สวัสดีครับ นี่คือกระทู้แรกๆของผม อาจจะพิมพ์ผิดบ้าง อ่านไม่เข้าใจบ้าง ต้องขอโทษล่วงหน้าเลยนะครับ ขอเริ่มเรื่องเลยละกันนะครับ
... ผมเป็นนักเรียนม.ปลายคนนึงที่ไม่มีประสบการณ์ทางด้านความรักมาก่อนเลย แอบชอบผู้หญิงคนไหน็ต้องผิดหวังไปหมด จนเมื่อผมขึ้นม.ปลาย ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่สนใจเรื่องความรักและจะสนใจแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว แต่ด้วยผมต้องเรียนนศทด้วย จึงทำให้พบกับเพื่อนต่างห้องมากขึ้น และนั่นแหละละครับ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด...
.... ผมเป็นคนที่ไม่ได้มีเพื่อนมากเพราะอาจจะยังปรับสภาพไม่ชินกับสภาพแวดล้อมที่มันยังใหม่ๆอยู่ ผมก็ได้เจอกับเพื่อนคนนึงครับ คือมันแกล้งผมก่อนครับ แกล้งไปแกล้งมาจนผมกับเขาก็เริ่มรู้จักกัน แต่ก็แค่รู้จักกันเฉยๆครับ ยังไม่มีอะไรมาก แต่พอเวลาผ่านไป ผมเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายด้วย ชอบ ตีแบต วิ่ง และฟิตเนสบ้าง ผมก็มีเพื่อนในห้องเดียวกันที่ไปเป็นเพื่อนเป็นประจำเวลาไปออกกำลังกาย แต่ไอคนที่มันแกล้งผมเมื่อตอนไปเรียนนมันเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนด้วยนะครับ ก็มาขอออกกำลังกายกับพวกผมด้วยนะครับ แล้วพอไม่นานเขาก็แอดเฟสบุคผมมา ผมก็รับแอดตามมารยาทละครับ พอผมรับแอดเขาก็ทักมาคุยกับผม และผมก็คุยกับเขาด้วยเพราะผมก็ไม่ใช่คนหยิ่งอะไรด้วย เราสองคนก็คุยกันเรื่อยๆครับ คุยกันได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องออกกำลังกาย เรือ่งไร้สาระมีหมดทุกเรื่องละครับ 55555 เขาก็จะชอบมาขอออกกำลังกายกับผมด้วยเกือบทุกวันเลยละครับ เจอที่โรงเรียนก็ชอบซื้อของกินต่างๆมาเลี้ยง จนบางครั้งเพื่อนรอบข้างผมก็อดสงสัยกันไปไม่ได้เลยว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน บางครั้งผมก็ยอมรับนะครับว่าผมก็รู้สึกดีกับเขา และจนวันนึง เขาก็ทักแชทผมมาตามปกติเหมือนทุกวัน แต่มันต่างตรงที่ว่าวันนั้นเขามาขอผมเป็นแฟน แต่ด้วยตอนนั้นผมคิดว่าคงมีใครแกล้งเลยตอบกวนตีนๆไป ผมยอมรับนะครับในตอนนั้นใจผมสั่นมาก และเมื่อผมได้ไปออกกำลังกายกับเขาในเวลาไม่นานนัก ผมก็ถามเขาว่ามีใครแกล้งรึป่าว แต่เขาก็บอกว่าเขาพิมเอง แต่แค่แกล้งเล่นๆ อย่าคิดมากเลยกับคำถามของเขา แต่หลังจากนั้นในทุกวัน เราก็คุยกันมากขึ้นจนผมว่ามันคงเกินขีดของคำว่าเพื่อน เพราะเขาจะชอบร้องเพลงให้ฟัง บางครั้งก็ส่งเพลงรักมาให้ฟัง โทรมาคุยเป็นชั่วโมง ไปรับไปส่ง และบางครั้งผมก็ต้องสอนการบ้านเขาบ้างละครับ จนตอนนั้นเขาก็ใช้สรรพนามแทนระหว่างผมกับว่า เค้ากับที่รักไม่ก็เค้ากับเตง จนในตอนนั้นผมก็คิดว่าเราสองคนคงเป็นแฟนกันแล้ว