูกแสง  ทางที่ดี หาหมอตา ดีที่สุดครับ

ต่อไป จำต้อง สวมหน้ากากกันรังสีให้มิดชิด จะช่วยได้มากครับ