เรื่องคุยกันในวงเหล้า-------------------ทวดเอง

กระทู้คำถาม
เมื่อคืนนี้หลังจากกรึ่มได้ที่ เพื่อนต่างวัยคนหนึ่งก็เล่าเรื่องของเขาให้ผมฟัง แน่นอนครับ เรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ไม่ใช่การเขียนแบบคำต่อคำ แต่เป็นการเขียนจากคำบอกเล่า และยังเป็นการรับฟังในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ดังนั้นจะจริงหรือเท็จอย่างไร ผมไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น เพราะเป็นเพียงการเล่าสู่กันฟังเฉยๆนะครับ

เพื่อนผมเล่าว่า เขาอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี่แหละครับ อยู่มา 3 ปี ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง ก็มีข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสของกรรมการหมู่บ้าน แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันขับไล่เหล่ากรรมการทั้งหลายออกไป แล้วก็จัดการสรรหากรรมการนิติฯใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน

เพื่อนผมบอกว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้สนใจอะไรกับเขาหรอกครับ เพราะไม่ว่าใครจะเป็นกรรมการ เขาก็เสียค่าส่วนกลางเท่าเดิม แต่ก็เกิดความพึงพอใจนิดๆ ที่กรรมการหมู่บ้านชุดใหม่ คงจะมีความโปร่งใสมากกว่าเดิม ผลประโยชน์ก็จะตกเป็นของคนในหมู่บ้านอย่างแน่นอน

แต่แน่นอนครับ ก่อนจะได้ มักจะมีการจ่ายก่อนเสมอ ดังนั้นการจะขับไล่กรรมการชุดเก่า ก็ต้องมีการฟ้องร้องกัน นั่นก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งก็มาจากเงินส่วนกลาง ฝ่ายชุดเก่าก็จ้างทนายเพื่อต่อสู้ นี่ก็เงินส่วนกลางอีกเหมือนกัน เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่ไม่เป็นไรครับ อนาคตน่าจะดีขึ้น เพราะกรรมการชุดใหม่ที่เป็นพวกคนดีๆ คงจะโปร่งใสกว่าเก่าเป็นแน่ เพื่อนผมเชื่ออย่างนั้นครับ

ตอนคัดเลือกกรรมการชุดใหม่ เพื่อนบ้านต่างๆก็ล้วนแต่ต้องทำงาน ยิ่งในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ยิ่งต้องทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นส่วนใหญ่จึงมอบให้เป็นหน้าที่ของคนดีที่ยอมสละเวลามาทำเพื่อคนในหมู่บ้าน แล้วก็เลยได้กรรมการชุดใหม่สมใจนึกบางลำพู

งานแรกที่ทำก็คือการคืนความสุขให้กับคนในหมู่บ้าน ด้วยการจัดงานวันปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับคนในหมู่บ้าน ช่วยอนุเคราะห์ของสดอาหารแห้ง พร้อมทั้งของขวัญมาร่วมอวยพรขึ้นปีใหม่กันอย่างสนุกสนาน

งานที่สอง เปลี่ยน รปภ.ใหม่ ที่มีศักยภาพดีกว่าเก่า พร้อมทั้งปรับเงินเดือนใหม่จากเดิมคนละหมื่นหก เป็นหมื่นแปดต่อเดือน (ตอนหลังถึงจะรู้ว่า หนึ่งในคณะกรรมการมีหุ้นอยู่ในบริษัท รปภ.แห่งนี้)

ผ่านไปแค่ไม่ถึงเดือน รปภ.ชุดใหม่ก็สร้างผลงานชวนประทับใจ นั่นคือ บ้านเพื่อนผมถูกงัด สูญเสียทีวี 100 นิ้วไป แต่เหล่าขโมยก็ไม่สามารถนำออกจากหมู่บ้านได้ เพราะรปภ.เห็นผิดสังเกต ก็เลยไม่ให้ผ่าน สุดท้ายเหล่าขโมยเลยต้องนำทีวีกลับมาทิ้งไว้ให้ที่หลังบ้าน แล้วก็จากไป

ตำรวจก็แสนดี พอรู้ข่าวเพื่อนผมได้ทีวีคืน (ลืมบอกไป มีการแจ้งความไปแล้วก่อนหน้านี้) ยกโขยงกันมาร่วมถ่ายภาพกับเพื่อนผมพร้อมทีวี แต่ไม่ใช่ถ่ายภาพหมู่นะครับ แต่เป็นการเก็บภาพของตำรวจแต่ละนาย งานนี้เพื่อนผมก็เลยได้หน้ามากพอสมควร

ส่วนทางนิติฯก็มาร่วมแสดงความยินดีที่เพื่อนผมได้ทีวีคืน แม้จะมีรอยขีดข่วนตามหน้าจอก็ตาม พวกเขาบอกว่า โชคดีมากเลยนะครับที่ได้ของคืน รู้ไหมวันเดียวกัน มีขโมยขึ้นบ้านทีเดียวแปดหลังคาเรือน มีแต่เพื่อนผมเท่านั้นที่ได้ของคืน เพื่อนผมเขาบอกว่า ตอนนั้นเขาทำหน้าไม่ถูกจริงๆ ไม่รู้ว่าจะต้องขอบคุณนิติฯ ขอบคุณ รปภ. หรือจะต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กันแน่

