รีวิวการเดินทาง ระยะไกล จากโซล สู่ "ทงยอง" เมืองที่มีเกาะสวยๆ และมีคนใจดีอยู่เต็มเมือง
และ จาก ทงยอง สู่ "ปูซาน" เมืองแห่งชายหาด วัดริมทะเล และผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ
.
.
.
วันที่ 6 : ถึง ทงยอง!!! สักที
หลังจากที่นั่งรถกันมาจนรากงอกแล้ว เราใช้เวลานั่งรถบัส 5 ชม. ในที่สุดก็ถึง ทงยองในช่วงเย็นๆ ประมาณ 6 โมงเย็น เห็นพระอาทิตย์กำลังจมลงทะเล ถึงที่ Bus terminal แล้ว ก็ไม่รู้จะไปที่พักต่อได้อย่างไร เดินหน้าถามคนแถบๆนั้น ที่รอรถอยู่ที่ Bus stop ด้านหน้า ที่พักเราอยู่ ใกล้กับ Seoho Market เป็นตลาดขายพวกอาหารทะเล รถที่ไปถึง แถบนั้นก็มี สาย 101 301 231 600 141 ถามๆคนแถวนั้นก็บอกเค้าว่าจะไป Seohosijang คนที่นี่ nice มาก โดยเฉพาะ อาจุมม่า ตอนพวกเราถามทาง มีอาจุมม่าคนนึง บอกว่าเค้าจะไปที่นั่นพอดี ให้ตามเค้าไป (คือเค้าพูดเกาหลีล้วนเลยนะ แต่ภาษาท่าทำให้เข้าใจ) ถึงจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอใกล้ถึง ก็พอให้เราลง แล้วเดินข้ามฝั่งไป เดินตาม map โรงแรม ก็เจอ โรงแรมหาเจอง่ายมากๆ
รูปตั๋วรถบัส ราคาจากโซลไป ทงยอง 32400 วอน
ที่พักที่เราเลือกกันในทงยอง ก็คือ Dorcas Tourist Hostel ส่วนใหญ่คนที่เข้าพักก็คือ คนเกาหลี คนต่างชาติยังไม่ค่อยนิยมไปจังหวัดนี้สักเท่าไร ของที่นี่ถูกกว่าโซลอยู่มาก ดูได้จาก อูดงเสียบไม้ ที่โซล ราคา 1000 วอน แต่ที่นี่ 500 วอน เท่านั้น ฟินกันให้ตัวแตกตายเลย วันนี้งันแรกมาถึง ก็มืดแล้ว ก้เลยทำได้แค่ไปเดินเล่นรอบๆ ตามคำแนะนำของ อาจาชิ เจ้าของที่พัก
คุณลุงเจ้าของที่พัก ให้คำแนะนำในการว่างแผนเที่ยว 2 วันที่เหลือใน ทงยองเป็นอย่างดี แนะนำ ท่าเรือ Ferry ที่อยู่ไม่ไกล เดินประมาณ 5 นาทีจากที่พัก ที่เราจะใช้ไปเกาะ Somaemul พรุ่งนี้ พูดคุยกันเรื่องอาหารที่นี่ ว่าควรทานอะไรบ้าง มาที่นี่ ต้องทาน คิมบับทงยอง มีขายทั้งเมือง และขนมที่คล้ายๆไข่หงส์บ้านเรา แต่มีไส้ที่หลากหลาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนกินกันไม่ได้ถ่ายไว้ เลยไปดึงรูปจากอากู๋มา
คิมบับ

ขนมหวาน
วันแรกที่มาอยู่ที่นี่ ก็เดินหาร้านอาหาร หาง่ายมาก มีทั้งทาง แต่ ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษเลย ไม่มีภาษาอังกฤษไม่พอ ไม่มีรูปประกอบเมนูด้วย ทำไงทีนี้! แล้วก็ตัดสินใจกันว่า เดินเข้าไป แล้วก็ ชี้ จนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่กินไป มันชื่อว่าอะไร หมดมื้อแรกแบบอิ่มๆ ไป 55000 วอน สำหรับ 5 คน
ทั้งหมดนี้แค่เครื่องเคียง
...จบวันที่หกไปแบบหนังท้องตึงหนังตาหย่อนกับเมืองที่ของราคาถูก...
