"วังเวียงที่หลายคนยังไม่รู้"
ถ้าถามว่าทำไมตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ อาจเพราะพวกเราไปแบบไม่รู้อะไรเลย มีข้อมูลสำหรับทริปนี้น้อยมากกก และเป็นการไปเที่ยวครั้งแรกที่ย่างขาออกนอกประเทศตัวเอง ก็เลยอยากมาแบ่งปันข้อมูลและก็บรรยากาศในทริปนี้กันสำหรับคนที่อยากไปและกำลังวางแผน
*** อย่าลืม Passport ***
ทริปนี้พวกเราไปช่วงหน้าฝน ช่วง 18- 21 สิงหาคม 2016 กำลังฉุ่มฉ่ำ หรือถ้าใครไม่ชอบเที่ยวหน้าฝนคงมองว่าเฉอะแฉะ ถ้าถามว่าเที่ยวหน้าฝนจะสนุกมั้ย สนุกป่นหรรษาเลยล่ะ

เริ่มเดินทางกัน เดินทางวันที่ 18 รอบนี้พวกเราไปแบบไฮๆ นั่งเครื่องกันไป เนื่องจากเจอโปรถูกก็จัดไปลง"อุดร" รอบ 2 ทุ่มครึ่ง ถึงอุดร 3 ทุ่มครึ่ง ถ้าถามว่าถึงดึกจะไปรอตรงไหน ไปยังไง แนะนำเลยว่าถึงสนามบินอุดร ให้ไปช่องขายตั๋วรถตู้กับแท๊กซี่
ช่องขายตั๋วรถตู้ / Taxi อยู่ทางขวามือ ก่อนเราออกจากประตูทางออก ราคารถตู้ ที่พวกเรานั่งไปลงสถานีขนส่งอุดร ค่าเสียหาย 80 บาท / ส่วน Taxi เหมา 200 บาท แต่แท๊กซี่ดึกๆจะมีน้อย (ถ้าสงสัยลองถามคนขายตั๋ว ลุงเขาาจะแนะนำแล้วให้เราเลือกว่าจะรถตู้ดีหรือTaxiดี ลุงๆใจดีมาก)
รถตู้ที่จะพาพวกเราไปส่งที่สถานีขนส่งอุดร ใครจะลงที่ไหนก็แจ้งคนขับอีกรอบ
Taxi ที่ให้บริการ

บขส อุดร
นั่งรถประมาณ 10 นาที ก็จะมาถึง บขส รถตู้จะจอดฝั่งตรงข้ามขนส่ง ซอยเข้า บขส จะมีเซเว่นอยู่ปากซอย เดินตรงเข้าไปก็จะพบสถานีขนส่งอุดร ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พักก็มองหาได้ง่ายๆ อย่างที่พวกเราไปพักอยู่ตรงข้าม บขส อุดร
"โรงแรมศรีตระการ"

]
โรงแรมศรีตระการ มีราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท ในห้องพักมีทั้ง เครื่องอาบน้ำอุ่น โทรทัศน์ แอร์ ตู้เย็น สะอาด ใกล้ๆกับขนส่ง ยังมีโรงแรมใกล้ก็มีอีกหลายโรงแรม อย่างในซอยขนส่ง / ตรงข้ามเซนทรัลอุดร (ขนส่งอยู่ใกล้เซนทรัลอุดรมาก)

ได้ที่พักเหมาะสำหรับการรีบไปจองตั๋วเข้าวังเวียงแล้ว หายห่วง555 ไม่ต้องรีบตื่นไปจองนะ เพราะ บขส.ช่องขายตั๋วไปวังเวียงเปิด 07.00 น.
