วันนี้ขอมาติชมการทำงานของtrueหน่อยนะครับ
เริ่มเลยละกันคือตัวผมอยากจะเปลี่ยนชื่อเจ้าของซิมจากเดิมคือเพื่อนผม(ตอนซื้อใช้ชื่อเพื่อนซื้อ) ผมใช้ซิมนี้เป็นรายเดือนมาจะครบ 2 ปีแล้ว เห็นว่าจะลองดูการเปลี่ยนโปรโมชั่น และการใช้สิทธิ์ด้วยตัวของผมเองในการแลกคะแนนต่างๆ
วันที่ 26/8/59 17.00 น. ผมเลยเข้าไปที่trueสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อโดยผมพกเอกสารไปดังนี้
1.หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
2.สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา ของผู้มอบอำนาจ
3.สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา ของผู้รับมอบอำนาจ
เมื่อถึงคิวก็ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการเปลี่ยนชื่อเจ้าของซิมพร้อมยืนหลักฐานให้ เจ้าหน้าที่หลังจากนั้นก็มีบทสนทนามีดังนี้
เจ้าหน้าที่ก็ดูสักพักบอกว่า"ขาดบัตรประชาชนฉบับจริงของเข้าของซิมคะ"
ผมเลยตอบไปว่า"มีหนังสือมอบอำนาจแล้วครับสำเนาบัตรฯพร้อมรับรอง"
เจ้าหน้าที่บอกว่า"ไม่ได้คะต้องใช้บัตรตัวจริงด้วย"
ผมเลยถามว่า"เพราะอะไร?"
เจ้าหน้าที่อาวุโสกว่าที่นั่งข้างๆแจ้งว่า"เป็นระเบียบบริษัทฯ เนื่องจากอย่างที่ทราบกันว่ามีปัญหาที่เกิดขึ้นจึงต้องขอบัตรตัวจริง"
ผมเลยตอบไปว่า"จะเอาตัวจริงมาจากไหนใครเข้าจะให้ลำพังสำเนายังต้องเซนต์กำกับด้วยว่าใช้ทำอะไร ถ้ากลัวก็ดูประวัติชำระเงินย้อนหลังว่าตัดจากบัตรเครดิตของผมตลอดเกือบ2ปี"
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนยืนยันว่า"ต้องใช้คะ"
ผมจึงบอกไปว่า"ตามกฎหมายใช้แค่นี้ก็พอแล้ว ยกตัวอย่างเวลาราชการต้อนไปโอนกรรมสิทธิ์ในรถ ในที่ดิน ก็ใช้เอกสารตามที่ผมนำมาทำไมถึงใช้แค่นี้ไม่ได้?"
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า"ไม่ได้คะเพราะเป็นนโยบาย"
ผมเลยถามว่า"ตัวผมอยู่นี่คนมอบอำนาจอยู่เชียงใหม่สรุปไม่ผมก็คนมอบอำนาจต้องมาหากันเพื่อทำเรื่องใช่ไหม?"
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า"ต้องเป็นไปตามระเบียบ"
ตอนนี้ผมเริ่มไม่พอใจจึงถามครั้งสุดท้ายว่า"เปลี่ยนไม่ได้ใช่ไหมครับ?"
เจ้าหน้าที่ตอบว่า"คะ"
ผมเลยบอกลาว่า"ไม่เป็นไรครับเปลี่ยนไม่ได้ไม่เป็นไร งั้นผมยกเลิกดีกว่า"
เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็นิ่งไม่มีการตอบรับ ผมเลยเดินออกมาจากสาขาพร้อมความโมโห
หลังจากนั้นผมจึงโทรเข้าไปถามที่call center เพื่อถามอีกครั้งว่าจะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงหรือไม่ก็ได้คำตอบเดิมคือ"ใช้เนื่องจากมีการปรับนโยบาย" ผมจึงcomplaintไปว่า"การกระทำของคุณมันเป็นการเพิ่มภาระขอลูกค้าเพราะเอกสารมอบอำนาจเท่าที่ผมนำมาให้ก็เพียงพอแล้ว เงื่อนไขของคุณที่จะต้องให้ใช้บัตรประชาชนจริงถ้าคนไม่ได้อยู่ด้วยกันจะทำอย่างไร คุณก็ตอบไม่ได้ผมจึงขอฝากเรื่องนี้ไปทบทวนดูด้วย"
ครั้งนี้ผมจึงเกิดคำถามคาใจว่า
1.เอกสารครบตากฎหมายทำไมคุณไม่ให้เปลี่ยน?