***********************************
วันที่ 7 : วันแรกที่ตื่นเช้า โคตเช้า
เราต้องไปเกาะกัน เมื่อคืนคุณลุงแนะนำให้ไปเที่ยวแรก ที่จะออกเวลา 7.00 แต่เราควรจะไปก่อนสัก 1 ชม. ไม่งั้นตั๋วอาจจะหมดได้ เราเลยตื่นกันตี 5 ทำธุระส่วนตัวเสร็จทุกคน ก็ตอน 6 โมง ก็ เดินไปที่ท่าเรือ Ferry
มาถึงปุ๊บก็ให้เพื่อนใช้สกิลเทียบตัวอักษรว่าต้องซื้อตั๋วที่บูธไหน แล้วก็ถามๆคนที่ดูจะพอบอกเราได้ ก็อาศัย แพลนที่เราเตรียมมาชี้ๆให้เค้าดู แล้วก็รู้ว่าบูธริมสุดขวามือ ขายตั๋วไป Somaemuldo
คุณป้าคนขายตั๋ว...สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ นี่คือคำเตือน!!! บอกจะกลับก่อนรอบสุดท้าย(16.00) ป้าก็ดันชี้ว่าขากลับรอบ 11.40 คือตั้งใจว่าเสียตังแล้วจะไปทั้งวัน ก็เลยยื่นเอกสารที่แสดงเวลาที่เรือออกแต่ล่ะรอบ ให้ป้าดูว่าจะกลับรอบนี้ ป้าก็ยังจะบอกให้กลับรอบ 11.40 คือเสียตังไปกลับตีเป็นเงินไทยก็ 600 กว่าบาท ให้ไปแค่ 2 ชม คงไม่คุ้มเท่าไร นั่งเรือไปกลับก็ 2 ชม. คุยกันไม่รู้เรื่องจนป้าจะไล่ออกจากบูธถ้าไม่จ่ายตัง เลยต้องเรียกให้พนง.บูธข้างๆมาคุย จนรู้ว่า อ่าาา "มัน Sold out" ก็เลยคุยกับคุณป้าใหม่ ว่าขอกลับเลทกว่านี้ ก็เลยได้รอบ 12.40 โอเค ต่อให้ไม่ได้ไปนาน แต่ก็น่าจะโอเค
ราคาตั๋วไป-กลับ อยู่ที่ 364000 วอน ขึ้นเรือมาแล้วก็ลืมนึก อ้าว พวกเรายังไม่กินข้าวเช้าเลย คนบนเรือเอาขนม ข้าว มากินกันเต็มเลย นี่ได้แต่มอง น้ำสักขวดก็ไม่ได้ซื้อติดมา ใครไปก็เตรียมตัวหน่อยนะ
ถึงแล้ว Somaemuldo island
แผนที่เกาะที่เราไป
กว่าจะเห็นความสวยงามนี้ บอกเลยว่าขาลาก!!!! เนินแบบ ถึงกับถามตัวเองว่า "นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่" เหนื่อยมาก เดินขึ้น ขึ้น ขึ้น คุณพระ หันไปถามเพื่อนสายติสว่า ที่ไปหาข้อมูลเกาะนี้มาเนี่ย รู้มั้ยว่าต้องเดินขนาดนี้ ในเว็บของอะเดย์บอกเพียง
"เดินพอประมาณสไตส์เกาหลี" T^T กลับลำตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้ว เอาว่ะ สู้ไปกับมันสักตั้ง สองหนุ่มร่วมทริปไม่รู้ว่าต้องเดินขนาดนี้ ลากแตะไปค่ะ แต่ก็รอดจากทริปนั้นมาได้ 555
เห็นประภาคาร ไกลๆแล้วใจสั่น นี่ฉันจะเดินถึงมั้ยชาตินี้
ตอนน้ำลง หินพวกนี้แหละ ที่จะทำให้เราข้ามไปอีกฝั่งได้ มีคุณลุงคนนึงบอกว่า หมาตัวนี้จะเดินมาที่อีกฝั่งทุกวัน วันละรอบ ซึ่งรอบนี้ มันกลายเป็นเพื่อนร่วมทริปของเรา
เตือนว่า เห็นหินกลมๆแต่คมนะจ๊ะ โดนบาดกันมาแล้วค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


