ผู้จัดการออนไลน์ | Special Scoop
โดย MGR Online เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559
http://manager.co.th/SpecialScoop/ViewNews.aspx?NewsID
แชร์ลูกโซ่ในรูปธุรกิจท่องเที่ยวแต่ได้ผลประโยชน์กลับมาอีกแล้ว มีผู้เสียหายร้อง สคบ.และ ปปง. ด้านกระทู้พันทิปลากไส้ขบวนการขายตรง “อาชีพนักท่องเที่ยว” ที่บางประเทศสั่งแบนแล้ว ขณะที่คนไทยกำลังหลงเข้าไป ส่วนแม่ทีมที่ได้ประโยชน์ออกมาถากถางและเชิญชวน “คนอยากรวย อยากสบาย” เข้ามาเป็นสมาชิก ฝั่งประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯบอก ธุรกิจอะไรแก๊งมิจฉาชีพก็มาทำเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้ แนะสังคายนากฎหมายจัดการพวกฉ้อโกงให้เด็ดขาด ส่วนใครมีปัญหาร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง
ข้อความโน้มน้าวใจแถมพ่วงด้วยการได้เป็นนักธุรกิจตามคำโฆษณา เทียบกับงานประจำที่เหน็ดเหนื่อย จนทำให้ใครหลายๆ คนอดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปร่วมกระแส You should b

ที่กำลังมาแรงขณะนี้ ซึ่งมีคนชอบเที่ยวหลายคนได้เห็นการชักชวน และการแชร์ภาพทริปท่องเที่ยวต่างประเทศของเพื่อนในเฟซบุ๊ก กับหลากหลายปลายทางในฝัน ตั้งแต่หมู่เกาะมัลดีฟส์ ญี่ปุ่นแบบเจาะลึก แชงกรี-ลา ประเทศต่างๆ ในยุโรป และแทบทุกที่ทั่วโลก เรียกว่าได้เที่ยวแบบนับครั้งไม่ถ้วน
ตลอดจนการได้เห็นคนรู้จักที่ไม่ได้ร่ำรวยเหลือเฟือแต่ท่องเที่ยวเป็นว่าเล่น พร้อมคำชักชวนที่เร้าใจ อย่าง “อาชีพนักท่องเที่ยว” “เรื่องกินเรื่องเที่ยวเรื่องเดียวกัน” “เที่ยวถูกแบบไฮโซ ที่นี่เท่านั้น” ยิ่งช่วยกระตุ้นความสนใจล่อให้คนที่อยากเที่ยวเข้ามาติดกับได้เป็นอย่างดี
กระบวนการ 'จ่าย' ก่อนตกเป็นเหยื่อ
ท่ามกลางความสงสัยของคนที่ได้รับการชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิก และการโต้แย้งกันถึงพฤติการณ์ต่างๆ เข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจขายสมาชิกท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง มีผู้เสียหายรายหนึ่งในจังหวัดสงขลา มีความต้องการขอเพียงเงินสมัครค่าสมาชิกคืน เล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้ตัวเธอตกเป็นเหยื่อ เพราะความที่เป็นคนชอบท่องเที่ยว และได้ยินชื่อ Worldventures (WV) จากคนรู้จัก ซึ่งมาชักชวนเธอและเพื่อนอีก 2 คนให้สมัครเป็นสมาชิก เพื่อรับสิทธิ์ในแพกเกจท่องเที่ยว อาหาร ที่พัก และโรงแรมหรู
หลังจากอ่านรายละเอียดเงื่อนไขแล้ว ก็ได้ตกลงโดยเสียค่าสมาชิกเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ด้วยการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แต่เมื่อถึงรอบการตัดบัตรปรากฏว่ามีการตัดเงินไปเป็นจำนวน 4,000 บาท ซึ่งตัวเธอได้ติดต่อกลับไปที่คนชักชวนให้มาสมัครสมาชิก ซึ่งได้คำชี้แจงว่าค่าสมาชิกที่เพิ่มขึ้น เป็นการคิดตามอัตราเงินดอลลาร์ และหากต้องการจะเอาเงินคืนนั้น ไม่สามารถยกเลิกการสมัครได้ ต้องหาสมาชิกมาสมัครกับบริษัทเพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยค่าใช้จ่าย 4,000 บาทจะถูกตัดจากบัตรเครดิตเป็นประจำทุกเดือน
เธอบอกอีกว่า รู้สึกกังวลว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของบริษัทนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครที่ให้กรอกที่อยู่ในใบสมัครสมาชิก โดยให้ระบุว่าอาศัยอยู่ในประเทศฮ่องกง ซึ่งก็ได้โต้แย้งไปว่าที่อยู่ของตนคือประเทศไทย และยิ่งได้ทราบว่ามีการตัดเงินจากบัตรเครดิตเกินกว่าจำนวนที่มีการตกลงกันไว้ก็ยิ่งแน่ใจว่า นี่คงไม่ใช่ธุรกิจท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป ทำให้เกรงว่าจะไปพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย
“ที่สมัครเพราะคิดว่าเป็นการเที่ยวแล้วได้เงินจริงๆ ส่วนตัวไม่ถนัดกับการชวนคนมาสมัครเพิ่ม ตอนนี้สถานภาพทางการเงินไม่ดี และเดือดร้อนแน่นอนที่ต้องจ่ายรายเดือนเดือนละ 4,000 บาท ตอนเค้าพูดให้ฟังบอกว่าจ่ายรายเดือนแค่ 2,000 บาท หลายอย่างไม่เคลียร์ตามที่เขาพูด อีกอย่างคิดว่าเป็นบริษัทที่ไม่มั่นคงอย่างที่เขาบอก ให้สมัครโดยระบุประเทศที่อยู่เป็นฮ่องกง ทั้งที่เราอยู่ไทย ทำไมต้องสมัครที่ฮ่องกง มารับรู้หลังจากให้บัตรเครดิตเขาไปแล้ว”
เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ ดูส่อเค้าไปในลักษณะที่ทำให้เกิดความเสียหาย และอาจเป็นขบวนการธุรกิจแชร์ลูกโซ่ประเภทหนึ่ง และเธอก็ไม่สามารถเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วคืนมาได้ จึงเดินทางจากต่างจังหวัด เข้ามาร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่กรุงเทพฯ
“เริ่มมีผู้เสียหายเกิดขึ้นหลายราย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าธุรกิจนี้เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ แต่มันมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ขั้นตอนแรกการสมัครสมาชิก การจ่ายเงินแรกเข้า และหักค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็ล้วนต้องไปแสวงหาคนใหม่เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเพื่อต่อยอด ทำความฝันจะได้ไปเที่ยว แต่กลับต้องจ่ายเงินค่าท่องเที่ยวเป็นรายทริป"
โดยเฉพาะราคาของแพกเกจแต่ละทริปที่ให้มานั้น ผู้เสียหายระบุว่า เหมารวมเพียงแค่ค่าที่พัก อาหาร แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทางตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่าวีซ่า ภาษีสนามบิน ทำให้เห็นว่าไม่ได้เป็นราคาถูกพิเศษ สุดคุ้มดังที่กล่าวอ้าง
“
สมาชิกบางคนที่ยังเลือกทริปถูกใจไม่ได้ ก็ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือนไปเรื่อยๆ แม้จะนำพอยต์มาเป็นส่วนลดได้ แต่สุดท้ายถ้าจะไปเที่ยวก็ต้องเสียเงินก้อนอยู่ดี ส่วนการคาดหวังรายได้กลับมานั้น ขึ้นอยู่กับการหาสมาชิกใหม่มาอยู่ในทีม” เหยื่อธุรกิจท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เล่ารายละเอียดให้ฟัง
ตั้งกระทู้ไขข้อข้องใจคล้ายแชร์ลูกโซ่
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อมีผู้ออกมาตั้งข้อสงสัยในเว็บไซต์พันทิป โดยเจ้าของกระทู้ที่ใช้ User Name “ปอม นักพับกระดาษ” ตั้งกระทู้ “[สกู๊ปลากไส้] ระวัง!!! ขายตรง “อาชีพนักท่องเที่ยว” Worldventures ถูกแบนแล้วในนอร์เวย์+เรื่องราวอื่นๆ ที่เขาไม่บอกคุณ” ซึ่งการตั้งกระทู้นี้มีเจตนาให้ข้อมูล รวมทั้งเชื้อเชิญให้คนอ่านมาร่วมอภิปรายและโต้แย้งเพื่อความยุติธรรมของทุกฝ่าย
ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความชัดเจนของบริษัทแม่เจ้าของธุรกิจนี้ ที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล ทั้งการเข้าร่วมสัมมนาของบริษัท พูดคุยโฟกัสกรุ๊ป และค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตพบว่า ผู้บรรยายจะเน้นโอกาสในการทำธุรกิจว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นตลาดที่ใหญ่มีมูลค่าสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และตัวบริษัทแม่ก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะก่อตั้งตั้งแต่ปี 2005 และได้รับรางวัลมามากมาย รวมทั้งเป็นพาร์ตเนอร์กับ Agoda เว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ยอดนิยมอีกด้วย โดยข้อเสนอในการทำธุรกิจมี 2 รูปแบบคือ
1. แบบ Gold เที่ยวถูก เที่ยวหรู เน้นตะลุยเที่ยวแบบเกินคุ้ม ซึ่งผู้บรรยายไม่ได้เน้นในโปรแกรมนี้ และไม่ได้ระบุค่าสมัคร
2. แบบ Platinum เที่ยวถูก เที่ยวหรู และมีรายได้ โดยต้องจ่ายค่าสมัครแรกเข้า 515 + ค่ารายเดือน 115 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าสมัครจะกลายเป็น points สะสมไว้ในบัญชี นำมาใช้เป็นส่วนลดค่าทริปท่องเที่ยวให้ถูกลงไปอีก
ยิ่งมีการเติบโตของทีมซ้ายขวาอย่างสมดุลมากเท่าไร ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้นเป็นทวีคูณ และได้รับการเลื่อนตำแหน่งตั้งแต่ระดับ DIR, MD ไปจนถึง IMD (International Marketing Director) ที่ต้องมีสมาชิกทีมซ้าย/ขวา 1,500 คน ซึ่งระดับนี้อ้างว่ามีรายได้ถึงเดือนละ 5 ล้านบาท
ส่วนใครที่สมัครแล้วแต่อยากยกเลิกก็สามารถทำได้ โดยบริษัทฯ จะคืนค่าสมัครให้ หรือหากพ้นช่วงการจ่ายคืนที่กำหนด ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่หยุดจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน
เมื่อสมัครแล้วก็เลือกทริปไปเที่ยวได้ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีบริษัทในเครือชื่อ ROVIA ทำหน้าที่เหมือน Agoda คือจองโรงแรม หรือรถเช่า ผู้บรรยายให้ข้อมูลว่าใน 1 ปี มีทริปให้เลือกกว่า 1 หมื่นทริปจากทุกมุมโลก แต่ถ้าจะให้ประหยัดแบบจ่าย 2 ดาว นอนโรงแรม 5 ดาวพร้อมสิทธิพิเศษจะต้องไปในช่วงที่จัดเท่านั้น ยกตัวอย่างทริป ซานโตรินี 3 คืน 3,500 บาท ฮอกไกโดหรือโตเกียว 3 คืนประมาณ 13,000-14,000 บาท ซึ่งได้นอนโรงแรม 4-5 ดาวทั้งหมด
“ฟังจนถึงตอนนี้ คนมีความรู้ด้านธุรกิจเบื้องต้นก็อาจจะคิดไปว่ามันน่าจะเป็นสหกรณ์การท่องเที่ยว เขาเป็น Wholesale ที่ไม่ต้องมีสินค้า เขาระดมเงินจากสมาชิกไปก่อนเพื่อซื้อห้องพักเป็นล็อตใหญ่ๆ ซื้อล่วงหน้าไว้นานๆ กับโรงแรม ด้วยอำนาจแห่ง economy of scale และอำนาจการต่อรองระดับนี้ ทำให้เขาได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อปลีก”
บางประเทศสั่งแบนแล้ว
แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงบริษัทแม่ คือบริษัท Worldventures (WV) ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกามา 10 ปี ซึ่งผู้บรรยายให้ข้อมูลว่ามีสมาชิกทั่วโลกใน 28 ประเทศกว่า 2 ล้านคน และได้รับรางวัลจากเวที World Travel Awards ถึง 7 รางวัล บริษัทแม่มีที่ตั้งชัดเจน เชื่อถือได้ และมีลูกจ้างประจำกว่า 2 หมื่นคนในสหรัฐอเมริกา
แต่เจ้าของกระทู้ได้ไปขุดคุ้ยข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ว่า WV ยังมีข้อกังขาเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะบริษัท World Travel Awards ที่จัดอันดับให้รางวัลนั้น เป็นธุรกิจที่หากินกับการให้รางวัล อยู่ได้ด้วยเงินสปอนเซอร์ และสังเกตได้ว่าบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์มักจะได้รับรางวัลอยู่เสมอ แถมตัวรางวัลเองก็มีถึง 998 รางวัลต่อปี ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยในมาตรฐานของเวที และรางวัลที่ WV อ้างว่าได้รับ ในความเป็นจริงนั้น เป็นรางวัลที่ให้กับ ROVIA ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
จากข้อมูลของเจ้าของกระทู้ ยืนยันอีกว่า “ประเทศนอร์เวย์ประกาศแบน WV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นธุรกิจขายตรงคลับท่องเที่ยวที่รายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการท่องเที่ยว แต่มาจากการหาสมาชิกต่อเป็นทอด รวมทั้งมีข่าวทำนองเดียวกันที่ประเทศแอฟริกาใต้ จีน และไต้หวัน และประเด็นที่น่าสนใจคือกรณีที่มาเลเซียออกมาถามถึงใบอนุญาตการท่องเที่ยว ซึ่ง WV กลับบอกว่าบริษัทไม่ได้อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว เพียงแต่ขายครีมกันแดด เสื้อยืด หรือป้ายน้ำเงินเท่านั้น รวมทั้ง WV ไม่มีจดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทย เงินค่าสมาชิกคนไทยไหลไปที่สาขาฮ่องกง!”
ส่วนการขอยกเลิกสมาชิกพร้อมขอเงินคืนนั้น ต้องทำภายใน 14 วัน และจากที่เจ้าของกระทู้ค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีคนแนะนำให้ทำภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการใช้ลูกเล่นในทีม ทำให้การยกเลิกและขอคืนเงินล่าช้า
นอกจากนี้การจองโรงแรมระดับ 4-5 ดาวในราคา 2 ดาว เจ้าของกระทู้ยังออกมาเสริมว่า สามารถหาได้ด้วยเว็บจองโรงแรมทั่วไป ซึ่งก็มีระบบสะสมแต้มให้ใช้ได้ในอนาคต โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกแรกเข้า และรายเดือนอีกถึงเดือนละ 4,000 บาท แถมค่าทริปของสมาชิก WV ที่ระบุว่าถูกมากนั้น ในความเป็นจริงคือไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าวีซ่า
“ถูกยังไงไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และที่สำคัญคือไม่รวมเงินที่หยอดให้เขาไปเดือนละ 4,000 บาทด้วย ลองคิดดูละกันครับ หยอดไป 10 เดือนก็จ่ายไป 4 หมื่นบาทแล้ว เพื่อให้ได้ชื่อว่าฉันได้เที่ยวระดับ 5 ดาวในราคา 2 ดาว แม้ว่าเงิน 4,000 บาทที่เสียเป็นค่าสมาชิกจะถูกปรับเป็นแต้มสะสมไว้ใช้ลดหย่อนค่าทริปได้ แต่แต้มสะสมพวกนี้มีอายุ 12 เดือนครับ และการลดหย่อนค่าทริปทำได้จำกัด ไม่สามารถใช้แต้มได้ทั้งหมด ยิ่งค่าสมัคร 18,000 ยิ่งไม่ควรนับรวมครับ เพราะมันเป็นค่าสมัคร”
เปิดโปงแชร์ลูกโซ่รูปธุรกิจท่องเที่ยว เหยื่อหลงกลโฆษณา “เที่ยวฟรีมีรายได้” ?