แต่ถ้ากลัวไม่ทัน แนะนำครับง่ายๆ มองทางซ้ายมือจากประตูทางออก บขส . จะเห็นห้องแถวขายตั๋วของ บขส.99 (ตามรูปครับ) เดินไปครับอย่ารอช้าไปจองตั๋วไปวังเวียงที่นี่ได้เลย ราคาตั๋ว 370 บาท /คน เปิดขายตั่งแต่ตี 5 จองเสร็จฝากของแล้วเดินออกไปหาไรกินแบบชิกๆ หรือจะกลับไปกลิ้งต่อในห้อง เพราะรถออก 08.30 น. ช่อง 14 รถออกค่อนข้างตรงเวลานะ
พี่ขายตั๋ว นั่งแบบชิกๆขายตั๋วอยู่คนเดียว พี่แกจะให้กรอกทุกอย่างเอง (งานพี่แกเยอะ)

ระหว่างรอ พวกเราก็ไปจัดโจ๊กมากันคนละถ้วย(ใหญ่) ใครจะกินเปียกเส้นก็มีนะ อร่อยด้วย ร้านอยู่ข้างเซเว่นในซอยบขส ขายตั้งแต่เช้า อ่ออีกอย่างแนะนำว่า ซื้อขนมจากไทยไปนะคุ้มกว่ามั้ยไม่รู้ แต่น่าจะคุ้มกว่า 55 วังเวียงก็เอาขนมจากไทยนี่และไปขาย
มาแล้วรถที่จะพาเราไป วังเวียง รถมาประมาณแปดโมง ดูเลขที่นั่งก็พุ่งตรงไปขึ้นรถ รอผู้โดยสารครบล้อหมุนๆๆ คนขับจะอยู่ฝั่งซ้ายละไม่ต้องตกใจ รถออกกระเป๋ารถเมย์จะแจกเอกสารเข้า - ออก กรอกเลยครับ (แนะนำว่าพกปากกาไป) กรอกทั้งขาเข้าขา-ออก ทั้งฝั่งไทย ฝั่งลาว จะได้ไม่เสียเวลาทั้ง เราและ คนอื่น พอรถออกไปสักประมาณชั่วโมง จะไปแวะตรงบขส.หนองคายรับคน ขับยาวไป ประมาณ 1.30 (น่าจะได้มั่ง) จะถึงด่านฝั่งไทย กระเป๋ารถจะบอกพวกเราตอนใกล้ถึงด่านให้เตรียมตัว ลงไว ต่อคิวไว เสร็จไว ใครปวดฉี่ก็เข้าก่อนตรวจอยู่ทางซ้ายมือก่อนเข้าประตูตรวจ Passport ค่าเสียหาย 5 บาท (ถ้าใครข้ามไปแล้วก็เดินย้อนกลับมาเข้าห้องน้ำได้นะ) ตรวจขาออกไทยเสร็จ รถจะจอดรออยู่ ด้านหน้าแล้ว มองดีๆ

ต่อขึ้นรถนั่งไปอีกสักครู่ ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขง กระเป๋าจะบอกอีกรอบว่าถึงด่านตรวจเข้าลาว ก็เหมือนเดิมลงไปต่อคิว (แนะนำเลือกแถวที่คนลาวเยอะๆจะไว (คนลาวจะถือPassport เล่มสีน้ำเงินออกฟ้าๆ) และอีกอย่างแนะนำว่าอย่าเพิ่งแลกเงิน ตรวจเสร็จก็ไปซื้อ ONE WAY TICKET บัตรเข้าเมือง(คล้ายบัตร BTS ) ตู้ขายจะอยู่ตรงเกาะกลาง ใบละ 5 บาท ได้มาก็เสียบเข้าช่องบัตรก็จะถูกกลืนกินไป เรียบร้อยเข้าฝั่งลาว
มาถึงการแลกเงิน เดินผ่านช่องเข้าเมือง มองทางซ้ายมือจะเห็นธนาคารโลโก้เขียว เขียวแบงค์ก็เดินๆเข้าไปจะเห็นพนักงานแต่งตัวเรียบร้อยหน้าตาสวยๆนั่งประจำเค้าเตอร์สองคน บอกขอแลกเงินจะมีเอกสารให้กรอก
ที่ต้องกรอกก็มี 1. ชื่อ 2. เลข Passpost 3. เบอร์โทร กรอกเสร็จยื่นให้พนักงาน ถ้าถามแลกเท่าไหร่พอ พวกเราไปสองคนแลกไป 4000 บาท อัตราแลกช่วงนั้น 235 กีบ = 1 บาท ได้เงินลาวประมาณ 900,000 กีบ พอเลยเกือบเหลือ

