ทริป : สี่คืนห้าวัน ทะเลสู่ป่าเขา ระยอง->เขาใหญ่

กระทู้สนทนา

บันทึกนักเดินทาง ทริปจักรยาน เที่ยวภูเขา จักรยานทัวร์ริ่ง ภาพถ่ายทิวทัศน์

ทริป : สี่คืนห้าวัน ทะเลสู่ป่าเขา
ระยอง->เขาใหญ่  13/04/2559
ทริปวันที่หนึ่ง : http://pantip.com/topic/35422680

กล่าวสวัสดีเช้าที่สดใสกับวันที่สอง ของทริปต้อนรับเช้านี้กับวันสงกรานต์หรือวันปีไหม่ไทยก็ว่าได้ครับ  ……
ตานแผนวันนี้ -กำหนดเวลาตั้งใจพิชิตเขาใหญ่ให้ถึง จุดกางเต็นท์ลำตะคอง ก่อน 16:30 ..
                           -นัดเจอเพื่อนสมาชิกอีกท่านบนเขาใหญ่ครับ (ท่านส. แขก)

ตามรายละเอียดผมนัดแนะพบเจอ ท่านส.แขก ที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนผมสองวันถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางใว้
และเวลาที่กำหนดผมคิดว่าน่าจะเจอ ท่านส.แขก บนจุดกางเต็นท์หรือไม่ก็น่าจะสวนทางกันช่วงตอนที่ลงเขาครับ
ผลหลังจากปั่นยาวไกลเมื่อวานตื่นนอน เช้านี้เลยทำให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายบ้างแต่ถือว่าเป็นอาการปกติทั่วไปครับ
ไม่มีติดปัญหามากมายหรือเป็นอุปสรรคแต่อย่างใดเลย เพื่อให้เข้ากับเทศกาลต้อนรับวันสงกรานต์
เช้านี้จัดซะเลยขอเป็นชุดที่จัดเตรียมมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ … ไส่แล้วค่อยดูเข้ากับเทศกาลหน่อย

08:00 เมื่อทุกอย่างพร้อมเริ่มล้อหมุนเตรียมออกเดินทางกันเลยครับ.. จากจุดนี้(จุดที่นอนค้างแรมเมื่อคืน)
ห่างจากจุดทางขึ้นเขาใหญ่ก็ราวๆ 5 กิโลเมตร. ไม่ไกล้ไม่ไกลถือเป็นการวอร์มอัพร่างกายก่อนขึ้นเขาก็ว่าได้ครับ
ช่วงระยะเวลาที่ปั่นมา ระหว่างทางเจะเจอพี่สมาชิกที่หลงไหลชื่นชอบทัวริ่งพูดคุยเสวนากันพอได้ใจความ
และพี่แกขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกสองสามภาพด้วยครับ (จัดให้ครับบ)

ทุกอย่างพร้อม….ได้เวลามุ่งหน้า "น้ำตกเหวนรก" ป้ายแรก ครับ
แหม..แค่จุดเริ่มยังขนาดนี้วันนี้คงได้เหนื่อยหมดแรงกันอีกวันแน่เลย

เป็นไปตามที่คิดเลยครับ.. ปั่นขึ้นเขามาได้ไม่กี่กิโลเห็นดิ่งๆกำลังลงเขาผมหันไปถาม ส.เกล้าว่า
“ เห็นไหมที่กำลังดิ่งลงเขามามองไกลๆเหมือนท่าน ส.แขกเลยนะ เอ๊ะ ! หรือจะไช่“
…. ไกล้เข้ามาๆ อ้าวนั่นไงใช้จริง ส.แขก จริงๆด้วย พูดคุยเสวนากันอยู่นานจนหายเหนื่อยแหละครับ..
ได้เวลากล่าวลากันเพื่อไปต่อให้ถึงจุดหมาย.. ส.แขก บอกทิ้งท้ายใว้ว่า การขับมอเตอร์ใซด์ท่องเที่ยว

ข้อดีคือ
- รวดเร็วทำเวลาได้ดีเหมาะเลยกับทริปที่กระชับเรื่องเวลา
ข้อเสียคือ..
-ไม่ได้ซึมซับกับธรรมชาติเท่าที่ควร
-ไม่ได้เก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆรอบตัวและสิ่งแวดล้อมสองข้างทาง
เป็นแนวคิดและคำแนะนำที่ดีเลยครับ..
ถึงเวลาแยกย้ายกันจริงๆโอกาสหน้าคงได้ร่วมทริปปั่นกันครับ