โดย MGR Online เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2559
http://manager.co.th/SpecialScoop/ViewNews.aspx?NewsID
แชร์ลูกโซ่ในรูปธุรกิจท่องเที่ยวแต่ได้ผลประโยชน์กลับมาอีกแล้ว มีผู้เสียหายร้อง สคบ.และ ปปง. ด้านกระทู้พันทิปลากไส้ขบวนการขายตรง “อาชีพนักท่องเที่ยว” ที่บางประเทศสั่งแบนแล้ว ขณะที่คนไทยกำลังหลงเข้าไป ส่วนแม่ทีมที่ได้ประโยชน์ออกมาถากถางและเชิญชวน “คนอยากรวย อยากสบาย” เข้ามาเป็นสมาชิก ฝั่งประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯบอก ธุรกิจอะไรแก๊งมิจฉาชีพก็มาทำเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้ แนะสังคายนากฎหมายจัดการพวกฉ้อโกงให้เด็ดขาด ส่วนใครมีปัญหาร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง
ข้อความโน้มน้าวใจแถมพ่วงด้วยการได้เป็นนักธุรกิจตามคำโฆษณา เทียบกับงานประจำที่เหน็ดเหนื่อย จนทำให้ใครหลายๆ คนอดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปร่วมกระแส You should b
ตลอดจนการได้เห็นคนรู้จักที่ไม่ได้ร่ำรวยเหลือเฟือแต่ท่องเที่ยวเป็นว่าเล่น พร้อมคำชักชวนที่เร้าใจ อย่าง “อาชีพนักท่องเที่ยว” “เรื่องกินเรื่องเที่ยวเรื่องเดียวกัน” “เที่ยวถูกแบบไฮโซ ที่นี่เท่านั้น” ยิ่งช่วยกระตุ้นความสนใจล่อให้คนที่อยากเที่ยวเข้ามาติดกับได้เป็นอย่างดี
กระบวนการ 'จ่าย' ก่อนตกเป็นเหยื่อ
ท่ามกลางความสงสัยของคนที่ได้รับการชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิก และการโต้แย้งกันถึงพฤติการณ์ต่างๆ เข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจขายสมาชิกท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง มีผู้เสียหายรายหนึ่งในจังหวัดสงขลา มีความต้องการขอเพียงเงินสมัครค่าสมาชิกคืน เล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้ตัวเธอตกเป็นเหยื่อ เพราะความที่เป็นคนชอบท่องเที่ยว และได้ยินชื่อ Worldventures (WV) จากคนรู้จัก ซึ่งมาชักชวนเธอและเพื่อนอีก 2 คนให้สมัครเป็นสมาชิก เพื่อรับสิทธิ์ในแพกเกจท่องเที่ยว อาหาร ที่พัก และโรงแรมหรู
หลังจากอ่านรายละเอียดเงื่อนไขแล้ว ก็ได้ตกลงโดยเสียค่าสมาชิกเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ด้วยการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แต่เมื่อถึงรอบการตัดบัตรปรากฏว่ามีการตัดเงินไปเป็นจำนวน 4,000 บาท ซึ่งตัวเธอได้ติดต่อกลับไปที่คนชักชวนให้มาสมัครสมาชิก ซึ่งได้คำชี้แจงว่าค่าสมาชิกที่เพิ่มขึ้น เป็นการคิดตามอัตราเงินดอลลาร์ และหากต้องการจะเอาเงินคืนนั้น ไม่สามารถยกเลิกการสมัครได้ ต้องหาสมาชิกมาสมัครกับบริษัทเพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยค่าใช้จ่าย 4,000 บาทจะถูกตัดจากบัตรเครดิตเป็นประจำทุกเดือน
