[CR] มาตามฝันที่คณะมนุษยศาสตร์ การโรงแรมและภัตตราคาร

ตอนเด็กๆเพื่อนๆเคยมีโมเม้นที่แบบว่า ถ้าฉันโต ฉันจะเป็นหมอ จะเป็นแอร์โฮสเตรส จะเป็นทหาร หรือจะเป็นครูกันบ้างไหม ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝันเนอะ ส่วนจะเป็นไปตามที่ฝันหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องนึง เรื่องของอนาคตไม่มีใครรู้…. ส่วนตัวเราเองก็มีฝันเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้หลอกว่าอยากจะเป็นอะไร รู้แต่ว่าอยากทำงานที่ได้แต่งตัวสวยๆ ทำงานในห้องแอร์ เงินเยอะๆ ไว้ก่อน 555  พอโตขึ้นเริ่มเรียนรู้อะไรมากขึ้น เริ่มรู้แล้วว่า อ๋อ...อาชีพที่เราฝันไว้เมื่อตอนเด็กน่าจะเป็นอาชีพที่ทำงานในโรงแรมนี่เอง เพราะเราชอบงานบริการ ชอบพบปะผู้คน ชอบสื่อสาร และชอบภาษา เลยคิดว่าจะต้องเป็นให้ได้

เริ่มตามฝันก้าวแรก
ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราอยากทำงานในโรงแรมก็ต้องเรียนด้านการโรงแรมหล่ะซิ หาข้อมูลเลยค่ะ สุดท้ายเราก็เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว สาขาการจัดการการโรงแรมและภัตตาคาร หลักสูตรนานาชาติที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เลือกเรียนหลักสูตรนานาชาติไม่ใช่เพราะเก่งภาษามากหลอกนะเพราะว่าตอนมัธยมก็จบมาจากโรงเรียนหลักสูตรไทย ไม่ได้เรียนโรงเรียนนานาชาติอะไร  แต่ด้วยความที่อยากจะเก่งภาษางัย อะไรก็ต้องยอม ยอมที่จะขยันมากขึ้น
สาขาที่เราเรียน มีกันอยู่ทั้งหมด 25 คนเองค่ะ เพื่อนๆไม่ใช่มีแต่คนไทยนะ มีหลากหลายชาติมาก ทั้ง จีน ฮอลแลนด์ อินเดีย ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆอีก แรกๆก็คุยกันจนเมื่อยมือเลยค่ะ หลังๆก็ปรับตัวได้แล้ว
ส่วนอาจารย์ก็จะมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติสลับกันไป แต่ในคลาสก็จะเรียนและสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด อาจารย์ดูแลเอาใจใส่ดีมาก คอยถามอยู่ตลอดเวลาเพราะว่ากลัวว่าเด็กๆจะไม่เข้าใจ แต่สำหรับนศ.ที่เป็นคนไทยถ้าไม่เข้าใจจริงๆ อาจารย์ก็จะแปลเป็นภาษาไทยให้

ตึกเรียนของคณะเราค่ะ



นี่ค่ะโฉมหน้าเพื่อนๆ



การเรียนที่นี่จะมีทั้งทฤษฎีและปฎิบัติ เราชอบวิชาที่เป็นปฎิบัติมาก เพราะจะได้ทำจริงๆ ได้จับอุปกรณ์จริงหลังจากที่เรียนทฤษฎีกันมา  จำได้ว่าคลาสเรียนวิชาปฎิบัติวิชาแรกที่เราได้เรียนคือ วิชาทำอาหาร  ตื่นเต้นมากค่ะ คือไหนจะตื่นเต้นกับอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือการทำครัวที่พร้อมมาก แล้วเรายังต้องใส่ชุดเชฟด้วยนะ ไม่ใช่เรียนแบบชุดนศ.ธรรมดา  ซึ่งชุดทางมหาวิทยาลัยเค้าก็จัดหาให้ อาจารย์จะบอกและย้ำเสมอ การเรียนทำอาหารผู้ทำต้องดูสะอาดสะอ้าน ห้ามแต่งหน้าจัด เก็บผมให้เรียบร้อย









นอกจากคลาสเรียนทำอาหารแล้ว ก็ยังมี คลาสเรียนเบเกอรี่  อันนี้โปรดปรานสำหรับเรามากเพราะว่าปกติเป็นคนชอบทานเบเกอรี่มาก แต่ก็เพิ่งจะรู้ประจักษ์แจ้งก็ในคลาสเรียนนี่แหล่ะว่า กว่าจะมาเป็นเบเกอรี่เลิศรสที่เรากินกัน คนทำเค้าต้องใช้ความใส่ใจมากแค่ไหน  เพราะการทำเบเกอรี่จะค่อนข้างยากกว่าการทำอาหาร ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน เพื่อนๆในห้องก็มีทำพลาดเหมือนกัน เช่น ตีแป้งไม่ฟู  หรือว่าตีแป้งแรงไป ก็ต้องทำใหม่ เป็นประสบการณ์ว่าครั้งต่อไปเราจะไม่พลาดแบบนี้อีก

ห้องครัวหวาน





-------------------------------------
เรียนทำอาหารก็แล้ว ทำเบเกอรี่ก็แล้ว ยังๆๆๆ ยังมีอีก เราได้เรียนการทำกาแฟด้วยนะ นอกจากจะต้องเป็นบาลิสต้าชงให้อร่อยแล้ว เราต้องสร้างมูลค่าให้กับกาแฟแต่ละแก้วด้วย ได้เรียนการแต่งหน้ากาแฟด้วยนะ ได้เทคนิคมากมายเลย วิชานี้ต้องขายจริง ต้องทำการตลาดได้ ตั้งแต่การตั้งชื่อร้าน การทำโปรโมชั่น เช่นว่า กาแฟหรือเครืองดื่มชนิดไหนจะคู่กับเบเกอรี่อะไรดี ที่จะทำให้เราได้กำไร  และถ้าทำการตลาดผ่านทางโซเชียลจะทำอย่างไร เพื่อที่จบไปแล้วเผื่อบางคนไม่อยากจะไปทำงานในองค์กร อยากจะเปิดร้านเป็นของตัวเองก็สามารถทำได้









เป็นงัยคะ น่าเรียนไหม ตอนนี้เราก็เรียนอยู่ปี 3 แล้ว รู้สึกว่าคิดถูกมากที่เลือกมาเรียนที่สาขานี้ที่มหาลัยแห่งนี้ คือได้รับประสบการณ์มากมาย และประสบการณ์ก้าวต่อไปของเราก็คือการต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยการฝึกงาน    เราเลือกไปฝึกงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ เพราะว่าเราอยากฝึกภาษาให้ดีขี้นกว่านี้และได้ลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง  แต่ขั้นตอนในการไปฝึกงานต่างประเทศก็ไม่ได้ง่ายๆเลยนะ เริ่มจากมหาวิทยาลัยจะหาบริษัทที่มีคอนเนคชั่นกับทางโรงแรมของต่างประเทศมาให้เราเลือก แต่เราเองก็ควรต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละประเทศที่เราอยากจะไปก่อนนะ  พอเราเลือกได้ค่อยมาเขียน resume เพื่อส่งไปให้บริษัท จากนั้นเค้าก็จะติดต่อเรากลับมาเพื่อทำการสัมภาษณ์และทดสอบภาษาอังกฤษ ถ้าผ่านก็จะส่งให้ทางโรงแรมสัมภาษณ์เราอีกที โอ้ยๆๆๆตื่นเต้น ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะผ่านไหม ไว้ถ้าสัมภาษณ์ผ่านแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้น้องๆที่มีฝันแบบพี่