พอเดินเข้าจริงๆ เธอเอ๊ยยย เลิกค่ะ เดินไปไม่ถึงประภาคาร กลับก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ขานี่กล้ามขึ้นเป็นก้อนๆจริงๆ เหนื่อยมาก ร้อนมาก วันที่ไปนี่แดดแรงสุดๆ เดินกลับมาถึงที่ขึ้นเรือ มองนาฬิกาเเล้ว กำลังจะ 11.20 โถ่ววว ถ้าเชื่อคุณป้า ป่านี้ก็ได้กลับแล้วป่ะว่ะ เข้าใจคุณป้าแล้วว่าทำไมให้กลับรอบนั้น สรุปพวกเราก็นั่งๆนอนๆ ที่ร้านขายของ ซื้อน้ำที่ร้านนั้นแล้วก็นั่งยาว จนถึงเวลาที่เรือเกือบจะมา ก็เลยเดินลงไปแถวๆ ท่าเรือ
สายคอดทองแดงก็ออกตังซื้อ หอยเม่น สนองนีด ของตัวเอง ก็ทำไงได้ ที่ไทยมันแพง
สนนราคาที่ 10000 วอน (300 บาท)
ถึงฝั่งก็รีบหน้าอะไรกินกัน คิมบับทงยอง และขนมของทงยอง กินคู่กัน อร่อยดีนะ แวะข้างทางซื้อขนมน้ำตาลด้วย ราคา 2 ชิ้น 2000 วอน
กลับมาถึงโรงแรมก็ อาบน้ำนอนกันเลย พักผ่อนเติมพลัง หลังจากนั้นก็ตื่นไปกินมื้อเย็นที่ไม่รู้ว่าจะได้กินอะไร
ไปทานร้านที่ไม่รู้อะไรส่งรูปเมนูไปให้ยูชอน พร้อมกับทรแล้วให้นางสั่งให้ มื้อนี้งบอยู่ที่ 100000 วอน อยากกินซาชิมิ ก็ได้กิน
---ตามเคย เราก็มัวแต่กิน ไม่มีใครถ่ายรูปเลย--- ร้านอยู่แถบๆที่พัก เดินเลย 7-11 ไป ซอยขวามือ เดินไปเรื่อยๆก่อนถึง GS25
...วันที่เจ็ดจบไปแบบเจ็บปวดกับแผลที่เท้าและดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ...
***********************************
วันที่ 8 : ลาก่อน ทงยองที่รัก
วันนี้ตั้งใจจะเก็บที่ๆยังไม่ได้ไปให้หมด เริ่มจากใกล้ๆที่พัก เดินประมาณ 10 นาที Undersea Tunel เป็นทางเดินลอดใต้ทะเลไปโพล่งอีกฝั่งนึงของเมืองทงยอง ด้านในก็มืดๆ เย็นๆ เดินเล่นได้ชิลๆ
เดินผ่านตลาดใกล้ที่พัก Seoho market
และวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คุณชายคาทอลิค และเพื่อนคอทองเเดงโปแตส ต้องพาไปเข้าโบสถ์ก่อน ก็เลยตัดสินใจกันไปที่โบสถ์ใกล้ๆหมู่บ้าน Dongpirang หมู่บ้านที่เรื่อง innocent man ที่จุงกิสุดหล่อเล่น
หลังจากเที่ยวจนเหงื่อไหลเต็มตัวแล้ว ก็ไป "ปูซาน" กันเถอะ หอบของไปที่ป้ายรถเมล์ แล้วก็เลือกสักคัน เปิด never map แปบเดี๋ยวถึง (รอบนี้ใช้สาย 101) tongyeong bus terminal
[CR] So Sorry "ขอโทษติดธุระไปฟิตกล้าม(ขา)" รีวิว เกาหลี 13 วัน 12 คืน ของคนมึน 5 คน part 2 #TYBSfarformSeoul
และ จาก ทงยอง สู่ "ปูซาน" เมืองแห่งชายหาด วัดริมทะเล และผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ
.
