สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป
ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดว่าจะมาระบายอะไรในนี้ แต่พอดีนึกได้ว่ามีหลักฐานอยู่ที่ตัว จึงอยากมาตั้งเป็นกระทู้เตือนภัยเอาไว้ซักหน่อย
เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวานเรากับน้องชายไปช็อปปิ้งที่เซ็นทรัล ศาลายา แล้วน้องสาวโทรมาวานให้ช่วยซื้อ Note 5 ให้หน่อย โดยระบุว่าต้องการสีดำ
เรากับน้องชายเดินหา Note 5 สีดำเครื่องเปล่า (ราคาเครื่องเปล่า 21,900 บาท) เดินไล่มาตามทางตั้งแต่ร้าน True Shop ปรากฎว่า ที่นี่มีสีดำ แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อ เพราะอยากจะสำรวจราคาและของแถมจากร้านอื่นๆ ก่อน จากนั้นจึงเดินดูมาอีกสองสามร้าน แล้วก็มาหยุดที่ร้าน Jaymart เนื่องจากพนักงานหน้าร้าน และอีกหลายๆ คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีราคาพิเศษให้ โดยน้องชายบอกว่า เห็นในเว็บลดเหลืออยู่ที่ 20,900 บาท พนักงานเลยบอกว่า จะมีการปรับราคาขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่ไม่นอน
และจะได้ลดแค่ 700 บาท เหลือ 21,200 บาทในกรณีจ่ายสดหรือรูดสดเท่านั้น และถ้ารูดผ่อนก็จะได้ราคาปกติ
เรากับน้องชายจึงถามหา Note 5 สีดำ แต่พนักงานร้าน Jaymart บอกว่ามีแต่สีเงินและสีทอง เราจึงโทรหาน้องสาวเพื่อบอกว่า ถ้าได้ลด 1,000 บาท แต่ได้สีอื่นจะเอาไหม น้องสาวก็โอเคและบอกว่าเอาสีเงินก็ได้ (เผื่อแลกกับน้องชายที่เขาอยากได้สีเงิน เพราะก่อนหน้าเขาไปสอยสีทองมาด้วยความรีบ) จากนั้นเมื่อสอบถามของแถมอะไรเรียบร้อยแล้ว เราจึงได้ตกลงจะซื้อ!!
พนักงานก็ขอบัตรเครดิตจากน้องชาย ส่วนพนักงานคนหนึ่งก็เอากล่องมากรีดแกะ เพื่อให้ตรวจสอบโทรศัพท์ และตอนที่น้องชายกำลังจะเซ็นจ่ายนั้น ก็เห็นว่าราคาในบิลเป็นราคา 21,900 บาท...
น้องชายจึงชะงัก
น้องชาย : ทำไมถึงเป็นราคานี้ครับ เมื่อกี้บอกว่าลดเหลือ 21,200 บาท ไม่ใช่เหรอ?
พนักงาน : อ๋อ ผมทำรูดผ่อนให้อะครับ
น้องชาย : ผมไม่รูดผ่อนครับ เมื่อกี้ก็บอกว่าจะรูดสด
พนักงาน : อ่อ งั้นเดี๋ยวยกเลิกให้ครับ
น้องชายก็เริ่มหงุดหงิด พอยกเลิกบิลเก่าแล้ว พนักงานออกบิลใหม่ให้เป็นราคา 21,200 บาท น้องชายก็ไปเซ็นจ่ายเงิน แล้วเราสองคนก็มาดูตัวเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่งแกะกล่องด้วยกันกับพนักงานอีกคน ระหว่างที่เช็คโทรศัพท์อยู่นั้น พนักงานที่แคชเชียร์ก็แจ้งว่า “คุณลูกค้าครับ ตอนนี้ราคาไม่ได้ 21,200 บาทแล้วครับ แต่ขึ้นเป็น 21,900 บาทเหมือนเดิม คุณลูกค้าต้องมารูดเพิ่ม...”
น้องชายเราก็เริ่มหายใจแรง (อารมณ์ขึ้น!!!) แต่เราก็พยายามแสดงท่าทางบอกเขาให้ใจเย็นพร้อมถามเขาว่า “จะเอายังไง ยังจะเอาอยู่มั้ย” น้องเลยหันไปถามพนักงานคนนั้นว่า “ราคามันขึ้นลงเป็นนาทีเลยเหรอครับ!” และพนักงานก็เงียบ ไม่ตอบ...
