[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 6 ฟลอริดา

ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 6 ฟลอริดา
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)

https://www.youtube.com/watch?v=Mo1ZtyVZdvg&index=40&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
https://www.youtube.com/watch?v=GOUrHClmtWU&index=41&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
https://www.youtube.com/watch?v=NGUNGVc5-Pg&index=42&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
https://www.youtube.com/watch?v=8dXvKLb0fIE&index=43&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6

ก่อนถึงไมอามี่ ได้คุยกับแดเนียล จาก Daland เพราะบรรพบุรุษของคนที่นั่นส่วนใหญ่มาจาก เนเธอร์แลนด์ หรือ ฮอลแลนด์ แต่เขาไปเช่าที่พักอยู่ที่ Daytona Beach เพราะมันสงบดี เขารับทำเว็บไซด์และแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมีที่ทำงาน อยู่ที่หนก็ได้ถ้ามีอินเทอร์เน็ท เขาจะไปทำสมาธิที่วัดในไมอามี่ กับพระธิเบต เขาบอกว่า มันทำให้เขาเหมือนถูกสะกดจิต เห็นภาพว่า ตัวเองถอดจิตเหาะไปบนอากาศ แล้วมองลงมาเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างล่าง บางทีก็ได้คุยกับคนที่เป็นกายทิพย์เหมือนกัน เวลาที่เขาเครียดมันก็ช่วยผ่อนคลาย ฟังดูมันเหมือนวิชาธรรมกาย เขาไม่เคยรู้เรื่องมีเรือโดยสาร เขารู้แต่เรือสำราญ กับเรือเช่าจากชาวประมง ที่แล้วแต่จะตกลงราคากับเจ้าของเรือ เขาไม่เคยเห็นว่า มีไชน่าทาวน์ที่ไมอามี่

เวลา 14.30 น. ถึงไมอามี่ สอบถามข้อมูลที่สถานีเกรย์ฮาวน์ จนท.ปชส. ให้ไปหาข้อมูลที่ท่าเรือ อยู่ใกล้ๆ ดาวน์ทาวน์ โดยไปเมโทร สถานีเมโทรแค่ออกประตูสถานี เลี้ยวขวา ขึ้นลิฟต์ที่มีอยู่ตัวเดียว แล้วเดินไปตามป้าย ตรงนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทาง มีรถบัส แท็กซี่ รถไฟ แอมแทร็ก ไปสนามบิน และเข้าเมือง มันคือ สถานี Miami International Airport

เราขอให้จนท.ที่สถานีซื้อตั๋วให้ เธอซื้อตั๋วให้นั่งส่ายสีส้มไปต่อรถที่สถานี Government Center ค่ารถไปเที่ยวเดียวพร้อมค่าบัตร คนละ 3.85×2 = 5.70 ลงรถแล้วเดินลงไปต่อ Inner Loop ฟรีไปสถานี Bayside ลงจากสถานี เลี้ยวขวา ข้ามถนนเดินไป 2 บล็อค มองตรงไปที่ทะเล ต้องข้ามถนนไปอีก 2 ทอด ที่นั่นพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยว และ ตัวแทนขายทัวร์ เป็นครูสทัวร์เกาะเล็กๆ รอบไมอามี่ มองเห็นเรือจอดลอยลำอยู่ที่ท่าในอ่าวตรงหน้าเต็มไปหมด ทัวร์แรกเสนอราคา 20 ในเวลา 1.30 ชม. เดินไปอีก เขาบอกว่า ของเขาถูกกว่า แค่ 16.5 เท่านั้น ป้าถามหาเรือที่ไปบาฮามาส เที่ยวเดียว เขาบอกให้ไปที่สำนักงานท่าเรือ Port Terminal J โดยเดินเลียบท่าเรืออ่าวแล้วข้ามสะพานไป คงต้องไปแท็กซี่ เพราะเดินไม่ไหว เราตัดสินใจ

