ความวุ่นวายบังเกิด เมื่อต้องเปลี่ยนเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

สวัสดีค่ะ ไม่ได้ยืมไอดีใครมาตั้ง เป็นไอดีของเราเองนี่แหละ จขกท.เป็นแฟนคลับพันทิปค่ะ ติดมาก แล้วก็หลายครั้งที่แอบหงุดหงิดเวลามีกระทู้ที่สนุกแล้วบอกเด๋วมาต่อไรงี้ แอบรำคาญ เลยขอเล่าเรื่องแบบม้วนเดียวจบนะคะ  เรามีเรื่องอยากจะแบ่งปัน มีความวุ่นวายในชีวิตเกี่ยวกับการเปลี่ยนเลขบัตรประชาชน ซึ่งตัว จขกท เอง เหนื่อยจะอธิบายอีกต่อไป เลยตัดสินใจมาเล่าเรื่องเผื่อใครถามจะได้ส่งลิ้งค์กระทู้ให้อ่านซะเลย  
                    
                          จขกท. เป็นคนที่เกิด พ.ศ. 2527 และน้อยคนมากที่จะรู้ว่าตัวเองใช้เลขบัตรประชาชนผิดๆตลอดมาจนกระทั่งต้องทำธุรกรรมยิ่งใหญ่คือการซื้อบ้านแล้วต้องอพยพตัวเองออกจากทะเบียนบ้านเก่าเพื่อจะเป็นเจ้าบ้านหลังใหม่นั่นเอง
                      
                          ตอนไปทำเรื่องทะเบียนบ้าน เราไปสำนักงานเขตของบ้านหลังใหม่ ซึ่งก็ไกลกับบ้านเก่าพอสมควร ทะเบียนแจ้งว่าไม่สามารถย้ายออกได้ เนื่องจากในระบบแจ้งว่าเลขบัตรประชาชนไม่สามารถทำการย้ายออกได้ เจ้าหน้าที่ก็งงสิคะ เอกสารอะไรก็มีครบหมดว่าเกิดที่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพ (ไม่ได้เกิดจากหมอตำแยเหมือนที่สามีของเพื่อนเคยสงสัยในตัวจขกท.ไว้ ฮรี่ๆ) เจ้าหน้าที่ก็เลยจัดการสืบเสาะหาข้อมูล โทรถามผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการนายทะเบียน ได้เรื่องว่า
                          "เมื่อปี พ.ศ. 2527 มีกฎหมายเปลี่ยนให้คนที่เกิดปีนั้น ใช้บัตรประชาชนนำหน้าด้วยเลข 3ว่า เราเป็นคนต่างด้าว ไม่สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ (อะไรประมาณนี้) ตามกฎหมายว่าไว้เลขประจำตัวนำหน้าด้วยเลข 3 คือคนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527) หมายความว่า บุคคลใดก็ตามไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทยมาตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 คนนั้นถือว่าเป็นบุคคลประเภท 3 และก็จะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่น ส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501 และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวในทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนเป็น 3 1001 01245 29 9  (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก วิกิพีเดีย)"

                           ซึ่งกฏหมายตอนปีที่เราเกิดเหมือนเพิ่งเริ่มใช้ของกรมการปกครองอะไรสักอย่าง ใบสูติบัตรเราเป็นเลข 1 เลยถูกเปลี่ยนแปลง โดยการขีดค่าเลขนั้น พร้อมมีลายเซ็นนายทะเบียนกำกับเท่านั้นและไม่มีเอกสารใดๆอธิบาย  ต่อมาพออายุครบ 15 ปี ต้องทำบัตรประชาชน ก็ใช้สูติบัตรนั้นอ้างอิงด้วยเลขที่ถูกเปลี่ยนแปลงใหม่ ทำให้บัตรประชาชนก็ใช้เลข 3 นำหน้าเป็นต้นมา (ชีวิตก็ปกติดีมาเรื่อย ซื้อรถเอย กู้เงินเอย ทำบัตรเครดิตเอย)…

                           จากนั้นนายทะเบียนจึงแนะนำว่าให้ไปหาเจ้าหน้าที่ ที่เซ็นต์กำกับตรงเลขประจำตัวนั้น แล้วให้เค้าทำการแก้ไขเป็นเลขที่ถูกต้องก่อน ค่อยกลับมาใหม่………….ความสงสัยในเกิด นี่ปีไรแล้ว ผ่านมาแล้วกว่า 30 ปี ลุงนั้นจะยังมีชีวิตอยู่จิงๆใช่ไหม เราจะได้เจอเจ้าของลายเซ็นจิงๆหรอ ก็ขับรถกลับไปที่เขตบ้านเก่า จำได้ว่าตอนนั้นเหนื่อยมากๆ หงุดหงิดมาก เหนื่อยเป็นพิเศษเพราะกำลังอุ้มท้องโย้ๆ 6 เดือนไปสนง.เขตเดิมคนเดียว