.
.
วันที่ 6 : ถึง ทงยอง!!! สักที
หลังจากที่นั่งรถกันมาจนรากงอกแล้ว เราใช้เวลานั่งรถบัส 5 ชม. ในที่สุดก็ถึง ทงยองในช่วงเย็นๆ ประมาณ 6 โมงเย็น เห็นพระอาทิตย์กำลังจมลงทะเล ถึงที่ Bus terminal แล้ว ก็ไม่รู้จะไปที่พักต่อได้อย่างไร เดินหน้าถามคนแถบๆนั้น ที่รอรถอยู่ที่ Bus stop ด้านหน้า ที่พักเราอยู่ ใกล้กับ Seoho Market เป็นตลาดขายพวกอาหารทะเล รถที่ไปถึง แถบนั้นก็มี สาย 101 301 231 600 141 ถามๆคนแถวนั้นก็บอกเค้าว่าจะไป Seohosijang คนที่นี่ nice มาก โดยเฉพาะ อาจุมม่า ตอนพวกเราถามทาง มีอาจุมม่าคนนึง บอกว่าเค้าจะไปที่นั่นพอดี ให้ตามเค้าไป (คือเค้าพูดเกาหลีล้วนเลยนะ แต่ภาษาท่าทำให้เข้าใจ) ถึงจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอใกล้ถึง ก็พอให้เราลง แล้วเดินข้ามฝั่งไป เดินตาม map โรงแรม ก็เจอ โรงแรมหาเจอง่ายมากๆ
รูปตั๋วรถบัส ราคาจากโซลไป ทงยอง 32400 วอน
ที่พักที่เราเลือกกันในทงยอง ก็คือ Dorcas Tourist Hostel ส่วนใหญ่คนที่เข้าพักก็คือ คนเกาหลี คนต่างชาติยังไม่ค่อยนิยมไปจังหวัดนี้สักเท่าไร ของที่นี่ถูกกว่าโซลอยู่มาก ดูได้จาก อูดงเสียบไม้ ที่โซล ราคา 1000 วอน แต่ที่นี่ 500 วอน เท่านั้น ฟินกันให้ตัวแตกตายเลย วันนี้งันแรกมาถึง ก็มืดแล้ว ก้เลยทำได้แค่ไปเดินเล่นรอบๆ ตามคำแนะนำของ อาจาชิ เจ้าของที่พัก
คุณลุงเจ้าของที่พัก ให้คำแนะนำในการว่างแผนเที่ยว 2 วันที่เหลือใน ทงยองเป็นอย่างดี แนะนำ ท่าเรือ Ferry ที่อยู่ไม่ไกล เดินประมาณ 5 นาทีจากที่พัก ที่เราจะใช้ไปเกาะ Somaemul พรุ่งนี้ พูดคุยกันเรื่องอาหารที่นี่ ว่าควรทานอะไรบ้าง มาที่นี่ ต้องทาน คิมบับทงยอง มีขายทั้งเมือง และขนมที่คล้ายๆไข่หงส์บ้านเรา แต่มีไส้ที่หลากหลาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันแรกที่มาอยู่ที่นี่ ก็เดินหาร้านอาหาร หาง่ายมาก มีทั้งทาง แต่ ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษเลย ไม่มีภาษาอังกฤษไม่พอ ไม่มีรูปประกอบเมนูด้วย ทำไงทีนี้! แล้วก็ตัดสินใจกันว่า เดินเข้าไป แล้วก็ ชี้ จนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่กินไป มันชื่อว่าอะไร หมดมื้อแรกแบบอิ่มๆ ไป 55000 วอน สำหรับ 5 คน
ทั้งหมดนี้แค่เครื่องเคียง