เดินอ้อมไปเจอลานจอดรถทัวร์รอบเมือง เห็นป้าย Port Terminal J อยู่ตรงเชิงสะพาน ท่ามกลางแดดเปรี้ยงตรงหน้า แต่ไร้เงาแท็กซี่ มองออกไปที่ทางขึ้น ลงสะพาน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีที่จอดรถแท็กซี่ จึงเดินอ้อมซ้ายอาคารที่จอดรถไปที่ถนนผ่านหน้า Bayside ยังคงลางเลือนมากที่จะเจอแท็กซี่ เพราะมีถนนหลายสาย แต่มองไม่เห็นป้าย เดินจนถึงมุมถนนอ้อมไปเจอป้าย Bayside ใหญ่โตมาก มองไปเห็นป้ายรถประจำทาง แม้จะไม่มีร่มเงา แต่ป้าขอวางเป้นักพักสักครู่ มีรถสีดำ ส้ม ป้ายรูปต้นมะพร้าวสีเขียวส้ม ตัวรถเหมือนห้องเย็น หัวเหมือนรถโฟล์คโบราณมาจอด ป้าถามว่า รถข้ามไป Terminal มั้ย คนขับพยักหน้า รีบบอกให้ลุงขึ้นรถ ถามราคา คนขับบอกว่า ฟรี..

ว้าาาาอ๊าาาว! นั่งไปลงที่ท่าเรือ แล้วเดินลงไปที่ท่าเรือที่ปิดประตูมิดชิด มองไม่เห็นผู้คน ขณะที่กำลังคิดว่า จะเอาไงต่อดี ลุงก็เห็นรปภ. เดินอยู่ไกลออกไป มุ่งหน้าไปทางที่เราเดินเข้ามา ป้ารีบข้ามถนนวิ่งไปดัก เธอเป็นสาวผิวสี ร่างใหญ่ใจดี เธอบอกว่า ถ้าจะไปเรือต้องมีตั๋วครูสทัวร์ จะ 1 วัน หรือ กี่วัน ก็ต้องซื้อตั๋วมาก่อน ถ้ามีตั๋วกับพาสปอร์ตมา เธอจึงจะให้ลงเรือ วิธีการซื้อตั๋วก็ซื้อทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ ไม่มีสนง.ขาย เป็นการเดินทางไป-กลับ ไม่มีไปเที่ยวเดียว

เวลาออกของเรือแต่ละเที่ยว ตั้งลำแรก จนถึงลำสุดท้าย เธอบอกว่า 05.00-05.30 น. แล้วก็ไม่มีแล้ว ตอนนั้น 17.00 น. จนท.กลับบ้านจะหมดแล้ว เราเห็นแดดยังเปรี้ยงอยู่ ก็ไม่ได้เช็คเวลา ถามหาโรงแรมราคาถูก เธอบอกว่า ถ้าจะลงเรือก็ต้อง Holiday Inn ถามหาหอพักบอกว่า ไม่มี
ถามว่า รถบริการฟรีที่เราขึ้นมา เรียกว่า อะไร เธอบอกว่า Charlie แล้วบอกให้เรานั่งชาลี ไปที่เบย์ไซด์ เพื่อไปโรงแรมฮอลิเดย์ เราเดินคุยกับเธอไปเรื่อยๆ เธอแยกเข้าสนง. ส่วนเรารอรถชาลี ตรงจุดที่เขาปล่อยเราลง เพราะพอเราลงแล้ว ก็มีหนุ่ม สาวสนง.ท่าเรือ ขึ้นไปแทนเรา
ได้รู้ว่า นอกจากไม่เก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดาแล้ว เมืองนี้ ยังมีรถฟรีบริการทั้งถนน และลอยฟ้า พอรถมาเราก็ขึ้นรถ คิดว่า จะลงที่เบย์ไซด์ แต่รถวิ่งอีกด้านหนึ่งของสะพาน จุดจอดอยู่ห่างจากเบย์ไซด์ หลายถนน ต้องข้ามไกล คิดว่า รถคงไปวนแล้วไปจอดตรงป้ายที่เราขึ้นตอนแรก จะได้ดูหอพักไปด้วย
ปรากฏว่า รถวิ่งไปเรื่อยๆ จอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ตามป้ายที่มีสัญลักษณ์ต้นมะพร้าว มีชื่อป้าย และชื่อสายรถ คือ Coral Way / Trollie Way คนขับผิวสีตัวอ้วนใหญ่นั่งเต็มคอกคนขับเวลาลุกขึ้นเข้า ออกคอกลำบากมาก ผู้โดยสารที่คนขับรู้จักดีเป็นสตรีสูงวัย เคลื่อนไหวลำบาก มี 2 คน ที่ลุงต้องไปช่วยตอนลงรถ อีกคนหนึ่งมีลุงฝรั่งที่มากับป้าอีกคนหนึ่งช่วยยกรถเข็นเดินจ่ายตลาดให้ ส่วนลุงช่วยประคองคุณยาย กว่าจะลงได้ก็หลายนาที คนขับใจเย็นมาก แต่เขาตะโกนใส่ผู้โดยสาร 3 คน ที่ป้ายหนึ่งว่า ไปให้พ้น พอจอดอีกป้ายหนึ่ง เขาก็ไล่อีก ทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง ไม่รู้ว่าเขาใช้เกณฑ์อะไร เราเดาเอาว่า น่าจะเป็นเรื่องของศาสนา มั้ง?

