โจรไฮเทคแฮ็กเอทีเอ็มกวาดเงินกว่า12ล้าน!!!!!

เร่งสืบขบวนแฮ็ก ATM ออมสิน ปล่อยมัลแวร์ควบคุมระบบอัตโนมัติ สงสัยแก๊งรัสเซีย ยูเครน

............................

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษาสบ 10 เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางธนาคารออมสินได้แจ้งเรื่องมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีธนาคารเพียง 1. แห่งเท่านั้น เชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุน่าจะเข้ามาก่อนเหตุตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมากดเงินออกไปช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุสามารถควบคุมระบบอัตโนมัติจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน 3 ตู้ รับสัญญาณมา สามารถกระจายต่อบังคับให้สามารถกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินจุดอื่น ได้แก่ จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี จ.พังงา จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี กรุงเทพมหานคร




พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลลักษณะที่มีการก่อเหตุในพื้นที่ต่างประเทศพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นแก๊งชาวรัสเซียและชาวยูเครน ยุโรปแถบตะวันออกกลาง ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยใช้เลขรหัสคอมพิวเตอร์ที่อยู่ประจำบนเครือข่ายหรือไอพีแอดเดรส จากประเทศสวิซแลนด์ส่งไวรัสมัลแวร์เข้าระบบธนาคารไต้หวัน ที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นก็เชื่อมต่อข้อมูลไปสู่ระบบธนาคารในประเทศไต้หวันในกรุงไทเปเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท ลักษณะการก่อเหตุมีการปล่อยสัญญาณคล้ายๆ กดรีโมทเปิดตู้เอทีเอ็มแล้วมีคนไปยืนรอหยิบเงินทั้งหมด 22 ตู้ รวมมูลค่าเสียหายคิดเป็นเงินไทยประมาณ 90 ล้านบาท ตำรวจไต้หวันสามารถจับกุมได้ ทางตำรวจไทยจึงได้ประสานขอข้อมูลต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งพบว่านอกจากเดินทางมาก่อเหตุที่ประเทศไทยแล้วยังเคยทำที่ประเทศมาเลเซียเมื่อปี  2014 ด้วย


เมื่อถามว่าได้สั่งการให้พื้นที่ตรวจสอบแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ทางพื้นที่ บช.น. เร่งทำการตรวจสอบ โดยสั่งการให้พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นติดคดีระเบิดที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ แต่ล่าสุดอยู่ระหว่างการไล่ติดตามภาพจากล้องวงจรปิดพบว่า มีการปิดบังใบหน้า แต่ระหว่างที่มีการก่อเหตุกล้องจากตู้เอทีเอ็มไม่ทำงาน แตกต่างกันตรงที่ลักษณะการก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่วิธีการแตกต่างจากที่ไต้หวันที่มีการเปิดตู้เอทีเอ็มให้เลย โดยการก่อเหตุที่ไทยนั้นจะใช้บัตรใส่เข้าตู้เอทีเอ็มก่อน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้บช.ภ.7 บช.ภ.8 บช.น. บช.ก. มาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าในวันที่ 26 ส.ค.เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ทั้งนี้ ฝากเตือนให้ประชาชนประชาสัมพันธ์หากพบเห็นชาวต่างชาติ เป็นชาวรัสเซียหรือยูเครนในพื้นที่เปลี่ยวช่วงเวลาประมาณ 03.00 - 04.00 อยู่หลายครั้งในตู้เอทีเอ็มลักษณะผิดปกติจุดใดก็ตามให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบต่อไป



เมื่อเวลา15.20น. วันที่ 23 ส.ค. ที่ด้านหน้าธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ถ.พลโยธิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงามีพนักงานและผู้มาใช้บริการเพียงไม่กี่คน ในส่วนของธนาคารทั้งสาขาย่อยด้านหน้าและภายในอาคารสำนักงานยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนตูเอทีเอ็มด้านหน้าที่มีจำนวน 4 ตู้ เจ้าหน้าได้ปิดให้ปริการโดยนำป้ายแผ่นประดาษมาติดชี้แจงเอาไว้ ทั้งนี้จากการสอบถามเข้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารทราบว่า ปกติช่วงเช้าของทุกวันจะมีประขาชนมาใช้บริการมากที่สุด ส่วนช่วงบ่ายก็จะค่อนข้างเงียบเหงา สำหรับวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าลูกค้าน้อยกว่าทุกวันซึ่งก็ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับข่าวตู้เอทีเอ็มของธนาคารหรือไม่

...........................................

และเดือนกรกฏาที่ผ่านมานี้ ที่ใต้หวันก็โดนแฮ็กเสียเงินไปเกือบ 70 ล้านบาทซะด้วย


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่