2.เงื่อนไขที่คุณสร้างคนที่อยู่คนละพื้นที่จะทำอย่างไร
3.ที่คุณอ้างถึงความผิดพลาดของคุณในเรื่องการออกซิมใหม่ตามข่าวดังมาอ้างในการเปลี่ยนระเบียบ แล้วมาใช้กับกรณีของผมมันถูกต้อง?
4.การกระทำของคุณเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก คันแล้วเกาผิดที่ เพิ่มภาระโดยใช่เหตุ
5.ให้ผมถือบัตรประชาชนคนอื่นมาใครเขาจะให้มันเป็นเอกสารยืนยันตนที่ทุกคนต้องถือติดตัวตลอดเวลา
6.คุณไม่มีการเสนอทางออกที่เหมาะสมในแต่ละกรณีมีแต่คำตอบที่ว่า"ไม่ได้"
สุดท้ายผมฝากเลยละกันถึง true ผมชอบสิทธิในบริการที่คุณให้ผมถึงเริ่มเปิดใช้บริการคุณ และย้ายค่ายอีกซิมมาหาคุณแต่คุณมีเงื่อนไขบริการที่รับไม่ได้ในการให้บริการอย่างมาก เสียงนี้ของผมคงเป็นหนึ่งในการตอบสนองของนโยบายของคุณ ซึ่งผมหวังว่าคุณคงจะได้ยิน
ถูก True ปฎิเสธการเปลี่ยนชื่อซิมเพราะระเบียบใหม่
เริ่มเลยละกันคือตัวผมอยากจะเปลี่ยนชื่อเจ้าของซิมจากเดิมคือเพื่อนผม(ตอนซื้อใช้ชื่อเพื่อนซื้อ) ผมใช้ซิมนี้เป็นรายเดือนมาจะครบ 2 ปีแล้ว เห็นว่าจะลองดูการเปลี่ยนโปรโมชั่น และการใช้สิทธิ์ด้วยตัวของผมเองในการแลกคะแนนต่างๆ
วันที่ 26/8/59 17.00 น. ผมเลยเข้าไปที่trueสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อโดยผมพกเอกสารไปดังนี้
1.หนังสือมอบอำนาจ (ติดอากรแสตมป์)
2.สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา ของผู้มอบอำนาจ
3.สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนา ของผู้รับมอบอำนาจ
เมื่อถึงคิวก็ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการเปลี่ยนชื่อเจ้าของซิมพร้อมยืนหลักฐานให้ เจ้าหน้าที่หลังจากนั้นก็มีบทสนทนามีดังนี้
เจ้าหน้าที่ก็ดูสักพักบอกว่า"ขาดบัตรประชาชนฉบับจริงของเข้าของซิมคะ"
ผมเลยตอบไปว่า"มีหนังสือมอบอำนาจแล้วครับสำเนาบัตรฯพร้อมรับรอง"
เจ้าหน้าที่บอกว่า"ไม่ได้คะต้องใช้บัตรตัวจริงด้วย"
ผมเลยถามว่า"เพราะอะไร?"