วันที่ 7 : วันแรกที่ตื่นเช้า โคตเช้า
เราต้องไปเกาะกัน เมื่อคืนคุณลุงแนะนำให้ไปเที่ยวแรก ที่จะออกเวลา 7.00 แต่เราควรจะไปก่อนสัก 1 ชม. ไม่งั้นตั๋วอาจจะหมดได้ เราเลยตื่นกันตี 5 ทำธุระส่วนตัวเสร็จทุกคน ก็ตอน 6 โมง ก็ เดินไปที่ท่าเรือ Ferry
มาถึงปุ๊บก็ให้เพื่อนใช้สกิลเทียบตัวอักษรว่าต้องซื้อตั๋วที่บูธไหน แล้วก็ถามๆคนที่ดูจะพอบอกเราได้ ก็อาศัย แพลนที่เราเตรียมมาชี้ๆให้เค้าดู แล้วก็รู้ว่าบูธริมสุดขวามือ ขายตั๋วไป Somaemuldo
คุณป้าคนขายตั๋ว...สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ นี่คือคำเตือน!!! บอกจะกลับก่อนรอบสุดท้าย(16.00) ป้าก็ดันชี้ว่าขากลับรอบ 11.40 คือตั้งใจว่าเสียตังแล้วจะไปทั้งวัน ก็เลยยื่นเอกสารที่แสดงเวลาที่เรือออกแต่ล่ะรอบ ให้ป้าดูว่าจะกลับรอบนี้ ป้าก็ยังจะบอกให้กลับรอบ 11.40 คือเสียตังไปกลับตีเป็นเงินไทยก็ 600 กว่าบาท ให้ไปแค่ 2 ชม คงไม่คุ้มเท่าไร นั่งเรือไปกลับก็ 2 ชม. คุยกันไม่รู้เรื่องจนป้าจะไล่ออกจากบูธถ้าไม่จ่ายตัง เลยต้องเรียกให้พนง.บูธข้างๆมาคุย จนรู้ว่า อ่าาา "มัน Sold out" ก็เลยคุยกับคุณป้าใหม่ ว่าขอกลับเลทกว่านี้ ก็เลยได้รอบ 12.40 โอเค ต่อให้ไม่ได้ไปนาน แต่ก็น่าจะโอเค
ราคาตั๋วไป-กลับ อยู่ที่ 364000 วอน ขึ้นเรือมาแล้วก็ลืมนึก อ้าว พวกเรายังไม่กินข้าวเช้าเลย คนบนเรือเอาขนม ข้าว มากินกันเต็มเลย นี่ได้แต่มอง น้ำสักขวดก็ไม่ได้ซื้อติดมา ใครไปก็เตรียมตัวหน่อยนะ
ถึงแล้ว Somaemuldo island
แผนที่เกาะที่เราไป
กว่าจะเห็นความสวยงามนี้ บอกเลยว่าขาลาก!!!! เนินแบบ ถึงกับถามตัวเองว่า "นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่" เหนื่อยมาก เดินขึ้น ขึ้น ขึ้น คุณพระ หันไปถามเพื่อนสายติสว่า ที่ไปหาข้อมูลเกาะนี้มาเนี่ย รู้มั้ยว่าต้องเดินขนาดนี้ ในเว็บของอะเดย์บอกเพียง "เดินพอประมาณสไตส์เกาหลี" T^T กลับลำตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้ว เอาว่ะ สู้ไปกับมันสักตั้ง สองหนุ่มร่วมทริปไม่รู้ว่าต้องเดินขนาดนี้ ลากแตะไปค่ะ แต่ก็รอดจากทริปนั้นมาได้ 555
เห็นประภาคาร ไกลๆแล้วใจสั่น นี่ฉันจะเดินถึงมั้ยชาตินี้
ตอนน้ำลง หินพวกนี้แหละ ที่จะทำให้เราข้ามไปอีกฝั่งได้ มีคุณลุงคนนึงบอกว่า หมาตัวนี้จะเดินมาที่อีกฝั่งทุกวัน วันละรอบ ซึ่งรอบนี้ มันกลายเป็นเพื่อนร่วมทริปของเรา