                           พอไปถึงคำแรกบอกกับเจ้าหน้าที่บัตรคิวว่า มาเปลี่ยนเลขบัตรประชาชน เท่านั้นแหละ นางก็ถามๆ เราก็อธิบายๆ เริ่มเหนื่อยละ (คิดในใจตูไม่น่าบอกก่อนเลย) พอถึงคิวก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตรงๆเลยค่ะว่า เลขบัตรประชาชนเราผิดจากสำนักงานเขตนี้ อยากอธิบายทีเดียวเพราะพูดเยอะแล้วเหนื่อย เจ้าหน้าที่ก็เข้าใจแหละ คนท้องอ่ะเนาะ เลยไปตามหัวหน้ามาฟังด้วย ก็อธิบายๆไปพร้อมยื่นสูติบัตรให้ดูแล้วก็ถามถึงเจ้าหน้าที่ที่เซ็นชื่อกำกับไว้ เค้าก็บอกว่า เกษียณไปแล้ว (เออก็สมควรแหละ ยังอยู่คงแปลก) ก็เลยจัดการเอกสารให้ โดยที่ขอเก็บเรื่องไว้ก่อน ต้องรอผู้ใหญ่จัดการ แล้วจะโทรแจ้งความคืบหน้าอีกที ก็โอเคกลับบ้าน    

                             ผ่านไป 3-4 วันก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าเรียบร้อยแล้วให้ไปรับเอกสารที่เขตได้เลย (โอ้ยดีจัง) พอไปเห็นเอกสารถึงกับช๊อคค่ะ สิ่งที่เค้าทำให้คือ พลิกด้านหลังสูติบัติตัวจริงอันเปื่อยยุ่ย แล้วจัดการเขียนลงไปมีความว่า  แก้ไขเลขจาก……………..เป็น………………………………โดยมีคำร้องเลขที่…………..วันที่…….และสำนักงาน………………ลงชื่อ  แค่นั้นเอง 2 บรรทัด (จร้า) พร้อมทำบัตรประชาชนใหม่ ซึ่งตลกไปอีก เนื่องจากใบใหม่ที่ทำวันนั้นเป็นบัตรประชาชนใบที่ 8 เจ้าหน้าที่บอกว่านี่ถ้ายังไม่บรรลุนิติภาวะต้องให้ผู้ปกครองมามาทำนะคะ เกิน 5 ครั้งนี่แปลกไปแล้ว (หึหึ ตลกหรอ) คือ จขกท.เป็นคนสะเพร่า กระเป๋าเงินหายบ่อยค่ะ เลยมีบัตรประชาชนหลายใบเป็นพิเศษ



                          โอเคทีนี้กลับไปที่สำนักงานเขตที่บ้านใหม่ ก็แบบเดิมๆ หาเจ้าหน้าที่คนเก่าไม่เจอละ เจอคนใหม่ก็อธิบายวนไปค่ะ ยื่นเอกสารให้เค้าดู พร้อมคำอธิบาย และเสียงหัวเราะของตัวเอง (ตอนนั้นไม่รู้ทำไมมันตลก) เจ้าหน้าที่เองก็บริการอย่างครื้นเครง จนสามารถเป็นเจ้าบ้านได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับได้ถ่ายบัตรประชาชนใบที่ 9 อีกครั้ง (เนื่องจากลืมเอากระเป๋าบัตรไป เลยบอกบัตรหายซะเลย พร้อมทั้งสาบานเบาๆว่า ข้าขอให้คำสาบานว่าจะไม่ทำบัตรใหม่อีกจนกว่าบัตรจะหมดอายุ รู้สึกเปลืองงบประมาณของชาติ โลกสวยไปอีก)  ยังไม่หมดความวุ่นวายทำไงล่ะทีนี้ เอกสารทุกอย่างทั้งชีวิต เลขบัตรประชาชนผิดหมดเลย สมุดธนาคาร พาสปอร์ต บัตรประชาชน ใบขับขี่ รถยนต์ที่ใช้ บัตรเครดิต บัตรสมาชิก ประกันสังคม สำคัญสุดๆก็คือ สัญญาซื้อบ้านและรถที่ใช้เลขบัตรประชาชนเก่าในการกู้ซื้อ ไม่สามารถแก้ไขไรได้ จนกว่าผ่อนแล้วเสร็จค่อยว่ากันอีกที (อันนี้ธนาคารบอกมา) ทุกๆอย่าง จขกท ก็ค่อยๆจัดการไปทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ทุกๆครั้งก็เหมือนๆเดิม อธิบายแบบเดิมๆ จนจำได้ทุกคำพูดของเจ้าหน้าที่เขต ก็แก้ไขได้ทุกอย่าง ยกเว้นสมุดบัญชีธนาคารค่ะ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไรได้ จขกท เลยใช้ๆไปแบบนั้นแหละ เงินไม่ค่อยมี ไม่ต้องซีเรียส (บอกกับตัวเองเบาๆ ปลอบใจตัวเองบางๆ)

