สวัสดีจ้า เพื่อนๆ กระทู้นี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยให้ทราบกัน ในตอนที่เรากำลังเรียน ม.6 ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องมองหาสถานที่เรียนต่อ ก็ทั้งหาข้อมูล ไปงาน open house ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งของรัฐบาลและเอกชนจนมาพบกับ 
มหาวิทยาลัยเกริก ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราในหลายๆ อย่าง เลยทำให้เราตัดสินใจเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และได้สัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแบบจัดเต็ม กระทู้นี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 
มหาวิทยาลัยเกริก กัน พอจะมีใครคุ้นหูกับมหาวิทยาลัยนี้บ้างเอ่ย หรือมีใครที่เรียนจบจากที่นี่บ้าง ลองมาพิมพ์บอกเล่ากันได้นะ ศิษย์เก่าทั้งหลายถึงเวลารวมตัวกันแล้วจ้า 
เอาล่ะ! ถ้าเพื่อนๆ พร้อมกันแล้ว เราขอเริ่มแนะนำประวัติมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อนเลยก็แล้วกัน
มหาวิทยาลัยเกริก เป็นมหาลัยเอกชนที่เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้วนะ มีทั้ง ปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาเอก + หลักสูตรอินเตอร์ด้วย ซึ่งจะมีหลักสูตรที่เปิดสอนแยกตามคณะเพื่อความเข้าใจได้ง่ายๆ ความเป็นมาของ มหาวิทยาลัยเกริก ได้เริ่มเปิดดำเนินการเป็นครั้งแรกที่อาคาร ก ราชดำเนิน เมื่อปี พ.ศ. 2495 ในชื่อ 
โรงเรียนภาษาและวิชาชีพ โดย ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ (แต่คนส่วนใหญ่รู้จักชื่อโรงเรียนนี้ในนามโรงเรียนอาจารย์เกริก) ตั้งอยู่ที่ ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะพัฒนาเป็น 
สถาบันเทคโนโลยีสังคม (เกริก) และ มหาวิทยาลัยเกริก ในปัจจุบัน แล้วที่สำคัญ 
มหาวิทยาลัยเกริกถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 1 ใน 5 แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการอนุมัติเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มแรก  

ภาพบรรยากาศในอดีตสมัยยังเป็น สถาบันเทคโนโลยีสังคม (เกริก)
 

ดร.เกริก มังคละพฤกษ์
 
ต้องบอกว่าเปิดมานานขนาดนี้ ก็จัดว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ยื่น 1 ในย่านรามอินทรา อะนะ
ขอย้อนกลับไปในสมัยที่เราเรียนสักหน่อย ก็ต้องบอกว่าตอนนั้นการเดินทางมามหาวิทยาลัยไม่ได้ลำบากอะไร เพราะนั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย ม.เกริก หรือไม่ก็นั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว มาลง สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ หรือจะ BTS สายสีชมพูมาลงสถานีรามอินทรา 3 (หน้าเซ็นทรัลรามอินทรา) แล้วก็เดินเข้าซอยรามอินทรา 1 มาไม่กี่เมตร ก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว พอเลิกเรียนก็ชวนเพื่อนไปเดินเล่นเซ็นทรัลรามอินทราที่อยู่ใกล้ๆ ต่อ (หรือนี่เป็นเหตุผลให้เรามาเรียนเพราะใกล้ห้างกันนะ อิอิ)     
