***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................

MC นู๋สร้างชาติ รับหน้าที่ค่ะ

ย้อนอดีตกันค่ะ วันนี้วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันเกิดของนโปเลียน
นโปเลียน โบนาปาร์ต
นโปเลียนเกิดที่เมืองอาฌัคซิโอหรืออายาชโชซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1769 เมื่ออายุได้ 9 ปี นโปเลียนเดินทางมาศึกษาต่อวิชาการทหารที่ฝรั่งเศส โดยได้รับทุนเล่าเรียนหลวง นโปเลียนเป็นชายร่างเล็ก (เขาสูงราว 5 ฟุต 2 นิ้ว) เงียบขรึม มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สนใจการอ่านหนังสือ และมีความจำที่ดีเลิศ
เขาจบการศึกษาเมื่ออายุเพียง 16 ปี และได้รับยศร้อยตรีในกองทหารปืนใหญ่ เมื่อเรียนสำเร็จมาใหม่ๆ เขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะต่อสู้เพื่อแยกเกาะคอร์ซิกาบ้านเกิดของเขา ออกเป็นอิสระจากฝรั่งเศสหลายครั้ง แต่ทำการไม่สำเร็จหลังจากเกิดการ ปฏิวัติในฝรั่งเศสปี ค.ศ.1789 เขาได้นำทัพเข้าสู่สงคราม และได้แสดงผลงานเด่นๆ หลายครั้ง เขาได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ และได้รับการเลื่อนยศเป็นนายพลด้วยวัยเพียง 27 ปี
เขาแต่งงานกับหญิงม่ายนามว่า โจเซฟีน เดอ โบฮาร์เนส์ ซึ่งแก่กว่าเขา 6 ปี และมีลูกติด 2 คน สองวันหลังจากการแต่งงาน เขาได้รับคำสั่งให้บัญชาการกองทัพฝรั่งเศสไปสู้รบในอิตาลี ระหว่างการเดินทัพนโปเลียนเริ่มตระหนักว่าหนทางแห่งความยิ่งใหญ่ของเขาจะไปทางใด เขาเลิกล้มความคิดที่จะแยกเกาะคอร์ซิกาให้เป็นอิสระไปนานแล้ว ประเทศฝรั่งเศสต่างหากคือจุดมุ่งหมายของเขา ซึ่งการรบภายใต้การบัญชาของเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขาเป็นที่รักและยกย่องของทหารเป็นอย่างมาก
นโปเลียนทำสงครามตลอดเวลา ประชาชนชาวฝรั่งเศสในขณะนั้นต่างมอบความนิยมชมชอบและความจงรักภักดีให้แก่นโปเลียนแต่เพียงผู้เดียว เขาเริ่มมั่นใจว่าโชคชะตาของฝรั่งเศสอยู่ในกำมือของเขาแล้ว เขาจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ "นโปเลียนที่ 1 จักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส" และสถาปนาภรรยาโจเซฟีน เป็น พระราชินีโจเซฟีน
ฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เข้าสู่สภาพที่ระอุไปด้วยไอของสงครามตลอดเวลา จักรพรรดินโปเลียนแผ่พระราชอำนาจไปทั่วทวีปยุโรป
ในขณะที่กองทัพของพระองค์ก็เริ่มเสื่อมลง เนื่องจากบรรดาไพร่พลร่วมรบที่ถูกเกณฑ์มาจากหลายเชื้อชาติไม่เข้มแข็งเหมือนก่อน เพราะล้วนถูกเกณฑ์มารบด้วยความจำใจ ประกอบกับการตัดสินใจผิดพลาดในการตัดโอกาสศัตรูเก่าคืออังกฤษไม่ให้ติดต่อค้าขายกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยสินค้าของอังกฤษ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและไม่พอใจไปทั่ว โดยเฉพาะเมื่อนโปเลียนสั่งกักขังสมเด็จพระสันตะปาปาไพอัสที่ 7 ซึ่งทรงคัดค้านระบบ "กักด่านยุโรป" ของเขา และยังส่งกองทัพเข้าไปยึดรัฐวาติกัน นับว่าสร้างความไม่พอใจให้แก่ศาสนิกชนเป็นอย่างมาก