ซึ่งใครๆรอบข้างผมและเขาต่างก็คิดแบบเดียวกันหมด จนถึงวันที่มีกิจกรรมของ นศท มีเพื่อนที่ผมไม่สนิทมากคุยกับผมว่า เดี่ยวให้เราไปส่งที่บ้านไหม แต่จู่ๆเขาก็เดินเขามากระชากแขนผมแล้วบอกว่า ผมเป็นแฟนเขาแล้ว เดี่ยวเขาระไปส่งที่บ้านเอง หายห่วงได้เลย ตอนนั้นคงเป็นเวลาที่ผมเขินมากจริงๆ บางทีตอนนั้นผมคงจะชอบเขาขึ้นมาแล้วจริงๆ จนถึงวันที่เขาจะต้องไปคัดบอลที่กรุงเทพฯ เขาก็ขอคำอวยพร ต่างๆนาๆ ส่งเพลง ไกล ของ musketeers มาให้ฟัง บางครั้งก็ร้องเพลงแค่รู้ว่ารักของลิปตาให้ผมฟังด้วยครับ ผมก็ขอของฝากจากเขาเพราะผมก็อยากได้ของฟรีที่น่ารักๆบ้าง 555 เขาก็ถามผมว่าของฟรีที่ให้ไปยังไม่พออีกหรอ ตอนนั้นนอกจากตุ๊กตาหมีผมก็ไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย เขาก็ตอบผมว่า หัวใจทั้งดวงที่ให้ไปอ่ะ มันยังไม่พออีกหรอ ผมเขินจริงๆเลยครับ 5555 แต่ปัญหาระหว่างเราก็เริ่มเกิดขึ้นหลังจากตอนนั้นไม่นานครับ หลังจากที่เขากลับมาจากคัดฟุตบอลได้ไม่กี่วัน เขาก็ทักแชทผมมาตามปกติแต่คราวนี้ใช้นามว่ามาเรียน และบอกว่าเขาเป็นแฟนของเจ้าของแชทนี้ มาเรียเขาก็ถามผมว่าเจ้าของแชทมีนิสัยอย่างไรเพราะเขาเห็นเจ้าของแชทคุยกับผมบ่อยมาก ผมยอมรับครับตอนนั้นช็อคมากแต่ก็คิดว่าเขาคงแกล้งเล่น แต่ไม่นานสักพักเขาก็บอกว่า เขากับมาเรียคบกันตอนไปคัดฟุตบอล มาเรียนเป็นเด็กลูกครึ่ง ไทย-อิตาลี ทำให้ในช่วงเวลานั้นผมเสียใจนานมากๆเลยครับ ผมคิดต่างๆนาๆ แต่ผมก็ลืมคิดไปเลยครับว่าเขาก็ไม่เคยขอผมเป็นแฟนจนผมตอบรับเขา บางทีผมก็ไม่มีสิทธิ์จะไปหวงเขาแบบนี้ช่วงเวลานั้นชีวิตของผมมืดมนจริงๆครับ เศร้าไปเป็นหลายเดือน ผมกับเขาเราก็เลิกคุยกัน แต่เขาก็ทักแชทมาทั้ง เฟสบุค ไลน์ และก็โทรศัพท์ เขาพยายามจะตามหาผม แต่ผมไม่อยากจะรับความเจ็บปว และจะพยายามตัดใจ เมื่อผ่านไปหลายเดือ จนถึงช่วงนึงครับที่ผมคิดว่าผมคงตัดใจได้แล้วเขาก็ทักแขทผมมาผมก็ตอบตามปกติเหมืนเราไม่มีอะไรกัน เขาก็พยายามจะทำท่าทีจะคุยแบบเดิม เหมือนแต่ก่อน แล้วผมก็ถามเขาเรื่องมาเรียว่าคุยแบบนี้แล้วมาเรียจะไม่สงสัยหรอ ว่าระหว่างเราเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเขาเลิกกับมาเรียแล้ว คำๆนั้นมันกลับทำให้ผมใจสั่นอีกครั้งยังไงไม่รู้ จนเขาก็คุยแบบเดิมกับผม จนเรากลับมาสนิทเหมือนแต่ก่อน จนถึงช่วงที่ผมต้องรับหน้าที่ทำงานสภานักเรียนในฐานะประธานนักเรียน เขาก็คอยช่วยเหลือทุกปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจที่มีเขาอยู่ข้างๆ แต่ก็อย่างว่าครับ เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน ผมคงไม่มีสิทธิ์หวงเขามากจนเกินไป และเวลาก็ผ่านไปกับสถานะเดิมๆระหว่างผมกับเขา จนกระทั่งวันที่ผมรู้ความจริงเรื่องมาเรียว่าเขากุเรื่องทั้งหมดมาหลอกผม