จำได้ดีว่าเราตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่เพราะอยากเข้า คณะบริหารธุรกิจ เลือกเรียนสาขาวิชาที่จบแล้วมีงานทำแน่นอน เราเลยเลือกสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการ เหตุผลมี 3 อย่าง คือ 1.กระแสของโลกดิจิทัลกำลังมาแรง เลยคิดว่าเมื่อจบไปแล้วสามารถไปต่อยอดอะไรได้หลายอย่าง ตอบแบบหล่อๆ 2.เป็นสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน และ 3.เดินทางไป-กลับง่ายสะดวกสบาย ฮ่าๆ  
ตอนที่เราเรียนนั้นการเรียนของที่นี่เขาจะไม่เน้นท่องจำมากเท่าไหร่ แต่จะเน้นการคิดวิเคราะห์แล้วนำไปใช้จริง โดยเฉพาะวิชาด้านบริหารเนี่ย บางคลาสจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้รู้สึกว่าได้พัฒนาทักษะการคิด ไม่ใช่แค่จำแล้วเข้าไปนั่งสอบให้ผ่านไปเฉยๆ จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่คณะบริหารหรอกนะ ทุกคณะก็เน้นแบบนี้เหมือนกันแหละ อ๋อๆ แล้วที่สำคัญเขามีโครงการแลกเปลี่ยนให้ได้ไปเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ในต่างแดนกันอีกด้วยนะ สมัยที่เราเรียนถึงเราจะไม่ได้ไปแลกเปลี่ยนแต่เราก็ได้เพื่อนที่เป็นคนจีนหลายคนเลย เพราะที่มหาลัยเขามีหลักสูตรนานาชาติ เราก็เลยได้รู้จักเพื่อนต่างชาติตอนที่เข้าทำกิจกรรมชมรม คุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็ สนุกฮาดี 
เพื่อนๆ คือเราจะบอกว่ามหาวิทยาลัยเกริกเขาไม่ได้มีแค่คณะบริหารธุระกิจที่เราเรียนนะ 
ยังมีอีกหลายคณะหลายสาขาวิชา เลยจ้า เดี๋ยวขอแนะนำให้รู้เลยก็แล้วกัน
ขอบคุณข้อมูลคณะต่างๆ จากมหาวิทยลัยเกริก 
https://www.krirk.ac.th/  
มาเริ่มที่คณะแรก กับคณะยอดนิยมอย่าง 
คณะบริหารธุรกิจ เพื่อนๆ คนไหนที่อยากเข้าใจการทำธุรกิจจริง การบริหารจัดการด้านธุรกิจ หรือเป็นผู้ประกอบการ คณะนี้ถือว่าโดนใจแน่นอน ในส่วนของสาขาวิชาก็มีให้เลือกทั้ง หลักสูตรบัญชีบัณฑิต , สาขาวิชานวัตกรรมการตลาด , สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ , สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการ , สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมธุรกิจและเทคโนโลยีสมัยใหม่ , สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรม , สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระหว่างประเทศ , สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ
 
เป็นยังไงล่ะแค่คณะแรกก็มีสาขาวิชาให้เลือกเยอะมาก เอิ่มๆ แต่ก่อนนะก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก แต่ด้วยความที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทในชีวิตมากขึ้น ทำให้คณะบริหารธุรกิจต้องมีการนำ AI มาสอนเสริมในแต่ละสาขาวิชาให้ทันสมัยขึ้น และสาขาที่เราเรียนจบมาก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหมือนกัน อิอิ หรือถ้าใครไม่ถนัดทางด้านเทคโนโลยี แต่ชอบทางด้านธุรกิจ และการค้าระหว่างประเทศ ก็สามารถเลือกเรียนสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศได้นะ สาขานี้แค่ชื่อยังเท่ห์เลย หรือสาขาทางบริหารธุรกิจสาขาอื่น ๆ ก็ได้หมดเลย อยู่ที่ความชอบของเพื่อนๆ เลย
ถัดมาเป็น 
คณะศิลปศาสตร์ ใครที่สนใจเกี่ยวกับด้านภาษาคณะนี้ก็น่าสนใจอยู่นะ เพราะมีทั้งไทย-อังกฤษ-จีน เหมาะกับคนที่สนใจอยากจะเป็นครู หรืออยู่ในงานที่เกี่ยวกับระบบการศึกษา ทำงานหน่วยงานราชการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข เป็นล่าม พนักงานสายต่างประเทศ หรือ สายครีเอทีฟ สื่อมวลชน โซเชียลมีเดีย การตลาดออนไลน์ 
