การผจญภัยบทใหม่ของสมาชิกโจรสลัดกลุ่มหมวกฟาง เมื่อพวกเขาเข้าไปเยี่ยมเยือนเรือ (หรือประเทศ) คาสิโนของเตโซโร ชายลึกลับที่กินผลทองเข้าไปทำให้เสกทองออกมาได้เรื่อยๆ และใช้มันได้อย่างอิสระโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในพื้นที่ของตัวเองอย่างเรือลำนี้
การดำเนินเรื่องถูกออกแบบให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วยการวาเนื้อเรื่องให้ละเอียดมากเพราะโยงความร่ำรวยเข้ากับกลุ่มอำนาจอย่างเผ่ามังกรฟ้าและกองทัพเรือด้วย รวมถึงการชิงไหวชิงพริบของตัวละครและเงื่อนงำต่างๆ ตลอดทั้งเรื่องที่ทำให้ละสายตาจากจอได้ยากมาก
แต่มันก็ไม่ได้มีความสดใหม่หรือแปลกอะไรไปมากกว่าวันพีซ ฟิล์ม ภาคก่อนๆ ที่มุ่งขายคาแร็กเตอร์ตัวละครในรูปลักษณ์และสถานการณ์ต่างๆ เหมือนภาคอื่นๆ จับมาใส่สูท ใส่ชุดให้เข้ากับเนื้อเรื่องของแต่ละภาคซึ่งทำทุกครั้งก็ขายได้ทุกครั้ง
เส้นเรื่องรวมถึงการดำเนินเรื่องเหมือนวันพีซทุกภาค คือเป็นการปะทะกันระหว่างฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรม ซึ่งมานั่งนึกอยู่เหมือนกันว่าที่มันยังขายได้เพราะมันสนุกก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือมันขายความตื่นเต้นของผลปีศาจแบบใหม่ๆ นี่เป็นอีกอย่างที่เป็นจุดขายของวันพีซ คือขายพลังวิเศษจากผลปีศาจที่ไม่ว่าจะยังไงก็น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ
ซึ่งภาคนี้มีผลเพี้ยนๆ ด้วย ตอนดูไปก็ยังรู้สึกว่าผลแบบนี้ก็ใช้ต่อสู้ได้เหรอ (วะ) อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวชอบผลปีศาจนี้มากนะ รู้สึกว่าเหมือนมันจะใช้งานไม่ได้จริง แต่สุดท้ายแล้วนี่แกร่งพอสมควรเลย
ตอนดูนี่ไปดูพากย์ไทยเพราะมีความรู้สึกผูกพันกับเสียงพากย์ไทยในการ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่องจากการดูการ์ตูนช่อง 9 วันเสาร์อาทิตย์ตอนเด็กๆ แล้ว One Piece Film Gold ก็ดันเอาซันนี่ สุวรรณเมธานนท์มาพากย์เป็นเตโซโร ก็พินาศมากประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่เท่าระดับที่ชินวุฒิทำไว้ใน Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief (2010)
แนะนำว่าถ้าจะไปดูก็ควรจะรู้จักตัวละครภาคเก่าและภาคใหม่ (หลัง 2 ปี) ให้ได้สักนิด ไม่ต้องลึกมากก็ได้เพราะมีการพยายามขายแฟนตาซีตัวละครอยู่เหมือนกัน อย่างการดึงตัวละครที่หายหน้าหายตาไปกลับมาอยู่ในภาคนี้ รวมถึงแนะนำให้ดู One Piece Special: Heart of Gold (2016) มาก่อนด้วยก็ดี-แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่เป็นไร ยังไงก็เข้าใจอยู่แล้ว แต่อาจจะอินมากกว่านิดหน่อย (นี่ก็พูดในฐานะที่ไม่ได้ดู)
อีกอย่างคือ ภาคนี้ทำให้บทที่ออกจะขายแฟนๆ อย่างโรโรโนอา โซโร ออกมาน้อยเกินความคาดหวังไปมาก ซึ่งออกจะแปลกใจนะเพราะปกติมันเป็นตัวละครที่ป๊อปรองจากลูฟี่เลยทีเดียว แต่ถามว่าเท่ไหม ก็เท่เหมือนเดิม
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