ถ้าถามว่าทำไมมาแลกฝั่งนี้ บอกเลยว่าคุ้มกว่า เพราะแลกฝั่งลาว 235.54 แต่ฝั่งไทย 234 ต่างกันนิดหน่อยแต่ก็คุ้มกว่า แนะนำให้แลกเงินดีกว่าใช้เงินไทยนะ เพราะถ้าเราใช้เงินไทยเค้าก็ถอนเงินกีบให้เราซะส่วนใหญ่ แนะนำแลกเถอะครับ แลกเสร็จก็ขึ้นรถกันเลย อ่อถ้าใครจะเช็คอินรีบเช็คนะ อีกนิดเดียวสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มีละ ส่วนใครจะซื้อซิมอันนี้แล้วแต่ความจำเป็น เพราะที่พักส่วนใหญ่ในวังเวียงมี freewifi คราวนี้นั่งยาวๆไปเลยครับกว่าจะแวะพัก

ถึงจุดพักรถประมาณบ่ายๆ ก็มีของกินเบาๆ ตั้งแต่แซนวิส ข้าวกระเพรา มาม่า(พี่ไทย) หมูปิ้ง มันเผา ไรอีกจำไม่ได้ ถ้าถามรสชาติ อืมๆๆ แซนวิสถ้าคนเยอะไม่แนะนำ 55 ไม่ทันอุ่นขนมปังป้าแกยัดไส้ละ กระเพราก็กินได้นะแต่เหมือนฝั่งลาวจะเน้นรสชาติหวาน(เดียวจะเล่าให้ฟัง) ที่กิน ไปสามอย่าง หมูปิ้งข้าวเหนียวอร่อยสุด ข้าวเหนียวนิ่มมาก จำได้แต่ค่าเสียหายหมูปิ้ง 15,000 กีบ ค่าแซนวิสกับข้าวรู้สึกจะ 30,000 (จำไม่ได้ให้อภัยข้าเถอะ)

ข้าวไข่เจียวก็มีนะ จุดพักรถมีห้องน้ำให้เข้านะครับแต่ไม่รู้ว่าป้าคนคุมประตูห้องน้ำแกให้อะไรในการตัดสินว่าใครฟรี เพราะแกถามว่ามากกับ... น่าจะคนขับรถหรือป่าว แล้วแกก็โบกมือสะบัดๆหยอยๆว่าเข้าไปๆ สรุปฟรี ห้องน้ำก็สะอาดนะ แวะพัก 20 นาที จบ ขึ้นรถนั่งยาวๆไป ทางต่อไปคือเขา โค้งก็พอประมาณแระนะ เมารถก็อัดยา(เมารถ) นั่งกันไป วันที่พวกเราฝนตกตลอดทางไม่เห็นแม้แต่แสงแดด นั่งเย็นๆกันไปถึงวังเวียงก็ประมาณ 4 โมงเย็น ไม่รู้จะเรียก บขส หรืออะไรดี เอาเป็นว่า บขส วังเวียงแระกัน
ลงรถก็สามารถเดินตรงไปหาพี่คนขายตั๋ว เพื่อซื้อตั๋วกลับได้เลย กลับวันไหนกี่คนบอกพี่แกไป ราคาก็ 370 บาท จ่ายเป็นเงินกีบก็ 90,000 กีบต่อคน ตอนซื้อพี่เขาจะถามชื่อที่พัก เพราะวันกลับพี่เขามีบริการไปรับถึงที่พักเพื่อมาขึ้นรถ ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พัก "พี่เขาจะแนะนำว่า ถ้าได้ที่พักแล้วให้ที่พักโทรมาเบอร์ตามใบจองตั๋ว เพื่อบอกชื่อที่พักจะได้ไปรับได้" จองเสร็จสบายใจ(หึๆๆ) ซื้อเสร็จพี่แกก็มีบริการรถไปส่งที่ๆพักอีก ส่วนใครไม่มีพี่แกจะไปจอดที่โรงแรมอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ อย่างพวกเราก็ลงเพื่อวอล์คอินหาที่พัก ฝนก็ตกดีนะพกเสื้อกันฝนมา(วังเวียงก็มีขาย แต่ก่อนได้ซื้อคงเปียกเป็นลูกหมา) แนะนำพกมาถ้ามาเที่ยวหน้าฝนอย่างพวกเรา