แต่ละอาชีพน่าสนใจมากๆ แน่นอนว่าการได้ภาษาที่ 2 หรือ 3 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี โดยคณะศิลปศาสตร์เขาจะมีหลักสูตรให้เลือกเรียนหลากหลายมาก แบ่งเป็น 
หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต มีสาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาการจัดการ สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิง 
หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต มีสาขานิเทศศาสตร์และดิจิทัลมีเดีย สาขาดิจิทัลอาร์ตและดีไซน์ 
หลักสูตรสาธารณะสุขศาสตรบัณฑิต และ หลักสูตรรัฐศาสตร์บัณฑิต
คณะนิติศาสตร์ อีกหนึ่งคณะยอดนิยมที่ใครหลายคนมาลงเรียนกัน เหตุผลที่ทำให้คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกริกเป็นที่นิยม ก็เพราะว่าเคยได้รับการจัดอันดับให้ติดหนึ่งใน TOP 10 มหาวิทยาลัยเอกชน ประจำปี 2021-2025  
และยังมีหลักสูตรนานาชาติ (International Program) เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน มีทั้ง ป.ตรี ป.โท ป.เอก มีความร่วมมือกับจีน อังกฤษ สิงค์โปร์ ฯลฯ และบางหลักสูตรได้รับปริญญา 2 ใบ จากของมหาวิทยาลัยเกริก และจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) ด้วยนะ โดยแบ่งเป็น วิทยาลัยนานาชาติ (หลักสูตรภาษาจีน) , วิทยาลัยนานาชาติศิลปะ (หลักสูตรภาษาจีน) , วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ , วิทยาลัยนานาชาติการบินและอวกาศ และ วิทยาลัยนานาชาติบริทิช British International College
นอกจากนั้นยังมี หลักสูตร ปริญญาโท – ปริญญาเอก ที่สามารถเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันอาทิตย์วันเดียวได้ ถ้าใครอยากเรียนต่ออยากมีใบปริญญาเพิ่มอีกสักใบแต่ว่ามีงานประจำ ที่นี่ถือว่าเหมาะมากเลยนะ แถมมีหลายสาขาให้เลือกด้วยเช่นกัน 
จริงๆ ถ้าเราหาจังหวะที่ลงตัวได้ก็ว่าจะไปลงเรียนปริญญาโทเพิ่มอีกสักใบ 
ในตอนก่อนที่จะมาเรียนที่นี่ หรือแม้แต่ตอนที่เข้ามาเรียนแล้ว เราเองก็มีคำถามที่สงสัยว่า มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษารึเปล่า , กู้ กยศ. ได้มั้ยนะ จนได้มารู้จากเพื่อนในกลุ่มว่าตัวเขาเองก็สมัครสอบชิงทุนเรียนดีมา ส่วนเรื่องของการกู้ กยศ. เราก็ได้มารู้จากอาจารย์ที่ปรึกษาว่าทางมหาวิทยาเขามีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ) อยู่เหมือนกัน ซึ่งสามารถ 
กู้ กยศ. ได้เต็มจำนวนค่าเทอม โดยไม่ต้องสำรองจ่ายใดๆ ก่อน เราขอแนบลิงค์เว็ปไซต์ของทางมหาลัยไว้ให้อ่านก็แล้วกันจ้า
ข้อมูล : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
ข้อมูล : ทุนการศึกษา
โอเค มาถึงเรื่องของกิจกรรมกันบ้าง ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ทางมหาวิทยาลัยนี้เขาก็มีมาให้แบบจัดหนักจัดเต็มกันไปเลยจ้า ใครที่เป็นเด็กสายกิจกรรมบอกเลยว่าถูกใจแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น 