รถเข้าไปรับ ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีเมโทรด้วย นอกจากไม่มีท่าทางว่า จะไปที่เบย์ไซด์ แล้ว ยังวิ่งข้ามคลองน้ำลึกผ่านชุมชนเก่าแก่ สวยงาม ร่มรื่น ที่ถนนเป็นอุโมงค์ต้นไม้ใหญ่ มีต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขา จนรากย้อยลงมาเป็นต้นใหม่ มีรูปร่างเหมือนเป็นลำตัว และเป็นขาของสัตว์สี่เท้า สวยงาม ยามนั้นใบไม้ร่วงเต็มใต้ต้นทั้งเกาะกลางถนน และริมถนน ทั้งสองด้าน
ได้เห็นว่า ต้นไม้กลางถนนที่ป้าไม่แน่ใจว่า มัน คือ ปาล์มน้ำมัน หรือ อินทผาลัม มันคือ อินทผาลัม นั่นเอง ออกลูกเป็นพวง อยู่บนเกาะกลางถนนบ้าง ริมถนนบ้าง ส่วนต้นที่คล้ายต้นตาล มัน คือ ต้นตาว หรือ ต้นชิด ดอกที่ออกคล้ายๆ หมาก โตเป็นพวงผลลูกตาว หรือ ลูกชิด
เวลานั้นแม่บ้านสูงวัย แม่บ้านวัยทำงาน กับพ่อบ้านบางคน หอบอาหารสำเร็จที่ซื้อจากร้านที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ บรรจุในถุงกระดาษสีน้ำตาล ขึ้นมาบนรถ ส่งกลิ่นหอมของเนย และกลิ่นของทอด เป็นระยะ มีแม่รับลูกกลับจากโรงเรียน ฯลฯ ขึ้น ลง สบายๆ รถไม่แน่น มีที่นั่งตลอด ทั้งๆ ที่ที่นั่งก็มีแค่ 20 ที่นั่ง รถวิ่งออกไปนอกเมืองไปจนสุดถนนตะวันตก แล้ววกกลับไปอีกฟากหนึ่งที่เป็นด้านขวาของถนน กลับไปจอดป้ายเดิมๆ และป้ายตรงข้ามกับตอนขาไป กว่าจะถึงป้ายเบย์ไซด์ เวลาก็ผ่าน 19.00 น.

