"Fujisan...ใครว่าปีนง่าย? เพราะเส้นทางง่ายๆเราไม่ไป"

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ทำตามความฝันสำเร็จอีกครั้ง
ฝันที่จะได้ไปยืนอยู่บน "ฟูจิซัง" ภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
และนี่คือการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของฉันด้วย
แล้วโอกาสนั้นมันก็มาถึงจริงๆ เมื่อเพื่อนรุ่นพี่ที่นิยมเดินป่าด้วยกันเอ่ยชวน
แต่การชวนครั้งนี้มาพร้อมข้อเสนอที่ยากสุดๆ
นั่นคือ... เราจะขึ้นฟูจิด้วยเส้นทางที่ยากที่สุด ^^!




เส้นทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิมีกี่เส้นทาง แล้วทำไมต้องเดินเส้นยากล่ะ ?

ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า การปีนภูเขาไฟฟูจินั้น ช่วงเวลาที่สามารถขึ้นฟูจิได้อย่างปลอดภัยคือช่วง ก.ค. - ส.ค. ซึ่งเป็นฤดูร้อนและไม่มีหิมะ ส่วนเส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจินั้น มีทั้งหมด 4 เส้นทางหลัก โดยมีรถบัสไปถึงที่ระดับความสูงชั้น 5 ทุกเส้นทาง คือ

1. Yoshida Trail
จุดเริ่มเดิน : Fuji Subaru Line 5th Station (จังหวัด Yamanashi )
ความสูงจุดเริ่มเดิน : 2300 เมตร
เวลาขาขึ้น : 5-7 ชัวโมง
เวลาขาลง : 3-5 ชั่วโมง
เป็นเสินทางยอดนิยมและมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เส้นทางเดินสะดวก ส่วนที่พักด้านบนก็มีเยอะกว่าเส้นอื่น เส้นนี้อยู่ทิศเหนือสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้จากระดับบนๆ การเดินทางสามารถขึ้นรถบัสจากสถานี Kawaguchiko ได้ และก็มีรถบัสจากเมืองหลักๆ มาได้เช่นกัน เช่น โตเกียว นาโกย่า ฯลฯ

2. Fujinomiya Trail
จุดเริ่มเดิน : Fujinomiya 5th Station (Shizuoka Prefecture)
ความสูงจุดเริ่มเดิน : 2400 เมตร
เวลาขาขึ้น : 4-7 ชั่วโมง
เวลาขาลง :  2-4 ชั่วโมง
อยู่ทางฝั่งตะวันตกและใต้ของภูเขา จึงเหมาะกับคนที่เดินทางมาจากฝั่ง Fujinomiya เป็นเส้นที่ขึ้นและลงเป็นเส้นเดียวกัน (เส้นอื่นแบ่งทางขึ้นลง) จึงอาจจะแออัด แต่ว่าก็มีที่พักด้านบนเยอะรองลงมาจากเส้น Yoshida trail

3. Subashiri Trail
จุดเริ่มเดิน : Subashiri 5th Station (Shizuoka Prefecture)
ความสูงจุดเริ่มเดิน : 2000 เมตร
เวลาขาขึ้น :  5-8 ชั่วโมง
เวลาขาลง : 3-5 ชั่วโมง
เส้นทางขาขึ้นจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ แต่ขาลงจะเป็น Land slide หินภูเขาไฟ ซึ่งจะช่วยร่นเวลาเดินได้ (สำหรับผู้ที่ถนัดนะ แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์อาจเดินยากหน่อย) เส้นนี้เมื่อถึงระดับชั้น 8 จะไปเจอกับเส้น Yoshida trail

4. Gotemba Trail
จุดเริ่มเดิน : Gotemba 5th Station (Shizuoka Prefecture)
ความสูงจุดเริ่มเดิน : 1400 เมตร
เวลาขาขึ้น :  7-10 ชั่วโมง
เวลาขาลง : 3-6 ชั่วโมง
เส้นทางนี้จุดเริ่มเดินอยู่ต่ำที่สุด ทำให้เป็นเส้นที่เดินไกลและใช้เวลานานที่สุด ช่วงล่างของเส้นทางนี้คือผืนทรายภูเขาไฟสีดำตลอดทาง และจำเป็นต้องใช้แรงขาอย่างแข็งแกร่ง ส่วนขาลงก็มีลักษณะเป็น Land slide หินภูเขาไฟ เช่นกัน หากใครชอบสไลด์ไถลๆ ลงมาก็แนะนำทางนี้ค่ะ แต่ข้อเสียคือเส้นนี้ไม่เป็นที่นิยม จึงมีที่พักน้อย และจุดแวะพักและห้องน้ำก็น้อยด้วย