ดนตรี กีฬา จิตอาสา ค่ายภาษาจีน หรือแม้แต่การเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ที่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ เขาก็มี พูดแล้วก็คิดถึงสมัยก่อนเลยได้ลองทำอะไรสนุกๆ เยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะ ค่ายภาษาจีนเนี่ยเปิดโลกเรามาก เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเขียนพู่กันจีน จำได้ว่ายากพอตัวเลยกว่าเราจะเขียนได้ แต่พวกเพื่อนๆ รุ่นพี่กับอาจารย์ คอยช่วยแนะนำดีมาก แล้วก็ตอนที่ได้ไปทัศนศึกษาพร้อมกลุ่มเพื่อนในคณะก็สนุกเช่นกัน เฮฮาปาร์ตี้สุดๆ 
ถ้ามีคนมาถามเราว่าเรียนมหาวิทยาลัยเกริกได้อะไร เราก็คงบอกได้อย่างเต็มปากว่า ได้ประสบการณ์ ไม่ว่าจะประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากห้องเรียน ประสบการณ์ที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลอง ได้เจอกับเพื่อนๆ ที่ทุกวันนี้ก็ยังนัดเจอกินข้าวกัน และได้รับการดูแลที่อบอุ่นจากอาจารย์ที่ปรึกษา ที่คอยช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีและทั่วถึง ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกเครียดและกดดัน อาจารย์จะคอยแนะนำให้กำลังใจเราเป็นอย่างดี
ช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นอะไรที่สนุกอยู่ไม่น้อย สิ่งดีๆ ที่เราได้เจอก็ล้วนเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกริก สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกกับทุกคนว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้ เพราะเราสามารถหาความรู้ให้กับชีวิตได้ตลอด หวังว่าเรื่องราวในกระทู้นี้คงจะเป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังหาที่เรียนต่อไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ
แผนที่ :
https://maps.app.goo.gl/eHH1nk49rKK1BBes6
เว็บไซต์หลัก : 
www.krirk.ac.th
Line OA : @krirk									
									
																																 
						
[BR] ชีวิตโดนเด่นแต่ไม่โดดเดี่ยวที่ มหาวิทยาลัยเกริก หลักสูตรหลากหลายกิจกรรมเยอะได้เพื่อนมากมาย เดินทางสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า
สวัสดีจ้า เพื่อนๆ กระทู้นี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยให้ทราบกัน ในตอนที่เรากำลังเรียน ม.6 ก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องมองหาสถานที่เรียนต่อ ก็ทั้งหาข้อมูล ไปงาน open house ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งของรัฐบาลและเอกชนจนมาพบกับ มหาวิทยาลัยเกริก ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราในหลายๆ อย่าง เลยทำให้เราตัดสินใจเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และได้สัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแบบจัดเต็ม กระทู้นี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ มหาวิทยาลัยเกริก กัน พอจะมีใครคุ้นหูกับมหาวิทยาลัยนี้บ้างเอ่ย หรือมีใครที่เรียนจบจากที่นี่บ้าง ลองมาพิมพ์บอกเล่ากันได้นะ ศิษย์เก่าทั้งหลายถึงเวลารวมตัวกันแล้วจ้า