ภายหลังนโปเลียนเริ่มพ่ายกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บที่แสนทารุณของรัสเซีย ซ้ำต้องรับมือกับการดักซุ่มโจมตีตัดกำลังจนสูญเสียทหารไปเกือบ 500,000 คน ข่าวการปราชัยของนโปเลียนได้แพร่หลายไปทั่ว ทำให้ประเทศที่ถูกนโปเลียนบังคับไว้ใต้อำนาจ ก็พากันฉวยโอกาสจับอาวุธขึ้นต่อต้านฝรั่งเศสพร้อมกัน แม้นโปเลียนจะรวบรวมกำลังทหารขึ้นมาได้ใหม่แต่ก็ไม่เกรียงไกรเหมือนเก่า
ช่วงสุดท้ายของการรบ นโปเลียนสูญเสียทหารไปในการรบมากมาย ในขณะที่ฝ่ายอังกฤษมีกำลังทัพหนุนมาช่วยอีกถึง 30,000 คน ประกอบกับแม่ทัพรองที่นโปเลียนสั่งให้คอยคุมกองทัพปรัสเซียไว้กลับทรยศ ปล่อยให้กองทัพปรัสเซียรุกเข้ามาตีกองทัพของพระองค์ซ้ำเข้าอีก การรบที่วอเตอร์ลูจึงยุติลงด้วยความปราชัยของนโปเลียน
นโปเลียนเสด็จกลับมายังปารีส ทรงสละราชสมบัติเป็นครั้งที่ 2 ตัดสินใจลงเรือเพื่อจะไปอเมริกา แต่ไม่สำเร็จเพราะกองทัพเรืออังกฤษคอยจุกช่องทางไม่ให้เล็ดลอดไปได้ นโปเลียนจึงทรงส่งสาสน์ไปขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษศัตรูเก่าของพระองค์ ในชั้นต้นรัฐบาลอังกฤษได้ยอมรับ แต่เมื่อนโปเลียนเสด็จมาถึงท่าเรือเมืองพลีมัธ กองทัพเรืออังกฤษก็ควบคุมพระองค์ไว้บนเกาะเซนต์ เฮเลนา เกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียง 75 ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวทางภาคใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ตามมติของที่ประชุมคองเกรสแห่งเวียนนา จักรพรรดินโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่จึงใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายของพระองค์บนเกาะอัน กันดารและห่างไลกผู้คนแห่งนี้
สุขภาพของจักรพรรดินโปเลียนทรุดโทรมลงเรื่อยๆ และสิ้นพระชนม์ลง (มีหลายคนบอกว่าโดนวางยา) ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ.1821 ขณะมีพระชนมายุได้ 52 พรรษา พระศพของพระองค์ถูกฝังอยู่บนเกาะแห่งนั้น จนอีก 20 ปีต่อมา รัฐบาลฝรั่งเศสจึงอัญเชิญพระบรมศพกลับมายังปารีส และฝังไว้ ณ สุสานแองวาลิด จนถึงปัจจุบัน เป็นอันจบชีวิตของ นโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้ยิ่งใหญ่
พระเจ้านโปเลียนได้รับการยกย่องว่าเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แม้ด้านหนึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นผู้กระหายในอำนาจและชัยชนะ แต่นโปเลียนก็ได้สร้างรัฐธรรมนูญและปฏิรูประบบกฎหมายฝรั่งเศสขึ้นอย่างเป็นระบบ ยกเลิกระบบเจ้าขุนมูลนาย ให้การอุปถัมภ์ทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วรรณคดีและศิลปะ
Cr.