พนักงานคนข้างๆ ที่อยู่ตรงแคชเชียร์ก็บอกว่า มันเป็นราคาเท่านี้อะครับ เหอๆๆ
เรากับน้องชายเลยตัดสินใจว่า ถ้าไม่ใช่สีดำที่อยากได้แต่แรก และราคาก็ไม่ได้พิเศษกว่าร้านอื่น น้องชายเลยบอกพนักงานว่า “งั้นก็ไม่เอาอะไรแล้ว” พนักงานคนที่แจ้งราคาก็บอกให้พนักงานอีกคนเก็บโทรศัพท์ เก็บทุกอย่างกลับคืนให้หมดเช่นกัน หึๆๆ
นี่คือหลักฐานตอนรูดจ่าย
ด้วยความเซ็งเราสองคนก็เลยคิดว่าจะเดินไปดูที่ศูนย์ Samsung เป็นที่สุดท้าย ถ้าไม่ได้ยังไงก็คงกลับไปซื้อสีดำที่ True Shop ถึงจะไม่ได้ลดราคา แต่ก็ยังได้สีที่ต้องการ
ปรากฎว่า พนักงานที่ซัมซุงบอกว่า ตอนนี้มีโปรลดราคา 1,000 บาท วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์แต่ต้องจ่ายสดนะ แต่ว่าไม่มีสีดำ มีแต่สีเงินและสีทอง เรากับน้องชายโทรถามน้องสาวและนางก็โอเคยอมเอาสีอื่นได้ถ้าราคาถูกลง เราจึงรีบออกไปกดเงินมาซื้อให้ทันทีเลย และเรื่องทุกอย่างก็จบลงตรงนี้อย่างแฮปปี้เอนดิ้ง...
*** ไม่รู้ว่ามันเป็นกลยุทธ์ทางการขายหรือพนักงานหลายคนในร้านไม่รู้ข้อมูล (มันเป็นไปได้หรือ?)
แต่แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ รู้สึกเพลียและเสียเวลา ตอนที่เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนยังบอกว่า นี่ถ้าเป็นคนขี้เกรงใจ หรือยอมคนง่ายๆ ก็คงได้เสียเงินไปแล้วแหละ ถ้าราคาไม่ลด ก็บอกว่าไม่ลดสิคะ ขอให้กระทู้นี้เป็นหนึ่งกระทู้เตือนใจให้ระวังไว้ เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันค่ะ
ภารกิจตามล่าหา Samsung Galaxy Note 5 และกับดักล่อลวงของร้านขายโทรศัพท์!!!
ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดว่าจะมาระบายอะไรในนี้ แต่พอดีนึกได้ว่ามีหลักฐานอยู่ที่ตัว จึงอยากมาตั้งเป็นกระทู้เตือนภัยเอาไว้ซักหน่อย
เรื่องมีอยู่ว่า... เมื่อวานเรากับน้องชายไปช็อปปิ้งที่เซ็นทรัล ศาลายา แล้วน้องสาวโทรมาวานให้ช่วยซื้อ Note 5 ให้หน่อย โดยระบุว่าต้องการสีดำ
เรากับน้องชายเดินหา Note 5 สีดำเครื่องเปล่า (ราคาเครื่องเปล่า 21,900 บาท) เดินไล่มาตามทางตั้งแต่ร้าน True Shop ปรากฎว่า ที่นี่มีสีดำ แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อ เพราะอยากจะสำรวจราคาและของแถมจากร้านอื่นๆ ก่อน จากนั้นจึงเดินดูมาอีกสองสามร้าน แล้วก็มาหยุดที่ร้าน Jaymart เนื่องจากพนักงานหน้าร้าน และอีกหลายๆ คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีราคาพิเศษให้ โดยน้องชายบอกว่า เห็นในเว็บลดเหลืออยู่ที่ 20,900 บาท พนักงานเลยบอกว่า จะมีการปรับราคาขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่ไม่นอน
และจะได้ลดแค่ 700 บาท เหลือ 21,200 บาทในกรณีจ่ายสดหรือรูดสดเท่านั้น และถ้ารูดผ่อนก็จะได้ราคาปกติ
เรากับน้องชายจึงถามหา Note 5 สีดำ แต่พนักงานร้าน Jaymart บอกว่ามีแต่สีเงินและสีทอง เราจึงโทรหาน้องสาวเพื่อบอกว่า ถ้าได้ลด 1,000 บาท แต่ได้สีอื่นจะเอาไหม น้องสาวก็โอเคและบอกว่าเอาสีเงินก็ได้ (เผื่อแลกกับน้องชายที่เขาอยากได้สีเงิน เพราะก่อนหน้าเขาไปสอยสีทองมาด้วยความรีบ) จากนั้นเมื่อสอบถามของแถมอะไรเรียบร้อยแล้ว เราจึงได้ตกลงจะซื้อ!!