                           มาถึงเรื่องพาสปอร์ต จขกทจะ เดินทางค่ะ ไปตปท. และพาสปอร์ตยังเป็นเลขเก่า ก็เลยไปอีกค่ะ จัดการทำใหม่โดยเราก็ตีเนียนๆ ไปทำพาสปอร์ตใหม่ด้วยเลขบัตรประชาชนใหม่ ปรากฏว่าผ่านทุกขั้นตอน ไม่มีข้อมูลใดๆขึ้นเลย จนกระทั่งสแกนนิ้ว ก็โดนเจ้าหน้าที่ผู้ชายร่างยักษ์เชิญตัวเข้าไปในห้องพิเศษ (เสมือนกูเป็นโจร) ก็นั่นแหละ ถึงได้พบปัญหาเรื่องลายนิ้วมือ ก็เหมือนเดิมค่ะ คืออธิบายไปเรื่อยๆจนเจ้าหน้าที่เข้าใจ ยอมออกพาสปอร์ตใหม่ให้ ก็เดินทางไป ญี่ปุ่น เกาหลี ด้วยเลขใหม่ พาสใหม่สบายไป

                          จนกระทั่งมามีทริปไปสิงค์โปร์อีก นึกขึ้นได้ถึงคำพูดเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าเราไปประเทศที่เคยไปมาแล้ว “อาจมีปัญหา” ในการเข้าประเทศนะ เพราะ ตปท.เค้ามีลายนิ้วมือเรา มีเลขประจำตัวเรา พอไปประเทศที่เคยไป ข้อมูลไม่ตรง อาจเจอปัญหา บลาๆ ไงล่ะทีนี้ ก็ไปติดต่อที่กงสุลฯ ซึ่งอธิบายไปแบบ จนท.ก็งงๆ มาพร้อมคำถามมากมายมหาศาล สุดท้ายหาทางออกให้เราโดย เอาสูติบัตร ทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษ (เสียค่าแปล 600 บาท) แล้วยื่นเรื่องที่กระทรวง เพื่อขอตราประทับยืนยันตัวตน ตราประทับละ 200 บาท สูติบัตรเรามีหน้าหลัง (ด้านหลังมีข้อมูลการเปลี่ยนชื่อ กับข้อมูลการเปลี่ยนบัตรประชาชน 4 บรรทัด) โดนไปอีก 400 บาท เสร็จเรื่อง ได้ตราประทับมา 2 อัน แล้วก็ไปลุ้นอีกทีว่าจะมีปัญหาไรไหม.........จบเรื่องจบราว

นี่คือเอกสารที่ได้มาจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเป็นคนออกให้ค่ะ

ด้านหน้าของสูติบัตร



ด้านหลัง (มีคำอธิบายน่ารัก ๆ อยู่ 2 บรรทัด) ส่วนด้านบนนั้นเป็นเรื่องของการเปลี่ยนชื่อ





สุดท้ายนี้ จขกท. ต้องขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใด และหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ที่เกิดในปีเดียวกัน

และเหตุผลที่ จขกท. มาเล่าเรื่องแบ่งปัน สืบเนื่องจากมีเพื่อนของเจ้าของกระทู้ต้องการรู้เรื่องราวความเป็นมาอย่างละเอียด เลยสนองความต้องการของเพื่อนโดยการตั้งกระทู้แรกในชีวิตให้กับเพื่อนของ จขกท. ถือเสียว่ากระทู้นี้ เป็นของรับขวัญให้หลานชายสุดหล่อเลยแล้วกันนะ ^^

ขอบพระคุณโชคชะตา ฟ้าลิขิต ที่ทำให้ชีวิตลูกเกิดความวุ่นวายได้ 2-3 ปีเต็มๆ ชีวิตสนุกมาก ได้พบกับเจ้าหน้าที่พิเศษหลายๆท่าน ขอบคุณในความช่วยเหลือต่างๆ บรัยยยยยยยยยยย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่