ชีวิตมันเศร้าฝนก็ตก ที่พักก็ไม่มี T..T เดินหากันไป พวกเราอยากได้ติดแม่น้ำซอง พวกเราก็เดินเข้าซอยลงไปหา เดินถามไปหลายที่ มีหลากหลายราคา แล้วแต่ชอบนะอันนี้ แต่พวกเรามาได้ที่ " Nam Song Garden "
[SR] "วังเวียงที่หลายคนยังไม่รู้"
ถ้าถามว่าทำไมตั้งชื่อกระทู้แบบนี้ อาจเพราะพวกเราไปแบบไม่รู้อะไรเลย มีข้อมูลสำหรับทริปนี้น้อยมากกก และเป็นการไปเที่ยวครั้งแรกที่ย่างขาออกนอกประเทศตัวเอง ก็เลยอยากมาแบ่งปันข้อมูลและก็บรรยากาศในทริปนี้กันสำหรับคนที่อยากไปและกำลังวางแผน
*** อย่าลืม Passport ***
ทริปนี้พวกเราไปช่วงหน้าฝน ช่วง 18- 21 สิงหาคม 2016 กำลังฉุ่มฉ่ำ หรือถ้าใครไม่ชอบเที่ยวหน้าฝนคงมองว่าเฉอะแฉะ ถ้าถามว่าเที่ยวหน้าฝนจะสนุกมั้ย สนุกป่นหรรษาเลยล่ะ
เริ่มเดินทางกัน เดินทางวันที่ 18 รอบนี้พวกเราไปแบบไฮๆ นั่งเครื่องกันไป เนื่องจากเจอโปรถูกก็จัดไปลง"อุดร" รอบ 2 ทุ่มครึ่ง ถึงอุดร 3 ทุ่มครึ่ง ถ้าถามว่าถึงดึกจะไปรอตรงไหน ไปยังไง แนะนำเลยว่าถึงสนามบินอุดร ให้ไปช่องขายตั๋วรถตู้กับแท๊กซี่
ช่องขายตั๋วรถตู้ / Taxi อยู่ทางขวามือ ก่อนเราออกจากประตูทางออก ราคารถตู้ ที่พวกเรานั่งไปลงสถานีขนส่งอุดร ค่าเสียหาย 80 บาท / ส่วน Taxi เหมา 200 บาท แต่แท๊กซี่ดึกๆจะมีน้อย (ถ้าสงสัยลองถามคนขายตั๋ว ลุงเขาาจะแนะนำแล้วให้เราเลือกว่าจะรถตู้ดีหรือTaxiดี ลุงๆใจดีมาก)
รถตู้ที่จะพาพวกเราไปส่งที่สถานีขนส่งอุดร ใครจะลงที่ไหนก็แจ้งคนขับอีกรอบ
Taxi ที่ให้บริการ
บขส อุดร
นั่งรถประมาณ 10 นาที ก็จะมาถึง บขส รถตู้จะจอดฝั่งตรงข้ามขนส่ง ซอยเข้า บขส จะมีเซเว่นอยู่ปากซอย เดินตรงเข้าไปก็จะพบสถานีขนส่งอุดร ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พักก็มองหาได้ง่ายๆ อย่างที่พวกเราไปพักอยู่ตรงข้าม บขส อุดร "โรงแรมศรีตระการ"
โรงแรมศรีตระการ มีราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท ในห้องพักมีทั้ง เครื่องอาบน้ำอุ่น โทรทัศน์ แอร์ ตู้เย็น สะอาด ใกล้ๆกับขนส่ง ยังมีโรงแรมใกล้ก็มีอีกหลายโรงแรม อย่างในซอยขนส่ง / ตรงข้ามเซนทรัลอุดร (ขนส่งอยู่ใกล้เซนทรัลอุดรมาก)
ได้ที่พักเหมาะสำหรับการรีบไปจองตั๋วเข้าวังเวียงแล้ว หายห่วง555 ไม่ต้องรีบตื่นไปจองนะ เพราะ บขส.ช่องขายตั๋วไปวังเวียงเปิด 07.00 น.
