รายการ Infinite Challenge ถูกหยิบยกเรื่อง "การไม่รู้" ประวัติศาสตร์เกาหลี
ของทิฟฟานี่และ AOA ขึ้นมาอีกครั้ง
มีบทความเกี่ยวกับตอนล่าสุดของรายการ Infinite Challenge ที่ไปอเมริกา และไปเยี่ยมอนุสรณ์สถานของอันชางโฮ
อันชางโฮ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน
แต่ตอนที่พิธีกรไปถึงและได้รู้ถึงผลงานและเรื่องราวต่างๆของเขา
พิธีกรทุกคนต่างก็ยอมรับว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลยแล้วก็รู้สึกอับอาย
พวกเขาไม่เคยเรียนเรื่องพวกนี้ในโรงเรียนเลย
แม้แต่คนแปลสำหรับลูกชายของอันชางโฮ (ฟิลลิป อัน คัดดี้)บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ข้อมูลเรื่องนี้เหมือนกัน
บทความนี้ยกเรื่อง "การไม่รู้" ประวัติศาสตร์เกาหลีของ ทิฟฟานี่ และ AOA ขึ้นมา
และพูดถึงความเกลียดชังที่พวกเธอได้รับ และยกคำถามที่ว่า
"ถ้าพิธีกร 4-5 คนของ Infinite Challenge เองก็ไม่รู้จะถูกเนติเซ็นวิจารณ์ด้วยหรือไม่?"
(ซึ่งรายการ Infinite Challenge มีเรตติ้งสูงสุดในเกาหลี)
บทความกล่าวต่อว่า แทนที่จะวิจารณ์ถึงความไม่รู้ประวัติศาสตร์เป็นรายบุคคล
พวกเขาควรโฟกัสที่การสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่เหมาะสมในโรงเรียนมากกว่า
หรือไม่อย่างนั้นพวกเขาเองก็ควรจำได้เหมือนกันและเฉลิมฉลองกับมันแทนที่จะมานั่งวิจารณ์
โดยใจความของบทความที่หยิบยกขึ้นมานั้น ไม่ได้จะนำมาเปรียบเทียบกัน
แต่การไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้มีความผิดถึงขั้นเป็นอาชญากรรม
ที่มา :
naver
แปลไทยโดย :
tortuewai
[K-POP] รายการ Infinite Challenge หยิบยกเรื่อง "การไม่รู้" ประวัติศาสตร์เกาหลีของทิฟฟานี่และ AOA ขึ้นมาอีกครั้ง
รายการ Infinite Challenge ถูกหยิบยกเรื่อง "การไม่รู้" ประวัติศาสตร์เกาหลี
ของทิฟฟานี่และ AOA ขึ้นมาอีกครั้ง
มีบทความเกี่ยวกับตอนล่าสุดของรายการ Infinite Challenge ที่ไปอเมริกา และไปเยี่ยมอนุสรณ์สถานของอันชางโฮ
อันชางโฮ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน
แต่ตอนที่พิธีกรไปถึงและได้รู้ถึงผลงานและเรื่องราวต่างๆของเขา
พิธีกรทุกคนต่างก็ยอมรับว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้เลยแล้วก็รู้สึกอับอาย
พวกเขาไม่เคยเรียนเรื่องพวกนี้ในโรงเรียนเลย
แม้แต่คนแปลสำหรับลูกชายของอันชางโฮ (ฟิลลิป อัน คัดดี้)บอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ข้อมูลเรื่องนี้เหมือนกัน
บทความนี้ยกเรื่อง "การไม่รู้" ประวัติศาสตร์เกาหลีของ ทิฟฟานี่ และ AOA ขึ้นมา
และพูดถึงความเกลียดชังที่พวกเธอได้รับ และยกคำถามที่ว่า
"ถ้าพิธีกร 4-5 คนของ Infinite Challenge เองก็ไม่รู้จะถูกเนติเซ็นวิจารณ์ด้วยหรือไม่?"
(ซึ่งรายการ Infinite Challenge มีเรตติ้งสูงสุดในเกาหลี)
บทความกล่าวต่อว่า แทนที่จะวิจารณ์ถึงความไม่รู้ประวัติศาสตร์เป็นรายบุคคล
พวกเขาควรโฟกัสที่การสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่เหมาะสมในโรงเรียนมากกว่า
หรือไม่อย่างนั้นพวกเขาเองก็ควรจำได้เหมือนกันและเฉลิมฉลองกับมันแทนที่จะมานั่งวิจารณ์
โดยใจความของบทความที่หยิบยกขึ้นมานั้น ไม่ได้จะนำมาเปรียบเทียบกัน
แต่การไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้มีความผิดถึงขั้นเป็นอาชญากรรม
ที่มา : naver
แปลไทยโดย : tortuewai