เธอบอกอีกว่า รู้สึกกังวลว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของบริษัทนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครที่ให้กรอกที่อยู่ในใบสมัครสมาชิก โดยให้ระบุว่าอาศัยอยู่ในประเทศฮ่องกง ซึ่งก็ได้โต้แย้งไปว่าที่อยู่ของตนคือประเทศไทย และยิ่งได้ทราบว่ามีการตัดเงินจากบัตรเครดิตเกินกว่าจำนวนที่มีการตกลงกันไว้ก็ยิ่งแน่ใจว่า นี่คงไม่ใช่ธุรกิจท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป ทำให้เกรงว่าจะไปพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมาย
“ที่สมัครเพราะคิดว่าเป็นการเที่ยวแล้วได้เงินจริงๆ ส่วนตัวไม่ถนัดกับการชวนคนมาสมัครเพิ่ม ตอนนี้สถานภาพทางการเงินไม่ดี และเดือดร้อนแน่นอนที่ต้องจ่ายรายเดือนเดือนละ 4,000 บาท ตอนเค้าพูดให้ฟังบอกว่าจ่ายรายเดือนแค่ 2,000 บาท หลายอย่างไม่เคลียร์ตามที่เขาพูด อีกอย่างคิดว่าเป็นบริษัทที่ไม่มั่นคงอย่างที่เขาบอก ให้สมัครโดยระบุประเทศที่อยู่เป็นฮ่องกง ทั้งที่เราอยู่ไทย ทำไมต้องสมัครที่ฮ่องกง มารับรู้หลังจากให้บัตรเครดิตเขาไปแล้ว”
เมื่อเหตุการณ์ต่างๆ ดูส่อเค้าไปในลักษณะที่ทำให้เกิดความเสียหาย และอาจเป็นขบวนการธุรกิจแชร์ลูกโซ่ประเภทหนึ่ง และเธอก็ไม่สามารถเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วคืนมาได้ จึงเดินทางจากต่างจังหวัด เข้ามาร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่กรุงเทพฯ
“เริ่มมีผู้เสียหายเกิดขึ้นหลายราย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าธุรกิจนี้เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ แต่มันมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ขั้นตอนแรกการสมัครสมาชิก การจ่ายเงินแรกเข้า และหักค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็ล้วนต้องไปแสวงหาคนใหม่เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเพื่อต่อยอด ทำความฝันจะได้ไปเที่ยว แต่กลับต้องจ่ายเงินค่าท่องเที่ยวเป็นรายทริป"
โดยเฉพาะราคาของแพกเกจแต่ละทริปที่ให้มานั้น ผู้เสียหายระบุว่า เหมารวมเพียงแค่ค่าที่พัก อาหาร แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทางตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่าวีซ่า ภาษีสนามบิน ทำให้เห็นว่าไม่ได้เป็นราคาถูกพิเศษ สุดคุ้มดังที่กล่าวอ้าง
“สมาชิกบางคนที่ยังเลือกทริปถูกใจไม่ได้ ก็ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือนไปเรื่อยๆ แม้จะนำพอยต์มาเป็นส่วนลดได้ แต่สุดท้ายถ้าจะไปเที่ยวก็ต้องเสียเงินก้อนอยู่ดี ส่วนการคาดหวังรายได้กลับมานั้น ขึ้นอยู่กับการหาสมาชิกใหม่มาอยู่ในทีม” เหยื่อธุรกิจท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เล่ารายละเอียดให้ฟัง
ตั้งกระทู้ไขข้อข้องใจคล้ายแชร์ลูกโซ่
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อมีผู้ออกมาตั้งข้อสงสัยในเว็บไซต์พันทิป โดยเจ้าของกระทู้ที่ใช้ User Name “ปอม นักพับกระดาษ” ตั้งกระทู้ “[สกู๊ปลากไส้] ระวัง!!! ขายตรง “อาชีพนักท่องเที่ยว” Worldventures ถูกแบนแล้วในนอร์เวย์+เรื่องราวอื่นๆ ที่เขาไม่บอกคุณ” ซึ่งการตั้งกระทู้นี้มีเจตนาให้ข้อมูล รวมทั้งเชื้อเชิญให้คนอ่านมาร่วมอภิปรายและโต้แย้งเพื่อความยุติธรรมของทุกฝ่าย
ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความชัดเจนของบริษัทแม่เจ้าของธุรกิจนี้ ที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล ทั้งการเข้าร่วมสัมมนาของบริษัท พูดคุยโฟกัสกรุ๊ป และค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตพบว่า ผู้บรรยายจะเน้นโอกาสในการทำธุรกิจว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นตลาดที่ใหญ่มีมูลค่าสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และตัวบริษัทแม่ก็มีความน่าเชื่อถือ เพราะก่อตั้งตั้งแต่ปี 2005 และได้รับรางวัลมามากมาย รวมทั้งเป็นพาร์ตเนอร์กับ Agoda เว็บไซต์จองที่พักออนไลน์ยอดนิยมอีกด้วย โดยข้อเสนอในการทำธุรกิจมี 2 รูปแบบคือ
1. แบบ Gold เที่ยวถูก เที่ยวหรู เน้นตะลุยเที่ยวแบบเกินคุ้ม ซึ่งผู้บรรยายไม่ได้เน้นในโปรแกรมนี้ และไม่ได้ระบุค่าสมัคร
2. แบบ Platinum เที่ยวถูก เที่ยวหรู และมีรายได้ โดยต้องจ่ายค่าสมัครแรกเข้า 515 + ค่ารายเดือน 115 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าสมัครจะกลายเป็น points สะสมไว้ในบัญชี นำมาใช้เป็นส่วนลดค่าทริปท่องเที่ยวให้ถูกลงไปอีก
ยิ่งมีการเติบโตของทีมซ้ายขวาอย่างสมดุลมากเท่าไร ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้นเป็นทวีคูณ และได้รับการเลื่อนตำแหน่งตั้งแต่ระดับ DIR, MD ไปจนถึง IMD (International Marketing Director) ที่ต้องมีสมาชิกทีมซ้าย/ขวา 1,500 คน ซึ่งระดับนี้อ้างว่ามีรายได้ถึงเดือนละ 5 ล้านบาท
ส่วนใครที่สมัครแล้วแต่อยากยกเลิกก็สามารถทำได้ โดยบริษัทฯ จะคืนค่าสมัครให้ หรือหากพ้นช่วงการจ่ายคืนที่กำหนด ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่หยุดจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน
เมื่อสมัครแล้วก็เลือกทริปไปเที่ยวได้ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีบริษัทในเครือชื่อ ROVIA ทำหน้าที่เหมือน Agoda คือจองโรงแรม หรือรถเช่า ผู้บรรยายให้ข้อมูลว่าใน 1 ปี มีทริปให้เลือกกว่า 1 หมื่นทริปจากทุกมุมโลก แต่ถ้าจะให้ประหยัดแบบจ่าย 2 ดาว นอนโรงแรม 5 ดาวพร้อมสิทธิพิเศษจะต้องไปในช่วงที่จัดเท่านั้น ยกตัวอย่างทริป ซานโตรินี 3 คืน 3,500 บาท ฮอกไกโดหรือโตเกียว 3 คืนประมาณ 13,000-14,000 บาท ซึ่งได้นอนโรงแรม 4-5 ดาวทั้งหมด
“ฟังจนถึงตอนนี้ คนมีความรู้ด้านธุรกิจเบื้องต้นก็อาจจะคิดไปว่ามันน่าจะเป็นสหกรณ์การท่องเที่ยว เขาเป็น Wholesale ที่ไม่ต้องมีสินค้า เขาระดมเงินจากสมาชิกไปก่อนเพื่อซื้อห้องพักเป็นล็อตใหญ่ๆ ซื้อล่วงหน้าไว้นานๆ กับโรงแรม ด้วยอำนาจแห่ง economy of scale และอำนาจการต่อรองระดับนี้ ทำให้เขาได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อปลีก”
บางประเทศสั่งแบนแล้ว
แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงบริษัทแม่ คือบริษัท Worldventures (WV) ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกามา 10 ปี ซึ่งผู้บรรยายให้ข้อมูลว่ามีสมาชิกทั่วโลกใน 28 ประเทศกว่า 2 ล้านคน และได้รับรางวัลจากเวที World Travel Awards ถึง 7 รางวัล บริษัทแม่มีที่ตั้งชัดเจน เชื่อถือได้ และมีลูกจ้างประจำกว่า 2 หมื่นคนในสหรัฐอเมริกา
แต่เจ้าของกระทู้ได้ไปขุดคุ้ยข้อมูลเพิ่มเติมมาได้ว่า WV ยังมีข้อกังขาเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะบริษัท World Travel Awards ที่จัดอันดับให้รางวัลนั้น เป็นธุรกิจที่หากินกับการให้รางวัล อยู่ได้ด้วยเงินสปอนเซอร์ และสังเกตได้ว่าบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์มักจะได้รับรางวัลอยู่เสมอ แถมตัวรางวัลเองก็มีถึง 998 รางวัลต่อปี ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยในมาตรฐานของเวที และรางวัลที่ WV อ้างว่าได้รับ ในความเป็นจริงนั้น เป็นรางวัลที่ให้กับ ROVIA ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
จากข้อมูลของเจ้าของกระทู้ ยืนยันอีกว่า “ประเทศนอร์เวย์ประกาศแบน WV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นธุรกิจขายตรงคลับท่องเที่ยวที่รายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการท่องเที่ยว แต่มาจากการหาสมาชิกต่อเป็นทอด รวมทั้งมีข่าวทำนองเดียวกันที่ประเทศแอฟริกาใต้ จีน และไต้หวัน และประเด็นที่น่าสนใจคือกรณีที่มาเลเซียออกมาถามถึงใบอนุญาตการท่องเที่ยว ซึ่ง WV กลับบอกว่าบริษัทไม่ได้อยู่ในธุรกิจการท่องเที่ยว เพียงแต่ขายครีมกันแดด เสื้อยืด หรือป้ายน้ำเงินเท่านั้น รวมทั้ง WV ไม่มีจดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทย เงินค่าสมาชิกคนไทยไหลไปที่สาขาฮ่องกง!”
ส่วนการขอยกเลิกสมาชิกพร้อมขอเงินคืนนั้น ต้องทำภายใน 14 วัน และจากที่เจ้าของกระทู้ค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีคนแนะนำให้ทำภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการใช้ลูกเล่นในทีม ทำให้การยกเลิกและขอคืนเงินล่าช้า
นอกจากนี้การจองโรงแรมระดับ 4-5 ดาวในราคา 2 ดาว เจ้าของกระทู้ยังออกมาเสริมว่า สามารถหาได้ด้วยเว็บจองโรงแรมทั่วไป ซึ่งก็มีระบบสะสมแต้มให้ใช้ได้ในอนาคต โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกแรกเข้า และรายเดือนอีกถึงเดือนละ 4,000 บาท แถมค่าทริปของสมาชิก WV ที่ระบุว่าถูกมากนั้น ในความเป็นจริงคือไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าวีซ่า
“ถูกยังไงไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และที่สำคัญคือไม่รวมเงินที่หยอดให้เขาไปเดือนละ 4,000 บาทด้วย ลองคิดดูละกันครับ หยอดไป 10 เดือนก็จ่ายไป 4 หมื่นบาทแล้ว เพื่อให้ได้ชื่อว่าฉันได้เที่ยวระดับ 5 ดาวในราคา 2 ดาว แม้ว่าเงิน 4,000 บาทที่เสียเป็นค่าสมาชิกจะถูกปรับเป็นแต้มสะสมไว้ใช้ลดหย่อนค่าทริปได้ แต่แต้มสะสมพวกนี้มีอายุ 12 เดือนครับ และการลดหย่อนค่าทริปทำได้จำกัด ไม่สามารถใช้แต้มได้ทั้งหมด ยิ่งค่าสมัคร 18,000 ยิ่งไม่ควรนับรวมครับ เพราะมันเป็นค่าสมัคร”