แต่ถ้ากลัวไม่ทัน แนะนำครับง่ายๆ มองทางซ้ายมือจากประตูทางออก บขส . จะเห็นห้องแถวขายตั๋วของ บขส.99 (ตามรูปครับ) เดินไปครับอย่ารอช้าไปจองตั๋วไปวังเวียงที่นี่ได้เลย ราคาตั๋ว 370 บาท /คน เปิดขายตั่งแต่ตี 5 จองเสร็จฝากของแล้วเดินออกไปหาไรกินแบบชิกๆ หรือจะกลับไปกลิ้งต่อในห้อง เพราะรถออก 08.30 น. ช่อง 14 รถออกค่อนข้างตรงเวลานะ
พี่ขายตั๋ว นั่งแบบชิกๆขายตั๋วอยู่คนเดียว พี่แกจะให้กรอกทุกอย่างเอง (งานพี่แกเยอะ)
ระหว่างรอ พวกเราก็ไปจัดโจ๊กมากันคนละถ้วย(ใหญ่) ใครจะกินเปียกเส้นก็มีนะ อร่อยด้วย ร้านอยู่ข้างเซเว่นในซอยบขส ขายตั้งแต่เช้า อ่ออีกอย่างแนะนำว่า ซื้อขนมจากไทยไปนะคุ้มกว่ามั้ยไม่รู้ แต่น่าจะคุ้มกว่า 55 วังเวียงก็เอาขนมจากไทยนี่และไปขาย
มาแล้วรถที่จะพาเราไป วังเวียง รถมาประมาณแปดโมง ดูเลขที่นั่งก็พุ่งตรงไปขึ้นรถ รอผู้โดยสารครบล้อหมุนๆๆ คนขับจะอยู่ฝั่งซ้ายละไม่ต้องตกใจ รถออกกระเป๋ารถเมย์จะแจกเอกสารเข้า - ออก กรอกเลยครับ (แนะนำว่าพกปากกาไป) กรอกทั้งขาเข้าขา-ออก ทั้งฝั่งไทย ฝั่งลาว จะได้ไม่เสียเวลาทั้ง เราและ คนอื่น พอรถออกไปสักประมาณชั่วโมง จะไปแวะตรงบขส.หนองคายรับคน ขับยาวไป ประมาณ 1.30 (น่าจะได้มั่ง) จะถึงด่านฝั่งไทย กระเป๋ารถจะบอกพวกเราตอนใกล้ถึงด่านให้เตรียมตัว ลงไว ต่อคิวไว เสร็จไว ใครปวดฉี่ก็เข้าก่อนตรวจอยู่ทางซ้ายมือก่อนเข้าประตูตรวจ Passport ค่าเสียหาย 5 บาท (ถ้าใครข้ามไปแล้วก็เดินย้อนกลับมาเข้าห้องน้ำได้นะ) ตรวจขาออกไทยเสร็จ รถจะจอดรออยู่ ด้านหน้าแล้ว มองดีๆ
ต่อขึ้นรถนั่งไปอีกสักครู่ ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขง กระเป๋าจะบอกอีกรอบว่าถึงด่านตรวจเข้าลาว ก็เหมือนเดิมลงไปต่อคิว (แนะนำเลือกแถวที่คนลาวเยอะๆจะไว (คนลาวจะถือPassport เล่มสีน้ำเงินออกฟ้าๆ) และอีกอย่างแนะนำว่าอย่าเพิ่งแลกเงิน ตรวจเสร็จก็ไปซื้อ ONE WAY TICKET บัตรเข้าเมือง(คล้ายบัตร BTS ) ตู้ขายจะอยู่ตรงเกาะกลาง ใบละ 5 บาท ได้มาก็เสียบเข้าช่องบัตรก็จะถูกกลืนกินไป เรียบร้อยเข้าฝั่งลาว
มาถึงการแลกเงิน เดินผ่านช่องเข้าเมือง มองทางซ้ายมือจะเห็นธนาคารโลโก้เขียว เขียวแบงค์ก็เดินๆเข้าไปจะเห็นพนักงานแต่งตัวเรียบร้อยหน้าตาสวยๆนั่งประจำเค้าเตอร์สองคน บอกขอแลกเงินจะมีเอกสารให้กรอก ที่ต้องกรอกก็มี 1. ชื่อ 2. เลข Passpost 3. เบอร์โทร กรอกเสร็จยื่นให้พนักงาน ถ้าถามแลกเท่าไหร่พอ พวกเราไปสองคนแลกไป 4000 บาท อัตราแลกช่วงนั้น 235 กีบ = 1 บาท ได้เงินลาวประมาณ 900,000 กีบ พอเลยเกือบเหลือ