ล่ำลากันเป็นที่เรียบร้อยผมกับ ส.เกล้า หันหน้าสองมือสองขาออกแรงกดและจับแฮนด์บังคับ
มุงหน้าขึ้นเขาไปให้ถึงจุดหมาย เนินแบบนี้มีให้ได้เรียกกำลังขากันทุกกิโลครับ.. ยอมรับ ส.เกล้าแรงดีไม่ตกครับ

ถ้าพูดกันถึงเนินถึงเขาแล้ว..
โดยส่วนตัวผมคิดว่านะครับ มันคือรสชาติของการเดินด้วยจักรยานแบบนี้ครับ
บางทริปเจอแต่ทางเรียบ ปั่นนานๆเข้าถึงกับหาวนอนกันเลยแทบจะหลับในเลยก็ว่าได้ ..
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนินเยอะเขาที่สูงชันมากๆ ก็ไม่ได้สนุกเสมอไปเล่นเอาท้อได้เช่นกัน..
อย่างว่าแหละครับบางครั้งที่ท้อมากๆ เจอแดดเจอเนินเขาปั่นไป เห็นรถคล้ายๆรถที่บ้าน ถึงกับคิดถึงรถที่จอดในโรงรถที่บ้านกันเลย

ส่วนที่ประทับใจ… เขาใหญ่
โดยส่วนตัวผมชื่นชอบทั้ง
-เส้นทาง
-สภาพอากาศ
เมื่อขึ้นข้างบน อากาศร้อนๆช่วงหน้าร้อน เดือนเมษายน พอขึ้นไปข้างบนอากาศเหมือนคนละโลกกันเลยครับ
เย็นสบายสดชื่น แถมบางช่วงมีฝนลงเม็ดเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ

อย่างที่ว่าแหละครับเส้นทางที่เนินเขาสลับกันโหดใช้ได้เลยขึ้นลงๆ ได้กำลังขาดีมาก..
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองครับที่ปั่นมาจากระยองแบบนี้ มีความตั้งว่าจะมาทุกปีช่วงสงกรานต์
แดดสลับร่ม… สองข้างทางป่าเขาลำเนาไพร ทางเรียบสลับขึ้นเขาลงเนินไปกันต่อครับ
รถพอมีมาบ้างสวนทางไปมาให้คลายเหงา

เหมือน.. ว่าต้องพักหน่อยครับ ป่าไม้สองข้างทางแม้จะร่มรื่นเย็นสบายครับแต่พอบางช่วงเจอแดดแรงๆบวกกับเนินยาวๆ
เล่นเอาหมดแรงขาอ่อนไปตามๆกัน..สองข้างทางที่ร่มรื่นพอมีที่ให้แทรกตัวหลบร้อนหลบแดด
ที่สำคัญหลบรถที่ขับไปมาสวนทางนี้แหละครับ…ถ้าไม่หลบให้ดีเดี๋ยวจะไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง..

ปั่น.. กันต่อมาได้ซักพักใหญ่ๆขึ้นเนินลงเนินจนปวดหัวเข่า..เห้นป้ายแว๊ปๆข้างหน้าเขียนบอกว่า ‘’ น้ำตกเหวนรก ‘’
นั่นไงถึงจนได้จุดหมายแรกตามความตั้งใจจอดพักป้ายแรกตามหมายกำหนดการณ์ ถือโอกาสจอดแวะพักทานข้าวเที่ยง
กันด้วยเลยครับ อย่างว่าครับกองท้องต้องเดินได้ด้วยทัพ 55+
ต้องกองทัพเดินได้ด้วยท้องซิเนาะสงสัยจะหิวจนเพี้ยนเลยผม

พักหายเหนื่อยหายร้อนปั่นขึ้นไปอีกราว 500. เมตร ถึงที่ทำการบริการนักท่องเที่ยวครับตรงนั้นจะมีร้านขายอาหาร
ตั้งใจว่าจะพักและทานข้าวกันตรงนี้เลยครับเพราะจากจุดนี้แล้วต้องไปต่ออีกเกือบ สามสิบกิโล..