มันทำให้ผมโกรธเขาไม่ได้จริงๆ ผมก็เงียบไม่ตอบไม่คุยกับเขาก็ร่วมหลายสัปดาห์เลยครับ จนถึงมหกรรมกีฬาสีของโรงเรียนผม ที่ผมจะต้องมีหน้าที่เยอะกว่าปกติ มันเหนื่อยจริงๆเลยครับ บางครั้งก็มีงีบหลับในห้องสภาบ้าง แต่เขาก็มีตามไปถ่ายรูปผมตอนหลับในห้องสภาด้วย หนำซ้ำยังแกล้งเอารูปผมไปตั้งเป็นวอลปเปอร์โทรศัพท์เขาอีกต่างหากพร้อมข้อความเล็กๆว่า "น่ารักแบบนี้ให้ได้ตลอดไปละกันนะ หัวเราะ" และแน่นอนครับเรื่องนี้ผมก็รู้มาจากเพื่อนของเขาต่ออีกทีนึงนี่แหละครับ 5555 จนถึงสันที่ผมรวบรวมความกล้าที่บอกความรู้สึกเขาไปทั้งหมดว่าผมรู้สึกยังไงกับเขากันแน่ แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาคิดกับผมแค่เพื่อนสนิทคนๆนึงแค่นั้น เขาก็สงสัยว่าข้อความที่ผมพิมไปมีใครแกล้งผมรึป่าว แต่ความจริงคือผมพิมเองทุกตัวอักษรไปให้เขา เมื่อผมได้ยินคำตอบแบบนั้น ผมเสียใจมากครับ ผมคงคิดไปข้างเดียว เมื่อผมสารภาพความรู้สึกไปแล้ว เขาก็ไม่ทักแชทผมมาเหมือนแต่ก่อน ไม่ไปรับไปส่ง ไม่มีพาไปเลี้ยงที่ไหน เหมือนเราทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาเลย ผมไม่รู้เลยครับว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี หรือบางทีผมก็ควรที่จะหยุดความสัมพันธ์ให้มันจบลงเพียงแค่นี้??
...บางทีเรื่องราวของผมมันอาจจะมีทางออกก็ได้นะแต่ผมคงไม่เลือกที่จะออกจากปัญหานี้เองละมั้ง
แบบนี้เรียกว่าความรักที่ไม่มีทางออกได้ไหมครับ
... ผมเป็นนักเรียนม.ปลายคนนึงที่ไม่มีประสบการณ์ทางด้านความรักมาก่อนเลย แอบชอบผู้หญิงคนไหน็ต้องผิดหวังไปหมด จนเมื่อผมขึ้นม.ปลาย ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่สนใจเรื่องความรักและจะสนใจแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว แต่ด้วยผมต้องเรียนนศทด้วย จึงทำให้พบกับเพื่อนต่างห้องมากขึ้น และนั่นแหละละครับ คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด...
.... ผมเป็นคนที่ไม่ได้มีเพื่อนมากเพราะอาจจะยังปรับสภาพไม่ชินกับสภาพแวดล้อมที่มันยังใหม่ๆอยู่ ผมก็ได้เจอกับเพื่อนคนนึงครับ คือมันแกล้งผมก่อนครับ แกล้งไปแกล้งมาจนผมกับเขาก็เริ่มรู้จักกัน แต่ก็แค่รู้จักกันเฉยๆครับ ยังไม่มีอะไรมาก แต่พอเวลาผ่านไป ผมเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายด้วย ชอบ ตีแบต วิ่ง และฟิตเนสบ้าง ผมก็มีเพื่อนในห้องเดียวกันที่ไปเป็นเพื่อนเป็นประจำเวลาไปออกกำลังกาย แต่ไอคนที่มันแกล้งผมเมื่อตอนไปเรียนนมันเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนด้วยนะครับ ก็มาขอออกกำลังกายกับพวกผมด้วยนะครับ แล้วพอไม่นานเขาก็แอดเฟสบุคผมมา ผมก็รับแอดตามมารยาทละครับ พอผมรับแอดเขาก็ทักมาคุยกับผม และผมก็คุยกับเขาด้วยเพราะผมก็ไม่ใช่คนหยิ่งอะไรด้วย เราสองคนก็คุยกันเรื่อยๆครับ คุยกันได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องออกกำลังกาย เรือ่งไร้สาระมีหมดทุกเรื่องละครับ 55555 เขาก็จะชอบมาขอออกกำลังกายกับผมด้วยเกือบทุกวันเลยละครับ เจอที่โรงเรียนก็ชอบซื้อของกินต่างๆมาเลี้ยง จนบางครั้งเพื่อนรอบข้างผมก็อดสงสัยกันไปไม่ได้เลยว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน บางครั้งผมก็ยอมรับนะครับว่าผมก็รู้สึกดีกับเขา และจนวันนึง เขาก็ทักแชทผมมาตามปกติเหมือนทุกวัน แต่มันต่างตรงที่ว่าวันนั้นเขามาขอผมเป็นแฟน แต่ด้วยตอนนั้นผมคิดว่าคงมีใครแกล้งเลยตอบกวนตีนๆไป ผมยอมรับนะครับในตอนนั้นใจผมสั่นมาก และเมื่อผมได้ไปออกกำลังกายกับเขาในเวลาไม่นานนัก ผมก็ถามเขาว่ามีใครแกล้งรึป่าว แต่เขาก็บอกว่าเขาพิมเอง แต่แค่แกล้งเล่นๆ อย่าคิดมากเลยกับคำถามของเขา แต่หลังจากนั้นในทุกวัน เราก็คุยกันมากขึ้นจนผมว่ามันคงเกินขีดของคำว่าเพื่อน เพราะเขาจะชอบร้องเพลงให้ฟัง บางครั้งก็ส่งเพลงรักมาให้ฟัง โทรมาคุยเป็นชั่วโมง ไปรับไปส่ง และบางครั้งผมก็ต้องสอนการบ้านเขาบ้างละครับ จนตอนนั้นเขาก็ใช้สรรพนามแทนระหว่างผมกับว่า เค้ากับที่รักไม่ก็เค้ากับเตง จนในตอนนั้นผมก็คิดว่าเราสองคนคงเป็นแฟนกันแล้ว ซึ่งใครๆรอบข้างผมและเขาต่างก็คิดแบบเดียวกันหมด จนถึงวันที่มีกิจกรรมของ นศท มีเพื่อนที่ผมไม่สนิทมากคุยกับผมว่า เดี่ยวให้เราไปส่งที่บ้านไหม แต่จู่ๆเขาก็เดินเขามากระชากแขนผมแล้วบอกว่า ผมเป็นแฟนเขาแล้ว เดี่ยวเขาระไปส่งที่บ้านเอง หายห่วงได้เลย ตอนนั้นคงเป็นเวลาที่ผมเขินมากจริงๆ บางทีตอนนั้นผมคงจะชอบเขาขึ้นมาแล้วจริงๆ จนถึงวันที่เขาจะต้องไปคัดบอลที่กรุงเทพฯ เขาก็ขอคำอวยพร ต่างๆนาๆ ส่งเพลง ไกล ของ musketeers มาให้ฟัง บางครั้งก็ร้องเพลงแค่รู้ว่ารักของลิปตาให้ผมฟังด้วยครับ ผมก็ขอของฝากจากเขาเพราะผมก็อยากได้ของฟรีที่น่ารักๆบ้าง 555 เขาก็ถามผมว่าของฟรีที่ให้ไปยังไม่พออีกหรอ ตอนนั้นนอกจากตุ๊กตาหมีผมก็ไม่เคยได้อะไรจากเขาเลย เขาก็ตอบผมว่า หัวใจทั้งดวงที่ให้ไปอ่ะ มันยังไม่พออีกหรอ ผมเขินจริงๆเลยครับ 5555 แต่ปัญหาระหว่างเราก็เริ่มเกิดขึ้นหลังจากตอนนั้นไม่นานครับ หลังจากที่เขากลับมาจากคัดฟุตบอลได้ไม่กี่วัน เขาก็ทักแชทผมมาตามปกติแต่คราวนี้ใช้นามว่ามาเรียน และบอกว่าเขาเป็นแฟนของเจ้าของแชทนี้ มาเรียเขาก็ถามผมว่าเจ้าของแชทมีนิสัยอย่างไรเพราะเขาเห็นเจ้าของแชทคุยกับผมบ่อยมาก ผมยอมรับครับตอนนั้นช็อคมากแต่ก็คิดว่าเขาคงแกล้งเล่น แต่ไม่นานสักพักเขาก็บอกว่า เขากับมาเรียคบกันตอนไปคัดฟุตบอล มาเรียนเป็นเด็กลูกครึ่ง ไทย-อิตาลี