มหาวิทยาลัยเกริก เป็นมหาลัยเอกชนที่เปิดมานานกว่า 70 ปีแล้วนะ มีทั้ง ปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาเอก + หลักสูตรอินเตอร์ด้วย ซึ่งจะมีหลักสูตรที่เปิดสอนแยกตามคณะเพื่อความเข้าใจได้ง่ายๆ ความเป็นมาของ มหาวิทยาลัยเกริก ได้เริ่มเปิดดำเนินการเป็นครั้งแรกที่อาคาร ก ราชดำเนิน เมื่อปี พ.ศ. 2495 ในชื่อ โรงเรียนภาษาและวิชาชีพ โดย ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ (แต่คนส่วนใหญ่รู้จักชื่อโรงเรียนนี้ในนามโรงเรียนอาจารย์เกริก) ตั้งอยู่ที่ ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะพัฒนาเป็น สถาบันเทคโนโลยีสังคม (เกริก) และ มหาวิทยาลัยเกริก ในปัจจุบัน แล้วที่สำคัญ มหาวิทยาลัยเกริกถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 1 ใน 5 แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการอนุมัติเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่มแรก
ภาพบรรยากาศในอดีตสมัยยังเป็น สถาบันเทคโนโลยีสังคม (เกริก)
ดร.เกริก มังคละพฤกษ์
ขอย้อนกลับไปในสมัยที่เราเรียนสักหน่อย ก็ต้องบอกว่าตอนนั้นการเดินทางมามหาวิทยาลัยไม่ได้ลำบากอะไร เพราะนั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย ม.เกริก หรือไม่ก็นั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว มาลง สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ หรือจะ BTS สายสีชมพูมาลงสถานีรามอินทรา 3 (หน้าเซ็นทรัลรามอินทรา) แล้วก็เดินเข้าซอยรามอินทรา 1 มาไม่กี่เมตร ก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว พอเลิกเรียนก็ชวนเพื่อนไปเดินเล่นเซ็นทรัลรามอินทราที่อยู่ใกล้ๆ ต่อ (หรือนี่เป็นเหตุผลให้เรามาเรียนเพราะใกล้ห้างกันนะ อิอิ)
จำได้ดีว่าเราตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่เพราะอยากเข้า คณะบริหารธุรกิจ เลือกเรียนสาขาวิชาที่จบแล้วมีงานทำแน่นอน เราเลยเลือกสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการ เหตุผลมี 3 อย่าง คือ 1.กระแสของโลกดิจิทัลกำลังมาแรง เลยคิดว่าเมื่อจบไปแล้วสามารถไปต่อยอดอะไรได้หลายอย่าง ตอบแบบหล่อๆ 2.เป็นสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของตลาดแรงงาน และ 3.เดินทางไป-กลับง่ายสะดวกสบาย ฮ่าๆ
ตอนที่เราเรียนนั้นการเรียนของที่นี่เขาจะไม่เน้นท่องจำมากเท่าไหร่ แต่จะเน้นการคิดวิเคราะห์แล้วนำไปใช้จริง โดยเฉพาะวิชาด้านบริหารเนี่ย บางคลาสจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้รู้สึกว่าได้พัฒนาทักษะการคิด ไม่ใช่แค่จำแล้วเข้าไปนั่งสอบให้ผ่านไปเฉยๆ จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่คณะบริหารหรอกนะ ทุกคณะก็เน้นแบบนี้เหมือนกันแหละ อ๋อๆ แล้วที่สำคัญเขามีโครงการแลกเปลี่ยนให้ได้ไปเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ในต่างแดนกันอีกด้วยนะ สมัยที่เราเรียนถึงเราจะไม่ได้ไปแลกเปลี่ยนแต่เราก็ได้เพื่อนที่เป็นคนจีนหลายคนเลย เพราะที่มหาลัยเขามีหลักสูตรนานาชาติ เราก็เลยได้รู้จักเพื่อนต่างชาติตอนที่เข้าทำกิจกรรมชมรม คุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็ สนุกฮาดี
ยังมีอีกหลายคณะหลายสาขาวิชา เลยจ้า เดี๋ยวขอแนะนำให้รู้เลยก็แล้วกัน
ขอบคุณข้อมูลคณะต่างๆ จากมหาวิทยลัยเกริก https://www.krirk.ac.th/