เจ้าหน้าที่อาวุโสกว่าที่นั่งข้างๆแจ้งว่า"เป็นระเบียบบริษัทฯ เนื่องจากอย่างที่ทราบกันว่ามีปัญหาที่เกิดขึ้นจึงต้องขอบัตรตัวจริง"
ผมเลยตอบไปว่า"จะเอาตัวจริงมาจากไหนใครเข้าจะให้ลำพังสำเนายังต้องเซนต์กำกับด้วยว่าใช้ทำอะไร ถ้ากลัวก็ดูประวัติชำระเงินย้อนหลังว่าตัดจากบัตรเครดิตของผมตลอดเกือบ2ปี"
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนยืนยันว่า"ต้องใช้คะ"
ผมจึงบอกไปว่า"ตามกฎหมายใช้แค่นี้ก็พอแล้ว ยกตัวอย่างเวลาราชการต้อนไปโอนกรรมสิทธิ์ในรถ ในที่ดิน ก็ใช้เอกสารตามที่ผมนำมาทำไมถึงใช้แค่นี้ไม่ได้?"
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า"ไม่ได้คะเพราะเป็นนโยบาย"
ผมเลยถามว่า"ตัวผมอยู่นี่คนมอบอำนาจอยู่เชียงใหม่สรุปไม่ผมก็คนมอบอำนาจต้องมาหากันเพื่อทำเรื่องใช่ไหม?"
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า"ต้องเป็นไปตามระเบียบ"
ตอนนี้ผมเริ่มไม่พอใจจึงถามครั้งสุดท้ายว่า"เปลี่ยนไม่ได้ใช่ไหมครับ?"
เจ้าหน้าที่ตอบว่า"คะ"
ผมเลยบอกลาว่า"ไม่เป็นไรครับเปลี่ยนไม่ได้ไม่เป็นไร งั้นผมยกเลิกดีกว่า"
เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็นิ่งไม่มีการตอบรับ ผมเลยเดินออกมาจากสาขาพร้อมความโมโห
หลังจากนั้นผมจึงโทรเข้าไปถามที่call center เพื่อถามอีกครั้งว่าจะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงหรือไม่ก็ได้คำตอบเดิมคือ"ใช้เนื่องจากมีการปรับนโยบาย" ผมจึงcomplaintไปว่า"การกระทำของคุณมันเป็นการเพิ่มภาระขอลูกค้าเพราะเอกสารมอบอำนาจเท่าที่ผมนำมาให้ก็เพียงพอแล้ว เงื่อนไขของคุณที่จะต้องให้ใช้บัตรประชาชนจริงถ้าคนไม่ได้อยู่ด้วยกันจะทำอย่างไร คุณก็ตอบไม่ได้ผมจึงขอฝากเรื่องนี้ไปทบทวนดูด้วย"
ครั้งนี้ผมจึงเกิดคำถามคาใจว่า
1.เอกสารครบตากฎหมายทำไมคุณไม่ให้เปลี่ยน?
2.เงื่อนไขที่คุณสร้างคนที่อยู่คนละพื้นที่จะทำอย่างไร
3.ที่คุณอ้างถึงความผิดพลาดของคุณในเรื่องการออกซิมใหม่ตามข่าวดังมาอ้างในการเปลี่ยนระเบียบ แล้วมาใช้กับกรณีของผมมันถูกต้อง?
4.การกระทำของคุณเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก คันแล้วเกาผิดที่ เพิ่มภาระโดยใช่เหตุ
5.ให้ผมถือบัตรประชาชนคนอื่นมาใครเขาจะให้มันเป็นเอกสารยืนยันตนที่ทุกคนต้องถือติดตัวตลอดเวลา
6.คุณไม่มีการเสนอทางออกที่เหมาะสมในแต่ละกรณีมีแต่คำตอบที่ว่า"ไม่ได้"
สุดท้ายผมฝากเลยละกันถึง true ผมชอบสิทธิในบริการที่คุณให้ผมถึงเริ่มเปิดใช้บริการคุณ และย้ายค่ายอีกซิมมาหาคุณแต่คุณมีเงื่อนไขบริการที่รับไม่ได้ในการให้บริการอย่างมาก เสียงนี้ของผมคงเป็นหนึ่งในการตอบสนองของนโยบายของคุณ ซึ่งผมหวังว่าคุณคงจะได้ยิน