http://writer.dek-d.com/zoobigsf/story/viewlongc.php?id=768328&chapter=2
http://pantip.com/topic/31365587
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
เพื่อมวลชน @ห้องเพลงคนรากหญ้า

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 15/8/2016
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ย้อนอดีตกันค่ะ วันนี้วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันเกิดของนโปเลียน
นโปเลียน โบนาปาร์ต
นโปเลียนเกิดที่เมืองอาฌัคซิโอหรืออายาชโชซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1769 เมื่ออายุได้ 9 ปี นโปเลียนเดินทางมาศึกษาต่อวิชาการทหารที่ฝรั่งเศส โดยได้รับทุนเล่าเรียนหลวง นโปเลียนเป็นชายร่างเล็ก (เขาสูงราว 5 ฟุต 2 นิ้ว) เงียบขรึม มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สนใจการอ่านหนังสือ และมีความจำที่ดีเลิศ
เขาจบการศึกษาเมื่ออายุเพียง 16 ปี และได้รับยศร้อยตรีในกองทหารปืนใหญ่ เมื่อเรียนสำเร็จมาใหม่ๆ เขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะต่อสู้เพื่อแยกเกาะคอร์ซิกาบ้านเกิดของเขา ออกเป็นอิสระจากฝรั่งเศสหลายครั้ง แต่ทำการไม่สำเร็จหลังจากเกิดการ ปฏิวัติในฝรั่งเศสปี ค.ศ.1789 เขาได้นำทัพเข้าสู่สงคราม และได้แสดงผลงานเด่นๆ หลายครั้ง เขาได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ และได้รับการเลื่อนยศเป็นนายพลด้วยวัยเพียง 27 ปี
เขาแต่งงานกับหญิงม่ายนามว่า โจเซฟีน เดอ โบฮาร์เนส์ ซึ่งแก่กว่าเขา 6 ปี และมีลูกติด 2 คน สองวันหลังจากการแต่งงาน เขาได้รับคำสั่งให้บัญชาการกองทัพฝรั่งเศสไปสู้รบในอิตาลี ระหว่างการเดินทัพนโปเลียนเริ่มตระหนักว่าหนทางแห่งความยิ่งใหญ่ของเขาจะไปทางใด เขาเลิกล้มความคิดที่จะแยกเกาะคอร์ซิกาให้เป็นอิสระไปนานแล้ว ประเทศฝรั่งเศสต่างหากคือจุดมุ่งหมายของเขา ซึ่งการรบภายใต้การบัญชาของเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขาเป็นที่รักและยกย่องของทหารเป็นอย่างมาก
นโปเลียนทำสงครามตลอดเวลา ประชาชนชาวฝรั่งเศสในขณะนั้นต่างมอบความนิยมชมชอบและความจงรักภักดีให้แก่นโปเลียนแต่เพียงผู้เดียว เขาเริ่มมั่นใจว่าโชคชะตาของฝรั่งเศสอยู่ในกำมือของเขาแล้ว เขาจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ "นโปเลียนที่ 1 จักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส" และสถาปนาภรรยาโจเซฟีน เป็น พระราชินีโจเซฟีน
ฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เข้าสู่สภาพที่ระอุไปด้วยไอของสงครามตลอดเวลา จักรพรรดินโปเลียนแผ่พระราชอำนาจไปทั่วทวีปยุโรป
ในขณะที่กองทัพของพระองค์ก็เริ่มเสื่อมลง เนื่องจากบรรดาไพร่พลร่วมรบที่ถูกเกณฑ์มาจากหลายเชื้อชาติไม่เข้มแข็งเหมือนก่อน เพราะล้วนถูกเกณฑ์มารบด้วยความจำใจ ประกอบกับการตัดสินใจผิดพลาดในการตัดโอกาสศัตรูเก่าคืออังกฤษไม่ให้ติดต่อค้าขายกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยสินค้าของอังกฤษ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและไม่พอใจไปทั่ว โดยเฉพาะเมื่อนโปเลียนสั่งกักขังสมเด็จพระสันตะปาปาไพอัสที่ 7 ซึ่งทรงคัดค้านระบบ "กักด่านยุโรป" ของเขา และยังส่งกองทัพเข้าไปยึดรัฐวาติกัน นับว่าสร้างความไม่พอใจให้แก่ศาสนิกชนเป็นอย่างมาก