** เส้นทาง Subashiri Trail และ Gotemba Trail ที่สถานีชั้น 5 มีรถบัสไปยังสถานี Gotemba  ได้ทั้งคู่

** หากใครงง เรามีแผนที่จากเว็บ Japan Guide มาฝาก และรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ >> http://www.japan-guide.com/e/e6901.html



** ส่วนการบริการรถบัสจากเมืองรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น Kawagucjiko, Gotemba, Shinjuku ฯลฯ ไปยังสถานีชั้น 5 ของเส้นทางเดินทั้ง 4 นั้น ดูได้จากเว็บไซต์นี้เลย มีเวลาและราคาไว้พร้อมมากๆ >> http://www.japan-guide.com/bus/fuji_season.html


** ข้อดีอย่างนึงของการปีนฟูจินั้น คือใช้เวลาเต็มที่ เพียง 2 วัน 1 คืน และไม่จำเป็นต้องขึ้นและลงในเส้นทางเดิม เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมค่าขึ้นภูเขาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ควรจะทำคือ การศึกษาเส้นทางที่จะขึ้นและลงอย่างละเอียด ใครชอบและถนัดเส้นทางไหนก็เลือกเลยตามใจชอบ  และควรรู้ตารางเวลารถบัสจากสถานีชั้น 5 ไปยังเมืองที่ตัวเองจะไปต่อ   นอกจากนี้ควรสังเกตป้ายบอกทางที่อยู่บนภูเขา กันหลงทางเดินผิดเส้นค่ะ


การขึ้นฟูจิครั้งนี้ เราเลือกเส้นทางขึ้นมาจากบ้าน คือเส้นทาง Gotemba trail ด้วยว่า สมาชิกของทีมอยากลองพิสูจน์ความแข็งแกร่งและไม่เหมือนใคร  ส่วนขาลงนั้น ตั้งใจจะกลับลงทางเดิมเช่นกัน แต่เกิดเหตุเปลี่ยนแผนกะทันหัน จากการตัดสินใจบนยอดเขา และคิดว่าเส้น Subashiri Trail น่าจะช่วยย่นระยะเวลาไปยังเมืองโกเทมบะได้มากกว่าเส้นเดิม  จึงกลับลงทาง Subashiri Trail แต่หารู้ไม่ว่า... เป็นทางลงที่ยากที่สุดเลย




มาเตรียมตัวขึ้นภูเขาไฟฟูจิกันเถอะ

การขึ้นภูเขาไฟฟูจิไม่มีลูกหาบ ดังนั้นจึงควรหาเป้ที่ช่วยผ่อนน้ำหนักอย่างดี สะพายหลังติดตัวไว้ตลอดการเดินทาง
ดังนั้นนอกจากการฟิตกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงแล้ว ก็ควรเตรียมสัมภาระดังนี้