เรื่องต่อมาที่ทางนิติฯชุดใหม่ต้องการเร่งทำ นั่นคือ การทำหลังคาและที่กั้นรถแบบอัตโนมัติ แบบว่าเดิมทีมีแต่ตู้ให้ รปภ.อยู่ เวลาใครขับรถเข้าออก รปภ.ก็ต้องคอยออกมายกที่กั้นขึ้นลง มันดูไม่ทันสมัย มันดูคร่ำครึ

อ้อผมข้ามไปเรื่องหนึ่ง มีบ้านหลังหนึ่งเป็นพวกรับเหมาทำเกี่ยวกับพวกเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นเหล็กดัด หลังคาเหล็กหรืออื่นๆ และพวกเหล็กนี่แหละครับที่วางระเกะระกะเป็นที่ขัดหูขัดตาคนผ่านไปมา นิติฯชุดเก่าต้องการจัดระเบียบ ดังนั้นบ้านหลังนี้ก็เลยต้องจัดการคืนพื้นที่ให้กับหมู่บ้าน

แต่หลังจากเจ้าของบ้านนี้ได้เป็นกรรมการหมู่บ้านแล้ว นอกจากได้รับงานทำหลังคา รปภ.แล้ว ยังได้รับสิทธิ์ในการวางสิ่งของได้อีกต่างหาก และเมื่อบ้านหนึ่งทำได้ บ้านอื่นก็เอาเป็นเยี่ยงอย่าง มีการปลูกต้นไม้มากมาย ที่พิลึกกว่านั้น มีคนนำศาลามาตั้งไว้หน้าบ้านทีเดียวเชียว ก็เลยกลายเป็นซื้อบ้านพร้อมถนนไปเสียฉิบ

อ้อ ลืมไป สำหรับหลังคาน่ะเสร็จภายในเดือนเดียว แม้จะนานไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าที่กั้นอัตโนมัตินะครับ ผ่านไปสี่เดือน ก็ยังเห็นแต่โครงที่ต้องยกขึ้นยกลงเหมือนเช่นเดิม

สำหรับไฟส่องสว่างปากทางเข้าหมู่บ้าน ก็ยังคงไม่สว่างเหมือนเดิม ทำให้กลับบ้านตอนกลางคืน ต้องคอยมองอยู่ตลอด เพราะกลัวเลยบ้าน ทางนิติฯให้เหตุผลว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แล้วชุดเก่าไม่ได้ทำก็ยังเห็นอยู่กันได้ อีกทั้งเงินส่วนกลางก็เริ่มจะร่อยหรอลง

เมื่อเงินส่วนกลางเริ่มร่อยหรอ ผลการประชุมจึงมีขึ้นใหม่ ขออนุญาตปรับค่าเงินส่วนกลางเพิ่มอีกบ้านละสองร้อยบาท ใครไม่จ่ายครบสามเดือน จะมีจดหมายแจ้งให้ทราบ และครบหกเดือน ก็จะดำเนินคดีการตามกฎหมาย

แต่ส่วนสำคัญก็คือ เดิมทีมีคนมาตามเก็บค่าส่วนกลางทุกๆเดือน แต่พอชุดใหม่อ้างเรื่องการเสียสละ โดยไม่หวังผลตอบแทน ดังนั้นจึงขอความกรุณาให้ทุกบ้านช่วยนำมาจ่ายที่นิติฯเอง ขอแค่ไม่เกิน 6 เดือน ก็จะไม่เป็นปัญหา

เล่าถึงตรงนี้ เพื่อนผมร้องไห้โฮเลยครับ สะอึกสะอื้นบ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้ง ทำไม๊ทำไมอยู่กันดีๆไม่ชอบ ดันมาหูเบาเชื่อคนเป่าหู ก็เลยตกที่นั่งกลืนไม่เข้า คายไม่ออกอย่างนี้ แล้วยังไม่รู้ว่า จะมีมาตรการอะไรออกมาอีกก็ไม่รู้ ช่างอยู่ยากขึ้นทุกวัน

แล้วเพื่อนผมก็เลยถามผมว่า เขาควรจะทำอย่างไรดี

ผมก็เลยตอบเขาไปง่ายๆ เพราะไม่ได้เดือดร้อนไปกับเขานี่
ผมบอกเขาว่า หนึ่งให้ย้ายบ้าน สองให้ทำใจ

เพื่อนเลยถามผมว่า แล้วถ้าเป็นผมล่ะ จะเลือกข้อไหน

ผมก็เลยตอบไปว่า ถ้าเป็นผม ผมก็จะรอครับ รอให้เพื่อนบ้านที่เป็นคนส่วนใหญ่ พากันหูตาสว่าง แล้วอดรนทนไม่ไหว พร้อมใจกันลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ด้วยการทำหน้าที่ของตัวเอง คัดเลือกนิติฯใหม่ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่เหมือนแต่ก่อน แล้วทุกอย่างก็คงดีขึ้นเองแหละว้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่