ภายหลังนโปเลียนเริ่มพ่ายกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บที่แสนทารุณของรัสเซีย ซ้ำต้องรับมือกับการดักซุ่มโจมตีตัดกำลังจนสูญเสียทหารไปเกือบ 500,000 คน ข่าวการปราชัยของนโปเลียนได้แพร่หลายไปทั่ว ทำให้ประเทศที่ถูกนโปเลียนบังคับไว้ใต้อำนาจ ก็พากันฉวยโอกาสจับอาวุธขึ้นต่อต้านฝรั่งเศสพร้อมกัน แม้นโปเลียนจะรวบรวมกำลังทหารขึ้นมาได้ใหม่แต่ก็ไม่เกรียงไกรเหมือนเก่า
ช่วงสุดท้ายของการรบ นโปเลียนสูญเสียทหารไปในการรบมากมาย ในขณะที่ฝ่ายอังกฤษมีกำลังทัพหนุนมาช่วยอีกถึง 30,000 คน ประกอบกับแม่ทัพรองที่นโปเลียนสั่งให้คอยคุมกองทัพปรัสเซียไว้กลับทรยศ ปล่อยให้กองทัพปรัสเซียรุกเข้ามาตีกองทัพของพระองค์ซ้ำเข้าอีก การรบที่วอเตอร์ลูจึงยุติลงด้วยความปราชัยของนโปเลียน
นโปเลียนเสด็จกลับมายังปารีส ทรงสละราชสมบัติเป็นครั้งที่ 2 ตัดสินใจลงเรือเพื่อจะไปอเมริกา แต่ไม่สำเร็จเพราะกองทัพเรืออังกฤษคอยจุกช่องทางไม่ให้เล็ดลอดไปได้ นโปเลียนจึงทรงส่งสาสน์ไปขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษศัตรูเก่าของพระองค์ ในชั้นต้นรัฐบาลอังกฤษได้ยอมรับ แต่เมื่อนโปเลียนเสด็จมาถึงท่าเรือเมืองพลีมัธ กองทัพเรืออังกฤษก็ควบคุมพระองค์ไว้บนเกาะเซนต์ เฮเลนา เกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียง 75 ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวทางภาคใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก ตามมติของที่ประชุมคองเกรสแห่งเวียนนา จักรพรรดินโปเลียนผู้ยิ่งใหญ่จึงใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายของพระองค์บนเกาะอัน กันดารและห่างไลกผู้คนแห่งนี้
สุขภาพของจักรพรรดินโปเลียนทรุดโทรมลงเรื่อยๆ และสิ้นพระชนม์ลง (มีหลายคนบอกว่าโดนวางยา) ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ.1821 ขณะมีพระชนมายุได้ 52 พรรษา พระศพของพระองค์ถูกฝังอยู่บนเกาะแห่งนั้น จนอีก 20 ปีต่อมา รัฐบาลฝรั่งเศสจึงอัญเชิญพระบรมศพกลับมายังปารีส และฝังไว้ ณ สุสานแองวาลิด จนถึงปัจจุบัน เป็นอันจบชีวิตของ นโปเลียน โบนาปาร์ต ผู้ยิ่งใหญ่
พระเจ้านโปเลียนได้รับการยกย่องว่าเป็นแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แม้ด้านหนึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นผู้กระหายในอำนาจและชัยชนะ แต่นโปเลียนก็ได้สร้างรัฐธรรมนูญและปฏิรูประบบกฎหมายฝรั่งเศสขึ้นอย่างเป็นระบบ ยกเลิกระบบเจ้าขุนมูลนาย ให้การอุปถัมภ์ทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ วรรณคดีและศิลปะ
Cr.
http://writer.dek-d.com/zoobigsf/story/viewlongc.php?id=768328&chapter=2
http://pantip.com/topic/31365587
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น