One Piece Film: Gold (2016) วันพีซในโลกหนังจอเงิน
การผจญภัยบทใหม่ของสมาชิกโจรสลัดกลุ่มหมวกฟาง เมื่อพวกเขาเข้าไปเยี่ยมเยือนเรือ (หรือประเทศ) คาสิโนของเตโซโร ชายลึกลับที่กินผลทองเข้าไปทำให้เสกทองออกมาได้เรื่อยๆ และใช้มันได้อย่างอิสระโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในพื้นที่ของตัวเองอย่างเรือลำนี้
การดำเนินเรื่องถูกออกแบบให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วยการวาเนื้อเรื่องให้ละเอียดมากเพราะโยงความร่ำรวยเข้ากับกลุ่มอำนาจอย่างเผ่ามังกรฟ้าและกองทัพเรือด้วย รวมถึงการชิงไหวชิงพริบของตัวละครและเงื่อนงำต่างๆ ตลอดทั้งเรื่องที่ทำให้ละสายตาจากจอได้ยากมาก
แต่มันก็ไม่ได้มีความสดใหม่หรือแปลกอะไรไปมากกว่าวันพีซ ฟิล์ม ภาคก่อนๆ ที่มุ่งขายคาแร็กเตอร์ตัวละครในรูปลักษณ์และสถานการณ์ต่างๆ เหมือนภาคอื่นๆ จับมาใส่สูท ใส่ชุดให้เข้ากับเนื้อเรื่องของแต่ละภาคซึ่งทำทุกครั้งก็ขายได้ทุกครั้ง
เส้นเรื่องรวมถึงการดำเนินเรื่องเหมือนวันพีซทุกภาค คือเป็นการปะทะกันระหว่างฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรม ซึ่งมานั่งนึกอยู่เหมือนกันว่าที่มันยังขายได้เพราะมันสนุกก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือมันขายความตื่นเต้นของผลปีศาจแบบใหม่ๆ นี่เป็นอีกอย่างที่เป็นจุดขายของวันพีซ คือขายพลังวิเศษจากผลปีศาจที่ไม่ว่าจะยังไงก็น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ
ซึ่งภาคนี้มีผลเพี้ยนๆ ด้วย ตอนดูไปก็ยังรู้สึกว่าผลแบบนี้ก็ใช้ต่อสู้ได้เหรอ (วะ) อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวชอบผลปีศาจนี้มากนะ รู้สึกว่าเหมือนมันจะใช้งานไม่ได้จริง แต่สุดท้ายแล้วนี่แกร่งพอสมควรเลย
ตอนดูนี่ไปดูพากย์ไทยเพราะมีความรู้สึกผูกพันกับเสียงพากย์ไทยในการ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่องจากการดูการ์ตูนช่อง 9 วันเสาร์อาทิตย์ตอนเด็กๆ แล้ว One Piece Film Gold ก็ดันเอาซันนี่ สุวรรณเมธานนท์มาพากย์เป็นเตโซโร ก็พินาศมากประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่เท่าระดับที่ชินวุฒิทำไว้ใน Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief (2010)
แนะนำว่าถ้าจะไปดูก็ควรจะรู้จักตัวละครภาคเก่าและภาคใหม่ (หลัง 2 ปี) ให้ได้สักนิด ไม่ต้องลึกมากก็ได้เพราะมีการพยายามขายแฟนตาซีตัวละครอยู่เหมือนกัน อย่างการดึงตัวละครที่หายหน้าหายตาไปกลับมาอยู่ในภาคนี้ รวมถึงแนะนำให้ดู One Piece Special: Heart of Gold (2016) มาก่อนด้วยก็ดี-แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่เป็นไร ยังไงก็เข้าใจอยู่แล้ว แต่อาจจะอินมากกว่านิดหน่อย (นี่ก็พูดในฐานะที่ไม่ได้ดู)
อีกอย่างคือ ภาคนี้ทำให้บทที่ออกจะขายแฟนๆ อย่างโรโรโนอา โซโร ออกมาน้อยเกินความคาดหวังไปมาก ซึ่งออกจะแปลกใจนะเพราะปกติมันเป็นตัวละครที่ป๊อปรองจากลูฟี่เลยทีเดียว แต่ถามว่าเท่ไหม ก็เท่เหมือนเดิม
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/