มาเริ่มที่คณะแรก กับคณะยอดนิยมอย่าง คณะบริหารธุรกิจ เพื่อนๆ คนไหนที่อยากเข้าใจการทำธุรกิจจริง การบริหารจัดการด้านธุรกิจ หรือเป็นผู้ประกอบการ คณะนี้ถือว่าโดนใจแน่นอน ในส่วนของสาขาวิชาก็มีให้เลือกทั้ง หลักสูตรบัญชีบัณฑิต , สาขาวิชานวัตกรรมการตลาด , สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ , สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการ , สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมธุรกิจและเทคโนโลยีสมัยใหม่ , สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรม , สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระหว่างประเทศ , สาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศ
เป็นยังไงล่ะแค่คณะแรกก็มีสาขาวิชาให้เลือกเยอะมาก เอิ่มๆ แต่ก่อนนะก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก แต่ด้วยความที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทในชีวิตมากขึ้น ทำให้คณะบริหารธุรกิจต้องมีการนำ AI มาสอนเสริมในแต่ละสาขาวิชาให้ทันสมัยขึ้น และสาขาที่เราเรียนจบมาก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหมือนกัน อิอิ หรือถ้าใครไม่ถนัดทางด้านเทคโนโลยี แต่ชอบทางด้านธุรกิจ และการค้าระหว่างประเทศ ก็สามารถเลือกเรียนสาขาวิชาธุรกิจระหว่างประเทศได้นะ สาขานี้แค่ชื่อยังเท่ห์เลย หรือสาขาทางบริหารธุรกิจสาขาอื่น ๆ ก็ได้หมดเลย อยู่ที่ความชอบของเพื่อนๆ เลย
ถัดมาเป็น คณะศิลปศาสตร์ ใครที่สนใจเกี่ยวกับด้านภาษาคณะนี้ก็น่าสนใจอยู่นะ เพราะมีทั้งไทย-อังกฤษ-จีน เหมาะกับคนที่สนใจอยากจะเป็นครู หรืออยู่ในงานที่เกี่ยวกับระบบการศึกษา ทำงานหน่วยงานราชการ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข เป็นล่าม พนักงานสายต่างประเทศ หรือ สายครีเอทีฟ สื่อมวลชน โซเชียลมีเดีย การตลาดออนไลน์
แต่ละอาชีพน่าสนใจมากๆ แน่นอนว่าการได้ภาษาที่ 2 หรือ 3 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี โดยคณะศิลปศาสตร์เขาจะมีหลักสูตรให้เลือกเรียนหลากหลายมาก แบ่งเป็น หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต มีสาขาวิชาภาษาอังกฤษ สาขาวิชาการจัดการ สาขาวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิง หลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิต มีสาขานิเทศศาสตร์และดิจิทัลมีเดีย สาขาดิจิทัลอาร์ตและดีไซน์ หลักสูตรสาธารณะสุขศาสตรบัณฑิต และ หลักสูตรรัฐศาสตร์บัณฑิต
คณะนิติศาสตร์ อีกหนึ่งคณะยอดนิยมที่ใครหลายคนมาลงเรียนกัน เหตุผลที่ทำให้คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกริกเป็นที่นิยม ก็เพราะว่าเคยได้รับการจัดอันดับให้ติดหนึ่งใน TOP 10 มหาวิทยาลัยเอกชน ประจำปี 2021-2025
และยังมีหลักสูตรนานาชาติ (International Program) เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน มีทั้ง ป.ตรี ป.โท ป.เอก มีความร่วมมือกับจีน อังกฤษ สิงค์โปร์ ฯลฯ และบางหลักสูตรได้รับปริญญา 2 ใบ จากของมหาวิทยาลัยเกริก และจากมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) ด้วยนะ โดยแบ่งเป็น วิทยาลัยนานาชาติ (หลักสูตรภาษาจีน) , วิทยาลัยนานาชาติศิลปะ (หลักสูตรภาษาจีน) , วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ , วิทยาลัยนานาชาติการบินและอวกาศ และ วิทยาลัยนานาชาติบริทิช British International College