ถ้าถามว่าทำไมมาแลกฝั่งนี้ บอกเลยว่าคุ้มกว่า เพราะแลกฝั่งลาว 235.54 แต่ฝั่งไทย 234 ต่างกันนิดหน่อยแต่ก็คุ้มกว่า แนะนำให้แลกเงินดีกว่าใช้เงินไทยนะ เพราะถ้าเราใช้เงินไทยเค้าก็ถอนเงินกีบให้เราซะส่วนใหญ่ แนะนำแลกเถอะครับ แลกเสร็จก็ขึ้นรถกันเลย อ่อถ้าใครจะเช็คอินรีบเช็คนะ อีกนิดเดียวสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มีละ ส่วนใครจะซื้อซิมอันนี้แล้วแต่ความจำเป็น เพราะที่พักส่วนใหญ่ในวังเวียงมี freewifi คราวนี้นั่งยาวๆไปเลยครับกว่าจะแวะพัก
ถึงจุดพักรถประมาณบ่ายๆ ก็มีของกินเบาๆ ตั้งแต่แซนวิส ข้าวกระเพรา มาม่า(พี่ไทย) หมูปิ้ง มันเผา ไรอีกจำไม่ได้ ถ้าถามรสชาติ อืมๆๆ แซนวิสถ้าคนเยอะไม่แนะนำ 55 ไม่ทันอุ่นขนมปังป้าแกยัดไส้ละ กระเพราก็กินได้นะแต่เหมือนฝั่งลาวจะเน้นรสชาติหวาน(เดียวจะเล่าให้ฟัง) ที่กิน ไปสามอย่าง หมูปิ้งข้าวเหนียวอร่อยสุด ข้าวเหนียวนิ่มมาก จำได้แต่ค่าเสียหายหมูปิ้ง 15,000 กีบ ค่าแซนวิสกับข้าวรู้สึกจะ 30,000 (จำไม่ได้ให้อภัยข้าเถอะ)
ข้าวไข่เจียวก็มีนะ จุดพักรถมีห้องน้ำให้เข้านะครับแต่ไม่รู้ว่าป้าคนคุมประตูห้องน้ำแกให้อะไรในการตัดสินว่าใครฟรี เพราะแกถามว่ามากกับ... น่าจะคนขับรถหรือป่าว แล้วแกก็โบกมือสะบัดๆหยอยๆว่าเข้าไปๆ สรุปฟรี ห้องน้ำก็สะอาดนะ แวะพัก 20 นาที จบ ขึ้นรถนั่งยาวๆไป ทางต่อไปคือเขา โค้งก็พอประมาณแระนะ เมารถก็อัดยา(เมารถ) นั่งกันไป วันที่พวกเราฝนตกตลอดทางไม่เห็นแม้แต่แสงแดด นั่งเย็นๆกันไปถึงวังเวียงก็ประมาณ 4 โมงเย็น ไม่รู้จะเรียก บขส หรืออะไรดี เอาเป็นว่า บขส วังเวียงแระกัน
ลงรถก็สามารถเดินตรงไปหาพี่คนขายตั๋ว เพื่อซื้อตั๋วกลับได้เลย กลับวันไหนกี่คนบอกพี่แกไป ราคาก็ 370 บาท จ่ายเป็นเงินกีบก็ 90,000 กีบต่อคน ตอนซื้อพี่เขาจะถามชื่อที่พัก เพราะวันกลับพี่เขามีบริการไปรับถึงที่พักเพื่อมาขึ้นรถ ส่วนใครที่ยังไม่มีที่พัก "พี่เขาจะแนะนำว่า ถ้าได้ที่พักแล้วให้ที่พักโทรมาเบอร์ตามใบจองตั๋ว เพื่อบอกชื่อที่พักจะได้ไปรับได้" จองเสร็จสบายใจ(หึๆๆ) ซื้อเสร็จพี่แกก็มีบริการรถไปส่งที่ๆพักอีก ส่วนใครไม่มีพี่แกจะไปจอดที่โรงแรมอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ อย่างพวกเราก็ลงเพื่อวอล์คอินหาที่พัก ฝนก็ตกดีนะพกเสื้อกันฝนมา(วังเวียงก็มีขาย แต่ก่อนได้ซื้อคงเปียกเป็นลูกหมา) แนะนำพกมาถ้ามาเที่ยวหน้าฝนอย่างพวกเรา
ชีวิตมันเศร้าฝนก็ตก ที่พักก็ไม่มี T..T เดินหากันไป พวกเราอยากได้ติดแม่น้ำซอง พวกเราก็เดินเข้าซอยลงไปหา เดินถามไปหลายที่ มีหลากหลายราคา แล้วแต่ชอบนะอันนี้ แต่พวกเรามาได้ที่ " Nam Song Garden "