1.รองเท้าผ้าใบอย่างดี มีหุ้มข้อ และพื้นค่อนข้างหนา เพราะบางช่วงเป็นหินแข็งๆ และหากใครมีถุงไกเตอร์ที่ช่วยกันหินภูเขาไฟเข้าช่องรองเท้าก็ควรนำไปใช้ด้วย
2.น้ำดื่ม สำคัญมาก  แต่ระหว่างทางก็มีขาย แต่ราคาจะสูงตามระดับความสูง
3.ผ้าปิดจมูก หรือผ้าบัพ ไว้กันฝุ่นเวลาเดินบนทางทรายภูเขาไฟ
4.ไม้เท้า จะเอาไปเองก็ได้ หรือใครอยากเก็บไม้เท้าฟูจิเป็นที่ระลึกก็ซื้อที่นั่นได้ มีขายแน่นอน และระหว่างทางก็มีตราปั๊มประทับ เสียค่าปั๊มจุดละ 300-400 เยน
5.เสื้อผ้าพร้อมลุย แขนยาว ขายาว ก็ดี ตามถนัด เอาไปชุดเดียวก็ได้ค่ะ บางคนไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยก็มี
6.เสื้อกันลม และเสื้อกันหนาว ช่วงกลางคืนและเช้ามืดอากาศหนาวมาก ส่วนในตอนกลางวันแดดจะแรง ใส่เสื้อยืดธรรมดาได้ และพกเสื้อกันลมแบบบางไปเผื่อสักตัวก็ได้ค่ะ
7.ยากันแพ้ความสูง Attitude sickness หากใครเคยมีอาการแพ้เมื่อขึ้นที่สูงก็ควรเอาไปทานในวันก่อนปีนเขาวันนึงค่ะ
8.ถุงพลาสติก ไว้เก็บขยะกลับลงมาทิ้ง เท่าที่ดูระหว่างทาง ไม่มีถังขยะเลย!! ก็เลยคิดว่า เขาเก็บขยะลงมาทิ้งด้านล่างกัน
9.กระป๋องออกซิเจน เผื่อไว้หายใจลำบากที่ความสูงมากๆ ด้านบน
10.หมวก แว่นกันแดด ปลอกแขน ฯลฯ
11.ไฟฉาย แบบคาดหัวได้ยิ่งดี
12.บนนั้นไม่มีที่อาบน้ำ (แต่มีห้องส้วม) และไม่มีน้ำไว้สำหรับล้างหน้าแปรงฟัน เพราะเป็นภูเขาไฟ ไม่มีแหล่งน้ำ ดังนั้นเตรียมทิชชู่เปียกไปเช็ดตัวก็ได้ (เก็บมาทิ้งข้างล่างด้วยนะ) แต่ตอนเราไป ไม่มีเวลาแม้แต่ละเช็ดตัวเลยเพราะต้องรีบนอน  แล้วก็เอาน้ำยาบ้วนปากใช้แทนการแปรงฟัน
13.ข้าวปั้น ขนม ช็อกโกแลตเพิ่มพลัง

หลังจากที่กลับมาจากฟูจินั้น ก็ได้รู้ว่าสิ่งของเหล่านี้ "ไม่จำเป็น" ต้องเอาขึ้นไป...

1.กระดาษทิชชู่เช็ดก้นแบบบ้านเรา เอาไปใช้ในห้องน้ำบนนั้นไม่ได้ เพราะบนนั้นเป็นส้วมที่สร้างมาแบบมีสุขภัณฑ์ (สะอาดด้วย) แต่ช่องขับถ่ายนั้นทิ้งดิ่งลงถังกวนด้านล่าง เวลานั่งถ่ายจะรู้สึกเย็นๆ เพราะอากาศหนาว (แต่ที่นั่งอุ่นนะ) และปกติเราจะคุ้นเคยกับการทิ้งทิชชู่ที่สามารถย่อยได้ลงในชักโครกใช่มั้ยค่ะ แต่ด้านบนนั้นเค้าไม่ทิ้งทิชชู่ลงในชักโครกกันค่ะ แต่จะมีถังขยะแยกต่างหากให้ (แต่ก็มีทิชชู่ให้ด้วยนะเนี่ย)
2.รองเท้าแตะ เพราะแทบไม่มีเวลาเปลี่ยนรองเท้าเลย
3.เสื้อผ้าเอาไปเปลี่ยน ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อเลยค่ะ สักนิดก็ไม่มีเวลา  แต่หากใครจะเอาไปเปลี่ยนก็ได้นะ

ส่วนเรื่องที่พัก ก็เลือกพักได้เลยตามเส้นที่เราเดิน บางคนอาจทำการ walk-in ได้  ถ้าไปในช่วงเสาร์อาทิตย์คนเยอะก็อาจจะต้องจองล่วงหน้า  ส่วนเส้นทาง Gotemba ที่คนน้อยและที่พักมีน้อย ที่พักที่เราไปนอนนั้นต้องทำการจองล่วงหน้าก่อน เพราะไปกันหลายคน (ให้เพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นโทรจองให้) ป้องกันการไม่มีที่นอนค่ะ  บางที่พักมีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้



ปล. ข้อมูลและภาพจากการปีนภูเขาฟูจิเมื่อวันที่ 8-9 สิงหาคม 2558 ค่ะ