พนักงานก็ขอบัตรเครดิตจากน้องชาย ส่วนพนักงานคนหนึ่งก็เอากล่องมากรีดแกะ เพื่อให้ตรวจสอบโทรศัพท์ และตอนที่น้องชายกำลังจะเซ็นจ่ายนั้น ก็เห็นว่าราคาในบิลเป็นราคา 21,900 บาท...
น้องชายจึงชะงัก
น้องชาย : ทำไมถึงเป็นราคานี้ครับ เมื่อกี้บอกว่าลดเหลือ 21,200 บาท ไม่ใช่เหรอ?
พนักงาน : อ๋อ ผมทำรูดผ่อนให้อะครับ
น้องชาย : ผมไม่รูดผ่อนครับ เมื่อกี้ก็บอกว่าจะรูดสด
พนักงาน : อ่อ งั้นเดี๋ยวยกเลิกให้ครับ
น้องชายก็เริ่มหงุดหงิด พอยกเลิกบิลเก่าแล้ว พนักงานออกบิลใหม่ให้เป็นราคา 21,200 บาท น้องชายก็ไปเซ็นจ่ายเงิน แล้วเราสองคนก็มาดูตัวเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่งแกะกล่องด้วยกันกับพนักงานอีกคน ระหว่างที่เช็คโทรศัพท์อยู่นั้น พนักงานที่แคชเชียร์ก็แจ้งว่า “คุณลูกค้าครับ ตอนนี้ราคาไม่ได้ 21,200 บาทแล้วครับ แต่ขึ้นเป็น 21,900 บาทเหมือนเดิม คุณลูกค้าต้องมารูดเพิ่ม...”
น้องชายเราก็เริ่มหายใจแรง (อารมณ์ขึ้น!!!) แต่เราก็พยายามแสดงท่าทางบอกเขาให้ใจเย็นพร้อมถามเขาว่า “จะเอายังไง ยังจะเอาอยู่มั้ย” น้องเลยหันไปถามพนักงานคนนั้นว่า “ราคามันขึ้นลงเป็นนาทีเลยเหรอครับ!” และพนักงานก็เงียบ ไม่ตอบ...
พนักงานคนข้างๆ ที่อยู่ตรงแคชเชียร์ก็บอกว่า มันเป็นราคาเท่านี้อะครับ เหอๆๆ
เรากับน้องชายเลยตัดสินใจว่า ถ้าไม่ใช่สีดำที่อยากได้แต่แรก และราคาก็ไม่ได้พิเศษกว่าร้านอื่น น้องชายเลยบอกพนักงานว่า “งั้นก็ไม่เอาอะไรแล้ว” พนักงานคนที่แจ้งราคาก็บอกให้พนักงานอีกคนเก็บโทรศัพท์ เก็บทุกอย่างกลับคืนให้หมดเช่นกัน หึๆๆ
นี่คือหลักฐานตอนรูดจ่าย
ด้วยความเซ็งเราสองคนก็เลยคิดว่าจะเดินไปดูที่ศูนย์ Samsung เป็นที่สุดท้าย ถ้าไม่ได้ยังไงก็คงกลับไปซื้อสีดำที่ True Shop ถึงจะไม่ได้ลดราคา แต่ก็ยังได้สีที่ต้องการ
ปรากฎว่า พนักงานที่ซัมซุงบอกว่า ตอนนี้มีโปรลดราคา 1,000 บาท วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์แต่ต้องจ่ายสดนะ แต่ว่าไม่มีสีดำ มีแต่สีเงินและสีทอง เรากับน้องชายโทรถามน้องสาวและนางก็โอเคยอมเอาสีอื่นได้ถ้าราคาถูกลง เราจึงรีบออกไปกดเงินมาซื้อให้ทันทีเลย และเรื่องทุกอย่างก็จบลงตรงนี้อย่างแฮปปี้เอนดิ้ง...
*** ไม่รู้ว่ามันเป็นกลยุทธ์ทางการขายหรือพนักงานหลายคนในร้านไม่รู้ข้อมูล (มันเป็นไปได้หรือ?)
แต่แบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ รู้สึกเพลียและเสียเวลา ตอนที่เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนยังบอกว่า นี่ถ้าเป็นคนขี้เกรงใจ หรือยอมคนง่ายๆ ก็คงได้เสียเงินไปแล้วแหละ ถ้าราคาไม่ลด ก็บอกว่าไม่ลดสิคะ ขอให้กระทู้นี้เป็นหนึ่งกระทู้เตือนใจให้ระวังไว้ เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกันค่ะ