เราอิ่มเอมกับการนั่งรถชมเมืองโดยไม่ต้องจ่ายเงินค่าทัศนศึกษา ได้เห็นความร่มรื่น สวยงามของไมอามี่ ที่ตอนอยู่บนรางรถลอยฟ้า เห็นแต่ความเขรอะของหลังคาตึกชั้นเดียวที่เหมือนกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมตันๆ มีต้นไม้ประปรายแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทั้งความร่มรื่น และสวยงาม ได้เห็นจนท.การท่าเรือ และจนท.อื่นๆ ของเมืองแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว กางเกง หรือ กระโปรงสีกรมท่า กับ สีครีม ทำให้ดูแตกต่างจากพนักงานทั่วไป ผู้คนชอบสวมใส่สีแดง สลับกับสีขาวเล็กน้อย ผู้หญิงทำงานสวมรองเท้าส้นแหลมและสูงมาก. เราเดินข้ามถนน ย้อนกลับไปซื้ออาหารที่ร้านสะดวกซื้อกินก่อนไปโรงแรม ป้าได้ทบทวนความทรงจำสัญลักษณ์มือ ยกมือโบก คือ ทักทาย ไม่ใช่ลาก่อน ส่วนยกมือกระดิกนิ้ว ไม่ได้แปลว่า กสักมือเรียก แต่หมายถึง ลาก่อน....วัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำให้สับสน จนเกือบไม่ได้จ่ายเงินค่าอาหาร กับ หนุ่มหน้าใส เพราะเขาโบกมือให้ แล้วป้าจะเดินหนี เขาบอกว่า Hello! จึงนึกออก...เกือบเสียเวลาเข้าคิวฟรี!