ทำให้ในช่วงเวลานั้นผมเสียใจนานมากๆเลยครับ ผมคิดต่างๆนาๆ แต่ผมก็ลืมคิดไปเลยครับว่าเขาก็ไม่เคยขอผมเป็นแฟนจนผมตอบรับเขา บางทีผมก็ไม่มีสิทธิ์จะไปหวงเขาแบบนี้ช่วงเวลานั้นชีวิตของผมมืดมนจริงๆครับ เศร้าไปเป็นหลายเดือน ผมกับเขาเราก็เลิกคุยกัน แต่เขาก็ทักแชทมาทั้ง เฟสบุค ไลน์ และก็โทรศัพท์ เขาพยายามจะตามหาผม แต่ผมไม่อยากจะรับความเจ็บปว และจะพยายามตัดใจ เมื่อผ่านไปหลายเดือ จนถึงช่วงนึงครับที่ผมคิดว่าผมคงตัดใจได้แล้วเขาก็ทักแขทผมมาผมก็ตอบตามปกติเหมืนเราไม่มีอะไรกัน เขาก็พยายามจะทำท่าทีจะคุยแบบเดิม เหมือนแต่ก่อน แล้วผมก็ถามเขาเรื่องมาเรียว่าคุยแบบนี้แล้วมาเรียจะไม่สงสัยหรอ ว่าระหว่างเราเป็นอะไร เขาก็บอกว่าเขาเลิกกับมาเรียแล้ว คำๆนั้นมันกลับทำให้ผมใจสั่นอีกครั้งยังไงไม่รู้ จนเขาก็คุยแบบเดิมกับผม จนเรากลับมาสนิทเหมือนแต่ก่อน จนถึงช่วงที่ผมต้องรับหน้าที่ทำงานสภานักเรียนในฐานะประธานนักเรียน เขาก็คอยช่วยเหลือทุกปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจที่มีเขาอยู่ข้างๆ แต่ก็อย่างว่าครับ เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน ผมคงไม่มีสิทธิ์หวงเขามากจนเกินไป และเวลาก็ผ่านไปกับสถานะเดิมๆระหว่างผมกับเขา จนกระทั่งวันที่ผมรู้ความจริงเรื่องมาเรียว่าเขากุเรื่องทั้งหมดมาหลอกผม มันทำให้ผมโกรธเขาไม่ได้จริงๆ ผมก็เงียบไม่ตอบไม่คุยกับเขาก็ร่วมหลายสัปดาห์เลยครับ จนถึงมหกรรมกีฬาสีของโรงเรียนผม ที่ผมจะต้องมีหน้าที่เยอะกว่าปกติ มันเหนื่อยจริงๆเลยครับ บางครั้งก็มีงีบหลับในห้องสภาบ้าง แต่เขาก็มีตามไปถ่ายรูปผมตอนหลับในห้องสภาด้วย หนำซ้ำยังแกล้งเอารูปผมไปตั้งเป็นวอลปเปอร์โทรศัพท์เขาอีกต่างหากพร้อมข้อความเล็กๆว่า "น่ารักแบบนี้ให้ได้ตลอดไปละกันนะ หัวเราะ" และแน่นอนครับเรื่องนี้ผมก็รู้มาจากเพื่อนของเขาต่ออีกทีนึงนี่แหละครับ 5555 จนถึงสันที่ผมรวบรวมความกล้าที่บอกความรู้สึกเขาไปทั้งหมดว่าผมรู้สึกยังไงกับเขากันแน่ แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาคิดกับผมแค่เพื่อนสนิทคนๆนึงแค่นั้น เขาก็สงสัยว่าข้อความที่ผมพิมไปมีใครแกล้งผมรึป่าว แต่ความจริงคือผมพิมเองทุกตัวอักษรไปให้เขา เมื่อผมได้ยินคำตอบแบบนั้น ผมเสียใจมากครับ ผมคงคิดไปข้างเดียว เมื่อผมสารภาพความรู้สึกไปแล้ว เขาก็ไม่ทักแชทผมมาเหมือนแต่ก่อน ไม่ไปรับไปส่ง ไม่มีพาไปเลี้ยงที่ไหน เหมือนเราทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันมาเลย ผมไม่รู้เลยครับว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี หรือบางทีผมก็ควรที่จะหยุดความสัมพันธ์ให้มันจบลงเพียงแค่นี้??
...บางทีเรื่องราวของผมมันอาจจะมีทางออกก็ได้นะแต่ผมคงไม่เลือกที่จะออกจากปัญหานี้เองละมั้ง