ถึงแล้ว..ครับร้านข้าวตามที่ตั้งใจ บรรยากาศร้านก็ไม่ต่างอะไรกับร้านขายข้าวทั่วๆไปครับ
(แต่จะต่างตรงที่ว่าถ้าจะกินอาหารร้านนี้ต้องขึ้นเขามาถึงน้ำตกเหวนรกกันเลย ..ตรงนี้แหละครับที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ)
ท่านใดที่เคยขึ้นไปเที่ยวเขาใหญ่และแวะเที่ยวน้ำตกเหวนรกก็จะหาไม่ยากเลยครับเพียงแค่มองไปรอบๆบริเวณแถวลานจอดรถ
ก็จะเจอร้านที่ว่าแหละครับ ช่วงผมไปมีอยู่สองร้านครับ ร้านขายส้มตำ ,ร้านขายอาหารตามสั่ง
ผมมาถึงจุดพักจุดแรก 10:30 ครับช่วงนั่งพักรออาหารสังเกตุจะมีสมาชิกจักรยานวนเวียนกันแวะเข้ามาพักดื่มน้ำ
พบปะทักทายกันเรื่อยๆครับ ถ้าผมอยู่แถวนี้หรือไกล้ๆแถวนี้ก็คงแวะเวียนมาขึ้นๆลงๆเอากำลังบ่อยแน่เลยครับ
ชอบครับทั้งเส้นทางและบรรยากาศ

ยี่สิบนาที.. ผ่านไป มาแล้วครับตามที่สั่งเป๊ะๆเลยหน้าตาจะบอกว่าน่าทานมากเลยครับ ผมจัด สองเมนูครับ
-ส้มตำปูปลาร้า
-กระเพราไก่แห้งๆเผ็ดๆโป๊ะด้วยไข่เจียว (ย้ำเน้นนะครับว่ากระเพราไก่ต้องผัดแห้งๆเผ็ด) ตักเข้าปากคำแรกไม่แน่ใจตามด้วยคำที่สอง
แม่เจ้า !! ไม่มีอะไรจะมีความสูขเท่ากับตอนนี้อีกแล้ว ตอนที่เวลาหิวๆแล้วได้กินอะไรตามที่ตั้งใจจะกิน
เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดยังไงยังงั้นกันเลยครับ (ว่าแต่มีจริงไหมนะสวรรค์ชั้นเจ็ดที่ว่าครับ 55+)
เป็นยังไงครับหน้าตา ปูปลาร้า+กระเพราไก่แห้งๆเผ็ดแถมไข่เจียวโป๊ะหน่อย จบข่าวกันเลยย

หลังเติมกำลัง.. 12.00
พักผ่อนหย่อนกายหายเหนื่อย จัดอาหารกันอิ่มหนำสำราญได้เวลาล้อหมุนเดินทางสู่จุดหมายสุดท้ายของทริปวันนี้คือ
“ จุดกางเต็นท์ลำตะคอง “ กับเวลาที่เหลือ 4-5 ชม. กับระยะทาง 20 กว่ากิโลเมตร. ก่อนค่ำมืด
การเดินทางยังคงอยู่กับป่าเขา ขึ้นเนินลงเนินครับสลับไปมาเหนื่อยบ้างช่วงขึ้นสบายบ้างช่วงปล่อยไหลลงเนิน
ช่วงนี้สองข้างทางที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้เขียวขจี รถผ่านไปมาทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาครับ..

บรรยากาศดีเยี่ยมเลยครับ ตามภาพเลยนะครับดูว่าขนาดไหนมาเหนื่อยๆเจอแบนี้หายเหนื่อยกันเลย
ส.เกล้าพูดไม่หยุดเลยบอกชอบมากไม่เสียเที่ยวไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ย่อมเหน็ดเหนื่อยเพื่อมาที่นี้

เจอเนินนี้เข้าไปถึงแบบว่าต้องลงจอดหันหลังกลับไปมองเลยว่า สูงเหยียดยาวขนาดใหน
(สุดยอดเลยครับเนินนี้ ทำให้นึกถึงเนินที่ผมขึ้นประจำแถวๆ บ้านครับเรียก เนินแผ่หลา)
ตามชื่อเลยครับขึ้นไปถึงเป้นต้องแผ่หลากันทุกรายไป

กว่าจะขึ้นมายอดเนินได้ เล่นเอาหมดแรงส้มตำกับกระเพราไก่เมื่อตอนสิบโมงเช้ากันเลย

ถึงจุดนี้ใจชื่นแล้วครับเพราะอีกไม่กี่กิโล. จะถึงจุดหายปลายทางวันนี้แล้วที่สำคัญจะได้พักกันยาวๆแล้วครับ…
เก็บภาพกันหน่อยครับ

ป้ายบอกระยะทาง..
สามกิโลเมตร. เลี้ยวขวามือจะถึงจุดกางเต็นท์ลำตะคอง ช่วงนี้แดดส่องแสงสีทองแสงเจิดจ้าแต่ความร้อนแรงลดน้อยลง
ตามช่วงเวลา.. ถึงแล้วครับจุดหมายและปลายทางหายเหนื่อยกันเลยครับ
นาฬิกาข้อมือผมบอกเวลา 16:00 ..