เตือนว่า เห็นหินกลมๆแต่คมนะจ๊ะ โดนบาดกันมาแล้วค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเดินเข้าจริงๆ เธอเอ๊ยยย เลิกค่ะ เดินไปไม่ถึงประภาคาร กลับก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ขานี่กล้ามขึ้นเป็นก้อนๆจริงๆ เหนื่อยมาก ร้อนมาก วันที่ไปนี่แดดแรงสุดๆ เดินกลับมาถึงที่ขึ้นเรือ มองนาฬิกาเเล้ว กำลังจะ 11.20 โถ่ววว ถ้าเชื่อคุณป้า ป่านี้ก็ได้กลับแล้วป่ะว่ะ เข้าใจคุณป้าแล้วว่าทำไมให้กลับรอบนั้น สรุปพวกเราก็นั่งๆนอนๆ ที่ร้านขายของ ซื้อน้ำที่ร้านนั้นแล้วก็นั่งยาว จนถึงเวลาที่เรือเกือบจะมา ก็เลยเดินลงไปแถวๆ ท่าเรือ
สายคอดทองแดงก็ออกตังซื้อ หอยเม่น สนองนีด ของตัวเอง ก็ทำไงได้ ที่ไทยมันแพง
สนนราคาที่ 10000 วอน (300 บาท)
ถึงฝั่งก็รีบหน้าอะไรกินกัน คิมบับทงยอง และขนมของทงยอง กินคู่กัน อร่อยดีนะ แวะข้างทางซื้อขนมน้ำตาลด้วย ราคา 2 ชิ้น 2000 วอน
กลับมาถึงโรงแรมก็ อาบน้ำนอนกันเลย พักผ่อนเติมพลัง หลังจากนั้นก็ตื่นไปกินมื้อเย็นที่ไม่รู้ว่าจะได้กินอะไร
ไปทานร้านที่ไม่รู้อะไรส่งรูปเมนูไปให้ยูชอน พร้อมกับทรแล้วให้นางสั่งให้ มื้อนี้งบอยู่ที่ 100000 วอน อยากกินซาชิมิ ก็ได้กิน
---ตามเคย เราก็มัวแต่กิน ไม่มีใครถ่ายรูปเลย--- ร้านอยู่แถบๆที่พัก เดินเลย 7-11 ไป ซอยขวามือ เดินไปเรื่อยๆก่อนถึง GS25
วันที่ 8 : ลาก่อน ทงยองที่รัก
วันนี้ตั้งใจจะเก็บที่ๆยังไม่ได้ไปให้หมด เริ่มจากใกล้ๆที่พัก เดินประมาณ 10 นาที Undersea Tunel เป็นทางเดินลอดใต้ทะเลไปโพล่งอีกฝั่งนึงของเมืองทงยอง ด้านในก็มืดๆ เย็นๆ เดินเล่นได้ชิลๆ
เดินผ่านตลาดใกล้ที่พัก Seoho market
และวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คุณชายคาทอลิค และเพื่อนคอทองเเดงโปแตส ต้องพาไปเข้าโบสถ์ก่อน ก็เลยตัดสินใจกันไปที่โบสถ์ใกล้ๆหมู่บ้าน Dongpirang หมู่บ้านที่เรื่อง innocent man ที่จุงกิสุดหล่อเล่น
หลังจากเที่ยวจนเหงื่อไหลเต็มตัวแล้ว ก็ไป "ปูซาน" กันเถอะ หอบของไปที่ป้ายรถเมล์ แล้วก็เลือกสักคัน เปิด never map แปบเดี๋ยวถึง (รอบนี้ใช้สาย 101) tongyeong bus terminal
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น