อ่า อ่า...ฮัลโหล ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวคนเขียนก่อนเน้อะ ชะนีอ้วนนางนี้ขอแทนตัวเองว่า "ดิฉัน" แล้วกันนะคะ เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแถวคลองหลวง อายุอานามก็ไม่มากเท่าไหร่ สถานะปัจจุบันเป็นมนุษย์ชาวเกาะ(เกาะพ่อ เกาะแม่ อิอิอิ) ว่างงานอย่างสมบูรณ์ มีงานอดิเรก คือ อ่านนิยายและเล่นดนตรี อารมณ์ขึ้นลงตามน้ำหนัก ฮาฮาฮ่า
ในวันนี้ดิฉันขอชี้แจงก่อนนะคะว่าดิฉันเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากบอกเล่าประสบการณ์การ "เจอดี" ในรูปแบบของตัวเอง ตลอดระยะในช่วงวัยรุ่นของดิฉัน มันอาจจะแปลกๆไปบ้างแต่ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่สร้างให้ดิฉันเข้มแข็งและเข้าใจการใช้ชีวิตในโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น และการอ่านเรื่องราวที่ดิฉันถ่ายทอดแลกเปลี่ยนให้ฟังนั้นท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ดิฉันก็ขอให้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลของท่านนะคะ เอ้า!!เริ่มเลยเถอะ อยากเล่า....
- เรื่องที่ 1 : บนบ้านนั้นใครกันแน่? -
เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันอาศัยอยู่บ้านทาวน์เฮาส์หลังหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านที่อาศัยอยู่มานานแล้วตั้งแต่เกิด แต่ แต่!! เรื่องมันเริ่มช่วงที่ดิฉันเรียนอยู่ม.5 - ม.6 น่าช่วง ปี 2553-2554 ดิฉันเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องพ่อข้างบนบ้าน เสียงกระทืบเท้าดังๆบ้าง เสียงเหมือนทำของหนักหล่นบ้าง ซึ่งช่วงเวลาที่ได้ยินจะอยู่ระหว่าง 01.00 เป็นต้นไปยันเช้า และแน่นอนชะนีอ้วนอย่างดิฉันนั้นเป็นวัยรุ่นปกติทั่วไปที่เมื่อเวลาปิดเทอมก็จะนั่งเล่มคอม ดูซีรีย์ อ่านนิยายไปจนดึกค่อนเช้ามืดเลยทีเดียว อิอิอิ ค่ะ!แล้วยังไงต่อคะ สิ่งที่ดิฉันได้ยินทุกวันในตอนที่อยู่ข้างล่างดึก มักจะเป็นเสียงที่กล่าวไปในข้างต้น หนักขึ้นๆๆเรื่อยๆ บางคืน ความถี่ของเสียงเหล่านั้นมาต่อกันยาวไป ยาวไป แล้วหายเงียบ คืออะไร?? ตอนแรกนั้นดิฉันกลัวมากกกกกก คิดอะไรเยอะแยะไปหมด ตอนแรกก็คิดว่าบ้านข้างๆที่เป็นเด็กวัยรุ่นเล่นกัน แต่ใครมันจะเล่นกันดึกขนาดนี้อ่ะ ซึ่งพอข้างบ้านย้ายออกไปในเวลาต่อมา เสียงนี้ยังอยู่ดี โดยสุดท้าย ทำให้ดิฉันทนไม่ไหว อารมณ์แบบก-ูทน-ไม่-ไหว-แล้ว-โว้ย รำคาญมากกก >"< คิดอย่างเดียว ทำไมมันดังตอนตูอยู่คนเดียวอีกแล้ววะ ที่เก่าเวลาเดิม ไม่ไหววววววววววววววว ดังนั้นชะนีอ้วนเกิดอารมณ์ โทสะ โมหะแล้วนั้นจึงเดินด้วยความมั่นขึ้นไปพิสูจน์ซะเลย เป็นไงเป็นกัน เจอเป็นเจอวะงานนี้