นอกจากนั้นยังมี หลักสูตร ปริญญาโท – ปริญญาเอก ที่สามารถเรียนวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันอาทิตย์วันเดียวได้ ถ้าใครอยากเรียนต่ออยากมีใบปริญญาเพิ่มอีกสักใบแต่ว่ามีงานประจำ ที่นี่ถือว่าเหมาะมากเลยนะ แถมมีหลายสาขาให้เลือกด้วยเช่นกัน
จริงๆ ถ้าเราหาจังหวะที่ลงตัวได้ก็ว่าจะไปลงเรียนปริญญาโทเพิ่มอีกสักใบ
ในตอนก่อนที่จะมาเรียนที่นี่ หรือแม้แต่ตอนที่เข้ามาเรียนแล้ว เราเองก็มีคำถามที่สงสัยว่า มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษารึเปล่า , กู้ กยศ. ได้มั้ยนะ จนได้มารู้จากเพื่อนในกลุ่มว่าตัวเขาเองก็สมัครสอบชิงทุนเรียนดีมา ส่วนเรื่องของการกู้ กยศ. เราก็ได้มารู้จากอาจารย์ที่ปรึกษาว่าทางมหาวิทยาเขามีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ) อยู่เหมือนกัน ซึ่งสามารถ กู้ กยศ. ได้เต็มจำนวนค่าเทอม โดยไม่ต้องสำรองจ่ายใดๆ ก่อน เราขอแนบลิงค์เว็ปไซต์ของทางมหาลัยไว้ให้อ่านก็แล้วกันจ้า
ข้อมูล : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
ข้อมูล : ทุนการศึกษา
โอเค มาถึงเรื่องของกิจกรรมกันบ้าง ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ทางมหาวิทยาลัยนี้เขาก็มีมาให้แบบจัดหนักจัดเต็มกันไปเลยจ้า ใครที่เป็นเด็กสายกิจกรรมบอกเลยว่าถูกใจแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ดนตรี กีฬา จิตอาสา ค่ายภาษาจีน หรือแม้แต่การเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ที่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ เขาก็มี พูดแล้วก็คิดถึงสมัยก่อนเลยได้ลองทำอะไรสนุกๆ เยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะ ค่ายภาษาจีนเนี่ยเปิดโลกเรามาก เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเขียนพู่กันจีน จำได้ว่ายากพอตัวเลยกว่าเราจะเขียนได้ แต่พวกเพื่อนๆ รุ่นพี่กับอาจารย์ คอยช่วยแนะนำดีมาก แล้วก็ตอนที่ได้ไปทัศนศึกษาพร้อมกลุ่มเพื่อนในคณะก็สนุกเช่นกัน เฮฮาปาร์ตี้สุดๆ
ถ้ามีคนมาถามเราว่าเรียนมหาวิทยาลัยเกริกได้อะไร เราก็คงบอกได้อย่างเต็มปากว่า ได้ประสบการณ์ ไม่ว่าจะประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากห้องเรียน ประสบการณ์ที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลอง ได้เจอกับเพื่อนๆ ที่ทุกวันนี้ก็ยังนัดเจอกินข้าวกัน และได้รับการดูแลที่อบอุ่นจากอาจารย์ที่ปรึกษา ที่คอยช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีและทั่วถึง ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกเครียดและกดดัน อาจารย์จะคอยแนะนำให้กำลังใจเราเป็นอย่างดี
ช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นอะไรที่สนุกอยู่ไม่น้อย สิ่งดีๆ ที่เราได้เจอก็ล้วนเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเกริก สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกกับทุกคนว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้ เพราะเราสามารถหาความรู้ให้กับชีวิตได้ตลอด หวังว่าเรื่องราวในกระทู้นี้คงจะเป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังหาที่เรียนต่อไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ
แผนที่ :https://maps.app.goo.gl/eHH1nk49rKK1BBes6
เว็บไซต์หลัก : www.krirk.ac.th
Line OA : @krirk
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน