สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดทางข้อมูลประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ปล. กระทู้นี้เหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวไปด้วย จับโปเกม่อนไปด้วยนะ 555555 เพราะทริปนี้เดินอย่างเดียว
ปล.2 จขกท ถ่ายรูปด้วยกล้องโทรศัพท์และใช้แอพ Snapseed แต่งเอาค่ะ
ปล.3 ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ในกระทู้นี้ แนะนำเซิร์ซหาในกูเกิ้ลเลยจ้าาา เพราะรายละเอียดเยอะ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ถามว่าทำไม จขกท ถึงเลือกย่านสี่พระยา-เจริญกรุงมารีวิวด้วย
ส่วนตัวเราเรียนอยู่ที่จุฬา  แล้ววันนั้นมีเรียนเช้าอย่างเดียว ตอนบ่ายว่าง
ไม่มีอะไรทำนั่นเอง 555555
เลยนึกได้ว่า เอ้ย ตรงใกล้ๆ ม.เรามันมีถนนสี่พระยานี่นา
ไม่เคยไปซักที เคยมองเข้าไปในถนนตรงแยกสามย่าน รู้สึกว่า ดูท่าทางน่าจะเป็นย่านเก่าแก่
คงจะมีอะไรน่าสนใจบ้างแหละ  ไหนเปิดกูเกิ้ลแมพซิ  
เอ้ยยย มันไปตัดกับถนนเจริญกรุงด้วย แถวนั้นมีตึกเก่าๆสวยๆเยอะเลยนี่นา
เมื่อดูระยะทาง ถนนก็ไม่ยาวเท่าไหร่นะ เดินจากสามย่านไปสุดถนนน่าจะซักกิโลสองกิโล
ว่าแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางจากสามย่านไปยังสี่พระยา ถนนเป้าหมายของเรา



จขกท เริ่มออกจาก ม.ตอนเที่ยง
เป็นการเดินทางที่ไม่ได้วางแผนอะไรเลย
กะว่าไปตายเอาดาบหน้า เจออะไรก็เดินเข้าไปดู ไปถ่ายรูป แค่นั้นเอง
แต่ว่าจะเดินให้ไหว ต้องหาข้าวเที่ยงรองท้องก่อน
เซิร์ซหาว่า แถวนี้มีร้านอะไรอร่อยๆบ้าง
ก็ไปเจอ "ร้านเพลินชัย"
ซึ่งเขาเคลมว่า เป็นร้านที่เปิดขายมานานกว่า 50 ปีแล้ว
ร้านนี้จะขายก๋วยเตี๋ยว และ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ
แต่สิ่งที่เด็ดสุดของร้านนี้คือ ขนมปังเนยนมน้ำตาล
เป็นขนมปังหัวกะโหลกยัดใส้เนยน้ำตาลแล้วเอาไปอบ
ในใจก็คิด หืม? อร่อยขนาดนั้นเลยหรอ ต้องจัดซักหน่อย

ร้านเพลินชัยเดินจากแยกสามย่านประมาณสามร้อยเมตร อยู่ตรงข้ามซอยจินดาถวิล
หน้าร้านจะมีเตาอบขนมปังอยู่ ซึ่งตอนเที่ยงคนก็ไม่เยอะเท่าไหร่
เลยเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยว ชาดำ และขนมปังปิ้งชิ้นนึง
กินก๋วยเตี๋ยวกับชาดำไปหมดละ ขนมปังยังไม่มาเลยจ้า
เพราะถึงลูกค้าจะไม่มาก แต่ลูกค้าแต่ละคนซื้อเยอะจริงๆ ซื้อทีเป็นสิบๆถุง ถุงนึงมีขนมปังสามสี่ชิ้น อะไรจะขนาดนั้น
กว่า จขกท จะได้กินประมาณ 20 นาที ฮัลโหลววววววว นี่ชั้นสั่งแค่ชิ้นเดียวนะ
ส่วนหน้าตาก็เป็นแบบนี้นี่เองงงงง


รสชาติก็อร่อยจริงสมคำร่ำลือค่ะ กรอบนอก นุ่มใน หอมเนย ไม่หวานมากจนเลี่ยน
ชิ้นละ 12 บาท ไม่แพงเลย ในรูปอาจจะดูน้อยเพราะ จขกท กินไปบ้างเเล้ว 55555

พออิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางก็ต่อ
สิ่งที่สังเกตได้รอบตัวก็คือ ย่านสี่พระยามีออฟฟิซเยอะ
หลายๆออฟฟิซก็ใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเก่าๆ
มีอาคารเก่าเยอะมาก บางแห่งสภาพก็ยังดี บางแห่งก็ทรุดโทรม


ตึกนี้ จขกท ไปหาข้อมูลมา
เขาว่าเป็นโรงพยาบาลเซนต์โยเซฟเก่า เลิกกิจการไปนานเป็นสี่สิบปีแล้ว
แต่ปัจจุบันปรับปรุงเป็นหอพักให้เช่า ด้านหลังอาคารที่ติดถนน จะมีอาคารทรงโบราณอยู่ตึกหนึ่ง
ซึ่งสวยมาก แต่จขกท ไม่ได้เข้าไปดู ไม่กล้าจริงๆ 555555


เห็นว่าตึกนี้น่ารักดี เลยถ่ายมา
เป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
ใครรู้ช่วยบอกทีน้าาาา


เป็นตึกแถวเก่ามาก ทรุดโทรมไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็เท่ๆไปอีกแบบ

ความจริงถนนสี่พระยามีตึกเก่าๆสวยๆเยอะกว่าที่จขกท.เอามารูปมาลงอีกน้าาา
แต่ขอลงเท่านี้ละกันเป็นแค่น้ำจิ้ม อยากให้เพื่อนๆไปแวะตามหากันเองมากกว่า 5555555


ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเดินจากร้านเพลินชัย ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
จนมาถึงถนนเจริญกรุงในภาพ จะเห็นได้ว่าริมถนนมีตึกแถวที่ได้รับการปรับปรุงทาสีใหม่
ทำให้ดูสวยงามกว่าตอนที่เดินตรงสี่พระยา ที่ตึกเก่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าไหร่


จากแยกสี่พระยาที่ตัดกับเจริญกรุง เราก็เดินข้ามถนนมาจนสุดถนนตรงท่าน้ำสี่พระยา
ฝั่งขวามือเป็นห้างริเวอร์ซิตี้ ซึ่งตอนนั้นเหลือบไปเห็นป้ายของกรุงเทพ
ว่าถ้าเลี้ยวขวาจากถนนสี่พระยาไป จะมี "โบสถ์กาลหว่าร์"
เราก็ลุยเลย เพราะในชีวิตไม่เคยเที่ยวโบสถ์ แต่อยากไปมากเพราะเคยเห็นคนไปกันในเฟซบุ๊คแล้วมันสวยดี


เดินเข้ามาในซอยแคบๆ จะเจอทางเข้าโบสถ์ซึ่งเป็นทางเข้าเดียวกับโรงเรียนกุหลาบวิทยา
พอเข้ามาในโบสถ์ ก็สัมผัสได้จริงๆถึงความสวยงาม ความศักดิ์สิทธิ์ ความอลังการของโบสถ์แห่งนี้



นี่อยู่เมืองไทยจริงๆหรอเนี่ย 55555

หลังจากชื่นชมโบสถ์แห่งนี้อยู่ซักพัก ก็ออกเดินทางต่อ
โดยเดินไปที่ถนนเจริญกรุงทางที่ไปโรงเรียนอัสสัมชัญ
และแล้วเราก็ได้เจอกับสถานที่แห่งนี้


ไปรษณีย์กลางบางรักนั่นเอง  เห็นแล้วนึกถึงกระทรวงเวทย์มนตร์ในแฮร์รี่พอตเตอร์เลย
เราก็ไม่รอช้า เข้าไปเก็บภาพในหลายๆมุมภายนอกอาคาร
เมื่อเดินเข้าไปในตึก ก็พบกับสิ่งนี้ ตามภาพเลย


ชั้น 1 ของอาคารเป็นห้องโถงกว้างๆ ซึ่งกว้างมากๆ ไม่มีอะไรเลย แต่สวยงามและคลาสสิกสุดๆ
พี่ยามเรียกให้เราไปเซ็นชื่อ พี่เค้าบอกว่าวันนี้เราเป็นคนแรกที่เข้ามาชมในนี้เลยนะเนี่ย
คนไม่ค่อยมาเที่ยวกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนที่มาจะมาเน้นถ่ายรูป ถ่ายรับปริญญา ถ่ายงานแต่ง
วันนั้น จขกท ดูได้แค่ชั้น 1 เท่านั้น พี่ยามบอกว่า ปกติชั้นบนๆจะเปิดให้ดูด้วย แต่ว่าช่วงนี้เค้ากำลังปรับปรุงอยู่
น่าจะเปิดให้เข้าชมต้นปีหน้าเลย แงงงงง เสียดายจัง

เมื่ออกจากไปรษณีย์ ก็นึกได้ว่า ตรง รร.อัสสัม มีโบสถ์อยู่นี่นา ไปชมซักหน่อยดีกว่า
ส่วนภาพด้านล่างเป็นตึกริมถนนเจริญกรุง เห็นว่าสวยดี ใครรู้ว่าเป็นตึกทำอะไรช่วยบอกหน่อยน้าา


ถึงแล้วจ้าาาา โบสถ์อัสสัมชัญ ตอนนี้เริ่มเกิดอาการขาลากแว้ววววว 5555 เดินมาไกลเหมือนกัน
เสียดายเหมือนกันที่ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อย จนลืมถ่ายหน้าโบสถ์มาด้วย




เมื่อเดินออกจากโบสถ์อัสสัมชัญ เราก็พบกับตึกแถวเก่าแก่ในซอยท่าน้ำโอเรียนเต็ลนั่นแหละ
ซึ่งทรุดโทรมไปเยอะมาก แต่ก็ยังคงมีเสน่ห์ความสวยงามอยู่
เห็นตอนนี้กำลังปิดปรับปรุงมั้ง หรือปิดไปงั้นไม่ได้ปรับปรุงก็ไม่รู้
ต่อไปหากได้มีการปรับปรุง คงสวยมาก
เอาจริงๆแถวนี้ดูเผินๆไม่เหมือนอยู่เมืองไทยเลยนะ 5555




ตอนนั้นเวลาประมาณ เกือบๆบ่ายสามแล้ว รองเท้าเริ่มกัด ขาเริ่มสั่น 555
เลยเดินมาขึ้นรถเมล์สาย 36 เพื่อกลับหอที่จุฬา เป็นอันจบทริปนี้โดยสมบูรณ์

ส่วนค่าใช้จ่าย จขกท ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่
ค่าข้าวร้านเพลินชัย 75 บาท ค่าน้ำเปล่า 1 ขวด 6 บาท ค่ารถเมล์ 12 บาทมั้ง
ความจริงแถวนั้นมีอะไรให้กิน ให้ช็อปปิ้งพอสมควร
ใครจะเตรียมเงินไปมากกว่านี้ก็ลองดูน้าาาา

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
กระทู้หน้ากะว่าจะรีวิวตอนไปเที่ยวเพชรบุรี เป็นทริปที่ได้ขึ้นเขาและลงทะเล
เดี๋ยวมีเวลาจะมาเขียนให้ชมนะคะ