แต่!เมื่อขึ้นไปข้างบนบ้านแล้วเปิดประตูห้องพ่อข้างบนเพื่อมองหาเสียงให้ตรงตำแหน่งกลับไม่พบอะไรสักอย่าง สิ่งที่ดิฉันเห็นคือ พ่อนอนหลับสบายใจ ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่อิลูกเจอเล้ยยยย สุดท้ายดิฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วความกลัว ความโมโห ความรำคาญในติดอยู่ในใจ จึงได้เอาเรื่องนี้มาปรึกษากับพ่อและแม่ แต่พ่อไม่เชื่อนะ ส่วนแม่น่ะเชื่อ แกเลยบอกให้ไปทำบุญ แต่เมื่อไปทำบุญแล้วเสียงนั้นก็ยังคง....อยู่ต่อไป ยาวไป ยาวไป ลวกเพ่ 5555 ชะนีอ้วนก็หลอนต่อไปจนย้ายออกจากบ้านหลังนั้น
แต่เดี๋ยว!!!! เรื่องมันไม่ได้จบเพียงแค่นี้นะฮะ พ่อดิฉันที่ไม่เชื่อดิฉันในตอนแรกนั้น วันหนึ่งก่อนที่เราจะย้ายบ้านออกในช่วงเดือน มีนาคม 2555 ไปอยู่จังหวัดชลบุรี พวกเราสามคนตกลงกันว่า ดิฉันกับแม่จะนอนบ้านใหม่เอาฤกษ์ก่อน ส่วนพ่อจะกลับไปนอนและทยอยเก็บของเพิ่มที่บ้านเก่าหลังเก่าหลังเดิม เพิ่มเติมคือ เสียงกระทืบ พวกเราสามคนได้แบ่งหน้าที่กันอย่างเรียบร้อย ในช่วงกลางคืนนั้นดิฉันกับแม่ก็อยู่บ้านใหม่อย่างสุขอุรา บ้านกว้าง บ้านสดใส บ้านใหม่ไฉไลสุดๆ อิอิอิ มีความสุขกันสองแม่ลูก แต่เมื่อสักประมาณห้าทุ่มกว่า เสียงโทรศัพท์ของดิฉันดังขึ้นอย่างรัวเลยค่ะ พอดิฉันรับสายเท่านั้นหล่ะ พ่อได้รัวคำพูดยิงกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์มากๆ ซึ่งประโยคหนึ่งที่ทำเอาดิฉันขำนางมาก นางบอกว่า "พ่อว่า พ่อได้ยินแล้วหล่ะ เชื่อแล้ว มันเป็นยังงี้นี่เอง" เท่านั้นหล่ะ ดิฉันปล่อยก๊ากเลย เพราะนึกถึงตอนบอกนางครั้งแรก นางเถียงคอเป็นเอ็นเลยว่าไม่มีหร้อกกก **เสียงสูง** บ้านเราจะไปมอะไรได้ไง แต่สุดท้ายคนไม่เชื่อ ไม่เห็น ไม่ได้ยินนี่หล่ะ โดนส่งท้ายตัวคนเดียว ขำขำไปนะจ้ะ
สุดท้ายพวกเราสามคนพ่อแม่ลูกก็ได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้นอย่างถาวรและได้ปล่อยให้คนเช่าต่อไป ซึ่งคนเช่าที่เข้าไปอยู่ต่อจากดิฉันนั้น ดิฉันเคยเข้าไปถามไถ่ดูแล้ว เขาบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เพื่อความสบายใจเขาก็ได้มีการบูชาน้ำแดงและจุดธูปทุกวันพระ และผลที่ตามมา คือ เขาถูกหวยเกือบทุกงวดค่ะ !! โอ้!!คุณพระ ทำตอนเราอยู๋เราไม่นึกถึง ชวดเลย และเรื่องก็จบด้วยประการนี้นะจ้ะะะะะ
เมื่อชะนีอ้วน"เจอดี" PART 1
ในวันนี้ดิฉันขอชี้แจงก่อนนะคะว่าดิฉันเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากบอกเล่าประสบการณ์การ "เจอดี" ในรูปแบบของตัวเอง ตลอดระยะในช่วงวัยรุ่นของดิฉัน มันอาจจะแปลกๆไปบ้างแต่ก็ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่สร้างให้ดิฉันเข้มแข็งและเข้าใจการใช้ชีวิตในโลกใบนี้มากยิ่งขึ้น และการอ่านเรื่องราวที่ดิฉันถ่ายทอดแลกเปลี่ยนให้ฟังนั้นท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น ดิฉันก็ขอให้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลของท่านนะคะ เอ้า!!เริ่มเลยเถอะ อยากเล่า....
- เรื่องที่ 1 : บนบ้านนั้นใครกันแน่? -
เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันอาศัยอยู่บ้านทาวน์เฮาส์หลังหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านที่อาศัยอยู่มานานแล้วตั้งแต่เกิด แต่ แต่!! เรื่องมันเริ่มช่วงที่ดิฉันเรียนอยู่ม.5 - ม.6 น่าช่วง ปี 2553-2554 ดิฉันเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆจากห้องพ่อข้างบนบ้าน เสียงกระทืบเท้าดังๆบ้าง เสียงเหมือนทำของหนักหล่นบ้าง ซึ่งช่วงเวลาที่ได้ยินจะอยู่ระหว่าง 01.00 เป็นต้นไปยันเช้า และแน่นอนชะนีอ้วนอย่างดิฉันนั้นเป็นวัยรุ่นปกติทั่วไปที่เมื่อเวลาปิดเทอมก็จะนั่งเล่มคอม ดูซีรีย์ อ่านนิยายไปจนดึกค่อนเช้ามืดเลยทีเดียว อิอิอิ ค่ะ!แล้วยังไงต่อคะ สิ่งที่ดิฉันได้ยินทุกวันในตอนที่อยู่ข้างล่างดึก มักจะเป็นเสียงที่กล่าวไปในข้างต้น หนักขึ้นๆๆเรื่อยๆ บางคืน ความถี่ของเสียงเหล่านั้นมาต่อกันยาวไป ยาวไป แล้วหายเงียบ คืออะไร?? ตอนแรกนั้นดิฉันกลัวมากกกกกก คิดอะไรเยอะแยะไปหมด ตอนแรกก็คิดว่าบ้านข้างๆที่เป็นเด็กวัยรุ่นเล่นกัน แต่ใครมันจะเล่นกันดึกขนาดนี้อ่ะ ซึ่งพอข้างบ้านย้ายออกไปในเวลาต่อมา เสียงนี้ยังอยู่ดี โดยสุดท้าย ทำให้ดิฉันทนไม่ไหว อารมณ์แบบก-ูทน-ไม่-ไหว-แล้ว-โว้ย รำคาญมากกก >"< คิดอย่างเดียว ทำไมมันดังตอนตูอยู่คนเดียวอีกแล้ววะ ที่เก่าเวลาเดิม ไม่ไหววววววววววววววว ดังนั้นชะนีอ้วนเกิดอารมณ์ โทสะ โมหะแล้วนั้นจึงเดินด้วยความมั่นขึ้นไปพิสูจน์ซะเลย เป็นไงเป็นกัน เจอเป็นเจอวะงานนี้
แต่!เมื่อขึ้นไปข้างบนบ้านแล้วเปิดประตูห้องพ่อข้างบนเพื่อมองหาเสียงให้ตรงตำแหน่งกลับไม่พบอะไรสักอย่าง สิ่งที่ดิฉันเห็นคือ พ่อนอนหลับสบายใจ ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่อิลูกเจอเล้ยยยย สุดท้ายดิฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วความกลัว ความโมโห ความรำคาญในติดอยู่ในใจ จึงได้เอาเรื่องนี้มาปรึกษากับพ่อและแม่ แต่พ่อไม่เชื่อนะ ส่วนแม่น่ะเชื่อ แกเลยบอกให้ไปทำบุญ แต่เมื่อไปทำบุญแล้วเสียงนั้นก็ยังคง....อยู่ต่อไป ยาวไป ยาวไป ลวกเพ่ 5555 ชะนีอ้วนก็หลอนต่อไปจนย้ายออกจากบ้านหลังนั้น
แต่เดี๋ยว!!!! เรื่องมันไม่ได้จบเพียงแค่นี้นะฮะ พ่อดิฉันที่ไม่เชื่อดิฉันในตอนแรกนั้น วันหนึ่งก่อนที่เราจะย้ายบ้านออกในช่วงเดือน มีนาคม 2555 ไปอยู่จังหวัดชลบุรี พวกเราสามคนตกลงกันว่า ดิฉันกับแม่จะนอนบ้านใหม่เอาฤกษ์ก่อน ส่วนพ่อจะกลับไปนอนและทยอยเก็บของเพิ่มที่บ้านเก่าหลังเก่าหลังเดิม เพิ่มเติมคือ เสียงกระทืบ พวกเราสามคนได้แบ่งหน้าที่กันอย่างเรียบร้อย ในช่วงกลางคืนนั้นดิฉันกับแม่ก็อยู่บ้านใหม่อย่างสุขอุรา บ้านกว้าง บ้านสดใส บ้านใหม่ไฉไลสุดๆ อิอิอิ มีความสุขกันสองแม่ลูก แต่เมื่อสักประมาณห้าทุ่มกว่า เสียงโทรศัพท์ของดิฉันดังขึ้นอย่างรัวเลยค่ะ พอดิฉันรับสายเท่านั้นหล่ะ พ่อได้รัวคำพูดยิงกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์มากๆ ซึ่งประโยคหนึ่งที่ทำเอาดิฉันขำนางมาก นางบอกว่า "พ่อว่า พ่อได้ยินแล้วหล่ะ เชื่อแล้ว มันเป็นยังงี้นี่เอง" เท่านั้นหล่ะ ดิฉันปล่อยก๊ากเลย เพราะนึกถึงตอนบอกนางครั้งแรก นางเถียงคอเป็นเอ็นเลยว่าไม่มีหร้อกกก **เสียงสูง** บ้านเราจะไปมอะไรได้ไง แต่สุดท้ายคนไม่เชื่อ ไม่เห็น ไม่ได้ยินนี่หล่ะ โดนส่งท้ายตัวคนเดียว ขำขำไปนะจ้ะ
สุดท้ายพวกเราสามคนพ่อแม่ลูกก็ได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้นอย่างถาวรและได้ปล่อยให้คนเช่าต่อไป ซึ่งคนเช่าที่เข้าไปอยู่ต่อจากดิฉันนั้น ดิฉันเคยเข้าไปถามไถ่ดูแล้ว เขาบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เพื่อความสบายใจเขาก็ได้มีการบูชาน้ำแดงและจุดธูปทุกวันพระ และผลที่ตามมา คือ เขาถูกหวยเกือบทุกงวดค่ะ !! โอ้!!คุณพระ ทำตอนเราอยู๋เราไม่นึกถึง ชวดเลย และเรื่องก็จบด้วยประการนี้นะจ้ะะะะะ