กินอาหารแล้วเดินไปโรงแรม ถามราคาต่อห้อง ต่อ คืน 149 เตียงคิงไซส์ ไม่เป็นไร พอจ่ายได้ แต่ถามรายละเอียดการจองทัวร์ ตอบไม่ได้เลย แนะนำให้เราไปเบย์ไซด์ ที่เราถามตอนกลางวันว่า มีแต่ท่องรอบไมอามี่ ป้าจึงบอกว่า ไว้หาทัวร์ได้ เราจะกลับไป เดินข้ามกลับไปที่เบย์ไซด์ ทัวร์รอบไมอามี่เงียบไปเกือบหมดแล้ว เพราะ 20.00 น. แล้ว แต่แดดยังคงจ้าอยู่ สาวผิวสีตัวสูง ใส่เดรสแขนกุดสีฟ้าสด รองเท้าส้นสูงปรี๊ด สีแดงแป๊ด เห็นเรายืนฟังผู้ชายกำลังขายทัวร์เกาะ ถามเราว่า สนใจทัวร์ไหน พอเราบอก บาฮามาส เธอเสนอทัวร์ 1 วันคนละ 179 เรือออก 05.00 น. รับที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ 3 วัน คนละ 350 รวมทุกอย่าง ทั้งค่าอาหารและค่าที่พัก ลุงสนใจ แบบ 3 วัน 2 คืน เธอโทรติดต่อ ปรากฏว่า ต้องรออีก 2 วัน เพราะเต็มแล้ว มีแบบวันเดียวที่เหลืออยู่ เราคิดแล้ว ไม่คุ้ม ค่าโรงแรม คืนแรก 149 ค่าทัวร์ 179×2 ค่าโรงแรม คืนที่กลับมา 149 ต้องตื่นให้ทันไปลงเรือตอนตี 5 เราจึงตัดสินใจว่า ไม่ไปดีกว่า
แล้วเราก็เดินกลับไปสถานี Bayside ด้วยความกลัวว่าจะขึ้นสถานีผิดฟาก จึงถามสาวผิวสีที่ขึ้นบันไดเลื่อนขั้นบนเรา ว่าเราควรจะขึ้นข้างไหน เธอใจดีมาก บอกว่า ขึ้นไปแล้วจะชี้ให้ ป้าขอให้เธอช่วยซื้อตั๋วไปสถานีต้นทางให้ เธอบอกว่า เธอจะไปอีกทาง พอไปถึงให้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นต่อ แล้วเราก็ขึ้น Inner Loop ไปด้วยกัน รถ Inner Loop เป็นรถไฟฟ้ามวลเบา มีแค่ 2 ตู้ ดูน่ารักเหมือนโมโนเรลของยูนิเวอร์ซ่อลสตูดิโอในสิงคโปร์ มีแต่ที่ยืนไม่มีที่นั่ง ขึ้นไปต่อสายสีส้มที่ Government Center ก่อนเข้าสถานีขอให้หนุ่มคนหนึ่งช่วยซื้อตั๋วให้ ตั๋วเก่ามีอายุ 3 ปี เราส่งตั๋วให้ เขาแต๊บและจ่ายเงินทีละใบ แล้วส่งใบแรกให้ป้า พอเสร็จแล้ว ส่งให้อีก 2 ใบ ป้าฉุกคิด ล้วงตั๋ว ออกมาดู ให้เขาดูว่าป้ามีตั๋ว 3 ใบ เลยเสียเวลาไปใหญ่ลองแต๊บดูใหม่ ปรากฏว่า มีใบหนึ่ง 4.85 ใบหนึ่ง .60 อีกใบหนึ่ง 2.85 เขาแต๊บผิดใบ กลายเป็นเอาใบที่แต๊บแล้ว ไปแต๊บอีก แต่เขาอารมณ์ดีมาก หัวเราะตลอดเวลา ล้วงเหรียญเล็กออกมาทีละเหรียญ ป้าให้เอาเหรียญใหญ่ก็ไม่เอา ป้ามีเหรียญเยอะ เพราะตอนที่ซื้อครั้งแรกใช้ใบ 20 ได้ทอนเป็นเหรียญทั้งหมด ซึ่งทำให้ลำบากใจ เพราะป้าแทบจะไม่รู้ค่าของเหรียญเลย. เราขึ้นไปที่สถานีรถเมโทร ถามหญิงทำงานผิวขาว เหลืองที่รอรถอยู่ว่า เราต้องขึ้นทางไหน เธอบอกว่า ทางโน้น อย่าลืมดูสายด้วย เราต้องขึ้นสายสีส้ม ไม่ใช่สีเขียว ให้เช็คเวลาจากหน้าจอ ตั้งแต่เจอมาคนไมอามี่ น่ารักทุกคน แม้แต่พนง.ต้อนรับที่โรงแรม แม้ไม่รู้อะไรเลยเพราะไม่อยากรับรู้ก็ยังบอกให้เราไปหาข้อมูลจากแหล่งที่ถูกต้อง ทำให้เรารู้ว่า ตัวแทนที่อยู่แถวนั้นก็ใช้วิธีการโทรจองเหมือนกัน สรุปว่า การล่องเรือสำราญหมู่เกาะทะลแคริบเบียน ต้องจองทางอินเทอร์เน็ต หรือ โทรเท่านั้น เพราะไม่มีหน้าร้าน

กว่าเราจะหาทางลงไปสถานีเกรฮาวน์ได้ เราก็วนไปวนมาเพราะมีลิฟต์หลายตัว ลิฟต์ส่วนใหญ่เป็นของรถไฟ
เราตัดสินใจจะไปเม็กซิโก ลองถามซื้อตั๋วไปเมือง Guavahuana ผ่านทาง El Paso รัฐเท็กซัส เข้าไปทาง Juares แล้วไปเม็กซิโกซิตี้ แต่ตั๋วคืนนี้หมด แต่มีตั๋วไป Peubla เราจึงตกลง แล้วค่อยไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยอาจนั่งรถย้อนกลับไปเม็กซิโกซิตี้ ทีหลัง สบายใจที่รู้ว่า ในเม็กซิโกมีรถเกรย์ฮาวน์แน่นอน อย่างน้อยๆ ตอนอยู่บนรถ และอยู่ที่สถานีก็ปลอดภัย ราคาตั๋ว 667 รถออก 22.50 น. ตอนที่เรารอรถรปภ.เอาไม้กระบองเดินสแกนกระเป๋าเดินทางทุกใบ เราต้องต่อรถหลายทอด กว่าจะถึงเพอบลา ในอีก 2 วันข้างหน้า
ชื่อสินค้า:   ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่